One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 219 ทำให้ผู้ชายตกใจหนีกระเจิง



ตอนที่ 219 ทำให้ผู้ชายตกใจหนีกระเจิง

ตอนที่ 219 ทําให้ผู้ชายตกใจหนีกระเจิง

วันนี้ยิ่งเซียวเชียวเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งยิ่งใหญ่

รวบผมมัดเป็นจุกด้านบน ปลายจมูกมีแว่นกรอบ หนา เตอะตั้งอยู่ แว่นใหญ่มากจนแทบจะบดบังใบหน้าของเธอ ไปครึ่งหน้า บนตัวสวมชุดสูททํางานสีเทาแบบคุณยาย อีกอย่างกระโปรงครึ่งล่างยาวจนเลยเช่า ชุดไม่ได้เข้ารูป ตัวหลวมโคร่ง แทบจะบดบังรูปร่างของเธอทั้งหมดไว้ข้าง ใน ไม่เผยออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย

เมื่อเธอปรากฏตัวที่บริษัทด้วยสภาพแบบนี้ สาวน้อย สองคนที่อยู่ตอนแรกก็ดูไม่ออกว่าเป็นเธอ เลยเรียกหยุด เธอไว้

จนตอนที่เธอบอกชื่อตัวเองออกไป คางของทั้งสองสาว ก็แทบหล่นลงพื้น

พระเจ้า ผู้หญิงที่แต่งตัวคร่ำครึแบบนี้กลับกลายเป็นคน เดียวกันกับคุณหนูที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนมหรูหรา ทันสมัยเมื่อวานนี้ นี่….นี่มันจะแตกต่างกันเกินไปหรือ เปล่า!!!

แน่นอนว่าที่ตกตะลึงไม่ได้มีแค่พวกหล่อน แต่ยังมีผู้ซึ่งเหยาด้วย
อู๋ซึ่งเหยาที่ได้เห็นยิ่งเซียวเซียวในวันนี้ ลูกตาก็แทบจะ ทะลักออกมา ผ่านไปเนิ่นนานกว่าจะพูดออกมาได้หนึ่ง ประโยค

“วันนี้เธอป่วยเหรอ”

เมื่อเห็นการแต่งตัวของเธอ ก็พูดได้คำเดียวว่า เชย !

สองนํา เชยมาก !

สามคํา เชยระเบิด !

การแต่งตัวแบบสาวแก่เวอร์จิ้นทั่วไป ไม่รู้เลยว่าสมอง ส่วนไหนของเธอที่มีปัญหา ถึงได้ทำร้ายตัวเองด้วยการ แต่งตัวในสภาพบ้าๆแบบนี้

“นายสิป่วย” ยิ่งเซียวเซียวมองค้อนเขาอย่างอุ่นเคือง

“ถ้าเธอไม่ได้ป่วย แล้วเธอแต่งตัวแบบนี้ทำไม”

ยิ่งเซียวเซียวดันแว่นตา คำพูดเย็นยะเยือก “ก็ไม่ใช่ เพราะมีคนรังเกียจที่ฉันไม่มีความสามารถเหรอ ฉันก็เลย ต้องแต่งตัวแบบนี้จะได้ดูเหมือนมืออาชีพหน่อย”

คำพูดนี้เหมือนว่าเขาจะเป็นคนพูดเอง
อู้ซึ่งเหยาสำลักออกมา “แค่ก” กลัวว่าจะทำให้เธอโมโห เข้า คำพูดคำจาที่พูดออกมาก็ระมัดระวังเป็นอย่างดี

“ที่จริงแล้ว สิ่งที่บ่งบอกว่าคนๆหนึ่งมีความสามารถหรือ เป็นมืออาชีพ มันไม่ได้ดูกันจากเครื่องแต่งกายหรอกนะ”

“อืม ?” สายตาอันคมกริบพุ่งตรงมา

ลูซึ่งเหยาเลิ่กลั่กขึ้นมาทันที “แต่ว่าส่วนมากแล้วคนที่ แต่งตัวแบบนี้ ต่างก็เป็นคนที่มีความสามารถและเป็นมือ อาชีพกันทั้งนั้น”

“ถือว่านายมีแวว” ยิ่งเซียวเซียวบนกรอบแว่นอีกครั้ง จากนั้นดวงตาคู่สวยที่มองผ่านเลนส์แว่นตาที่ไม่มีค่า สายตาคู่นั้นก็กวาดตามองไปรอบห้องทำงาน ก่อนจะถาม ว่า “ขออภัยนะคะท่านประธานสู้ ที่นั่งของฉันอยู่ตรงไหน คะ”

ล้ซึ่งเหยาหันไปดู ก่อนจะชี้ไปตรงที่นั่งที่เมื่อก่อนหรุ เสี่ยวหลินเคยนั่ง ก่อนจะพูดว่า “นั่นตรงนั้นแล้วกัน”

ยิ่งเซียวเซียวเดินเข้าไป นิ้วรูดไปบนโต๊ะ แล้วยกขึ้นมาดู “อืม การทําความสะอาดในห้องทำงานถือว่าทำได้ไม่เลว”
ซึ่งเหยา “

คำพูดคำนี้ของเธอช่างเหมือนหัวหน้าที่เดินมาตรวจสอบ การทำงานจริงๆ

ลากเก้าอี้ถอยหลัง ยิ่งเซียวเซียวดึงลิ้นชักออกมา ตรวจ สอบดูโดยรอบ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไปทางอู๋ซึ่งเหยา “ประธานลูคะ ฉันขอยื่นคำขอเปลี่ยนโต๊ะทำงานใหม่ได้ ไหมคะ”

“ทำไมล่ะ ?” โต๊ะตัวนี้ก็ยังดีๆอยู่ไม่ใช่เหรอ ยังสภาพดี อยู่แล้วจะเปลี่ยนทำไม

“เพราะว่า….. เก้าอี้เลื่อนตัวไปด้านหลัง ยิ่งเซียวเซียว สองมือกอดอก ใช้คางยื่นเป็นสัญญาณไปทางลิ้นชัก เหล่านั้น “โต๊ะตัวนี้ผู้ใช้คนเดิมไม่ค่อยจะรักษาความ สะอาด ในลิ้นชักเต็มไปด้วยเศษซากที่ไม่ทราบว่าคือ อะไร เห็นแล้วสะอิดสะเอียนค่ะ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ลูซึ่งเหยาก็เดินไปดู เมื่อเห็นสภาพที่ เธอพูดถึง คิ้วก็ขมวดกันเป็นปม ไม่พูดอะไรอีกก็พยักหน้า ตกลงยอมรับข้อเสนอของเธอ

“วันนี้พึ่งรู้ว่านายก็ทำได้ไม่เลวเลยนะ” ยิ่งเซียวเซียวยืน ขึ้นมา ลูบคางเขาอย่างหยอกล้อ จากนั้นก็เดินตัวลอย ผ่านข้างลำตัวเขาไป
ลูซึ่งเหยายกมือขึ้นลูบคางที่เธอพึ่งลูบไปเมื่อกี้ หัวเราะ เสียงต่ำ จากนั้นก็หันหน้ามองไปที่เธอ เห็นแค่เธอเดินไป พลางโบกมือให้เขาไปพลาง “ประธานสู้คะ ฉันขอโดด งานไปเลือก อโต๊ะทํางานก่อนนะคะ”

สู้ซึ่งเหยามองส่งเธอเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ มุมปากยังมีรอยยิ้มบางๆ

เพื่อจะเลือกซื้อโต๊ะทำงานที่ถูกใจหนึ่งตัว ยิ่งเซียวเซียว เลยเรียกตัวเพื่อนสนิทสองคนออกมา

ทั้งสามคนนัดเจอกันที่ร้านเฟอร์นิเจอร์

ตอนที่เห็นถังรั่วชูกับสังอานหยีที่ปรากฏตัวพร้อมกัน ยิ่ง เซียวเซียวก็กะพริบตาอย่างประหลาดใจ “ทำไมพวกเธอ สองคนถึงอยู่ด้วยกันล่ะ”

จากนั้นก็สังเกตเห็นความผิดปกติ ก่อนจะถามต่อว่า “อานหยีต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอไง”

ถังรั่วชูมองไปทางสังอานหยีที่อารมณ์ไม่ค่อยมั่นคง เท่าไหร่ ก่อนจะออกตัวช่วยอธิบายแทนเธอ “วันนี้อาน หยีลาน่ะ ตอนที่เธอโทรมานัด เธอกำลังมาเยี่ยมฉันพอดี พวกเราก็เลยออกมาพร้อมกัน
เธอไม่รู้ว่าอานหย็อยากให้เธอเล่าเรื่องของตัวเองกับโม่ เฟยให้เซียวเซียวรู้ด้วยหรือเปล่า ดังนั้นเธอก็เลยเลือกที่ จะช่วยเธอเก็บเป็นความลับ

แต่หลังจากที่เห็นสายตาขอบคุณที่ตัวอานหยีส่งมาให้

แล้ว ถึงรั่วก็รู้แล้วว่าตัวเองทําถูกแล้ว เรื่องบางเรื่อง ถ้ามีคนรู้น้อยลงสักคนก็จะมีเรื่องวุ่นวาย

น้อยลงไปด้วย

ไม่อย่างนั้นจากนิสัยของเซียวเซียว ถ้ารู้เรื่องนี้เข้าจะ ต้องพุ่งตรงไปคิดบัญชีกับโม่เฟยเป็นแน่ ถ้าเป็นแบบนั้น เรื่องจะยิ่งวุ่นวาย

การปิดบังเธอแบบนี้ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องดีนัก แต่มันดี สําหรับอานหยีก็พอแล้ว

ยิ่งเซียวเซียวเองก็ไม่ได้สงสัยอะไรกับคำพูดของเธอ ท่า แค่พยักหน้า “อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”

จากนั้น เธอก็เดินเข้าไปแทรกตรงกลาง รวบแขนของ พวกเขาอย่างสนิทสนม “ไปกัน ไปเลือกโต๊ะทำงานที่ ถูกใจเป็นเพื่อนฉัน เดี๋ยวตอนเย็นฉันเลี้ยงมื้อใหญ่เอง”

ตอนนั้นเอง ถังรั่วชูก็สังเกตเห็นจุดที่ผิดปกติ หันหน้าไป มองสำรวจเธอ คิ้วเลิกขึ้น “วันนี้การแต่งตัวของเธอคือ…..ย้อนยุคเหรอ”

สั่งอานหยีเองก็สังเกตเห็นแล้ว หันไปมองเธออย่าง

สับสน

ยิ่งเซียวเซียวหัวเราะอย่างเลิ่กลั่ก “ฉันก็แต่งแนวย้อนยุค นั่นแหละ ใช่ มันเป็นแนวย้อนยุค แนวย้อนยุค

“งั้นเหรอ” ถังรั่วชูเลิกคิ้ว “นี่เธอไม่ใช่แค่ย้อนยุค แต่ยัง เชยจน…..” เธอหยุดไปครู่หนึ่ง คิ้วขยับขึ้น สีหน้ารังเกียจ “ฉันแทบไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดยังไงดีเลย”

“ไม่นี่ ฉันรู้สึกว่ามันไม่เลวเลย พวกเธอดูสิ ดูทรงปัญญา มากเลยใช่ไหม”

ยิ่งเซียวเซียวหมุนตัวต่อหน้าพวกเธอรอบหนึ่ง

ทรงปัญญา ? เธอไม่ได้พูดอะไรผิดใช่ไหม

ถังรั่วชูส่งเสียงหัวเราะออกมา พูดเตือนเธออย่างไม่ เกรงใจ “แบบเธอนี่ไม่ได้เรียกว่าทรงปัญญา แต่เรียกว่า โบราณคร่าครึ เชยเหลือทน”

ริมฝีปากของยิ่งเซียวเซียวถูกฉุดกระชากลงมา เธอหันไปมองที่สังอานหยี “อานหยี เธอก็คิดแบบนั้นเหรอ”

“เอ่อ…..” ส่งอานหยีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เลือกใช้คําพูด อย่างระมัดระวัง “เซียวเซียว รูปร่างเธอดีขนาดนั้น เธอ ใส่เสื้อผ้าแบบนี้มันก็ไปบดบังข้อดีของเธอหมดน่ะสิ แล้ว ประธานจะไปมองเห็นได้ยังไง”

คำสุดท้ายนั้นพูดออกมาอย่างแผ่วเบาไม่ชัดเจน ยิ่ง เซียวเซียวได้ยินไม่ชัด “อานหยี คำสุดท้ายเธอพูดว่าไงเห รอ ฉันได้ยินไม่ชัดน่ะ”

เธอได้ยินไม่ชัด แต่ถังรั่วชูได้ยินชัดแล้ว

“อานหยีบอกว่าเธอแต่งตัวแบบนี้ระวังจะทําให้ปังกลาย เป็นพัง เดี๋ยวจะทำให้ผู้ชายตกใจหนีกระเจิง”

เมื่อพูดจบ เธอกับสังอานหยีก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

แต่ยิ่งเซียวเซียวกลับครุ่นคิดถึงคําพูดของเธออย่าง จริงจัง สีหน้าจริงจังมาก

ถังรั่วชูกับสังอานหยีมองสบตากันหนึ่งที จากนั้นก็เดิน เข้าไป แต่ละคนกอดแขนของเธอคนละข้าง ลากเธอเดิน เข้าไปในร้านเฟอร์นิเจอร์
“เลิกคิดได้แล้ว รีบเลือกซื้อโต๊ะทำงานเถอะ จะได้ไป เลี้ยงมือใหญ่พวกเรา”

ถังรั่ว พูดขึ้น

“ชูซู ที่แท้แล้วผู้ชายให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ภายใน หรือภายนอกกันแน่” ยิ่งเซียวเซียวถามขึ้น

“ผู้ชายชอบผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมทั้งภายในและภายนอก

ยกตัวอย่างเช่น….

พูดถึงตรงนี้ ถังรั่วชูก็หยุดเท้าลง สองคนที่เหลือก็ถูก บังคับให้หยุดเท้าตามไปด้วย มองไปที่เธออย่างสงสัย ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเธอถึงหยุดเดิน

เห็นแค่เธอเผยรอยยิ้มได้ใจออกมา จากนั้นก็พูดต่อจาก เมื่อกี้ที่ยังพูดไม่จบ “ฉันไง ฉันพูดว่าผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมทั้ง ภายในและภายนอก

บรรยากาศเงียบสงัดลง กลายเป็นอึดอัดแปลกๆ

ยิ่งเซียวเซียวกับส่งอานหยีมองเธออย่างไม่แยแสอยู่ครู่ หนึ่ง จากนั้นทั้งสองคนก็ก้าวเท้าเดินต่อ

“ฉันรู้ว่าชั้นไหนมีโต๊ะทำงานที่รูปแบบสวยงามแถมราคาถูกด้วย”

“เหรอ งั้นเธอพาฉันไปดูหน่อยสิ”

ทั้งสองคนพูดไปพร้อมกับเดินไปข้างหน้า ปล่อยให้ถังรั่ว ซูยืนอยู่ตรงจุดเดิม

ถังรั่วชูมองไปที่ทั้งสองคน ถอนหายใจออกมาเบาๆ “ยัง ไงก็มีแต่ซือจิ่นของฉันที่ชื่นชมฉัน”

เห็นทั้งสองคนยิ่งอยู่ก็ยิ่งเดินไปไกล เธอเลยรีบตามขึ้นไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ