ตอนที่ 138 หยิ่งจองหองไม่เลิก

ตอนที่ 138 หยิ่งจองหองไม่เลิก

หลังจากที่หลีน่ารีบเร่งมาที่ห้องทำงานของท่านประธาน ก็ เห็นซูเทียนอ้ายที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา

ต่างมองตากัน หลีน่าตะลึงอย่างเห็นได้ชัด

อาศัยไหวพริบของเธอแล้ว รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นลางไม่ดี แต่ การแสดงออกของเธอนั้นยังรักษาความสงบเอาไว้ พลางเอ่ย กับประธานของสือรุ่ย “ท่านประธาน ท่านถามหาดิฉันหรือ คะ?”

“หลีน่า เธอมาแล้ว”

ประธานบริษัทสือรุ่ยพยักหน้าให้ เหล่ตามองซูเทียนอ้ายอยู่ แวบหนึ่ง พลางเอ่ยขึ้น “ได้ข่าวว่าหลายวันก่อนซูเทียนอ้ายเข้า มารับตำแหน่ง ลูกน้องในสายงานของคุณต่อปากต่อคำกับเธอ เรื่องนี้เรื่องจริงใช่ไหม?”

“เอ่อ…

หลีน่าขมวดคิ้วเป็นโบ

ถึงแม้ว่าเธอจะทายถูกว่าซูเทียนอ้ายเป็นคนให้ตนเองขึ้นมา ไม่มีเรื่องดีอะไร แต่เธอกลับไม่คิดว่า เพื่อเอาชนะถังรั่วชู ผู้หญิงคนนี้จะดึงประธานลงมาเกี่ยวข้องด้วย

“ท่านประธาน เสี่ยวถังพูดออกมานิดหน่อยจริง แต่ว่า ทั้งหมด นั่นถือว่าไม่ได้เป็นการต่อปากต่อคํา แต่หลุดปากพูด รอเวลา ฉันจะจัดการสั่งสอนเธอเอาไว้ดีๆ

หลีน่าพยายามบิดเบือนคำพูด หลบนั่นเลี่ยงนี่ไปเรื่อย เพื่อจะ ได้ให้เรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันก่อนนั้นดูทุเลาลง

ซูเทียนอ้ายได้ยินแล้ว แววตาเย็นชา อดไม่ได้ที่จะพูดเตือน “ผู้จัดการหลี มีคำพูดบางอย่างที่คุณต้องคิดให้ดีก่อนจะพูด ออกมา อย่าเบี่ยงเบนประเด็น ถังรั่วชูคนนั้นไม่คิดถึงบริษัท เลย งั้นถือว่าผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง คนแบบนี้ การที่เธอยัง คงลอยหน้าลอยตาอยู่ในบริษัทได้นั้น มันทำลายบรรยากาศ”

หลีน่าได้แต่ปฏิเสธอยู่ในใจ ซูเทียนอ้ายคนนี้ วางแผนไว้แล้ว ว่าจะให้ถังรั่วชูออกไป!

แต่ว่า การเป็นหัวหน้าของถังรั่วชู เธอไม่สามารถตัดสินใจ ได้ เป็นการแสดงออกทางบริษัทอย่างเป็นทางการ พร้อมเอ่ย เสียงต่ำ “ผู้จัดการใหญ่พูดออกมาดูจะร้ายแรงไปหน่อย เสี่ยว ถังทำงานอย่างเต็มที่ จริงจัง ความสามารถก็โดดเด่นกว่าคน อื่น อีกทั้งยังเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ อีกอย่างเธอทำงาน อย่างเหน็ดเหนื่อย หลายปีที่ผ่านมานี้ผลงานก็เป็นที่สนใจ ฉัน หาเหตุผลที่จะไล่เธอออกจากบริษัทไม่ได้จริงๆ
“คุณ…

ซูเทียนอ้ายไม่คิดเลยว่า หลีน่าคนนี้จะเข้าข้างถังรั่วชู สีหน้า ดูเย็นชา “ท่านประธาน เรื่องนี้ท่านเห็นว่าอย่างไร? ที่ฉันถูก เชิญมาทำงานที่บริษัทสือรุ่ย เป้าหมายก็คือเพื่อจะได้พา บริษัทพัฒนาไปให้สูงขึ้นอีกขั้น แต่ว่าในการโน้มน้าวคนนั้น ฉัน เพิ่งมาไม่กี่วัน ก็ต้องมาเจอกับลูกน้องต่อปากต่อคำ หรือว่าที่ บริษัทสือรุ่ยนั้น ตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ไม่สามารถทำให้คนก้ม หัวได้? ถ้าเป็นไปตามนั้น งั้นฉันควรไปทำงานที่อื่นจะดีกว่า”

ซูเทียนอ้ายท่าทีหยิ่ง สีหน้าเย็นชา พูดซะไม่เกรงใจกันเลย

ในสายตาเธอนั้น การที่ตนเองลดตัวลงมาทำงานในบริษัทสึ อรุ่ย คนอื่นไม่สนับสนุนก็ปล่อยไป แต่ว่ากล้ามาต่อปากกับเธอ รนหาที่ตาชัดๆ

ประธานของบริษัทสือรุ่ยได้ยินประโยคนี้ ถึงกลับเบะปาก อย่างอดไม่ได้

ซูเทียนอ้ายต้องการเชือดไก่ให้ลิงดู ในใจของเขารู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ว่า ความสามารถในการบริหารคนของมีชื่อ มันครอบคลุม เขาให้ไม่อยากเธอปล่อยวางไปง่ายๆ ไม่ต้องถาม พื้นหลังของ เธอยังมีARและบริษัทจี้ที่คอยสนับสนุน

ส่วนถังรั่วชู ท่านประธานเองก็ยังปวดหัว
เด็กสาวคนนี้กับบริษัทการบันเทิงหวางถึง เหมือนว่ามีส่วน เกี่ยวข้องแต่ไม่รู้ว่าใคร

ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถไปแตะต้องได้ ประธานอย่างเขา ก็ ไม่รู้ว่าเอาอะไรมาจัดการ

ขมวดคิ้วนิ่วหน้าอยู่ชั่วครู่ ท่านประธานสือรุ่ยเลยไม่อยากจะ สนใจ เลยได้โบกมือสะบัดไปมา พลางโยนปัญหานี้ให้หลีน่า “หลีน่า คุณเป็นหัวหน้าของถังรั่วชู เรื่องนี้คุณไปปรึกษาหารือ กับผู้จัดการใหญ่ก็แล้วกัน ไม่ว่าจะยังไง เธอเป็นถึงผู้บริหาร ระดับสูงของบริษัท การตัดสินเรื่องที่ถังรั่วชูต่อปากต่อคำกับผู้ บริหาร ยังไงก็ถือว่าไม่ถูกต้อง”

หลีน่าเองก็หมดคำพูด

เวลาสำคัญ ขนาดท่านประธานยังทำเป็นไม่มีสิทธิ์ซะงั้น เธอ กับซูเทียนอ้ายสามารถสื่อสารเรื่องอะไรได้?

ซูเทียนอ้ายก็แสดงจุดยืนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ต้องการใช้ อำนาจในการกดดันคน ส่วนตำแหน่งของเธอก็ไม่ได้สูงเท่ากับ เธอ พูดหรือไม่พูดก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไป

แต่ว่าให้เธอเห็นถังรั่วชูถูกไล่ออกกับตา เธอก็ไม่ยอม

พื้นฐานของเธอไม่ดี ถ้ารู้ว่าถังรั่วซูเวลาทำงานทำงานอย่าง

ทุ่มเท
บุคลากรที่มากด้วยความสามารถ เธอจะไม่เห็นใจได้ไง ที่ ต้องมาเจอกับการกดดันจาก เทียนอ้าย?

ตอนที่หลีน่าไม่รู้ว่าจะทําอย่างไร ประตูใหญ่ของห้องประธาน ก็เปิดออก ถูกคนด้านนอกผลักเข้ามา

ที่ตามก็คือ น้ำเสียงเย็นชา ดังเข้าหูทั้งสามคน “ท่านประธาน จ้าว คุณทำงานด้วยนิสัยแบบนี้ไม่ได้นะ!”

คนที่เดินเข้ามาในห้องทํางาน ชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลา มาก อายุประมาณ 25-26 ปี สวมใส่เสื้อสูทที่ตัดเย็บพอดีตัว ดู แล้วหล่อและหรู ท่าทางสูงงามสง่าจนกระแทกตา มันทำให้คน ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสายตามองได้

ชายหนุ่มก้าวพรวดมาจากด้านนอกเดินเข้ามา ท่าทางที่ดู สูงส่ง ที่ทำให้ท่านประธานจ้าวเองยังเลิกคิ้วให้ในเวลานั้น

“คุณชายเงิน คุณมาทําไมไม่บอกผมสักคำ ผมจะได้ออกไป ต้อนรับคุณไง?”

ใบหน้าท่านประธานจ้าวยิ้มแย้ม เพื่อต้อนรับคนที่เข้ามาที่อยู่ ด้านหน้า สีหน้าแววตาเยินยอ พลางหันไปมองซูเทียนอ้ายกับ หลีน่าที่ยังตกตะลึงอยู่ข้างๆ

“เหอะๆ ต้อนรับคงไม่จําเป็นแล้ว”

ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อย พลางนั่งลงด้านข้างของประธานบริษัทสือรุ่ย พลางนั่งไขว่ห้าง พร้อมทั้งพูดถากถาง “คุณเป็น ถึงท่านประธานทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่สามารถจัดการเรื่องให้เด็ด ขาดได้ ขนาดเรื่องเล็กๆ แค่นี้ก็ทำไม่ได้ ผมว่า ตำแหน่งของ ประธานนั้น ก็ไม่ต้องเก็บเอาไว้แล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณ

ไม่ต้องมาทำงานแล้ว เป็นแค่ผู้ถือหุ้นพอ

“คุณชายเสนใจเย็น ผมทำงานไม่เด็ดขาดพอ

ท่านประธานจ้าวเหงื่อไหลไคลย้อย สีหน้าเก้อเขิน

หลีน่ากับซูเทียนอ้ายหน้าตาอึดอัด

คนคนนี้เป็นใคร ขนาดประธานยังต้องก้มหัวให้

ซูเทียนอ้ายขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะสอบถามบุคคลด้านหน้า “ท่านประธาน ท่านนี้คือ…

“พวกคุณยังยืนบี้ออยู่ทำไม ท่านนี้คือท่านประธานคนใหม่ ของ ยังไม่ยอมมาทักทายอีก”

ท่านประธานจ้าวอดไม่ได้ที่จะพูดเสียงต่ำ

หลีน่ากับซูเทียนอ้ายตกใจ

ท่านนี้คือท่านประธานคนใหม่ เสิ่นโม่เฟยเหรอ?
“ตั้งสติหน่อย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันไม่ได้เป็นแค่ท่าน ประธานของบริษัทนี้ แต่เป็นเจ้าของกิจการของบริษัทแห่งนี้ ด้วย เรื่องท่านประธานจ้าวท่านนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปก็ไม่ใช่ แล้วสิ เรื่องอื่น เมื่อครู่เรื่องที่พวกคุณพูดกันผมก็ได้ยินชัดเจน”

มือทั้งสองของเสิ่นโม่เฟยดันอยู่บนโต๊ะ พลางกวาดตามอง ซูเทียนอ้ายแล้วเอ่ยขึ้น “ภายใต้การบริหารภายในบริษัท ไม่ สามารถใช้อำนาจที่มีมากดดันคนอื่นได้ ทุกเรื่องต้องมาจาก กฎระเบียบของผม ใครกล้าแตะต้องลูกน้องของผม งั้นก็ไสหัว ไปซะ!”

ประโยคเดียว มันกับเปล่งพลังอย่างสุดๆ หยิ่งจองหอกหาตัว

จับยาก

สีหน้าท่านประธานจ้าวเกร็งทันที

ส่วนใบหน้าของซูเทียนอ้ายไม่อยู่เนื้อไม่อยู่ตัว

หลีน่าตกใจหนักกว่าเดิม

ข่าววงในบอกว่าจะเปลี่ยนท่านประธาน แต่ไม่ได้บอกว่าจะ เปลี่ยนเจ้าของแล้วด้วย!

แต่ว่า ความรู้สึกนี้มันก็ดูไม่เร็ว สิ่งที่สำคัญที่สุด คนที่เข้ามา รับตำแหน่งท่านประธานคนใหม่ ดูเหมือนไม่คิดจะไล่ถังรั่วชู

ออก!
“พอแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว พวกคุณไปได้แล้ว ส่วนจ้าวชื่อตง อยู่

ก่อน”

เสิ่นโม่เฟยสะบัดมือ เพื่อไล่คน

หลีน่ายังอยากจะเอาชีวิตให้รอดจากตรงนี้ เลยรีบออกจาก ห้องทํางานอย่างเร่งรีบ

ซูเทียนอ้ายไม่ยอมแพ้ ยังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ว่าเสิ่นโม่ เฟยไม่ให้โอกาสเธอเลย