One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 177 ชีวิตนี้ถือว่าจบกัน



ตอนที่ 177 ชีวิตนี้ถือว่าจบกัน

ตอนที่ 177 ชีวิตนี้ถือว่าจบกัน

ยาที่กู้รั่วรั่วใช้ทําร้ายพ่อนำเข้าจากต่างประเทศ พอซือจิ่นไป สืบเรื่องมาแล้ว ก็สามารถหาเบาะแสสำคัญเจอ

ยามาจากศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งในประเทศหมี่ที่ได้คิดค้นยาตัว

ใหม่ออกมา แค่เคยเทสกับสัตว์เท่านั้น และคน

ะไม่ควรมาเทสกับ

ทว่าต่อให้ไม่เคยเทสกับคน ยาก็ได้นำทางมาจากตลาดมืด

และกู้รั่วรั่วเองก็ซื้อมาจากตลาดมืด สำหรับเรื่องที่ทำไมเธอ

ถึงรู้ว่ายาแบบนี้มันมีอยู่ในโลก นี่ก็มีแค่กู้รั่วรั่วเท่านั้นที่รู้

ถังรั่วชูนั่งอยู่บนโซฟา แล้วกำลังพลิกดูเอกสาร จากนั้นก็

ขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับทำสีหน้าที่ดูหนักใจ

หลังจากที่ดูจบ เธอจึงเงยหน้ามองไปยังผู้ชายที่อยู่ตรง หน้าต่าง “ซือจิ่น งั้นทำยังไงถึงจะช่วยพ่อได้? ”

ล้ซือจิ่นหันหลังแล้วขยับริมฝีปากบางขึ้น “ผมได้ติดต่อกับ ศูนย์วิจัยแห่งนั้นแล้ว และพวกเขาก็สัญญาว่าจะวิจัยยาที่มา แก้ยานี้ให้”

ได้ยินแบบนี้ เธอจึงทําสีหน้าที่ดีใจ “จริงหรอ? ”
“อืม จริง”

ถังรั่วขวางเอกสารพวกนั้นลง จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วสาวเท้าไป กอดเขาโดยเร็ว

“ซือจิ่น มีคุณคือดีจริงๆ เธอพูดขึ้นกลางอ้อมกอดของเขา

ตั้งแต่ที่พ่อสลบและไม่ฟื้น ความกังวลและความกลัวในใจ ก็เริ่มมี และตอนที่รู้ว่ามีวิธีช่วยพ่อของเธอ เธอก็ได้รับการ ปลอบโยนทันที

และนี่เป็นสิ่งทีซือจิ๋นให้เธอ

ถ้าไม่มีเขา เขาก็ไม่กล้าคิดว่าตัวเองจะไร้ความหนทางและ กลัวมากแค่ไหน

พอนึกถึงแบบนี้ มือที่กอดเอวของเขาไว้ก็กอดรัดแน่นขึ้น จาก นั้นก็เอาหัวมุดเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ปลายจมูกของเธอ ได้กลิ่นกายอ่อนๆ ของเขา ใจของเธอเหมือนได้รับการเติมเต็ม จนเต็มดวง จากนั้นปลายจมูกของเธอจึงรู้สึกแสบ แล้วน้ำตาก็ ค่อยๆ ไหลรินลงมา

ได้ห้องอันเงียบกริบได้ยินแต่เสียงร้องไห้ เพร่าของเธอ ล้ซือจิ่นจึงทำสีหน้าที่หม่นหมอง นัยน์ตาอันลุ่มลึกของเขาดู เจ็บปวดมาก เขาจึงยกมือขึ้นแล้วลูบผมเงาสลวยของเธอ แล้ว พูดด้วยเสียงอ่อนโยน ไม่ต้องน่ะ ทุกอย่างที่ไม่ดีจะผ่านไป เอง”
อืม จะผ่านไปเอง

เธออยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้วยังคงร้องไห้ไม่หยุด

หลินไห่สามารถรักษาชีวิตของตนเองไว้ได้ แต่อาชีพของเขา ก็คงจะจบแล้ว

วันถัดไปหลังจากที่หลินไห่ได้เกิดเรื่องในบริษัทถางไห่ จึง ได้ข่าวว่าหลินไห่ถูกไล่ออกไปทันที ขณะเดียวกันก็ได้พูดขึ้น อย่างชัดเจนว่าข่าวฉาวของตนเองกับเขานั้นไม่เป็นจริง ทุก อย่างมันก็เกิดจากปัญหาที่หลินให้ทำขึ้นมาเอง

บริษัท างไห่ได้ เดิมแผลเดิมของหลินไห่ หลายปีที่ได้ร่วม งานกันมานี้ก็ได้ยุติลง

ทำให้ผู้ชมทุกคนถึงกับหดหู่ใจ

แต่เรื่องที่ถางไห่ได้ลงทุนกับการถ่ายหนัง (ชีวประวัติพระ ชายาชิง) นั้นไม่ได้หยุดลงเพราะเรื่องของหลินไห่ ถางไห่ได้ จ้างผู้กำกับที่มีชื่อเสียงให้ราคาสูง เพื่อที่จะมารับช่วงต่อ ดังนั้น การถ่ายหนังก็ยังคงเป็นเหมือนปกติ

“หนังเรื่องนี้ยังไม่ทันได้ถ่ายก็เกิดเรื่องแบบนี้แล้ว หนังนี้ ทำพิษหรือเปล่า”
ส่งอานหยีดูข่าวจบ ก็ได้แสดงความคิดเห็น………ของตัวเองที่ ไม่เชิงเป็นความคิดเห็น

ถังรั่วชูยิ้มแห้งขึ้น “ผู้ชมอย่างแกไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ ”

ปกติแล้วไม่กลัวที่จะว่าถางไห่ไม่ยุติธรรม และสงสารผู้กำกับ ที่มารับช่วงต่อ อีกทั้งยังก่นด่าหลินไห่สมควรเจอแบบนี้?

ทำไมเธอถึงบอกว่าหนังเรื่องนี้ทำพิษล่ะ?

“หรือว่าไม่ใช่? ” สงอานหยีเบะปาก “วันนั้นแกไปงาน สัมภาษณ์ ดูสิมันเป็นข่าวดังแค่ไหน แล้วสุดท้ายล่ะ? หลิน

พูดถึงตอนนี้ ส่งอานหยีจึงถอนหายใจ “ชีวิตของเขาถือว่าจบ

แล้ว”

“ทําไม? แกสงสารเขาหรอ? ”

ถังรั่วชูหยอกล้อขึ้น

สังอานหยีจึงรู้สึกกระวนกระวายขึ้น “ใครสงสารเขาล่ะ? มาร ปีศาจแบบนี้ก็ไม่คุ้มค่าแก่การสงสาร”

“งั้นแกถอนหายใจทำไม? ”
“ฉันแค่รู้สึกว่าผู้ชายคนหนึ่ง ฝากสามารถใช้ชีวิตอย่างรันทด แบบนี้ก็คงไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไป”

ได้ยินคําพูดของเธอ ถ้งรั่ว จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ตามด้วยความหน้าด้านหน้าทนของหลินไห่ เขาไม่รู้สึกว่าตัว เองมีชีวิตที่รันทดหรอก กลับรู้สึกว่าพระเจ้าทรงปิดประตูบาน นี้ของเขามากกว่า แล้วก็ต้องเปิดประตูบานใหม่ให้เขาด้วย”

“อี๋” ส่งอานหยีขมวดคิ้วขึ้น “ความหมายของแกคือ? ”

ถังรั่วชคลายยิ้มอ่อนๆ “หมายังไงก็กินขี้ นี่เป็นสิ่งที่เปลี่ยนไม่ ได้”

“ให้ตายเถอะ! เขาไม่กลัวตายจริงๆ ”

สั่งอานหยีจึงรู้สึกว่าตอนนั้นคนที่ลงมือทําไมถึงไม่ฆ่าเขาให้ ตาย? จะได้ไม่ต้องไปทำลายผู้หญิงคนอื่นอีก

ถังรั่วชูคลายยิ้ม หางตาจับจ้องหลีน่า เธอจึงรีบพูดกับสังอาน หยี “พอเถอะ ไม่ต้องคุยเรื่องนี้แล้ว กลับไปทำงาน ผู้จัดการมา แล้ว”

ส่งอานหยีจึงหันกลับไปมองเขาเพียงแวบตาเดียว ประจวบ กับตอนที่หลีน่าเดินเข้ามาใกล้ เธอจึงรีบลุกขึ้นแล้วตะโกนขึ้น “ผู้จัดการคะ”
หลีน่ายังคงเคร่งขรึมเหมือนเดิม ทว่ามุมปากของเธอเหมือน จะมีและเหมือนจะไม่มีรอยยิ้ม เธอจึงพยักหน้าเบาๆ ให้ส่งอาน หยี “อืม”

ส่งอานหยืมองถังรั่วชูเพียงพริบตา จากนั้นก็รีบกลับที่นั่งของ

ตัวเองไป

“ผู้จัดการคะ เป็นอะไรไปไหมคะ? ” ถังรั่วชูลุกขึ้น

หลีน่าลังเลไปสักพัก จากนั้นก็ค่อยเอ่ยพูดขึ้น “ผู้ใหญ่ของ บริษัทให้เธอเข้าไปในกลุ่ม (ชีวประวัติพระชายาชิง) แล้วถ่าย ตอนและคลิปท่อนหนึ่งที่กู้รั่วรั่วถ่าย จากนั้นก็โพสต์ลงในโซ เชียล จากนั้นก็เขียนบทความสั้นๆ เพื่อเป็นการตลาด แล้ว ทําให้พวกเขาทุกคนชื่นชมในตัวกู้รั่วรั่ว เพื่อที่จะทำให้เรื่องนี้ โด่งดังขึ้นมา”

ฟังดูแล้วเหมือนกำลังจ้องจะทำลายเธอ

ในใจลึกๆ เธอจึงรู้สึกไร้กำลัง จากนั้นเธอก็ทำการดิ้นรนครั้ง สุดท้าย “ให้นักข่าวที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฉันไปได้ไหม คะ? ”

“ไม่ได้” หลีน่าส่ายหัวพร้อมกับคลายยิ้มที่ทำตัวไม่ถูก “นี่ผู้ จัดการซูเป็นคนออกคำสั่ง ฉันรู้ว่าผู้จัดการซูทำให้เธอต้อง ลําบากใจ แต่ถ้าเธอดื้อรั้นไม่ไป เธอก็จะใช้วิธีอื่นมาโจมตีเธอ บางครั้งเธออาจจะลำบากใจเพียงชั่ววูบ เพื่อที่จะทำให้หนทาง ของเรานั้นไปได้ไกลและมั่นคงกว่าเดิม เธอว่าไหม? ”
หลีน่าคลายยิ้มด้วยความพอใจ จากนั้นก็ตบไหล่ของเธอ แล้วกําชับขึ้น “เข้าไปในกองถ่าย ต้องระวังตัวหน่อย”

“อืม ฉันรู้”

ไหนๆ ซูเทียนอ้ายให้เธอเข้ากองถ่าย งั้นก็ต้องมีอะไรรอเธอ

อยู่

แต่แล้วจะทำไม เธอไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว

การถ่ายทำของ (ชีวประวัติพระชายาชิง) เมืองที่ใหญ่ที่สุดใน การถ่ายทำหนังในประเทศ นั่นก็คือชิงซานสตูดิโอซิตี้

ชิงซานสตูดิโอซิตี้ห่างจากเมืองเป่ยหนิงไปหนึ่งพันกว่า กิโลเมตร เป็นชาญเมืองของเมืองชิงเฉิง ดังนั้นครั้งนี้ก็ถือว่า เป็นการออกไปดูงานต่างพื้นที่จริงๆ

ถังรั่วชูตั้งใจเช็ดเลนส์กล้องของตัวเอง และสังอานหยีก็อยู่ ข้างๆ มอง จากนั้นก็เดินมาหาเธอ

“ชูชู เมืองชิงเฉิงห่างจากเมืองเป่ยหนิงไปไกลขนาดนี้ แก แน่ใจหรอว่าแกไปคนเดียวแล้วจะโอเคร? ”

ส่งอานหยีรู้สึกกังวลในใจเล็กน้อย เป็นสถานที่ไกลมากๆถ้าไปไกลขนาดนั้นแล้วเกินเรื่องอะไรขึ้นมา ก็คงจะลำบาก

ถังรั่วชูจึงตอบกลับอย่างไม่เงยหน้า “ฉันไม่ได้ไปคนเดียว มีผู้ ซึ่งเหยาไปกับฉันด้วย”

“แค่เขาคนเดียวจะพอหรอ? อีกอย่างเขาเป็นผู้ชาย บางเรื่อง ก็คงจะไม่สะดวก”

ถังรั่ว จึงถูกคําพูดคําจาของเธอทําให้ขบขัน จากนั้นก็หยุด งานในมือลง แล้วเงยหน้ามองเธอ “งั้นแกก็ไปกับแกไหมล่ะ? ”

ส่งอานหยีรู้สึกเครียดขึ้นมาทันที จากนั้นก็พูดอย่างไม่พอใจ “ฉันกำลังห่วงแก แกยังมีพูดขำๆ อีก”

ถั่วรั่วชกระตุกคิ้วขึ้น แล้วยิ้มพลางพูดขึ้น “อานหยี ฉันรู้ว่าแก กำลังเป็นห่วงฉัน ครั้งนี้ฉันไป ฉันรู้ดีแก่ใจ สิ่งที่หลบเลี่ยงไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องคิดมากอีก ปล่อยตามธรรมชาติ”

อีกอย่างเธอไม่เหมือนครั้งก่อนที่ไม่ได้ระมัดระวังตัวอะไร ตอนงานเลี้ยงเลย ครั้งนี้เธอจะป้องกันตัวเป็นอย่างดี จะไม่ให้กู้ รั่วรั่วได้ใจแน่นอน

“เธอมีจิตใจที่เข้มแข็งมาก” สังอานหยีไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจ

แทนเธอ

คนๆ หนึ่งที่เคยใสซื่อบริสุทธิ์ ผ่านไปสักระยะเวลาหนึ่งกลับ เปลี่ยนแปลงไป และกลายเป็นคนที่หนักแน่นไม่หวาดกลัวอะไรทั้งนั้น

พูดตามจริง นี่ไม่ใช่เรื่องดีอะไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ