One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 228 ไม่ว่าอย่างไร ผมก็รักคุณทั้งนั้น



ตอนที่ 228 ไม่ว่าอย่างไร ผมก็รักคุณทั้งนั้น

ตอนที่ 228 ไม่ว่าอย่างไร ผมก็รักคุณทั้งนั้น

ถังรั่ว ตะลึง จากนั้นยิ้มเห็นฟันวาววับ พยักหน้าอย่าง เปิดเผย “อืม คืออยากให้คุณช่วยฉัน”

“แต่ผมได้ยินซึ่งเหยาบอกว่าคุณไม่อยากให้ผมช่วย ลูซือจิ่นมองเธออย่างไม่กระจ่าง

ถังรั่ว ทำปากมุ่ย “ที่ฉันบอกว่าจะไม่ไปขอความช่วย เหลือคุณเป็นเรื่องของท่านเฉิน ไม่ใช่เรื่องเดียวกับที่ฉัน ขอให้คุณช่วยตอนนี้”

“ท่านเฉิน?”

“อืม คือผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของบริษัทถังซื่อกรุ๊ป วันนี้ฉันกับ ซึ่งเหยาไปเยี่ยมเยือนเข้ามา แต่โดนปฏิเสธให้เข้าบ้าน”

พูดถึงท่านเฉิน ถังรั่วชูอดถอนหายใจทีหนึ่งไม่ได้ ท้อแท้ ในใจอยู่บ้าง

เห็นท่าทางเธอหน้าม่อยคอตก สู้ซือจิ่นพึมพำกับตนเอง อย่างคล้ายๆ ว่าคิดอะไรได้ จากนั้นพูดขึ้น “ในเมื่อท่าที ของเขาไม่สนับสนุนใคร หมายความว่าคุณยังมีโอกาส”

“ถูกต้อง ฉันก็คิดแบบนี้แหละ” ถังรั่วชูลูกตาหมุนวน ใน ตาสวยประกายแสงมันวาวที่เจ้าเล่ห์ “รู้เขารู้เรา พยายาม เอาใจคนอื่น ฉันคิดว่าฉันน่าจะได้ใจท่านเฉินมา”

ตอนที่พูดคำนี้ ลักษณะท่าทางเธอดูมีความสุข ลูกตา ประกายดั่งดวงดาว ไม่มีลักษณะหน้าม่อยคอตกอย่างเมื่อ สักครู่โดยสิ้นเชิง

“มีความมั่นใจขนาดนี้เลยเหรอ?” ลูซือจิ่นยักคิ้วด้วย ความสงสัย

ไม่ใช่เขาไม่มีความมั่นใจต่อเธอ แต่ใจคนยากคาดเดา ใครก็เดาไม่ถูกว่าท่านเฉินคนนั้นคิดอะไรในใจ

ไม่ยินยอมเข้าสู่ศึกช่วงชิงบริษัทถังซื่อกรุ๊ปจริงๆ เหรอ?

หรือว่าอยากอาศัยเหตุนี้อยากได้รับผลประโยชน์ใหญ่ กว่า?

นี่เป็นเรื่องที่พูดไม่ถูก แต่ความคิดเธอไร้เดียงสา เขา กังวลว่าเธอที่อารมณ์รีบร้อนขนาดนี้จะให้โอกาสกับศัตรู ไปกันพอดี
“ทำไม? คุณไม่เชื่อฉันเหรอ?” ถังรั่วชูท้าวมือสองข้างบน โต๊ะ มองเขาอย่างสมาธิแน่วแน่ แม้จะมีเรื่องวุ่นวายใจมาก ก็ตาม

ลูซือจิ่นหัวเราะ “เรื่องราวยากจะคาดเดา อาจจะมีเรื่อง ไม่คาดคิด

ความหมายที่แฝงอยู่คือเขาไม่เชื่อว่าเธอจะสามารถ

จัดการเรื่องราวได้อย่างราบรื่น

ถังรั่วชูกลับไม่ได้หงุดหงิด “ฉันรู้แต่แรกแล้วว่าคุณจะคิด แบบนี้ แต่ว่า….…..

เธอหัวเราะ “ฮิๆ” สองที พูดด้วยความภูมิใจเต็มที่ “คุณ รอข่าวดีของฉันแล้วกัน”

“ผมรอคอยมาก” ลูซือจิ่นหัวเราะ จากนั้นก้มหน้ากวาด สายตาไปที่ตารางผลกำไรในมือ จากนั้นถามขึ้น “งั้นคุณ อยากให้ผมช่วยอะไร?”

หัวข้อนี้เปลี่ยนเร็วอยู่นิดหน่อย ถังรั่วซูมึนงงพักหนึ่ง กัดริมฝีปาก พูดอย่างทำเป็นขวยอาย “ความจริงฉัน ก….อยากให้คุณ…….ให้คุณ……. อยาก……

“หือ?” ลูซือจิ่นเงยหน้ามองเธอ ดูเธอที่สองจิตสองใจ แล้วอดหัวเราะอย่างจำใจไม่ได้ “ชูชู ระหว่างพวกเรามีอะไรก็พูดตามตรงเถอะ ไม่ต้องระมัดระวังตัวขนาดนี้ หรอก”

ในเมื่อเขาพูดขนาดนี้แล้ว …..….…..

เธอสูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง ไม่คำนึงถึงสิ่งใดแล้ว

“ฉันต้องการให้บริษัทการบันเทิงหวางถึงกับบริษัทถังซื่อ กรุ๊ปร่วมงานกัน

พูดคำนี้ออกไป ถังรั่วซูโล่งอกไปที่หนึ่ง แต่อากาศจมอยู่ ในความเงียบวังเวง

ลูซือจิ่นเงียบจ้องมองเธอ สีหน้าสงบไร้คลื่น ตาดำล้ำลึก จนมองความคิดไม่ออกสักนิด

ยัยคนนี้ นี่ก็กระอักกระอ่วนมากแล้ว ความจริงความคิด แรกสุดของเธอเพียงแค่อยากประกาศในที่ประชุมผู้ถือ หุ้นว่าบริษัทถังชื่อกรุ๊ปกับบริษัทการบันเทิงหวางถึงร่วม งานกัน ผู้ถือหุ้นเหล่านั้นต้องสนับสนุนเธออย่างไม่พูด พรําทําเพลงแน่

ถึงแม้บริษัทการบันเทิงหวางถึงจะเป็นบริษัทการ บันเทิงตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น แต่พูดถึงความสามารถและ ทรัพยากรยังเยี่ยมกว่าบริษัทถังซื่อกรุ๊ป หากทั้งสองแห่ง สามารถร่วมงานกันได้ ถือว่าเป็นบริษัทถังชื่อกรุ๊ปที่ปีนเกลียว

แต่ตอนนี้ปฏิกิริยาของคุณลูซือจิ่นประธานบริษัทการบัน เทิงหวางถึงเหมือนจะแปลกไปอยู่นิดหน่อย

ถังรั่วซูฝืนดึงมุมปากแล้วหัวเราะแห้งๆ ปกปิดความไม่ สบายใจภายในใจ จากนั้นพูดอย่างระมัดระวัง “ความจริง นะ ฉันแค่สนใจมาตลอดช่วงนี้ บริษัทการบันเทิงหวางถึง เป็นลูกพี่ใหญ่ของวงการบันเทิง ส่วนบริษัทถังชื่อกรุ๊ปกับ วงการบันเทิงก็ยังไม่แตะขอบ อยากร่วมงานกันเดิมทีคง เป็นไปไม่ได้”

พูดจบ เธอก้มหน้าลง แอบด่าตัวเองในใจ

ถังรั่วชูอ่าถังรั่วชู เธอสมองพังแล้วหรือเปล่า? ทำไมถึง คิดวิธีแย่ๆ แบบนี้ออกมาได้กัน?

“ความจริง…ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้” สู้ซือจิ่นส่งเสียง แล้ว

“หา?” ถังรั่วชูเงยหน้าขึ้นทันใด มองเขาอย่างยากจะเชื่อ

เธอไม่ได้ฟังผิดมั้ง? เมื่อสักครู่เขาบอกว่าไม่ใช่เป็นไปไม่ ได้ ถูกไหม?
ซือจิ่นมองตารางผลกําไรคร่าวๆ รอบหนึ่ง จากนั้นพูด อย่างเชื่องช้า “หลายปีนี้บริษัทถังชื่อกรุ๊ปพัฒนาไปได้ไม่ เลว สำหรับสภาพผลกำไร สถานการณ์ทรัพย์สินก็ดีมาก แต่กำลังช่วงท้ายบริษัทเห็นได้ชัดว่าไม่เพียงพอ”

ถังรั่วชูเหมือนฟังเข้าใจแล้ว “คุณหมายความว่าช่วงหลัง บริษัทจะพัฒนาไม่ราบรื่น แม้กระทั่งจะขาดทุน ฉันเข้าใจ แบบนี้ ถูกไหม?”

“คุณฉลาดมาก เข้าใจได้ถูกมาก”

ได้รับคำชมของเขา ถังรั่วชูยิ้มอย่างเขินอาย

ตาดำประกายความภูมิใจนิดๆ สู้ซือจิ่นพูดต่อไป “ตอนนี้ ดูแล้วธุรกิจสำคัญที่สุดที่บริษัทถังชื่อกรุ๊ปบริหารอยู่ความ จริงก็คือห้างสรรพสินค้า แต่ตอนนี้เครือข่ายอินเทอร์เน็ต พัฒนารวดเร็วขนาดนี้ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้ผล ประโยชน์กับผู้คนมากมาย อย่างเช่นซื้อขายออนไลน์ ดัง นั้นวิธีการซื้อของในห้างแบบเดิมอาจต้องเจอกับสภาพ เสื่อมถอย”

ที่เขาพูดเป็นปัญหาใหญ่มากจริงๆ ถังรั่วชูครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นถามว่า “งั้นคุณคิดว่าควรจะทำยังไง?”

และไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นผู้สืบทอดของตระกูล หัวหน้าสี่ตระกูลใหญ่ เขาบริหารบริษัทการบันเทิงหวางถิงได้ดีขนาดนี้ ย่อมมองออกว่าความสามารถของเขามี

มากมาย

ดังนั้นเขาต้องมีวิธีจัดการปัญหานี้ของบริษัทถัง อกรุ๊ป ได้แน่

“อย่าอยู่ในกรอบ พัฒนาธุรกิจใหม่” พูดๆ อยู่ผู้ซือจิ่นก็ พิมพ์อะไรลงไปในเอกสารที่เธอเขียนหัวข้อว่า “การ พัฒนาในอนาคตสิบปีของบริษัทถังชื่อกรุ๊ป”

บริษัทถังซื่อกรุ๊ปกำลังจะเคลื่อนพลเข้าสู่ธุรกิจ ภาพยนตร์และโทรทัศน์ ลงทุนร่วมกันกับบริษัทการบัน เทิงหวางถิงถ่ายทำละครใหญ่IPเรื่องหนึ่ง

ถังรั่ว ขยับเข้ามามองใกล้ๆ ตอนที่มองเห็น “ภาพยนตร์ และโทรทัศน์” คำนี้ พูดด้วยความตกใจ “ธุรกิจภาพยนตร์ และโทรทัศน์? ละครใหญ่IP?”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังร่วมงานกับบริษัทการบันเทิงหวา งถิง นี่เขาไม่ได้กำลังล้อเล่นอยู่เหรอ?

เธอหันหน้ามองเขาด้วยความสงสัย

สู้ซือจิ่นมองความคิดของเธอออกได้ง่ายดายมาก จึง ยิ้มพูด “ขอเพียงคุณสามารถเอาตำแหน่งประธานใหญ่ บริษัทถังซือจิ่นมาได้ บริษัทการบันเทิงหวางถึงจะรีบร่างสัญญาร่วมงานทันที”

ความหมายของคําพูดเขาคือบอกว่าเขาเอาจริงนะ

รอยยิ้มที่ดีใจตื่นเต้นค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของเธอ ต่อมาเธอก็ยากจะเก็บซ่อนความตื่นเต้น อ้าแขนออกกอด เขาไว้ “ซือจิ่น ฉันรักคุณเหลือเกินเลย คุณเป็นดาวนำ โชคของฉันจริงๆ”

ยังคิดว่าตนเองคิดเพ้อฝัน คาดไม่ถึงเขาจะยินยอมร่วม งานกับบริษัทถังชื่อกรุ๊ปจริงๆ

มีการร่วมงานนี้ การประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นครั้งนี้ ชัยชนะ ของเธอก็เพิ่มขึ้นแล้ว

ลูซือจิ่นอดหัวเราะไม่ได้ แสร้งทำเป็นพูดอย่างไม่พอใจ

“ถ้าผมไม่ช่วยคุณ คุณก็ไม่รักผมแล้วรึเปล่า?”

“ไม่ใช่สักหน่อย ไม่ว่าคุณจะช่วยหรือไม่ช่วยฉัน ฉันก็ รักคุณทั้งนั้น” ถังรั่วชูถูๆ ที่ไหล่ของเขา แสดงท่วงท่าของ หญิงสาว

“แบบนี้ก็พอๆ กัน” ลูซือจั่นยกมือกอดเธอไว้ ลูกตาดำมืด เหมือนหมึกดำ ประกายรอยยิ้มอันประณีต
ถังรั่วชูหัวเราะพลางพิงศีรษะบนไหล่ของเขา รอยยิ้มบน หน้ายิ่งล้ำลึก

เธอบอกว่าเขาเป็นดาวนำโชคของเธอนั้นไม่ใช่หลอก ลวง ตั้งแต่เจอกับเขา ไม่ว่าเธอจะเผชิญอุปสรรคแบบไหน มักจะผ่านไปได้อย่างสงบ

ดังนั้นถึงบอกว่าเขาเป็นดาวนำโชคของเธอ

ในห้องหนังสือสงบและอบอุ่นหอมหวาน ทั้งสองคนโอบ กอดกันนิ่งๆ นอกหน้าต่างด้านหลังพวกเขานั้น พระจันทร์ ค่อยๆ ขึ้นมาอยู่กลางท้องฟ้า แสงจันทร์กระจ่างสาดส่อง มาทางโลกมนุษย์

ทันใดนั้นมีเสียงเคาะดังลอยมาจากประตู และตามมา เป็นเสียงของป้าอู่ที่ระมัดระวัง

“คุณชาย คุณนาย อาหารใกล้เย็นแล้วค่ะ รีบลงไปทาน ข้าวกันเถอะค่ะ”

ถังรั่วชูมองหน้ากันแล้วหัวเราะ จากนั้นดึงเขาลุกขึ้นยืน “ไป พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ