One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 119 มีเขาอยู่ก็สบายใจแล้ว



ตอนที่ 119 มีเขาอยู่ก็สบายใจแล้ว

ตอนที่ 119 มีเขาอยู่ก็สบายใจแล้ว

“ลุงฟาง ลุงก็รู้สถานการณ์ตอนนี้ของพ่อแม่ฉัน พวกเขา ทํางานที่บริษัทหยาง อมาสิบกว่าปี ไม่ต้องพูดถึงความ สามารถว่าเป็นอย่างไร แต่ความเป็นคนนั้นเป็นอย่างไรลุงน่า จะรู้ดีกว่าใคร พ่อแม่ของฉันไม่มีทางที่จะทุจริตบัญชีอย่าง แน่นอน ถูกคนใส่ร้ายป้ายสี ตอนนี้พวกเขาถูกตำรวจพาตัวไป แล้ว ตอนนี้ที่บริษัทนี่ มีเพียงลุงเท่านั้นที่สามารถช่วยพวกเขา

“โธ่! อานหยีอ่ะ ลุงรู้อยู่แล้วว่าพ่อแม่ของหนูนั้นไม่ใช่เป็นคน แบบนั้น เพียงแค่ ไม่ใช่ว่าลุงไม่อยากช่วย เพียงแต่…..ลุงช่วย ไม่ได้จริงๆ”

ฟางจื้อหย่วนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ด้วยความรู้สึกทำอะไรไม่ ถูกและลำบากใจ

“ลุงฟาง หนูรู้ว่าตัวเองมาขอความช่วยเหลือลุงอย่างนี้ ค่อน ข้างที่จะเกินไป แต่ว่า ตอนนี้หนูไม่มีทางออกอื่นแล้วจริงๆ ถ้า หากว่าหาหลักฐานไม่เจอแล้วล่ะก็ พ่อแม่ของหนูก็คงจะต้อง ติดคุกแล้ว อยากเล่นงานใคร ย่อมหาข้ออ้างได้เสมอ หยาง เชียนเชียนใช้ตำแหน่งในทางที่ผิดมาใส่ร้ายพวกเขา ถ้าหาก ข้อกล่าวนี้เป็นความจริงแล้ว พวกเขาคงจะรับไม่ไหวกับการก ระทำอย่างนี้เป็นแน่

ส่งอานหยีพูดแล้วพูดอีก เบ้าตาก็อดไม่ไหวที่จะแดงก่ำขึ้นมา

ฟางจื้อหย่วนได้ยินคำพูดเหล่านั้น ก็ค่อนข้างที่จะขยับสีหน้า เล็กน้อย เพียงแต่เร็วมาก เขาก็ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น : “หลานสาว อยากจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้นั้นไม่ได้ง่ายหรอกน่ะ เพราะว่าเป็นคนกันเอง ลุงก็พูดตรงนี้กับหนู บริษัทของพวกลุง ที่โดนทุจริตบัญชีเหล่านั้น ความเป็นจริงยังมีอยู่ พ่อแม่ของหนู เป็นแพะรับบาปแทนคนอื่น แถมความสามารถในการจัดการ กับสิ่งนี้ จะต้องมีตำแหน่งที่สูงในบริษัท ”

“คนที่จัดการพ่อแม่ของหนูในครั้งนี้ เป็นคุณหยาง เธอเป็น ลูกสาวคนโปรดของประธาน ถึงแม้ว่าตำแหน่งของลุงใน บริษัทจะสูง แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงแค่พนักงานรับเงินเดือน ทำเรื่องแทนคนอื่น หนูก็รู้ ครอบครัวของลุง ยังต้องอาศัยลุงใน การเลี้ยงดู เรื่องนี้ เข้ามาผัวพันอย่างกว้างขวาง ถ้าหากลุงยื่น มือเข้าไป เกรงว่าหลังจากนี้ไม่รู้จะลากเอาคนออกมาแบบไหน ออกมาอีก ถึงเวลานั้นอย่าว่าแต่ช่วยพ่อแม่ของหนูเลย กลัวว่า เมื่อถึงเวลาแม้แต่ตัวลุงเองก็ไม่สามารถช่วยตัวเองได้”

คำพูดของฟางจื้อหย่วนอย่างนี้ พูดๆแล้วมันก็เป็นความจริง ห้างสรรพสินค้าก็เหมือนสนามรบ ความพัวพันอย่างกว้างที่อยู่ เบื้องหลังของเรื่องนี้ หากว่าไม่ระมัดระวัง สูญเสียงานคือเรื่อง เล็ก แต่ถ้าหากเป็นเหมือนพ่อแม่ของสังอานหยีล่ะ ถูกตัดสินว่า มีความผิด ถึงเวลานั้นก็ยากที่จะถอนตัว

ส่งอานหยีคนทั้งคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดเจน เธอก็ คิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้ยังจะมีสาเหตุที่ซับซ้อนมากมายขนาดนี้

เพียงแค่ ในใจของเธอยังค่อนข้างที่จะไม่พอใจ

ไม่มีสักวิธีเลยจริงๆงั้นเหรอ ?

พ่อแม่ถูกใส่ร้ายอย่างนี้ เพื่อนดีๆที่อยู่ข้างกายให้ความช่วย เหลือเธอมากมายขนาดนั้น แต่ตัวเองกลับทำอะไรไม่ได้สัก อย่างเลยเหรอ?

ส่งอานหยีในขณะนั้น รู้สึกว่าตัวเองไม่มีประโยชน์อย่างทันที

ถังรั่วชูที่โต๊ะถัดไปส่งข้อความถึงเธอ เนื้อหาช่างง่ายดาย : “เซียวเซียวพูดว่า ทางตำรวจนั้น เธอจะควบคุมไว้เอง แก ปล่อยวางแล้วไปจัดการ ที่สำคัญคือให้คุณลุงคุณป้ามาช่วย เรื่องนี้ก่อน”

เมื่อสงอานหยีเห็นถึงตรงนี้ ในแววตาก็อดไม่ได้ที่จะเกิด หมอกออกมา ในใจซาบซึ้งใจอย่างมาก

เมื่อเห็นเธอเป็นอย่างนี้ ฟางจื้อหย่วนนั้นก็ดูเหมือนว่าจะอดไม่ ไหว ใบหน้าที่ลังเลอยู่เป็นเวลานาน

พูดขึ้นมาแล้ว เมื่อตอนนั้นที่อยู่ที่บริษัทหยางซื่อกรุ๊ป เขายัง ได้รับความร่วมมืออย่างมากมายจากพ่อแม่สงอานหยื
พูดอย่างไม่เกรงใจ ตำแหน่งในบริษัทหยางซ่อของฟางจอ หย่วนที่เกลือกกลิ้งมาจนถึงทุกวันนี้ พ่อแม่ของส่งอานหยี สามารถพูดได้ว่าเป็นเพราะพวกเขาก็ส่วนร่วมอยู่ด้วย

ในตอนนี้ผู้มีพระคุณเดือดร้อน เขากลับปฏิเสธที่จะให้ความ ช่วยเหลือ สูญเสียซึ่งศีลธรรมเสียจริง

คิดมาถึงตรงนี้ ท่าทางที่ลังเลเป็นเวลานานของฟางจื้อหย่วน ในขณะนั้นก็ตัดสินใจอย่างมุ่งมั่นออกมา สุดท้ายก็กัดฟัน แน่น : “อานหยี หนูก็อย่าโศกเศร้าเกินไปเลย ลุงรู้ หนูอยากจะ ช่วยพ่อแม่ของหนูด้วยใจจริง จริงๆ แล้ว…..เรื่องนี้ ก็ใช่ว่าจะ ไม่มีวิธี”

“คำพูดนี้ของลุงฟางหมายความว่าอย่างไร?

ส่งอานหยีแววตาที่สว่างขึ้น แต่เดิมที่ดูเศร้า ก็เกิดแสงแห่ง ความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

“โธ่ พูดมาอย่าง่ายๆ คนที่ทุจริตบัญชี จริงๆแล้วพ่อแม่ของหนู น่าจะรู้ เพียงแค่ตอนนี้พวกเขาถูกจำคุก หนูไม่ได้พบเจอ อยาก จะค้นหาอะไร มันก็ยากเป็นธรรมดา แน่นอนว่า ถ้าหากหนู ได้พบกับพวกเขา ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะรู้หลักฐานบางส่วน อย่างนี้แล้วล่ะก็ บางทีพวกเขาอาจจะรอด

พูดมาถึงตรงนี้ ฟางจื้อหย่วนหยุดชั่วคราว : “ถ้าหากหนูถาม เรื่องพวกนี้จากพวกเขา ถึงเวลานั้นลุงก็อาจจะสามารถช่วย เหลือหนูได้บ้าง”
“ขอบคุณค่ะ ลุงฟาง หนูจะต้องคิดหาวิธีไปพบพ่อแม่ของหนู ให้ได้แน่นอน”

ได้ยินอีกฝ่ายยินยอมที่จะช่วยเหลือ สั่งอานหยีซาบซึ้งใจ อย่างมาก พูดอย่างจริงจังขึ้นทันที : “ลุงฟาง ที่ลุงช่วยเหลือหนู หนูจะตอบแทนคุณลุงกลับอย่างแน่นอน”

เรื่องตอบแทนคุณช่างมันไปก่อนเถอะ ลุงก็แค่จะพยายาม ทำให้ดีที่สุด”

ฟางจื้อหย่วนเพียงแค่ยิ้มอย่างจํายอม

หลังจากที่เรื่องที่ส่งอานหยีเจรจาไปได้ด้วยดี ถังรั่วชูที่อยู่ โต๊ะข้างๆก็โล่งใจ

ยังดีที่เรื่องราวต่างๆไม่ได้ไปในทิศทางที่เลวร้าย ไม่อย่างนั้น ละก็ ก็ยังไม่รู้เสียจริงๆว่าควรจะทำอย่างไร

มื้ออาหารเที่ยงนี้ดำเนินต่อไปได้ไม่นานมากนัก ฟางจื้อหย่วน ก็บอกลาแล้วออกไปอย่างทันที หลังจากนั้นส้งอานหยีก็เตรียม ที่จะไปทานข้าวโต๊ะเดียวกับถังรั่วชูพวกเขา

สรุปแล้วกลับคิดไม่ถึง ในช่วงเวลานี้ ทั้งสองเงาคนจะว่า บังเอิญก็ไม่บังเอิญ กำลังเดินเข้ามาจากทางประตูร้านอาหาร

ใบหน้าของสังอานหยีแข็งทื่อ แม้แต่ท่าทางที่จะลุกขึ้นยืนก็ หยุดนิ่งลง
ถังรั่วชูเห็นสองคนนั้น อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

คนทั้งสองนั้นเป็นผู้ชายหนึ่งผู้หญิงหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นหน้าตาดี ใบหน้าอ่อนโยน สวมชุดสูท ดูแล้วตัวเป็นคนนิสัยเป็นหมา

ส่วนผู้หญิงคนนั้น ใบหน้าที่ตกแต่งอย่างหนา ผมหยิกยาว พาดบ่า สวมชุดเดรสติดกัน ก้อนหิมะสีขาวทั้งสองข้าง พร้อมที่ จะออกมา คนทั้งคนดูแล้วแต่งตัวแปลกพิลึก อยู่ห่างกันตั้งไกล ต่างก็ได้กลิ่นน้ำหอมฟุ้งบนตัวของเธอ

ผู้ชายผู้หญิงคู่นี้ ที่ทำให้ตกใจก็คือหานยี่เฉินและหยางเขียน เชียน!

ผู้ชายเลวๆ ผู้หญิงชั่วๆ

ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะพวกเขา พ่อแม่ของส่งอานหยีก็ไม่ต้อง มาตกอยู่ในสภาพเหมือนทุกวันนี้

สีหน้าของถังรั่วชูก็บูดบึ้งไปครู่หนึ่ง ก็ลุกขึ้นอย่างทันที เพื่อ ไปสมทบสงอานหยี

พบสองคนนี้ในโอกาสแบบนี้ สำหรับส่งอานหยีที่เพิ่งจะโดน กระทำมา ก็คงจะไม่ใช่เป็นเรื่องที่ดีอะไร

“คุณภรรยาอย่าเพิ่งร้อนใจไปก่อน”
เมื่อถังรั่วชูกำลังจะลุกขึ้น สู้ซือจิ่นก็ดึงเธอไว้ทันที เสียงที่ทุ้ม ต่ำนั้น ราวกับมีเวทมนตร์ ไม่เพียง แต่บรรเทาความโกรธของ เธอ ในขณะเดียวกันก็ทําให้เธออุ่นใจ

ราวกับว่า ขอเพียงแค่มีเขาอยู่ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็จะไม่เกิด ขึ้น!

ถังรั่ว พยักหน้า กลับไปนั่งที่เดิมอย่างเชื่อฟัง

และในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ หานยี่เฉินและหยางเขียนเขียน ก็ ค่อยๆเดินมาทางนี้ ตอนที่พวกเขาเดินเข้ามาใกล้ ก็เห็นสีหน้า ของสั่งอานหยีที่มืดมน

ทั้งชายและหญิงถึงกับผงะไปครู่หนึ่ง

ใบหน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาที่หลบๆ หน่อยๆ แต่ หยางเซียนเบียนนั้นกลับต่างออกไป รอยยิ้มแห่ง ชัยชนะก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากทันที

“โย่ สังอานหยี ช่วงเวลาแบบนี้ แกยังมีอารมณ์มาทานอาหาร ที่ร้านอาหารแบบนี้ แกไม่ใช่ลูกสาวที่กตัญญูเหรอ? ไม่สนใจ พ่อแม่แกแล้ว? ”

หยางเขียนเขียนควงแขนของหานยี่เฉินเดินเข้ามา ท่าทาง รักใคร่นั้น พยายามที่จะแสดงความโอ้อวด

ในใจของสงอานหยีนั้นโกรธอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉันได้ยินหยางเขียนเขียนพูดถึงเรื่องพ่อแม่ของเธอ เธอก็ อดไม่ได้อยากจะพุ่งขึ้นไปฉีกหน้าคนสารเลวนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ