One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 140 ข้อแลกเปลี่ยน



ตอนที่ 140 ข้อแลกเปลี่ยน

ตอนที่ 140 ข้อแลกเปลี่ยน

ตอนพักเที่ยง ถังรั่ว นัดทานข้าวเที่ยงกับอู๋ซือจิ่น

หลังจากทานอาหารเสร็จ เธอก็กลับไปที่บริษัท หัวหน้าให้ ภารกิจเธอออกไปสัมภาษณ์

ฉินยี่อานเจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงมาถ่ายงานโฆษณาที่เมือง เป่ยหนิง เธอทํางานอยู่ในเมืองนี้แค่ระยะเวลา 2 วันเท่านั้น ตารางค่อนข้างเร่งรีบ ตกลงให้ทางบริษัทสือรุ่ยสัมภาษณ์ครึ่ง ชั่วโมง

ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของเบื้องบน ไม่ว่าจะ ยังไงต้องรู้จากให้ปากฉินยอานให้ได้ เกี่ยวกับหนังเรื่องใหม่

ฉินยอานที่เป็นที่น่าสนใจของคน แค่เรื่องเล็กน้อยก็เป็นข่าว ใหญ่ได้ อีกอย่างหัวข้าวแบบนี้ ทุกคนก็เห็นว่ามันคุ้มค่า

ถังรั่วชูรับภารกิจนั้นมา เกิดความรู้สึกหมดหนทางอยู่ในใจ

ก่อนหน้านี้เธอเองพาดหัวข่าวของฉินยี่อาน แต่กลับถูกฉินยี่ อานเกลียดเข้าไส้ ครั้งนี้จะไปสัมภาษณ์เธอ คงต้องมีการชัก สีหน้าแน่ๆ
เวลาบ่ายสาม ถึงรั่ว เอาที่อยู่ที่บริษัทให้มา เพื่อไปยังสถาน ที่ที่ฉิน อานกําลังถ่ายโฆษณาอยู่

เมืองเป่ยหนิงแห่งนี้เป็นเมืองที่มีวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติ โอบ ล้อมไปด้วยภูเขาเขียวขจีแม่น้ำใสสะอาด เพราะว่าเมืองตั้งอยู่ แถบชานเมือง บริเวณใกล้เคียงยังมีวิลล่าอันโด่งดัง ดังนั้นเลย มีทีมงานถ่ายละครมากมาย แถมยังมีโฆษณาต่างๆ ที่ใช้วิวที่นี่ เป็นเบื้องหลังการถ่ายทํา

ฉิน อานกําลังถ่ายทําโฆษณาเครื่องเพชร ทีมงานจ้างบอดี้ การ์ดไม่น้อยเพื่อการคุ้มครอง เพื่อป้องกันการขโมยเครื่อง เพชร

ตอนที่ถังรั่วชูมาถึงนั้น ฉินยี่อานกำลังสวมชุดแต่งงานอยู่ พร้อมทั้งกำลังโพสต์ท่าอยู่บนเรือลำเล็ก

เรือนร่างเธอ สวมใส่เครื่องเพชรที่มีค่ามากมายมหาศาล มี ทั้งสร้อยคอ แหวน สร้อยข้อมือ ต่างหู มงกุฎ แพรวพราวไปทั้ง ตัว ร่างกายผอมเพรียวได้สัดส่วนชวนมอง ทําให้พนักงานโดย รอบ แววตาถึงกลับระยิบระยับขึ้นมา

ถังรั่วซูมองทางชายฝั่งอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็เดินไปหาผู้ช่วย ของฉินยอาน เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามาสัมภาษณ์

“บริษัทสือรุ่ยไม่มีคนแล้วหรือไง? ทำไมส่งแกมา? ยี่อานของ เราทํางานเยอะมาก ไม่อยากให้เห็นคนแล้วส่งผลกระทบกับ จิตใจ ถ้าบริษัทสือรุ่ยไม่มีนักข่าวคนอื่น งั้นก็กลับไปเราไม่อนุญาตให้สัมภาษณ์”

หลี่เสี่ยวหนานผู้ช่วยของฉินยี่อานพูดอย่างไม่เกรงใจ จงใจ หาเรื่องถังรั่วชู เห็นได้ชัดว่ายังเคียดแค้นเรื่องก่อนหน้านี้

ถังรั่วซูได้แต่ย่นคิ้วหากัน พร้อมทั้งใช้น้ำเสียงน้ำอดน้ำทนเอา ไว้ “คุณหลี่ จากบริษัทของเราถึงที่นี่ ต้องใช้เวลา 40 นาที ถ้า จะเปลี่ยนคน ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ฉินยี่อานมีเวลาไหมล่ะ? ถ้าไม่มี ก็ให้ความร่วมมือกับฉันสักหน่อยก็พอ”

“เหอะ ใครจะไปรู้ว่าแกจะเขียนข่าวใส่ความเกี่ยวกับฉินยี่ อานอะไรอีก ยังไงเรื่องนี้ไม่ต้องคุยกัน แกเลือกเอาว่าแกจะไป อย่างโดยดี หรือว่าเลือกที่จะไม่สัมภาษณ์ มันง่ายจะตายไป

พูดจบ หลี่เสี่ยวหนานก็ไม่รอให้ถังรั่วชูโต้ตอบ สะบัดหน้าหนี

ทันที

ถังรั่วชูเบะมาก ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปตามที่คาดเดาเอาไว้ ทำได้แต่โทรศัพท์หานักข่าวที่มีอยู่ในมือ เพื่อให้พวกเธอมา สัมภาษณ์แทนตนเอง

แต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ ลูกน้องที่เชื่อฟังเธอ ต่างปฏิเสธเธอ กันหมด

เมื่อถามถึงเหตุผล ทุกคนต่างตอบเป็นเสียงเดียวกัน “ขอโทษ ด้วย ผู้ช่วยผู้จัดการ ผู้จัดการใหญ่ให้งานอื่นเรามาทําแล้ว พวกเราไปไม่ได้”

ในที่สุดถังรั่วชูก็เข้าใจแล้ว

ที่แท้ การมาสัมภาษณ์ฉินยี่อาน ซูเทียนอ้ายเป็นคนวางแผน

ผู้หญิงคนนั้น ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มลงมือแล้วสิ รู้ว่าเธอมี ปัญหากับฉินยี่อาน เลยจงใจจะให้ตนเองอับอายต่อหน้าฉินยี่ อาน

เป็นแผนการที่ดี!

แต่ว่า เธอถังรั่วซูไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่ายดายขนาดนั้น?

ถังรั่วชูยิ้มอย่างเย็นชา แล้วกลับไปหา หลี่เสี่ยวหนานอีกครั้ง “ให้ฉันเจอกับฉินยี่อานสักครั้งเถอะ!”

หลี่เสี่ยวหนานจ้องมองถังรั่วชูอย่างเบื่อหน่ายเต็มทน เลยพูด ว่า “ฉินยี่อานคนที่แกพูดว่าอยากเจอะก็สามารถเจอตัวได้งั้น สิ? ไม่ใช่พูดกันแล้วนี่ ไม่อนุญาตให้แกมาสัมภาษณ์ ทำไมแก ถึงไม่ไปสักที?”

“ฉันก็ทำเพื่อจะได้เสร็จงานของฉัน ขอความกรุณาคุณหลี่ให้ ความร่วมมือสักนิด”

ถังรั่วชูพยายามใช้ความอดทนพูด
หลี่เสี่ยวหนานโกรธหน้า หน้าแดง “ทําไมคนอย่างแกถึงได้ น่าเบื่อแบบนี้ เชื่อไหมว่าฉันจะโทรศัพท์ไปฟ้องแกที่บริษัท”

ประโยคถูกขู่ ทำให้อารมณ์ดีๆ ของถังรั่วชูเริ่มกัดกร่อน

เรื่อยๆ

“คุณหลี่ หวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่คุณตัดสินใจ อย่า ก่อเรื่องให้ฉินยอานเสียหายจะดีกว่า”

“แกหมายความว่ายังไง?”

เมื่อได้ยินประโยคไม่มีที่มาที่ไปของถังรั่วชู สีหน้าแววตาของ หลี่เสี่ยวหนานเคร่งขรึมลง

“ฉันรู้ดีว่าถึงความหมายการที่ฉินยี่อานไม่อนุญาตให้ สัมภาษณ์ แต่รบกวนคุณช่วยบอกกับเธอสักหน่อย ฉันมีข้อ แลกเปลี่ยนกับเธอ ขอแค่เธอยินยอมให้สัมภาษณ์ งั้นฉันจะให้ ข่าวเธอเรื่องหนึ่ง รับประกันได้ว่าเธอไม่ขาดทุนแน่”

ถังรั่วชูทำหน้าทำตาสงบเสงี่ยม ท่าทางดูไม่เหมือนการเจรจา แต่กลับกันเหมือนกำลังพูดคุยเรื่องสภาพอากาศกันอยู่เลย

ช่างประจวบเหมาะกับฉินยี่อานกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อ ได้ยินประโยค เลยเริ่มเจรจาทันที “แลกเปลี่ยนอะไร พูดให้ฟัง หน่อย”
ถังรั่วซูก็ไม่ได้หน้าชื่อใจคด พยักหน้าตอบกลับทันที พลาง เดินตามฉินยี่อานกับผู้ช่วยอีกหลายคนเพื่อเดินเข้าไปในห้อง

รับรองด้านข้าง

หลังจากเดินเข้าไปแล้ว ช่างแต่งหน้าก็จัดแจงล้างเครื่อง สำอางบนหน้าฉินยี่อาน ส่วนอีกคนก็ทำตัวเป็นเจ้าหญิงให้กลุ่ม คนมาคอยเอาใจ

ถังรั่วชูเห็นภาพแล้วถึงกับเบะปากทันที

นักแสดงแบบนี้ ยังวุ่นวายได้ขนาดนี้

“พูดเถอะ คุณมีเรื่องอะไรมาแลกเปลี่ยน? มันมีประโยชน์กับ ฉันตรงไหน?”

หลังจากถอดชุดแต่งงานตัวหนาออกจากตัว ฉินยี่อานก็เริ่ม จุดบุหรี่ให้ตนเอง สูบอัดเข้าปอดอย่างสง่างาม จากนั้นถึงได้ เบนสายตามมองถังรั่ว

ถังรั่วชูยิ้มเล็กน้อย “อนุญาตให้ฉันสัมภาษณ์ เพื่อจะได้แลก กับข่าวอื้อฉาวของคุณ

“ประโยคนี้ มันหมายความว่ายังไง?”

บรรยากาศในห้องรับรองหยุดนิ่งทันที ยิ่งสายตาแข็งกร้าว ของฉินยี่อานที่ถลึงตามองถังรั่วชู
ผู้ช่วยหลายคนที่ยืนอยู่ด้านข้างเธอถลึงตามองเธอจนสีหน้า ดูไม่หวังดี

ถังรั่วชูได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา “พวกคุณไม่ต้องมองฉัน แบบนั้น ข่าวฉาวของคุณไม่ใช่ฉันเป็นคนไปถ่ายมา ฉันก็แค่รู้ ข่าวมานิดหน่อย มีนักข่าวบางคนมีข่าวเรื่องซุบซิบของคุณอยู่ แถมกำลังจะขายข่าวให้สื่อที่ให้ราคาสูงด้วย ส่วนเนื้อหานั้น ไม่ถึงขนาดทำให้คุณเสียชื่อเสียงจนป่นปี้ แต่ว่าก็ทำให้คุณ เกิดปัญหามากพอควร เป็นไง? การแลกเปลี่ยนครั้งนี้ สมน้ำสม เนื้อไหม?”

คำพูดของแก ฉันจะเชื่อได้ไหม?”

ฉินยอานเอามือคีบก้นบุหรี่เอาไว้ สีหน้าคร่ำเครียดเอ่ยถาม อย่างไม่แน่ใจ

ถังรั่วชูยักไหล่ “ความน่าเชื่อถือของฉันในแวดวง ก็ไม่น่าจะ ย่ำแย่ไหม?”

ฉินยี่อานเม้มปากด้านล่าง “บอกฉันมาได้ไหมว่าใคร?”

“นี่คือนามบัตรของเขา”

ถังรั่วชูดูสนุกสนาน พร้อมทั้งยื่นนามบัตรให้

ฉินยี่อานกวาดตามองแวบหนึ่ง จากนั้นก็ยื่นให้หลี่เสี่ยวหนาน ทันที พร้อมทั้งใช้สายตาสั่งงาน
หลี่เสี่ยวหนานพยักหน้าตอบรับ แล้วออกไปจากห้องรับรอง อย่างรวดเร็ว

“ตอนนี้ สัมภาษณ์ได้หรือยัง?”

“เชิญ!”

ในครั้งนี้ฉินยี่อานไม่ได้วางท่าแต่อย่างใด เพราะเธอรู้ดีว่าเธอ ไม่สามารถต่อกรได้

การสัมภาษณ์ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว คำถามของถังรั่วชู ช่างชาญฉลาด มันไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกลำบากใจไปด้วย สิ่งที่ น่าเป็นห่วงก็คือการที่จะหาคำพูดสำคัญออกมาจากปากของ อีกฝ่าย

เวลาสั้นๆ ครึ่งชั่วโมง ฉินยี่อานถูกถังรั่วชูหลอกถามไปตั้ง

หลายคําถาม

ตอนที่สัมภาษณ์เสร็จ ฉินยี่อานพลันพูดขึ้นมา “ถ้าไม่ว่าคราว ที่แล้วคุณปล่อยข่าวฉัน ฉันก็ยินดีที่จะเป็นเพื่อนกับคุณ”

ถังรั่วชูได้แต่ยิ้ม “ในแวดวงเดียวกัน มันยากนักกับการเกลียด ชัง ฉันอยู่กับงานทางด้านนี้มาสองปีกว่า ต่างฝ่ายต่างคิดจะ เอาชนะ ดังนั้นฉันอยู่ในวงการบันเทิงจนชินแล้ว”

ฉินยี่อานพยักหน้าตอบ ลังเลอยู่ชั่วครู่ จากนั้นถึงได้ตอบกลับ “คราวหน้า ถ้ามีข่าวฉาวของฉันอีก รบกวนช่วยบอกฉัน ด้วย อย่าเพิ่งเอาไปลงข่าวหน้าหนึ่ง”

“ได้สิ แต่ว่า แต่ต้องไปหาข่าวอื่นมาแลก!” ถังรั่วชูพูดไปก็ยิ้ม

ไป

“คุณฉลาดได้ขนาดนี้ ทำไมไม่ไปทำธุรกิจแทนล่ะ?”

ฉินยี่อานหมดอารมณ์จนกลอกตาใส่เธอ แล้วเริ่มพูดด้วย ความหงุดหงิด “รีบไป ฉันเห็นคุณแล้วรำคาญ”

“เจอกันคราวหน้า”

ถังรั่วชูยิ้มให้พร้อมทั้งโบกมือตอบ แล้วรีบหันหลังเดินกลับ ออกไป

ก่อนหน้าที่จะกลับ ฉินยี่อานอยากจะพูดเสริมไปว่า “ความ จริงแล้ว วันนี้คุณไม่มีวันกลับไปง่ายดายขนาดนี้หรอก แต่ อาศัยที่คุณบอกข่าวกับฉัน ฉันจะเตือนคุณเอาไว้ ระวังผู้ จัดการใหญ่ของคุณให้ดี เธอวางแผนให้คุณเป็นหัวขโมย เครื่องเพชร”

ฝีเท้าของถังรั่วชูหยุดชะงักทันที แต่ไม่ได้หันกลับมา ได้แต่ หัวเราะให้แทน “ขอบคุณที่บอก!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ