One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 183 ไม่มีลูกแล้ว



ตอนที่ 183 ไม่มีลูกแล้ว

ตอนที่ 183 ไม่มีลูกแล้ว

รอจนถังรั่ว สงบสติลง สู่ซือจีนถึงได้ประคองประคองเธอมา นั่ง โซฟา

ถังรั่วชูยังคงสะอึกสะอื้นไม่หยุด เพราะยังไม่สามารถเรียก สติให้กลับมาได้ทั้งหมด ยิ่งเงยหน้าสบตาม่านตาสีเข้ม พลัน ต้องหลุบตาลงทันที จนตาสั่นเล็กน้อย

“อย่ามอง มันน่าเกลียดมาก” อาการร้องไห้อยู่นาน ทำให้ เสียงของเธอแหบพร่า

“อืม น่าเกลียดอยู่หน่อยหนึ่ง” มุมปากอู๋ซือจิ่นฉีกยิ้มทำราวกับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“จริงเหรอ?” ถังรั่วชูร้อนรน พลันเงยหน้าขึ้นทันที ก็เห็นดวง คําขลับของเขาทอประกายรอยยิ้มออกมาอย่างเปี่ยมล้น การกระทําแบบนี้ที่แท้เขาก็แค่อยากจะหยอกล้อเล่น

มุมปากปรากฏรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น เขายื่นมือออกไปคว้าตัว เธอเข้าสู่อ้อมกอดของเขา “ไม่น่าเกลียด ไม่น่าเกลียดเลยสัก นิต ในสายตาผม คุณสวยงดงามอยู่ตลอดเวลาเสมอ”

น้ำเสียงอันอบอุ่นของเขาเปรียบดั่งสายลมแสงแดดอ่อนๆ ของฤดูใบไม้ผลิ มันพัดผ่านรอยแผลที่ตกผลึกในหัวใจของเธอ หัวใจที่เต้นไม่เป็นตัวของตัวเอง

“พูดให้เพราะๆ หน่อยนะ ฉันก็ไม่ให้อภัยที่เมื่อครู่คุณพูดว่า ฉันน่าเกลียด” ถังรั่วซูยื่นคางขึ้น ริมฝีปากมีแต่รอยยิ้มที่ไม่ สามารถปกปิดรอยยิ้มเอาไว้ได้

พอเห็นอารมณ์ความโอ้อวดของเธอแล้ว ลูซือจิ่นถึงกับต้อง หัวเราะออกมาเบาๆ จนต้องกอดเธอให้แน่นขึ้น จากนั้นก็ไม่ได้ พูดอะไรออกมา

ถังรั่วชูขดตัวแนบอยู่กับหัวใจของเขา ฟังเสียงหัวใจของเขา เต้นเป็นจังหวะ จนสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกสงบเงียบที่ไม่ได้ มีก่อนหน้านี้

นานพอควร เธอถึงได้เอ่ยปากพูดออกมา “ฉันไม่ได้ผลักกู้รั่ว

รั่ว”

“อืม ผมรู้”

น้ำเสียงสุขุมของเขาพูดอยู่เหนือศีรษะของเธอ น้ำเสียงที่เชื่อ มั่นอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ เลย

“ถ้าฉันรู้ว่าเธอจะใช้เด็กมาเป็นเครื่องมือทำเรื่องหยาบช้า แบบนี้มาใส่ร้ายกับฉัน ฉันจะยื่นกล้องให้เธอตั้งแต่แรก” น้ำ เสียงของเธอยังคงมีเสียงสะอึกสะอื้นออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ซือจิ่นค่อยๆ ลูบไล้เส้นผมของเธออย่างแผ่วเบา พลางพูดอย่างอ่อนโยน “ถึงแม้ว่าคุณจะเอากล้องให้เธอก็ตาม เธอก็ ต้องหาวิธีอื่นมาใส่ร้ายคุณอยู่ดี”

ลูซือจิ่นปล่อยเธอ มือทั้งสองข้างจับไหล่ของเธอเอาไว้ พลาง ก้มศีรษะเพื่อสบตาเธอ แถมยังพูดเน้นทีละประโยคกับเธอ “เด็กนั่นเธอแค่ต้องการจัดการให้เด็กคนนั้นหลุดไป ดังนั้น ทั้งหมดนี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ”

สิ่งที่เขาพูดออกมา ถังรั่วชูเบิกตาโต ที่แท้เขาก็อ่านใจของตัว เองออกว่าทําไมถึงได้ร้องไห้เสียใจขนาดนี้

ตอนที่อยู่ที่เมืองชิงเฉิง กู้รั่วรั่วถอยหลังแล้วล้มลงในเวลานั้น ในสมองของเธอคิดเพียงอย่างเดียว ว่าจะไม่ทำให้เด็กได้รับ อันตรายไปด้วย ดังนั้นเธอเลยยื่นมือออกไปคว้าเอาไว้

ยิ่งเมื่อเธอเห็นว่าบริเวณส่วนล่างของร่างกายของกูรั่วรั่วมี เลือดไหลออกมา เธอทําอะไรไม่ถูกจริงๆ ตื่นตระหนกไปด้วย เหมือนว่าเธอเองก็เห็นภาพว่าเด็กน้อยคนหนึ่งกําลังค่อยๆ จาก โลกใบนี้ไป

ภาพความทรงจำนั้นมันอยู่ในสมองของเธอ ยามเมื่อหลับตา ลง ก็จะเห็นภาพเลือดแดงสดปรากฏในดวงตา

ตลอดเวลาการเดินทางของเที่ยวบินจากเมืองชิงเฉิงมายัง เมืองเป่ยหนิงนั้น ไม่ว่าจะเหนื่อยล้าสักเพียงใด เธอไม่กล้าที่จะ หลับตา กลัวว่าพอหลับตาแล้วอารมณ์จะเตลิดไปไกล ความ ผิดที่อยู่ในใจนั้นมันจะฝังให้เธอตายไปด้วย
พอเมื่อเขาในเวลานั้น ความเคร่งเครียดค่อยๆ ผ่อนคลายลง ไป เธอก็เหมือนเด็กน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งที่ร้องไห้แสนเจ็บปวด จนเสียงหาย ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งในการระบายความรู้สึกออก มา

ลูซึ่งเหยาคิดว่าเธอตกใจจนสิ้นสติไปแล้ว ดังนั้นตลอดการ เดินทางเลยพยายามปลอบใจเธอ แต่เขากลับไ บไม่เข้าใจความ รู้สึกที่แท้จริงของเธอที่อยู่ในใจ

มีเพียงเขาเท่านั้น ผู้ซือจิ่นของเธอเท่านั้นที่เข้าใจเธอ

พอเห็นเธอน้ำตาเริ่มไหลอีกครั้ง ตู้ซือจิ่นเงื้อมือปาดน้ำตา บนใบหน้าเธออย่างแผ่วเบา น้ำเสียงถามไถ่อย่างเบื่อหน่าย “ทำไมร้องไห้อีกแล้วล่ะ?”

แววตาความเจ็บปวดในหัวใจของเขามันทำให้เธอร้องไห้ หนักกว่าเดิม

ร้องไห้ไปเรื่อยๆ อยู่ดีๆ เธอก็ยิ้มออก ยิ้มไปพร้อมทั้งน้ำตานี่

แหละ

“ลูซือจิ่น ขอบคุณ คุณนะ”

ขอบคุณที่คุณคอยเคียงข้างฉัน ทำให้ฉันที่อารมณ์ เคว้งคว้างขนาดนี้กล้าเผชิญหน้ากับทุกสิ่งทุกอย่าง

“เด็กโง่เอ๋ย” เขายิ้มเล็กน้อย แววตาเปี่ยมล้นความรักและเอ็นดูอย่างทะนุถนอม

ถึงรั่วชูสูดลมหายใจเข้าออก พลางชูมือขึ้นปาดน้ำตา พร้อม ทั้งสูดลมหายใจเข้าไป จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นมา “ตอนนี้ข่าวคง ลงในอินเทอร์เน็ตไปแล้วใช่ไหม?”

ลูซือจิ่นพยักหน้า “หลังจากที่สู้ซึ่งเหยาติดต่อผมมาแล้ว ใน อินเทอร์เน็ตก็มีข่าวลงเรียบร้อยแล้ว”

เร็วด่วนจี๋ เหมือนว่ากู้รั่วรั่วเตรียมการทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี

“ไม่คิดเลยว่าชื่อฉันจะดังขึ้นมาอีกแล้ว” ถังรั่วชูยิ้มเยาะเย้ย ให้ตนเอง “ถ้าเด็กนั่นไม่รอด ฉันยังต้องแบกรับคําด่าทอนี้ไป ตลอดทั้งชีวิต”

“เด็กนั่นไม่รอดจริงๆ” ซือจิ่นพูดถึงข่าวล่าสุด

ใบหน้าถังรั่วชูซีดเผือด “เด็กไม่รอดเหรอ?”

“อืม ล้มแรงซะขนาดนั้น พอส่งถึงโรงพยาบาล ก็สายเกินแก้ ไปแล้ว”

เบ้าตาเริ่มแดงอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้เธอเงยหน้าขึ้น และเม้มริม ฝีปากเอาไว้ เพื่อบังคับไม่ให้น้ำตาของตนเองไหลลงมา

เธอสูดลมหายใจเข้าปอด พร้อมทั้งยิ้มที่แทบจะดูไม่ได้ออกมา “ก็ดี กู้รั่วรั่วเป็นแม่ที่ใจร้ายชั่วข้าซะขนาดนี้ไม่มีก็ดีแล้ว”

พูดจบ น้ำตาก็ไหลรินออกมาอยู่ดี

เธอปวดใจแทนเด็กน้อยคนนั้น ยังไม่ทันลืมตามาดูโลกอัน สดใสสวยงามเลย ก็ต้องจากไปเสียแล้ว

อู๋ซือจิ่นค่อยๆ ประคองกอดเธอเข้าสู่อ้อมกอด พร้อมทั้งเอา ใบหน้าของเธอซุกในอ้อมอกของเขา เพื่อบรรเทาความเจ็บ ปวดที่อยู่ในใจ จนน้ำตาเปียกชุ่มเปรอะเปื้อนลงบนเสื้อเชิ้ต ของเขา

น้ำตาอุ่นร้อนไหลลงบริเวณหน้าอกของเขา ดวงตาดำขลับสื่อ ความหมายอันลึกซึ้งขึ้นมาอย่างเบื่อหน่าย เด็กน้อยคนนั้นใจดี เกินไปจริงๆ

โรงพยาบาลเมืองชิงเฉิง

จี้หยินเฟิงเดินออกมาจากห้องทำงานของคุณหมออย่างสติ เลื่อนลอย ฝ่าเท้าก้าวเดินไปไม่กี่ก้าว บริเวณแผ่นหลังพิงกับ กําแพงแล้วค่อยลื่นไหลลงด้านล่าง

“ขอโทษด้วย ทางเราไม่สามารถยื้อชีวิตเด็กไว้ได้ ตอนที่ ภรรยาของคุณมาถึง หัวใจของทารกได้หยุดเต้นไปแล้ว”
มา “ก็ดี กู้รั่วรั่วเป็นแม่ที่ใจร้ายชั่วข้าซะขนาดนี้ไม่มีก็ดีแล้ว”

พูดจบ น้ำตาก็ไหลรินออกมาอยู่ดี

เธอปวดใจแทนเด็กน้อยคนนั้น ยังไม่ทันลืมตามาดูโลกอัน สดใสสวยงามเลย ก็ต้องจากไปเสียแล้ว

อู๋ซือจิ่นค่อยๆ ประคองกอดเธอเข้าสู่อ้อมกอด พร้อมทั้งเอา ใบหน้าของเธอซุกในอ้อมอกของเขา เพื่อบรรเทาความเจ็บ ปวดที่อยู่ในใจ จนน้ำตาเปียกชุ่มเปรอะเปื้อนลงบนเสื้อเชิ้ต ของเขา

น้ำตาอุ่นร้อนไหลลงบริเวณหน้าอกของเขา ดวงตาดำขลับสื่อ ความหมายอันลึกซึ้งขึ้นมาอย่างเบื่อหน่าย เด็กน้อยคนนั้นใจดี เกินไปจริงๆ

โรงพยาบาลเมืองชิงเฉิง

จี้หยินเฟิงเดินออกมาจากห้องทำงานของคุณหมออย่างสติ เลื่อนลอย ฝ่าเท้าก้าวเดินไปไม่กี่ก้าว บริเวณแผ่นหลังพิงกับ กําแพงแล้วค่อยลื่นไหลลงด้านล่าง

“ขอโทษด้วย ทางเราไม่สามารถยื้อชีวิตเด็กไว้ได้ ตอนที่ ภรรยาของคุณมาถึง หัวใจของทารกได้หยุดเต้นไปแล้ว”
จี้หยินเฟิงไม่พูดไม่จา ได้แต่จ้องมองเธออย่างเย็นชา

ในเวลานั้น กู้รั่วรั่วถึงสัมผัสได้ว่าเขาไม่เหมือนเดิม พลาง ขมวดคิ้วงดงามเข้าหากัน “จี้หยินเฟิง คุณเป็นอะไรไป

จี้หยินเฟิงแสยะยิ้มอย่างเย็นชา “กู้รั่วรั่ว ตอนนี้เธอดีใจอยู่ใช่

ไหม

“คุณพูดเรื่องอะไร?” กู้รั่วรั่วคิดว่าตนเองคงฟังผิดไป

“ฉันพูดว่าไม่มีลูกแล้ว เธอดีใจใช่ไหม” จี้หยินเฟิงพูดซ้ำอีก ครั้ง

กู้รั่วรั่วได้ยินแล้ว ถึงกับอดหัวเราะออกมาไม่ได้ หัวเราะจน น้ำตาไหลเป็นสาย

“ลูกตายไป ฉันจะดีใจได้ยังไง?” เธอเอ่ยถาม

“ฉันรู้ดีว่าเธออยากจะดัง อย่างเป็นที่หนึ่งในวงการบันเทิง เพราะฉะนั้นลูกเลยกลายมาเป็นตัวถ่วงสำหรับเธอ”

น้ำเสียงจี้หยินเฟิงเย็นชา แววตาที่มองมาทางเธอมีการกล่าว

โทษและต่อว่า

กู้รั่วรั่วเองก็เหมือนได้ยินเรื่องตลกจากสวรรค์ หัวเราะอยู่ หลายครั้ง น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย ร้องไห้จนเวลามองหน้าตาของเขากลายเป็นพร่ามัว มันพร่ามัวเหมือนกับว่าเธอ เองก็ไม่เคยรู้จักกับเขา

“จี้หยินเฟิงสิ่งที่คุณพูดออกมาไม่กลัวเหรอว่าคนอื่นจะหัวเราะ เอา? ฉันอยากจะดัง แต่ว่าฉันไม่เคยคิดว่าลูกจะเป็นตัวถ่วง ด้วย ”

“งั้นทำไมเธอถึงไม่ฟังที่ฉันพูดว่าให้เธออยู่กับบ้านเฉยๆล่ะ? แถมยังไปรับงานถ่ายละครเอาไว้ ทุกอย่างที่ทำไม่คำนึงถึง ความรู้สึกของฉันกับพ่อแม่บ้างเลย ตอนนี้ลูกก็ตายไปแล้ว คุณจะให้ผมไปพูดยังไงกับพวกท่านดีละทีนี้?”

จี้หยินเฟิงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้ พลันตะโกนใส่กู้ รั่วรั่วยกใหญ่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ