One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 187 เขาเจ้าชู้อยู่แบบนี้ตลอดเวลา



ตอนที่ 187 เขาเจ้าชู้อยู่แบบนี้ตลอดเวลา

ตอนที่ 187 เขาเจ้าชู้อยู่แบบนี้ตลอดเวลา

ตอนที่ถังรั่วซูกับสังอานหยีลงไปถึงชั้นล่าง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ของผู้จัดการใหม่คนใหม่

“นี่แกเห็นหรือเปล่า? ผู้จัดจัดการใหญ่คนใหม่หล่อมากเลยใช่ ไหม?”

“ใช่สิ ฉันรู้สึกว่าหัวใจของฉันเหมือนจะถูกรอยยิ้มของผู้ จัดการใหญ่คนใหม่หลอมละลายเอาไปด้วยแล้ว”

“นั่นแหนะ ทำไมเขายิ้มได้ดูดีขนาดนั้นกันนะ?”

ถังรั่วชูได้ยินเพื่อนร่วมงานสาวในบริษัทที่ต่างพูดถึงอู้ซึ่ง เหยากันอยู่ พลางสบตามองสั่งอานหยี จากนั้นก็ทําได้แค่ หัวเราะแห้งไปสองครั้ง

ถ้าพวกเธอรู้ถึงความปากจัดของอู๋ซึ่งเหยาแล้ว คงไม่พูดว่า รอยยิ้มของเขายิ้มให้นั้นมันน่ามองสักเท่าไหร่

เมื่อกลับมาถึงฝ่ายสื่อฯ นั่งตูดยังไม่ร้อนเลย ก็เห็นหลีน่าเดิน ออกมาจากห้องทํางานพลางเดินมาหา จากนั้นก็ปรบมือให้เป็น สัญญาณ “ทุกท่าน อีกสักพักผู้จัดการใหญ่คนใหม่จะเรียก ประชุมครั้งใหญ่ของทางบริษัท ทุกคนต้องเข้าร่วมการประชุม นี้ด้วยกันทั้งหมด ไม่อนุญาตให้ขาดการประชุมในครั้งนี้”

ถังรั่ว เลิกคิ้ว ทําไมคนอย่างผู้ซึ่งเหยาถึงได้มีลักษณะ ท่าทางแบบนี้ไปได้ล่ะ? หรือว่ายังไม่รับรู้ถึงความงี่เง่าของ คนในบริษัทสำหรับเขาแล้วมันยังงี่เง่าไม่พออีกเหรอ?

“ไม่จื่อ สภาพแวดล้อมในบริษัทของพี่สะใภ้เป็นยังไงบ้าง?”

ลูซึ่งเหยาเพิ่งมาที่บริษัทสือรุ่ยเป็นครั้งแรก เลยอยากที่จะ ทําความรู้จักกับสภาพแวดล้อมของพี่สะใภ้ของตนเองเอาไว้ ก่อน

เสิ่นโม่เฟยครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นถึงได้พูดขึ้นมา “พอไหว อยู่ นอกจากเรื่องที่เอาแต่คอยนินทาเธอในทางเสียๆ หายๆ เท่านั้นแหละ”

“นินทาอะไร?” ลูซึ่งเหยารู้สึกประหลาดใจ

เสิ่นโม่เฟยเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดีในเวลานั้น ได้แค่พูด เป็นกลางเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยวถึงเวลาแกก็รู้เอง”

“อ้อ
ผู้ซึ่งเหยาสำรวจห้องทำงานโดยรอบ สีหน้าไม่ชอบใจหลวง เอ่ยขึ้น “ห้องทำงานนี้มันดูธรรมดาไปหน่อยนะ ไม่เหมาะกับ รสนิยมของคนชนชั้นสูงอย่างฉัน”

เสิ่นโม่เฟยชักสีหน้าทันที “คุณชายสามตระกูลผู้ขอรับ ถ้า ท่านไม่ชอบใจ ก็เอาเงินตัวเองไปจ่ายให้คนมาตกแต่งใหม่

“งั้นพอเลย” พอพูดเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่จะให้ตนเองออก ซึ่ง เหยารู้สึกว่าห้องทำงานนี้ก็ดูไม่เลวจริงๆ นะ

เรื่องต่อไปคือ เขานึกถึงบรรดาเลขานุการที่อยู่ด้านนอก หลายคนนั้น จนหัวคิ้วของเขาเลิกขึ้น สีหน้าดูรังเกียจทันที “ช่วยฉันไล่เลขาฯ คนนั้นที่ท่าทีออกจะโง่ดักดานออกไปที

“หรูเสี่ยวหลินเหรอ?”

“ฉันไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร ที่แต่งหน้าจัดจ้านคนนั้น แถมยังเป็นผู้ หญิงที่ฉีดน้ำหอมจนฉุนกึก”

พอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เขาก็รู้สึกเหมือนว่าตนเองได้กลิ่น น้ำหอมฉุนจัด เตะจมูกอีกครั้ง จนต้องจามออกมาอย่างเหลือ อด

เมื่อเห็นสภาพแล้ว เสิ่นโม่เฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “เธอ ชื่อว่าหรุเสี่ยวหลิน คู่ปรับของพี่สะใภ้เลยแหละ ฉันก็อยากจะ ไล่เธอออกอยู่พอดี ได้ข้ออ้างที่สมเหตุสมผลพอดีเลย
“เธอเป็นคู่ปรับของพี่สะใภ้เลยเหรอ? มิน่าล่ะถึงได้หน้าตาน่า เกลียดแบบนั้น” ผู้ซึ่งเหยาทำสีหน้าดูถูก

เสิ่นโม่เฟยได้แต่ยิ้มให้ แล้วไม่อยากจะสนใจกับหัวข้อนี้อีก แล้ว จึงก้มหน้าก้มตาดูนาฬิกาข้อมือของตนเอง จากนั้นก็พูด กับเขาว่า “ไปกันเถอะ การประชุมของบริษัทครั้งใหญ่ในครั้งนี้ จะเริ่มขึ้นแล้ว”

เขาตบบ่าลูซึ่งเหยาเบาๆ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนก่อนแล้วเดินออก

ไป

ลูซึ่งเหยาถูจมูกไปมา จากนั้นก็ยืนขึ้นอย่างสง่าผ่าเผยไม่รีบ ร้อน พร้อมทั้งหยิบเสื้อสูทตัวนอกที่โยนไว้บนโซฟาเอามาสวม ใส่ จนเข้าติดกระดุมเสร็จ ถึงได้เติมตามหลังไปช้าๆ

ถังรั่วซูกับสงอานหยีนั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่ทางด้านหลัง สุด โดยรอบต่างพูดถึงผู้จัดการใหญ่คนใหม่กันอยู่ หนึ่งคือ เรื่องสถานะของเขาที่ดูน่าสนใจ อีกอย่างเรื่องที่เขาหน้าตาดี จนน่าตกใจ

เสิ่นโม่เฟยกับลูซึ่งเหยาเดินเข้ามาในห้องประชุมเดินตามหลัง กันมาติดๆ บรรยากาศที่เซ็งแซ่อยู่ก่อนหน้านี้ก็เงียบทันที

เสิ่นโม่เฟยกวาดตามองพนักงานของตนเองหนึ่งรอบ จากนั้นมุมปากก็ย้มเล็กน้อยให้ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่น “การประชุมในวันนี้คือการต้อนรับผู้จัดการใหญ่คนใหม่ของ เรา แต่ก่อนหน้าที่จะแนะนำให้รู้จัก ผมขอออกตัวพูดก่อนสัก สองสามประโยค

เขานิ่งอยู่สักพัก “ภายใต้การท่างานให้บริษัทขยายกิจการให้ กว้างขวาง เรื่องการทำงานร่วมกันก็เป็นประเด็นส่วนหนึ่งรวม อยู่ในนั้นด้วย ผมรู้ว่ามีบางคนที่ความสามารถไม่ถึง แถมยัง อิจฉาผลงานของเพื่อนร่วมงานอีกด้วย จนถึงขั้นเข้าไปทำร้าย เพื่อนร่วมงานด้วยกันเอง พนักงานแบบนี้ทางบริษัทสือรุ่ยไม่ ยินดีต้อนรับ”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกไปจากบ้าน คนที่นั่งอยู่ด้านล่างต่างเซ็ง แซ่

ความจริงแล้วทุกคนต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าสิ่งที่เขากำลังพูดอยู่

นั้นหมายถึงใคร

หรุเสี่ยวหลินก้มหน้าก้มตา เพราะสัมผัสได้กับสายตาที่เพ่ง มาทางเธอที่อยู่รอบตัวอย่างไม่เกรงใจกันสักนิด ฝ่ามือที่วาง อยู่บนต้นขาถึงกลับค่อยๆ กำหมัดขึ้น

ในเวลานี้ซูเทียนอ้ายก็ถูกไล่ออกไปแล้ว ส่วนกู้รั่วรั่วก็ถูกฉีก สัญญาทิ้ง การที่เธอทำงานอยู่ที่บริษัทสือรุ่ยก็ไม่มีคนคอย หนุนหลังอีกแล้ว เธอไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่ที่นี่ต่อ

ตอนแรกเธอเองก็คิดว่าจะลาออกจากบริษัทเอง แต่ว่าพอเห็นว่าทางบริษัทมีผู้จัดการใหญ่คนใหม่มา เธอก็ไม่อยากไป

ไหนแล้ว

พูดกันตามจริงแล้ว เธอยินยอมทำงานให้กับกู้รั่วรั่ว ก็แค่หวัง ว่าเธอจะคอยแนะนำผู้ชายดีๆ ให้ตนเองสักคนหนึ่ง เพื่อเธอจะ ได้แต่งเข้าไปอยู่ในตระกูลคนรวย

แต่ว่ากู้รั่วรั่วเหมือนพูดกลืนน้ำลายตัวเอง อีกอย่างที่แนะนำ มานั้นก็หน้าตาธรรมดาแบบนั้น

แต่ตอนนี้มีผู้ชายที่เพียบพร้อมขนาดนี้อยู่ข้างกายของตนเอง เธอจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไงล่ะ?

ทางฝั่งหรูเสี่ยวหลินกำลังวางแผน ทางด้านเสิ่นโม่เฟยก็เพิ่ง พูดจบ จนเปลี่ยนมาเป็นผู้ซึ่งเหยาเป็นพูดแทน

ลูซึ่งเหยาประเดิมฉีกยิ้มก่อน รอยยิ้มเห็นฟันอย่างเป็นมิตร ยิ้มจนเกือบจะแทงตาผู้คน

“ซูซู คุณอาของหลานนิสัยหั่นขนาดนี้เลยเหรอ?”

ส่งอานหยีกระซิบถามข้างหูถังรั่ว

ถังรั่วซูมองไปยังผู้ชายที่ยิ้มแย้มแจ่มใส่คนนั้น มุมปากฉีกยิ้ม ให้ พร้อมพูดอย่างเบื่อหน่าย “เขาก็ตื่นอยู่แบบนี้ตลอดแหละ”
นิสัยไม่เหมือนกับผู้ซือจิ่นเลยสักนิด คนหนึ่งก็เอาแต่สุขุมนุ่ม ลีก อีกคนก็นิสัยเปิดเผย นิสัยที่แตกต่างกันมันทำให้ถังรั่วซู อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจว่าคุณแม่ของผู้ซือจิ๋นช่างเก่งจริงที่ คลอดลูกออกมาได้แบบนี้

“สวัสดีทุกคน ผมชื่อผู้ซึ่งเหยา จะมาดำรงตำแหน่งผู้จัดการ ใหญ่คนใหม่”

เมื่อสิ้นเสียง ด้านล่างก็มีเสียงปรบมือดังลั่น

อู๋ซึ่งเหยาพยักหน้าอย่างพอใจ “ดูแล้วทุกคนต่างยินดีต้อนรับ ผมด้วยความรัก”

ถ้าไม่ใช่การประชุมใหญ่ของบริษัทแล้วละก็ แต่เป็นการจัด งานmeetingของดาราคนหนึ่ง คงต้องการกรีดร้องเรียกชื่อกัน เป็นแถว

หลังจากนั้น ลูซึ่งเหยาพูดพร่ำเพ้อไปเรื่อย จนถึงรั่วชูถึงกลับ นั่งหาว รู้สึกว่าน่าเบื่อจนอยากจะนอนอยู่แล้ว

ทันใดนั้นเอง เธอก็ได้ยินชื่อของตนเองขึ้นมา

“ถังรั่วชู”

เธอหันไปมองโดยรอบอย่างตาลีตาเหลือก ก็เห็นว่าทุกคน

ต่างหันมามองเธอ
“อาของหลานกำลังเรียกเธออยู่นะ” ส่งอานหยีกระซิบบอก

ถังรั่ว มองเธอแวบหนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าสบตากับลูซึ่งเหยา สิ่งที่เห็นก็คือเขากําลังยิ้มหวานให้ตนเอง

เธอกำาลังอดกลั้นการกลอกตามองเขา ได้แค่ค่อยๆ ยืนขึ้น พลางเอ่ยถามอยากไม่กระโตกกระตาก “ผู้จัดการใหญ่ คุณ เรียกฉันมีธุระอะไรหรือเปล่า?”

“เปล่า” ริมฝีปากของลูซึ่งเหยาฉีกยิ้มให้กว้างขึ้น “ผมก็แค่ อยากเห็นว่าบุคคลที่มีชื่อเสียงในหน้าตาเป็นยังไง”

ถังรั่วชูยิ้มแหยให้ พ่อตัวดีน่าจงใจให้เธอตกเป็นเป้าสายตา ของฝูงชนใช่ไหมเนี่ย?

เธอสัมผัสได้ทันทีกับสามตาอิจฉาของบรรดาคนงี่เง่าทั้ง

หลายที่มองมาทางเธอ

สิ่งที่เขาทำให้เธอคือการสร้างศัตรู! นี่มันขุดหลุมฝังเธอชัดๆ!

สู้ซึ่งเหยาเหมือนไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ ได้แต่พูด เองเออเองไปเรื่อย “ไม่คิดเลยว่าทางบริษัทเราก็จะมีคนที่สวย หยาดเยิ้มขนาดนี้ด้วย สวยไม่แพ้นักแสดงเลย

พูดจบ เขาก็เริ่มเปลี่ยนหัวข้อ “ถังรั่วชู คุณสนใจอยากจะเข้า วงการบันเทิงไหม? ผมสามารถรับประกันได้ว่าผมจะให้คุณดังเป็นพลุแตกเลยทีเดียว”

“ฉัน ไม่ สนใจ!” ถึง วชูจิกพูดทีละคำ

หัวใจสู้ซึ่งเหยาเต้น “ตุ๊บๆ” ทันที ตัวเองเล่นสนุกเลยเถิดไป แล้วงั้นสิ?

เขาสังเกตได้ว่าแววตาของพี่สะใภ้นั้นไม่ดีเท่าไหร่ เลยรีบปิด ประเด็นนี้ทันที

“งั้นดี เชิญคุณนั่งลงได้”

เสิ่นโม่เฟยที่แอบยิ้มอยู่ข้างๆ ในใจกำลังคิดเรื่องให้ทุกข์แก่ ท่านทุกข์นั้นถึงตัว แกมาล้อเล่นกับพี่สะใภ้แบบนี้ เดี๋ยวกลับไป จะคอยดูว่าพี่ใหญ่จะจัดการกับแกยังไง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ