One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 166 พวกเราเป็นสามีภรรยากันไม่ใช่หรอ



ตอนที่ 166 พวกเราเป็นสามีภรรยากันไม่ใช่หรอ

ตอนที่ 166 พวกเราเป็นสามีภรรยากันไม่ใช่หรอ

เมื่อเทียบกับพวกหรุเสี่ยวหลินแล้วนั้น ถังรั่วชูได้รับบาดเจ็บ แค่เล็กน้อย ใบหน้าที่ขาวสะอาดถูกข่วนเป็นรอยไม่กี่รอย ไม่ ลึกแต่มองดูแล้วน่าตกใจ

ดังนั้นตอนที่ผู้ซือจิ่นเห็นใบหน้าเธอถูกข่วนจึงเป็นแผล สีหน้า จึงเปลี่ยนไปในทันที

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เขาเอ่ยถาม

.ทะเลาะตบตีกับคนอื่นค่ะ”

ก่อนที่จะตอบถังรั่วชูลังเลอยู่บ้าง เพราะอย่างไรก็ตามการ ทะเลาะตบตีไม่ใช่เรื่องดีอะไร

ล้ซือจิ่นขมวดคิ้ว จ้องมองไปที่ใบหน้าของเธอ ผิวขาวเนียนมี รอยแผลหลายรอย ยิ่งมองดูก็ยิ่งไม่สบายตา

“เจ็บไหม?” เขายื่นมือมา จับที่แผลของเธอเบาๆ แววตาเต็ม ไปด้วยความปวดใจ

“ของฉันเป็นแค่แผลเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้เจ็บมากค่ะ”

มองดูแววตาของเขาที่ปวดใจ ทำให้ภายในใจของถังรั่วชูรู้สึกทรมาน รู้สึกว่านับตั้งแต่แต่งงานกับเขา ตนเองก็ทำเรื่อง วุ่นวายไม่หยุดหย่อน ไม่พูดถึงเรื่องที่ทำให้เขาวุ่นวาย แต่ยัง ทําให้เขาเป็นห่วงตนเองอีก

ใจสั่นเล็กน้อย ยกมือขึ้น เอามือของเขามาจับเอาไว้ จากนั้น เขาก็ก้มลงมองเธอ

เห็นความแปลกใจจากสายตาของเขา ถังรั่วชูคลายยิ้ม “ซื่อ จิ่น ขอโทษนะคะ ทำให้คุณต้องเป็นห่วงอีกแล้ว”

ม่านตาที่สดใสในเวลานี้พร่ามัวเพราะความรู้สึกผิด ความ เปล่งประกายค่อยๆเลือนราง

คิ้วขมวดเป็นปมมากกว่าเดิม ริมฝีปากบางของผู้ซือจิ่นเม้ม แน่น มองดูเธอเงียบๆโดยไม่พูดอะไร

นัยน์ตาสีนิลราวกับหมึก ทำให้มองไม่ออกว่าเวลานี้เขากำลัง คิดอะไร

เขากำลังโมโหแล้ว!

ถังรั่วสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจจากตัวของเขา จึง กระวนกระวายขึ้นมาในทันที รีบพูดอธิบายอย่างรวดเร็ว:”ฉัน ไม่ได้ตั้งใจทะเลาะตบตีกับคนอื่น แต่ว่าพวกเธอ……”

ทันใดนั้นเอง เขาก้มหน้าลงมาจูบเธอ หยุดคำพูดที่เธอยังไม่ทันได้พูดออกมา

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ขณะที่ถังรั่วชูนึกว่าตนเองจะขาด อากาศหายใจนั้น เขาก็ผละออก

หัวใจของเธอเต้นแรง เงยหน้าขึ้นมองเขา

นิ้วมือจับริมฝีปากแดงที่สวยงามของเธอเอาไว้อย่างแผ่วเบา สู้ซือจิ่นจ้องมองมาที่เธออย่างลึกซึ้ง นัยน์ตาสีดำราวกับหมึก ภายในดวงตาคู่นั้นทำให้คนรู้สึกลุ่มหลง

ริมฝีปากบางอ้าขึ้นช้าๆ “คุณรู้ไหมว่าตนเองทำอะไรผิด?”

เสียงของเขาแหบพร่าทว่าทุ้มต่ำ หัวใจของถังรั่วชูเต้นแรง มือทั้งสองข้างจับแน่น เธอลดตามองต่ำ แล้วพูดขึ้นด้วยเสียง ล้ำอึ้ง “ฉันไม่ควรที่จะทะเลาะตบตีกับคนอื่น”

สิ้นคำพูดนี้ จู่ๆเขาก็จับคางของเธอเอาไว้ เชยขึ้น สบตากับ ดวงตาสีนิลของเขา

“ไม่ใช่” ริมฝีปากบางของเขาอ้าเปิดขึ้น

ไม่ใช่? ! คิ้วบางขมวดขึ้นมา พูดตามตรงว่าตอนนี้สมองของ เธอเหมือนขี้เลื่อย นอกจากทะเลาะตบตีแล้ว เธอไม่รู้ว่าตนเอง ทำอะไรผิด
เห็นเธอทำสีหน้างุนงง เขารู้ว่าเธอไม่รู้ว่าตนเองทำผิดตรง

ไหน

อันที่จริงความผิดของเธอ ก็เป็นเพียงแค่ความน้อยใจภายใน ใจของเขาเท่านั้น

เขาถอนหายใจเบาๆ จากนั้นจูบที่อ่อนโยนเหมือนขนนกก็ จุมพิตลงไปที่ริมฝีปากของเธอ

“ชูชู ผมไม่อยากให้คุณใช้สายตารู้สึกผิดแบบนั้นมองมาที่ผม และไม่อยากให้คุณพูดคำว่า’ขอโทษ’หรือว่า’ขอบคุณ’ พวก เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ใช่หรอ?”

เขาประทับจุมพิตลงมือที่ริมฝีปากของเธอ แล้วพูดขึ้นเสียง

เบา

พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ใช่หรอ?

หัวใจของเธอก็รู้สึกเจ็บเล็กน้อยเพราะคำพูดของเขา เธอมอง ลึกเข้าไปในนัยน์ตาของเขา

ในนั้น เธอเห็นความรักที่เขามีให้ตน

ดวงตาระเรื่อ ความรู้สึกที่เข้มข้นนั้นผุดออกมาจากก้นบึ้งของ หัวใจเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงชั่วพริบตาก็เต็มหัวใจของเธอ ตัว ของเธอ
“ฉันรักคุณนะคะ” พูดเสียงเบา หลังจากนั้นขณะที่แววตาของ เขากำลังแปลกใจ เธอก็จูบริมฝีปากของเขา

คนบางคน รู้จักกันสิบยี่สิบปี เคยคิดว่านั่นเป็นความรัก จะ อยู่เคียงข้างกันไปชั่วชีวิต แต่สุดท้ายกลับต้องแยกย้ายกันไป คนละทาง กลับกลายเป็นความเกลียดแค้น

คนบางคน รู้จักกันได้ไม่นาน ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเย็นชา แต่ กลับปกป้องเธออย่างที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน

เธอรักเขา โดยไม่ต้องสงสัย

แผนการของซูเทียนอ้ายล้มเหลวอีกครั้ง ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่ สามารถยอมแพ้ได้

แค่คิดถึงท่าทีจองหองของถังรั่วชู เธอก็เกลียดจนสั่นเทาไป ทั้งตัว มีอของเธอจับแก้วเอาไว้แน่น จนนิ้วมือซีดขาวไปหมด

กู้รั่วรั่วและจี้หยินเฟิงมองสบตากัน จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยความ ระมัดระวัง :”พี่คะ พี่เป็นอะไรไป?”

เมื่อได้ยิน ซูเทียนอ้ายจึงหันหน้ากลับไป สายตาเย็นยะเยือก จ้องมองไปที่กู้รั่วรั่ว
กู้รั่วรั่วตกใจจนหยุดหายใจ รอยยิ้มบนใบหน้าแปรเปลี่ยน เป็นการฝืนรอยยิ้ม เธออดทนแล้วถามอีกครั้ง “เป็นเพราะถังรั่ว

ปัง! “ซูเทียนอ้ายวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะอย่างแรง เธอกัดฟัน กรอดแล้วพูดขึ้น:”นอกจากยัยนั่นแล้วจะมีใครทำให้ฉันไม่มี ความสุขได้

“เธอทำอะไรหรอครับ?” จี้หยินเฟิงเอ่ยถาม

“ทำอะไร?” ซูเทียนอ้ายหัวเราะในลำคอ บทสนทนาเปลี่ยนไป ในทันที “หยินเฟิง นายเป็นถึงหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทสือรุ่ย หรือว่าไม่มีสิทธิ์อะไรในบริษัทสือรุ่ยเลยสักนิดหรอ?”

จี้หยินเฟิงที่ถูกถามขึ้นกะทันหันงุนงงขึ้นมาในทันที “เกิดเรื่อง อะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆถึงพูดเรื่องนี้?”

“เสิ่นโม่เฟยเพิ่มสัญญาจ้างงานของถังรั่วชูไปอีกหนึ่งข้อ ‘นอกจากประธานแล้ว คนอื่นไม่มีสิทธิ์ไล่ถังรั่วชู’ เขาเพิ่มข้อนี้ ขึ้นมา”

“อะไรนะ?”

กู้รั่วรั่วและจี้หยินเฟิงมองหน้ากัน

ซูเทียนอ้ายปรายตามองพวกเขา จากนั้นก็พูดต่อ :”มองจาก สิ่งที่เกิดขึ้น การที่อยู่ดีๆ เสิ่นโม่เฟยได้เป็นประธานคนใหม่ของบริษัทสือรุ่ย อีกทั้งก็ยังเป็นบอสคนใหม่ของบริษัทสือรุ่ ยไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะว่ามีคนจงใจซื้อหุ้นของบริ ษัทสือรุ่ย เพื่อที่จะปกป้องถังรั่วชู”

“จะเป็นไปได้ยังไง?” กู้รั่วรั่วไม่อยากจะยอมรับการวิเคราะห์ นี้เสียเท่าไหร่ “เธอถังรั่วซูมีฐานะเป็นยังไง จะมีคนซื้อบริษัทสี อรุ่ยเพื่อเธอ?”

กู้รั่วรั่วหัวเราะในลำคอ “ฝันไปเถอะ!”

เธอไม่เพียงแต่ไม่เชื่อ จี้หยินเฟิงเองก็ไม่เชื่อ “พี่ครับ ผมคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ บางทีถังรั่วชูกับเสิ่นโม่เฟยอาจจะรอบ ตกลงอะไรกันไว้ก็ได้

ความรู้สึกที่อยู่เหนือกว่ามาตั้งแต่เด็ก ทำให้ไม่ว่ายังไงจี้หยิน เฟิงก็ไม่ชื่อว่าข้างกายของถังรั่วชูจะมีผู้ชายที่เก่งและมีความ สามารถมากกว่าเขา

ซูเทียนอ้ายมองไปที่พวกเขา จากนั้นถอนหายใจเสียงเบา “ฉันเองก็หวังว่าฉันจะคิดมากไปเอง แต่ถ้าหากว่าถังรั่วชูมีคน คอยปกป้องอยู่เบื้องหลัง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นคนที่พวกเราไม่ สามารถประมาทได้”

นี่เป็นสิ่งที่ซูเทียนอ้ายกังวล

สิ้นคำพูดนี้ กู้รั่วรั่วและจี้หยินเฟิงเองไม่เพียงแต่รู้สึกกังวลขึ้น มา พวกเขาคิดไตร่ตรอง นับตั้งแต่พวกเขาจัดการถังรั่วชูไม่พูดถึงเรื่องที่ไม่เคยทำสำเร็จเลยสักครั้ง แต่ยังทำให้ชื่อ เสียงของตนเองป่นปี้

ถ้าหากจะบอกว่าเป็นเพียงแค่ความฉลาดของถังรั่วชู เธอก็ คงไม่สามารถรอดไปได้ทุกครั้ง

หรือว่าจะเป็นจริงแบบที่พี่พูด มีคนอยู่เบื้องหลังคอยปกป้องเธอ?

ไม่ได้ จะให้ถังรั่วชูได้ใจไม่ได้เด็ดขาด

ความคิดนี้พุ่งพล่านออกมาจากสมองของกูรั่วรั่ว เธอกัดปาก แน่น จากนั้นก็เอ่ยพูดขึ้น:”พี่คะ ฉันต้องการความช่วยเหลือ จากพี่ค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ