One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่110 ฉันโดนจับแล้ว



ตอนที่110 ฉันโดนจับแล้ว

ตอนที่110 ฉันโดนจับแล้ว

ถังและส่งอานหยีรออยู่ที่เดิมครึ่งชั่วโมง ทางด้านฉินมั้นนี เอ้อระเหยลอยชายมาสาย

บางทีการพบเจอการกดขี่ เพียงสองวัน ผู้หญิงคนนั้นได้สูญ เสียความสง่างามอย่างเมื่อก่อนไปโดยสิ้นเชิง เดิมทีใบหน้าที่มี รสนิยมที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็เปลี่ยนเป็นเหี่ยวแห้งอย่างมาก

พนักงานที่หน้างานเห็นเธอเป็นอย่างนี้ ความเห็นอกเห็นใจก็ ท่วมท้นออกมาในแววตา

“นี้เป็นผลกรรมไง”

อานหยีเห็นภาพนี้ เพียงแค่ส่ายหัวยิ้มอย่างเยือกเย็น จาก นั้นก็ยกกล้องขึ้น ถ่ายภาพฉากนั้นด้วยตัวเอง

บางทีเสียงของการถ่ายภาพอาจดึงดูดความสนใจของฉินมั้น นี ผู้หญิงคนนั้นก็มองมาที่นี่ทันที

ช่วงเวลาที่เธอเห็นถังรั่วชู ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ เปลี่ยนเป็นความเกลียดชังทันที

“ถังรั่วชู แกมันคนสารเลว!”
ฉินมั้นนีด่าออกไปด้วยความโกรธ ในเวลาเดียวกันก็ก้าวเท้า ไปถึงตรงหน้าของถังรั่วชู ผลักเธอด้วยความบ้าระห่ำ

ความรวดเร็วของเธอ คนที่หน้างานตรงนั้น ต่างก็ยังไม่มีปฏิ กิริยาใดๆกลับมาเลย

ถังรั่วชูปฏิบัติต่อผู้หญิงบ้าที่จู่ๆก็บ้าระห่ำขึ้นมานี้ ก็ไม่มีการ ป้องกันใด ๆ ทั้งสิ้น ถูกผลักจนความสมดุลไม่เสถียร จนเซ ถอยหลังลงไปหลายก้าว

“ฉินมั้นนี แกเป็นบ้าอะไรเนี่ย ?”

ส่งอานหยีตาไวมือไวประคองถังรั่วชูไว้อย่างรวดเร็ว จ้องมอง ไปที่ฉินบั้มนีด้วยความโกรธ

ถังรั่ว รีบยืนให้มั่นคง พูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา : “ฉินมั้นนี แก เกิดปีหมาเหรอ ? โฆษณาถูกยกเลิก ไม่รู้จะเอาความโกรธไป ไว้ที่ไหน เจอคนก็กัดไปทั่วเหรอ ?”

“ถังรั่วชู แกเสแสร้งให้มันน้อยๆหน่อย ที่ฉันได้เป็นแบบนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะแกเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะแกบอกผู้ชายคนนั้น ให้จัดการฉัน ฉันจะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?”

ฉินมั้นนีเบ้าตาของเธอเป็นสีแดง ดูแล้วอารมณ์ค่อนข้างที่จะ เปลี่ยนแปลงได้ง่าย

“ผู้ชายคนนั้น ?”
ถังรั่วชูขมวดคิ้วในใจอดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัย

เห็น ฉินมั้นนี้เป็นอย่างนี้ ดูเหมือนจะรู้ได้ว่าที่เธอถูกถอนตัว ออกจากการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ มีความเกี่ยวข้องกับ เธอ

ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้ว่าเรื่องนี้นั้นเป็นฝีมือของอู๋ซือจิ่นงั้นเหรอ ?

แม้ว่าในใจจะแปลกใจเล็กน้อย แต่ถังรั่วชูพยายามพูดอย่าง สงบอารมณ์ : “ฉันไม่เข้าใจว่าแกกำลังพูดถึงเรื่องอะไร”

ทำไม? ถึงเวลานี้แล้วยังต้องแกล้งโง่ ? แกอย่าบอกฉัน ว่า แกไม่รู้จักผู้ชายคนที่ยืนกับแกเมื่อคืนนั้น กู้รั่วรั่วพูด เป็นเขาที่ ช่วยแกจัดการฉันอย่างลับๆ ทำร้ายฉันจนสัญญาการเป็นแบ รนด์แอมบาสเดอร์ถูกยกเลิกหมด ”

ฉินมั้นนีพูดกัดฟันด้วยความโกรธ ใบหน้าที่ดุร้ายเล็กน้อยนั้น ร่องรอยความเป็นนางฟ้าแบบวันทั่วๆหายไปไหนหมดแล้ว?

ทั้งสองเผชิญหน้ากันเช่นนี้ ก็ดึงดูดพนักงานในสถานที่นั้น เข้ามาล้อมมุงดูไม่น้อย

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ หยุดไม่ได้ที่จะเกิดความโกลาหล มอง ไปที่นัยน์ตาของถังรั่วชู เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ถังรั่ว ใจเย็นอย่างมาก และแอบเดาถึงผู้ชายที่อยู่ในคําพูด ของ ฉินมั้นนี น่าจะเป็นผู้ซือจิ่น

คิดแล้ว ซือจิ่นก็คงเอาลูซึ่งเหยาผลักออกมาเป็นโล่กำบังอีก แน่ !

ถังรั่ว แอบหัวเราะอย่างลับๆในใจ ภายนอกกลับแสดง อาการหนาวสั่น : “ฉินมั้นนี กู้รั่วรั่วพูดอะไรแกก็เชื่ออย่างนั้น แกเปลี่ยนเป็นคนที่เชื่อฟังขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? แกอย่า ลืมน่ะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับฉัน บางทีเธออาจแค่ ต้องการใช้แกเพื่อข่มฉันก็ได้น่ะ ! นอกจากนี้ แกคิดว่าแกมีหน้า อะไรมาคิดบัญชีกับฉัน ? เมื่อคืนก่อนแกกับกู้รั่วรั่วไปทำเรื่องดี ดีๆอะไรไว้ แกลืมได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”

คนอื่นอาจไม่เข้าใจคำพูดของถังรั่วชู แต่ฉินมั้นนีกลับเป็นว่า เมื่อได้ยินก็เข้าใจแล้ว

“อะไร ไปทําอะไรให้แก?”

นัยน์ตาของเธอ ส่องแสงระยิบระยับเล็กน้อยครู่หนึ่ง ด้วย ความที่ร้อนตัวจึงเบี่ยงสายตาออกทันที แม้แต่พลังเมื่อกี้ก็ ค่อยๆอ่อนลงแล้ว “แกพูดใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นให้น้อยๆหน่อย ถังรั่วชู ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าผู้ชายคนที่อยู่เบื้องหลังของแกนั้น ตัวตนที่แท้จริงเป็นอะไร แต่ก็ไม่ใช่มีเพียงแกที่มีคนหนุนหลัง ฉันแนะนำแกนะ ทางที่ดีเล็กข่มขี่ฉันดีกว่า มิฉะนั้นฉันรองรับ เลยว่าจะไม่มีวันให้แกได้ใช้ชีวิตดีๆ”
“งั้นเหรอ? นั้นฉันกลับอยากที่จะลองดู ว่าแกมีแผนการ อย่างไรที่จะทําให้ฉันไม่ได้ใช้ชีวิตดีๆ”

เกี่ยวกับการข่มขู่ของฉันมั้นนีที่ไม่มีความน่าตกใจเลยสักนิด ถังรั่ว กลับตอบกลับด้วยการยิ้มเยาะ

เธอไม่กลัวผู้หญิงคนนี้ที่จะเข้ามาทำให้วุ่นวาย ถึงอย่างไรใน มือเธอนั้นก็จับจุดอ่อนของเธอได้ ถึงเวลาใครกันที่จะโชคร้าย ก็ยังไม่รู้

แต่ว่า ตอนที่ทั้งสองคนกำลังเผชิญหน้ากัน ผู้จัดการของฉิน มั้นนีกลับดึงเธอกลับไป เธอพูดกระซิบข้างหู : “มั้นนี ถึงตอนนี้ แล้ว คุณก็อย่าดีแต่พูดอีกเลย ครั้งนี้คุณโดนข่มขอย่างหนัก ขนาดนี้ ก็มีปัญหามากแล้ว คุณยังจะผลีผลามทำให้เธอขุ่น เคืองอีก ถ้าหากเขาสามารถขึ้นบัญชีทำคุณได้ ความขยันที่ หลายๆปีที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่า คุณคิกอยากจะทําลายตัวเอง อย่างนี้งั้นเหรอ? ”

ไม่พูดคงไม่ได้ คําพูดนี้ของผู้จัดการ ค่อนข้างที่จะน่าตกใจ

กลัว

ท้ายที่สุดแล้ว สามารถมายืนอยู่จุดนี้ในวงการบันเทิงถึงตอน นี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ความพยายามที่ทำไปทั้งหมดของเธอ และผลตอบแทน เป็นสิ่งที่คนอื่นจินตนาการไม่ได้

ใครๆก็คงไม่เอาอนาคตของตัวเองมาล้อเล่นตามอำเภอใจ ฉิน มันนีก็เหมือนกัน
ไม่มีแบรนด์แอมบาสเดอร์แล้วก็ยังสามารถรับได้อีก ถ้า หากว่าโดนขึ้นบัญชีดำ ก็จบสิ้นโดยสมบูรณ์แล้ว

คิดได้ถึงข้อดีและข้อเสียแล้ว ฉินมั้นนีก็เก็บอารมณ์ของ ตัวเองกลับอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นหายใจเข้าลึกๆ เสียงที่ ประชดประชัน ก็ไม่เข้าไปยุ่งกับถังรั่วซูอีก

เมื่อเธอไปแล้ว คนที่มุ่งดูก็กระจัดกระจายกันไปอย่างรวดเร็ว

จนมาถึงตอนนี้ สังอานหยีก็ยังมองถังรั่วชูอย่างสังเกตด้วย ความเป็นห่วง : “ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“ไม่เป็นไร” เธอสายๆหน้า

“นั้นก็ดี” สังอานหยีรู้สึกโล่งใจอย่างใจจริง อดไม่ได้ที่จะพูด ด่า : “ฉันคิดไม่ถึงเสียจริงว่าผู้หญิงบ้าระห่ำคนนั้นจะกระโจน เข้ามา”

“ฉันก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน แต่ว่าได้รับการกระตุ้นขนาดนั้น เข้าใจได้

ถังรั่วซูเบะปาก จัดระเบียบเสื้อผ้าที่ถูกดึงจนยับยู่ยี่ พูดอย่าง ราบเรียบ

ลังอานหยีได้ยิน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “นั้นก็ใช่ แต่เมื่อเห็น ท่าทางของเธอที่ไม่มีความกลัวนั้น แกก็ต้องระวังตัวหน่อยน่ะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นนางมารร้ายที่มีไอคิวเป็นศูนย์เหมือนกับกู้ รั่วรั่ว “

“นั้นฉันก็ไม่กลัว”

ศัตรูที่เธอเผชิญหน้าอยู่ทุกวันนี้ยังน้อยงั้นเหรอ?

เมื่อก่อนถ้าไม่ใช่เพราะถูกทำร้าย เธอก็คงไม่ถึงกับเสียขวัญ ขนาดนี้

เรื่องไอคิว เธอก็น้อยไม่แพ้คนอื่น!

คิดมาถึงตรงนี้ ถังรั่วชูก็ค่อนข้างที่จะจำใจ

ศัตรูที่มากหน้าหลายตาเข้ามามากมายขนาดนี้ เพื่อจัดการ กับพวกเธอทุกวัน เธอแทบจะต้องแยกร่างกันไปจัดการทำ แล้ว!

เงียบไปชั่วขณะ ถังรั่วซูจู่ๆก็คิดอะไรได้บางอย่าง : “พูดมา แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ใช่แกบอกเหรอว่าเซียวเซียวใกล้จะกลับมา แล้ว ? นี้ก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว ทำไมแม้แต่เงาก็ยังไม่เห็นอีก ล่ะ?”

“ใครจะรู้ ไม่แน่ว่าอาจจะอยู่ระหว่างทางกลับมา ไปถึงที่อื่นๆ แล้วก็ได้”
สั่งอานหยีกลอกตามองบน สำหรับแม่มดน้อยนั้น เห็นได้ ชัดเจนว่าไม่มีทางเลือกอื่นเลย

ตอนที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุย สุดท้ายแล้วโทรศัพท์ของถังรั่ว ชูก็ดังขึ้นในตอนนี้

เธอล้วงมือถือออกมาดู ชื่อที่แสดงบนหน้าจอ ทำให้เธออดไม่ ได้ที่จะยกริมฝีปากยิ้ม: “กำลังพูดถึงอยู่ ก็โทรมาแล้วตายยาก จริงๆ”

“รีบถามเธอว่าอยู่ที่ไหน”

สั่งอานหยีเร่งให้ถามอย่างค่อนข้างที่จะรอไม่ไหวอีกแล้ว

ถังรั่วชูพยักหน้า กดรับโทรศัพท์ ยังไม่ทันได้เปิดปากพูด เสียงที่บอบบางทะลุออกมา ก็ชิงนำหน้ามาจากทางนั้นแล้ว : “รั่วชู แกอยู่ไหน รีบมาช่วยฉันที่สถานีตำรวจ ฉันโดนจับ แล้ว…” ยังไม่ทันพูดจบ เสียงดังตุ๊ดๆ วางสายโทรศัพท์ไป แล้ว

ถังรั่วชูมึนงงไปชั่วขณะ วางโทรศัพท์ลงด้วยใบหน้าที่พูดไม่

ออก

“เกิดอะไรขึ้น?”

สังอานหยีเห็นถึงสีหน้าที่แปลกของเธอ อดไม่ได้ที่จะสงสัย : “เซียวเซียวพูดว่าเธออยู่ที่ไหน?”
“สถานีตำรวจ ” ถังรั่วซูเอ่ยออกมาสองคำอย่างเบาๆ

ส่งอานหยีใบหน้าที่ตกตะลึง : “เธอไม่ใช่ว่าเพิ่งจะกลับมาจาก ต่างประเทศเหรอ? ทำไมถึงถูกจับ ?”

“ฉันก็อยากรู้ เสียดายที่ไม่ทันได้ถาม”

ถังรั่วชูส่ายหน้า ได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ : “พวกเรา ไปกันเถอะ ไปดูสถานการณ์กันก่อน ไม่งั้นจะไปช้าแล้ว ว่าสถานีตำรวจโดนเธอรื้อกระจัดกระจายหมดแล้ว” คาด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ