One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 227 นี่ไม่ใช่ยังมีคุณอยู่เหรอ



ตอนที่ 227 นี่ไม่ใช่ยังมีคุณอยู่เหรอ

ตอนที่ 227 นี่ไม่ใช่ยังมีคุณอยู่เหรอ

ผ่านช่วงอาหารกลางวันไป โรงอาหารของบริษัทคนก็ น้อยลง มีเพียงคนนั่งอยู่สองสามโต๊ะเท่านั้น

พวกถังรั่วซูนั่งอยู่ตำแหน่งมุมที่สุด ขอเพียงไม่ตั้งใจมอง มาทางนี้ ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นลู่ซึ่งเหยาผู้จัดการใหญ่ซึ่ง นั่งทานข้าวอยู่ตรงนี้ด้วย

ดังนั้นจึงสงบอย่างมาก

“ชูชู ตอนนี้เธอคิดจะทำยังไง?” สั่งอานหยีถามด้วย ความเป็นห่วง

สำหรับชูชู การประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทถังซื่อกรุ๊ปใน ครั้งนี้สำคัญอย่างมาก พวกเขาทุกคนต่างกังวลใจแทน

เธอ

“ฉันให้ซึ่งเหยาหาคนจ้องท่านเฉินเอาไว้แล้ว ถึงตอนนั้น ฉันย่อมมีวิธีจัดการแน่”

เห็นได้ชัดว่าถังรั่วชูนิ่งสงบมาก ไม่เหมือนกับที่พวกเขา กังวล ท่าทางมีแผนการเตรียมพร้อมไว้แล้ว
“วิธีอะไรกัน?” ยิ่งเซียวเซียวถามอย่างสงสัย

ถังรั่วชูยิ้ม “ถึงตอนนั้นพวกเธอก็รู้เอง”

ชั่วขณะนั้นยิ่งเซียวเซียวหดมุมปากลง “ยังต้องถึงตอน นั้นถึงจะได้รู้เหรอ ฉันว่าฉันต้องอึดอัดใจตายแน่ๆ”

ส่งอานหยือดหัวเราะไม่ได้ พูดอย่างอารมณ์ดี “จะไม่ให้

เธออึดอัดใจตายหรอก ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นก็อีกสามวัน

เอง”

สามวัน ไม่นานก็จะมาถึง

เหตุการณ์คับขันมากขนาดนี้ ถึงแม้ชูชูจะมีความมั่นใจ มาก แต่สั่งอานหยียังเป็นห่วงมาก

“ชูซู เธอสามารถแก้ไขได้จริงไหม? ถ้าไม่ได้ เธอ สามารถให้ประธานผู้ช่วยเธอได้นะ”

ด้วยความสามารถของประธานกู้ เรื่องเล็กน้อยแบบนี้น่า จะสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย

“ไม่ต้องหรอก” ถังรั่วชูยิ้มส่ายหน้า “ฉันจัดการได้น่ะ ไม่อยากเพิ่มเรื่องวุ่นวายให้เขา และยิ่งเขาก็ทำเพื่อฉัน มากมายแล้ว”
หุ้นมากมายในมือของเธอก็คือเขาที่ใช้เงินจํานวนมาก ซื้อมา

รู้ว่าเธอดื้อรั้น ส่งอานหยีจึงไม่ได้พูดอะไรอีก

ตระกูลจี้

“รั่วรั่ว รอเธอเอาบริษัทถังชื่อกรุ๊ปมาได้ ฉันจะเลือกวัน มงคลให้เธอกับหยินเฟิงสองคนแต่งงานกัน จากนั้นมี หลาน.สักคนให้ฉันกับพ่อเธออุ้มเร็วๆ หน่อย”

ท่าทีฉินซือเหลียนที่มีต่อกู้รั่วรั่วเปลี่ยนจากหน้ามือเป็น หลังมือจริงๆ กระตือรือร้นจนไม่เหมือนสมัยก่อนที่เย็นชา เมินเฉย

แน่นอนว่ากู้รั่วรั่วรู้ดีถึงสาเหตุที่หล่อนเปลี่ยนไป เป็น เพราะบริษัทถังซื่อกรุ๊ปที่จะได้มาครองในอนาคตนั้น

แต่กู้รั่วรั่วยังคงดื่มกับการเปลี่ยนแปลงแบบนี้มาก

“คุณน้า งั้นคุณน้าเลือกวันมงคลเถอะค่ะ อย่างไรเสีย บริษัทถังชื่อกรุ๊ปก็ต้องเป็นของหนูอยู่แล้ว”
กู้รั่วรั่วยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ฉินซือเหลียน

ส่วนรอยยิ้มบนใบหน้าฉินซือเหลียนหยุดชะงักไปชั่ว ขณะหนึ่ง แต่เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ไม่นานหล่อนก็ฟื้น กลับดังเดิม เพิ่มรอยยิ้มขึ้น “เหรอจ๊ะ? งั้นน้าต้องรีบหาวัน มงคลจริงๆ แล้ว”

“งั้นรบกวนคุณน้าแล้วนะคะ” กู้รั่วรั่วสุภาพมากเกรงใจ มาก แต่ยังยากที่จะปกปิดความได้ใจระหว่างคิ้วกับตา ของหล่อน

หล่อนยังคิดว่าตนเองจะสามารถแต่งงานกับหยินเฟิงได้ จริงเหรอ ฝันไปเถอะ

ที่จริงในใจเหยียดหยามกู้รั่วรั่วอยู่มาก บนหน้าฉินซือ เหลียนยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เมตตา “จะรบกวนได้ อย่างไรกันล่ะ นี่เป็นสิ่งที่น้าควรทํา”

กู้รั่วรั่วหัวเราะ ไม่ได้พูดอะไร หล่อนกวาดสายตามอง คฤหาสน์ตระกูลจี้ที่อยู่มาสิบกว่านี้หลังนี้ มองฉินซือ เหลียนที่ยิ้มอ่อนช้อย ในใจหล่อนเกิดความคิดหนึ่งขึ้น

รอแต่งงานแล้ว หล่อนจะให้จี้หยินเฟิงซื้อบ้านใหม่อีก หลังหนึ่ง พวกเขาก็ย้ายออกไป หล่อนไม่ยอมอยู่ด้วยกัน กับฉินซือเหลียนที่จอมปลอมหรอก
ฉินซือเหลียนทางนี้มองกู้รั่วรั่วอยู่ แววตาประกายความ ดูถูกลึกๆ รอได้บริษัทถังชื่อกรุ๊ปมาไว้ในมือ หล่อนจะให้ หยินเฟิงไล่กู้รั่วรั่วออกไป ได้ผู้หญิงแบบนี้มาเป็นลูกสะใภ้ คงอัปยศอดสูกับวงศ์ตระกูล

ผู้หญิงทั้งสองคนที่แยกกันนั่งอยู่บนโซฟาต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดแผนร้ายกับตนเองอยู่ในใจ

ลมพัดเบาๆ ผ้าม่านไหวๆ แสงไฟเหลืองนวลส่องสว่างใน ห้องหนังสือที่กว้างขวาง ภาพร่างเรียวบางนั่งอยู่บนเก้าอี้ หนังที่กว้างใหญ่ เห็นได้ชัดว่าอ่อนช้อยเป็นพิเศษ

ถังรั่วชูเลื่อนดูตารางผลกำไรของบริษัทถังซื่อกรุ๊ปช่วง หลายปีนี้ ท่าทางตั้งใจจริงจัง บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ เปิดไว้ หัวข้อเอกสารปรากฏตัวอักษรใหญ่สีดำเข้ม…….

ภาพการพัฒนาในอนาคตอีกสิบปีของบริษัทถังซื่อกรุ๊ป

ในเมื่อต้องการให้ผู้ถือหุ้นสนับสนุน เช่นนั้นจึงต้องหยิบ อะไรออกมาสักหน่อย ดังนั้นเธอจําเป็นต้องเขียนรายงาน เกี่ยวกับการพัฒนาในอนาคตของบริษัทถังซื่อกรุ๊ป
แต่สำหรับการบริหารธุรกิจส่วนนี้ไม่ใช่ว่าจะเข้าใจมาก ดูตารางผลกำไรจนเธอปวดหัวไปหมด

ลูซือจิ่นกลับมาถึงบ้าน ป้าอู่บอกเขาว่าพอคุณนายกลับ มาก็ขึ้นไปอยู่ข้างบน ยังบอกว่าอย่ารบกวนเธอ

แต่ตอนนี้เป็นเวลาอาหารเย็น ป้าอู่กำลังลังเลว่าจะขึ้นไป เรียกคุณนายลงมาทานข้าวก่อนดีหรือไม่

“ผมเรียกเอง” ลูซือจิ๋นยิ้มให้ป้าอู่แล้ว จากนั้นเดินไปด้าน บนโดยตรง

เธอน่าจะกำลังกังวลกับการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของ บริษัทถังซื่อกรุ๊ปในอีกสามวันนี้ ซึ่งเหยาเล่าเรื่องราว ทั้งหมดกับเขาแล้ว ยังบอกว่าเธอสามารถจัดการเรื่องเรา ทุกอย่างได้ด้วยตนเอง

ลูซือจิ่นโค้งรอยยิ้มจำใจที่มุมปากขึ้น เธอมักจะมั่นใจใน ตนเองเกินไปแบบนี้ แต่ทุกครั้งล้วนโดนคนใส่ร้าย ไม่รู้ ควรจะทำอย่างไรกับเธอจริงๆ?

พอผลักประตูห้องหนังสือออก ก็มองเห็นคนนั่งอยู่ที่โต๊ะ หนังสือเขาเดินไปใกล้ ได้ยินเสียงบ่นพึมพำของเธอ
“การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมนี้มันอะไรกันเนี่ย? ตารางผลกำไรนี้ดูยังไง ทำไมถึงซับซ้อนขนาดนี้กัน?”

สำหรับคนที่เข้ามาในห้อง เธอไม่ได้สังเกตเห็นเลยสัก นิด ล้วนจมอยู่กับตารางผลกำไรฉบับนั้นในมือของเธอ

สู้ซือจิ่นหัวเราะอย่างจำใจ ยื่นมือเคาะลงบนโต๊ะหนังสือ

เบาๆ

พอเธอได้ยินเสียง เงยหน้าขึ้น ชั่วขณะนั้นที่มองเห็นเขา เข้า ดวงตาสองข้างทอประกาย

“คุณกลับมาแล้ว ซือจิ่น”

ไม่รู้ทำไมกู้ซือจิ่นถึงรู้สึกว่าตนเองเหมือนเป็นอาหารที่ ถูกหมาป่าจ้องไว้อย่างน่าประหลาด ในใจผุดความหนาว เย็น

“กินข้าวได้แล้ว” เขาพูด

“เดี๋ยวค่อยกิน” ถังรั่วชูวางรายงานในมือลง ลุกขึ้นเดิน เข้ามาดึงเขา “ซือจิ่น คุณช่วยฉันดูตารางกำไรนี้หน่อยสิ ว่าเป็นยังไงบ้าง”

หลังจากดึงเขามานั่งบนเก้าอี้หนัง เธอโน้มตัวชี้ไปที่ตารางรายงานที่กางไว้บนโต๊ะ หันหน้ามองเขา “มูลค่า

ยุติธรรมนี้หมายความว่าอะไรกัน?”

ลูซือจิ่นจ้องมองเธอ “ทําไมถึงอยากดูรายงานผลกําไร มากะทันหันล่ะ?”

ถังรั่วซูเม้มริมฝีปาก จากนั้นยืดตัวตรง ตอบไป “นี่ไม่ใช่ เพื่อให้เหล่าผู้ถือหุ้นเชื่อใจเหรอว่าฉันมีความสามารถใน การบริหารบริษัทถ้งชื่อกรุ๊ปได้ ดังนั้นถึง..….……

เธอยักไหล่ ทําหน้าจําใจ

ลูซือจิ่นยักคิ้ว สายตาชำเลืองมองเอกสารที่เปิดไว้บนจอ คอมพิวเตอร์ จากนั้นหันหน้าไปอ่าน ตอนที่เห็นหัวข้อด้าน บน อดหัวเราะไม่ได้

“นี่คุณยังเตรียมการเต็มที่มากขนาดนี้จริงๆ” เขายิ้มหยอกล้อเธอ

“คุณบอกฉันว่าอย่าทำสงครามที่ไม่ได้เตรียมพร้อมไม่ใช่เหรอ?”

ถังรั่วชูเบ้ปาก รู้สึกถึงความไม่สบายใจต่อการหัวเราะเยาะของเขา
เมื่อมองออกว่าเธอไม่พอใจ สู้ซือจิ่นจึงพยักหน้าอย่าง ปิดปากเงียบ ผมเคยพูดแบบนี้ แต่มีบางเรื่องไม่ใช่จะ เรียนรู้กันได้ในชั่วพริบตาเดียว”

“ก็ใช่จริงๆ” ถังรั่วชูห่อไหล่ลง นี่คือความจริงที่เหี้ยมโหด อย่างหนึ่ง เธอไม่ยอมรับไม่ได้

เพียงแค่ดูตารางผลกำไรฉบับเดียวก็แทบจะเอาชีวิตเธอ

แล้ว อย่างอื่นเธอยิ่งไม่กล้าจินตนาการ

ส่วนการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นก็อีกสามวัน กังวลอนาคตจริงๆ

แต่ว่า……

เธอเหมือนคิดอะไรขึ้นได้ ใบหน้างดงามที่เดิมทีอึมครึม ชั่วพริบตาเดียวก็ประกายแวววาว เธอหัวเราะอย่างเจ้า เล่ห์ “นี่ไม่ใช่ยังมีคุณอยู่เหรอ?”

“อ่อ?” ลูซือจิ่นยักคิ้ว “ความหมายของคุณคืออยากให้ ผมช่วยคุณ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ