One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 204 เธอจําคนผิดแล้ว



ตอนที่ 204 เธอจําคนผิดแล้ว

ตอนที่ 204 เธอจําคนผิดแล้ว

ออกมาจากในห้องน้ำ ส่งอานหยีก็มองแล้วมองอีกไปยังสถาน ที่รอบด้าน เห็นถึงทุกคนก็เข้าใกล้ไปยังทิศทางด้านเวที

น่าจะคือพิธีมอบรางวัลกำลังจะเริ่มแล้ว

นี่คือส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของความบันเทิงนี้ที่บริษัทถางไห่ ได้ดำเนินการทุกสิ่ง——พิธีมอบรางวัลแห่งปี

ที่ที่อยู่ใกล้กับเวทีได้มีการจัดวางโต๊ะกลมใหญ่ไว้กี่สิบตัว ปู ผ้าปูโต๊ะสีครีมขาว ตรงด้านบนจัดวางแจกันดอกไม้อันหนึ่งไว้ อาหารว่างประเภทต่างๆ ตลอดจนชุดรับประทานอาหารที่มี ฝีมือละเอียดงดงาม

เห็นทุกคนก็ล้วนหาตำแหน่งเข้านั่งของตัวเองได้ ส่งอานหยี ก็ได้ยืนอย่างเก้อเขิน ไม่รู้ว่าควรจะเดินไปทางด้านไหน ก็ไม่รู้ ว่าตัวเองควรนั่งตรงไหน

เธอมองแล้วมองอีกไปรอบด้านเพื่อหาเสิ่นโม่เฟย แต่จะทำ อย่างไรคนเยอะจนเกินไป สายตาของเธอก็ได้จ้องจนเหนื่อย แล้วก็ยังหาไม่เจอ

สุดท้ายเธอได้ไหล่ตกด้วยความท้อใจ ช่างมันแล้ว ถึงอย่างไรเสียเรื่องที่รับปากถังรั่ว ก็ได้จัดการสมบูรณ์แล้ว พิธี ครึ่งหลังนี้ก็สามารถเข้าร่วมและสามารถไม่เข้าร่วมได้

ด้วยเหตุนี้สายตาของเธอได้มองไปยังเวที หลังจากนั้นก็ได้ หมุนตัวจากไป

แต่ยังเดินทางไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นบนข้อมือก็ได้แน่น เธอถูก บีบบังคับให้เท้าหยุดลง

“สงอานหยี นี่เธอคือต้องการกลับไปเหรอ?”

นํ้าเสียงที่ต่ำาลึกแอบแหบแห้งได้ส่งมาจากทางด้านหลังตัว สามารถฟังออกถึงในน้ำเสียงที่มีการเก็บกดความโกรธไว้ได้ อย่างชัดเจน

สั่งอานหยีหันหัว และได้สบตาที่มีความโกรธอย่างรุนแรง ของลูกตาดำที่คลุมเครือของเขาไว้ จากนั้นก็ได้ยกรอยยิ้มเย้า หยอกหนึ่งขึ้นมา “ที่แท้ประธานเสิ่นยังจำฉันได้นี่”

ลูกตาดำทั้งหมดที่ลึกซึ้งของเสิ่นโม่เฟยได้จ้องเขม็งใบหน้า เล็กๆที่งดงามละเอียดอ่อนของเธอไว้ วันนี้เธอเพื่อเข้าร่วมพิธี จึงได้ตั้งใจใช้ใจแต่งหน้าเป็นพิเศษ เดิมทีอวัยวะบนหน้าที่ก็ เล็กกระจุ๋มกระจิ๋มได้ผ่านการแต่งสักหน่อย ทำให้เห็นได้ชัด ถึงความงดงามละเอียดอ่อนที่สะเทือนใจมากยิ่งขึ้น

ผมยาวม้วนขึ้นสูงๆ ได้ปรากฏถึงคอหงส์ที่ขาวบริสุทธิ์ ชุด ราตรีเกาะอกกระโปรงยาวสีดำ ได้ร่างเค้าโครงของเส้นโค้งที่งามเฉิดฉายของเธอออกมาแล้ว

เธอในคืนนี้สวยมากเป็นพิเศษ

ลูกตาดำทั้งหมดได้มีร่องรอยของความร้อนแผดเผาที่ผ่านไป อย่างรวดเร็ว

สายตาของเขาชื่นชมมากเกินไปตรงไปตรงมามากเกินไป ส่งอานหยีถูกเขามองจนในใจได้ลุกลี้ลุกลน จากนั้นก็รีบต่อสู้ ดิ้นรน พยายามดึงมือของตัวเองกลับไป

แต่แรงของเขามากเกินไป เดิมทีเธอก็เขย่าไม่ได้เลยสักนิด

“เสิ่นโม่เฟย นายหมายความว่าอะไร?” เธอถลึงตาใส่เขาด้วย ความโกรธ

เห็นเพียงแค่มุมริมฝีปากที่ยกขึ้นอย่างช้าๆของเขา แสงไฟ ที่ได้ตกสู่ในสายตาเขาได้แตกเป็นชิ้นละเอียดกลายเป็นแสง ดาวดวงน้อย

“ในเมื่อมาแล้ว เช่นนั้นก็รอจนจบเถอะ”

เมื่อคำพูดตกออกมา เขาก็ได้ลากเธอหมุนตัวเดินไปทางด้าน เวทีโดยตรง ไม่ให้โอกาสเธอในการปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย
ส่งอานหยีได้โซซัดโซเซตามอยู่ด้านหลังตัวเขา มองภาพ ด้านหลังที่สูงและตรงของเขาไว้ และแววตาได้ค่อยๆเปลี่ยน จนซับซ้อน

เข้าร่วมพิธีของกิจกรรมบันเทิงนอกจากดาราศิลปินที่มีชื่อ เสียงแล้ว ยังมีสื่อมวลชนจากแต่ละบ้าน

ดังนั้นภาพที่เสิ่นโม่เฟยลากสั่งอานหยีไว้ก็ได้ถูกบุคคลผู้มี ความตั้งใจถ่ายลงมาแล้ว และบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องก็ไม่ ได้ตระหนักถึงสิ่งนี้ เพียงแค่เดินมุ่งตรงไปถึงตำแหน่งของตัว เองพร้อมนั่งลงเท่านั้น

นักแสดงชายที่ได้รับความนิยมที่สุดของปี——เหยียนซู ด้วย ความรู้ความสามารถในผลงานที่แท้จริงจึงมีชื่อเสียงตามมา โดยธรรมชาติ

นักแสดงหญิงที่ได้รับความนิยมที่สุดของปี——ฉินยอาน ผลลัพธ์เป็นไปตามคาดการณ์

อยู่ในตอนหลังจากที่มอบรางวัลที่สำคัญที่สุดของสองคนนี้ เสร็จแล้ว พิธีมอบรางวัลก็ได้สิ้นสุดลงในตอนที่ประธานบริษัท ถางไห่กล่าวคำปราศรัย

สังอานหยีได้หาว เปิดตาที่ใกล้จะปิดมองแล้วมองอีกไปรอบ ด้าน กำลังคิดว่าพิธีที่น่าเบื่อเช่นนี้ยังต้องนานขนาดไหนถึงจะสิ้นสุดกันแน่ล่ะ?

ทันใดนั้นเธอก็เห็นถึงนิ่งเฉียวเฉียวลุกขึ้นและจากไป เส้น สายตาก็รู้สึกว่าได้ขยับตามเธออย่างเป็นธรรมชาติ มองเธอ เดินไปถึงมุมของแสงสลัว ทันทีหลังจากนั้นเงาที่คุ้นเคยหนึ่ง ก็ได้ตกสู่ภายใต้สายตาแล้ว

เธอลุกขึ้นมาตวาด เสิ่นโม่เฟยที่นั่งอยู่ข้างเธอได้หันหัวมอง เธอ จากนั้นก็ได้คิ้วขมวด “เธอกำลังทำอะไร?”

“ฉันมีธุระ ไปก่อน”

ทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งเช่นนี้ไว้ เธอมองก็ไม่มองเขาสักหน่อย สายตามุ่งตรงจ้องไปยังทิศทางที่เดินไปไว้อย่างแน่นหนา

เห็นถึงสถานการณ์ หัวคิ้วของเสิ่นโม่เฟยก็ได้ล็อกไว้อย่างลึก

สายตาได้ล็อกไปที่เงาเล็กๆบางๆของเธอไว้แน่น

“อาจึง อีกเดี๋ยวฉันขับรถกลับไปด้วยตัวเอง นายกลับไปก่อน เถอะ”

ส้งอานหยีเดินไปใกล้ ได้ยินถึงการเรียกจากในปากของนิ่ง เฉียวเฉียว “อาจึง”สองคำ เมื่อใกล้เข้ามาทันที พื้นที่ระหว่างคิ้ว ก็ได้บีบขึ้น

เขาเรียกว่าอาจึง?!
นิ่งเฉียวเฉียวส่งการดูแลเสร็จก็ได้หมุนตัว เส้นสายตากวาด ไปถึงส่งอานหยีที่ยืนอยู่ไม่ไกลออกไป ภายใต้สายตาได้ ปรากฏแสงสว่างแวบหนึ่ง ริมฝีปากสีแดงก็ได้ยกขึ้น “เอ๊ะ นี่ไม่ ใช่ส่งอานหยี นักข่าวส่งผู้ยิ่งใหญ่เหรอ?”

เมื่อได้ยินถึงคำพูดนี้ ผู้ชายที่อยู่ด้านข้างหล่อนก็ได้มองเธอ แวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้มองตามเส้นสายตาของหล่อนไป ตอนที่เห็นถึงสังอานหยี ลูกตาดำทั้งหมดก็ได้กระพริบแล้วกระ พริบอีก และในไม่ช้าก็ได้คืนสู่สภาพปกติที่สงบแล้ว

ส่งอานหยีเดินเข้าใกล้ทีละก้าวทีละก้าว สายตาได้ล็อกไปที่ ใบหน้าที่สว่างรูปงามใบนั้นของผู้ชายไว้แน่น เกรงกลัวว่าเมื่อ ตัวเองไม่เฝ้าดู เขาก็จะหายไปจากภายใต้หนังตาของตัวเอง แล้ว

นิ่งเฉียวเฉียวเห็นสถานการณ์ ก็ได้ขมวดคิ้วขึ้น ทำไมสังอาน หยีนี่ถึงได้จ้องอาจึงไว้อยู่ตลอดล่ะ? การแสดงออกนั้นแววตา นั้นก็เหมือนกับเธอคือรู้จักอาจึง

ด้วยเหตุนี้ “อาจึงนายรู้จักเธอ?”

นิ่งเฉียวเฉียวเอียงหัวมองผู้ชายไว้ จากนั้นก็พูดถาม

ผู้ชายส่ายหัว “ไม่รู้จัก”

สามคำที่เย็นชา “ไม่รู้จัก” ก็เหมือนคมมีดที่เยือกเย็นอันโหด ร้ายได้แทงเข้าไปอยู่บนหัวใจของเธอ เจ็บปวดมาก
ฝีเท้าของสงอานหยีเดินไปหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของเขา จาก นั้นก็ได้เอียงหัวมองเขาไว้ น้ำในลูกตาดำที่ใสสะอาดได้เขียน เต็มไปด้วยคำว่าคิดถึงแล้ว

รอยยิ้มที่ขมฝาดหนึ่งได้ลอยออกอยู่ตรงด้านริมฝีปาก เธอ ถาม: “พี่ชิงหยู้ พี่จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?”

“ขอโทษ เธอจำคนผิดแล้ว”

แววตาที่เขามองเธอไว้ก็คือแววตาที่มองคนแปลกหน้า ความ อบอุ่นสักนิดก็ไม่มี เยือกเย็นจนทำให้ใจเหน็บหนาว

จําใครผิด เธอก็ไม่สามารถจำพี่ชิงหยู้ของเธอผิดได้

ไม่พบกันกี่ปี แม้ว่าเขาจะเปลี่ยนจนวางตัวหนักแน่น แต่ โฉมหน้าลักษณะยังคงคืออย่างในความทรงจำ

เธอจะไม่จำผิดอย่างแน่นอน

“พี่ชิงหยู้ ฉัน…”

คำพูดยังพูดไม่จบ ก็ถูกนิ่งเฉียวเฉียวที่อยู่ด้านหนึ่งทำให้ หยุด “สังอานหยี ชื่อของเขาคือเซี่ยงจึง ไม่ใช่พี่ชิงหยู้จากใน ปากอะไรของเธอ เธอก็คือจําคนผิดแล้ว”

“ไม่ใช่ เขาคือโล่ชิงหยู้ ไม่ใช่เซี่ยงจึง!” สังอานหยีถลึงตามองฝ่ายตรงข้ามด้วยความโกรธ

นิ่งเฉียวเฉียวหัวเราะเยาะออกมาเสียงหนึ่ง จากนั้นก็ได้พูด ถากถาง: “ไม่ใช่เหมือน แต่คือเขาก็ใช้” ส่งอานหยีคนหนึ่งได้ ก้าวเท้ายาวๆไปด้านหน้าประชิดใกล้กับเซี่ยงจึง จากนั้นก็ได้ เปิดตาโตๆค้นหาอะไรอยู่ที่บนหน้าเขา

ทันทีหลังจากนั้นเธอก็ได้ยกมุมปากขึ้นช้าๆ และได้หันหัวพูด กับนิ่งเฉียวเฉียว: “เขาก็ใช่ พี่ชิงหยู้ของฉัน เพราะว่า……

ยกนิ้วมือขึ้นชี้ไปยังหางคิ้วของเขา จากนั้นก็พูดต่อ” ตรงนี้ ของเขามีแผลเป็นหนึ่ง คือตอนที่ยังเล็กได้ถูกฉันใช้ก้อนหินทิ้ง ใส่จนมีแผลเป็นเหลืออยู่

“แผลเป็น?” นิ่งเฉียวเฉียวเดินเข้าไป ก้มหัวแสดงเจตนาต่อเ ยงจึง ผู้ที่อยู่ด้านหลังได้ก้มหัวลงอย่างเชื่อฟังมาก

ลูกตาดำของสังอานหยีได้หดเข้าไป มือคู่ได้กุมไว้แน่น พี่ชิง หญ้ของเธอคือหยิ่งทะนงเช่นนั้น ชั่วเวลาไม่นานนักก็เรียนรู้ที่ จะก้มหัวให้คนแล้ว

มองแล้วมองอีกอย่างละเอียดไปที่หางคิ้วของเขา มีแผลเป็น

หนึ่งจริงๆ

หรือว่าเขาคือโล่ชิงหยู้จากในปากสังอานหยีจริงๆ?

เธอมองเขาไว้ด้วยท่าทางเหม่อลอยเหมือนคิดอะไรอยู่พยายามมุ่งคิดถึงความแตกต่างที่มองออกมาจากบนใบหน้า ของเขา

ไม่รู้ว่าพ่อเขาซุกซ่อนไว้อย่างดี หรือว่าคือสั่งอ่านหยีจำคนผิด จริงๆ สีหน้าของเขาเป็นธรรมชาติ ไม่มีปรากฏถึงร่องรอยของ พิรุธเลยสักนิด

ตาอมาเธอก็หมุนตัว ยกริมฝีปากยิ้มอย่างเย็นชาให้กับสั งอานหยี “มีแผลเป็นก็สามารถยืนยันว่าเขาคือคนนั้นที่เธอได้ รู้จักแล้วเหรอ? ถ้าเช่นนั้นก็คงจะทำอย่างลวกๆหยาบๆเกินไป แล้ว?”

“บนโลกนี้ไม่สามารถมีคนสองคนที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน ได้ แม้กระทั่งแผลเป็นก็อยู่ตรงที่เดียวกัน ดังนั้นเขาก็คือโล่ชิง

สีหน้าของสังอานหยีคือฮึกเหิมมาก เธออยากยื่นมือไปจีบมือ ของเซี่ยงจึง แต่กลับถูกเขาหลีกเลี่ยงออกไป

“ฉันคือเซี่ยงจึง เธอจะคนผิดแล้ว”

ยังคงเยือกเย็นเช่นนั้นไม่มีร่องรอยของอารมณ์รักและผูกพัน กับน้ำเสียงที่อบอุ่นเลยสักนิด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ