One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 230 น้องชายที่น่าเวทนาที่สุดใน ประวัติศาสตร์



ตอนที่ 230 น้องชายที่น่าเวทนาที่สุดใน ประวัติศาสตร์

ตอนที่ 230 น้องชายที่น่าเวทนาที่สุดในประวัติศาสตร์

มองไปด้านนอกผ่านกระจกใสที่กว้างใหญ่ ท้องฟ้า ราวกับน้ำหมึก ดวงดาวระยิบระยับ ด้านล่างเมืองเป่ยหนิง แสงไฟกำลังหมดไป ภาพทิวทัศน์อบอุ่นฉากหนึ่ง

ถังรั่วชูมองภาพทิวทัศน์ที่สวยงามตรงหน้าอย่าง หลงใหล เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่แท้เมืองเป่ยหนิงยาม ค่ำคืนงดงามขนาดนี้

ที่ด้านหลังของเธอ ลูซึ่งเหยาล้มตัวลงนอนบนโซฟา มอง เพดานตาลอย ท้องส่งเสียง “จ๊อกๆ” ออกมาเป็นครั้งคราว

เขาหิวมากเลย หิวจนใกล้จะแย่จริงๆ

แต่พี่สะใภ้ของเขายังไม่คิดจะทานข้าว บอกต้องรอลูกพี่ ประชุมเสร็จถึงมาทานด้วยกัน

แต่ผีย่อมรู้ว่าประชุมนั้นของลูกพี่ต้องประชุมไปถึงเมื่อไร เขากลัวรอให้ประชุมเสร็จ เขาจะหิวตายไปตรงนี้แล้ว

ส่วนตอนที่สู้ซึ่งเหยาทอดถอนใจอยู่นั้น ประตูห้องทํางานเปิดออก ภาพคนตัวสูงเดินเข้ามา

ลูซึ่งเหยาที่ได้ยินเสียงขยับรีบลุกขึ้นมาทันที ตอนที่มอง เห็นมีคนมา เหมือนมองเห็นผู้ที่ช่วยชีวิต ก่อนจะทำหน้า ประหลาดใจ “ลูกพี่ ในที่สุดพี่ก็ประชุมเสร็จ ผมหิวจนท้อง ใกล้จะแบนหมดแล้ว”

สู้ซือจิ่นกวาดตามองท้องเขานิ่งๆ “ไม่ใช่ยังไม่แบนเห

รอ?”

…ลูกพี่นี่คือการเปรียบเทียบเกินจริง เข้าใจไหม?”

ลูซึ่งเหยาหน้ามืดครึ้มไปหมด

ลูซือจิ่นชายตามองเขาทีหนึ่ง จากนั้นเดินไปที่คนตัว เรียวเล็กที่กำลังยืนอยู่หน้ากระจกชมวิว

สู้ซึ่งเหยาเบ้ปากแล้วลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องทำงาน อย่างรู้ตัวดีมาก มอบพื้นที่ว่างให้พวกเขา

“สวยมากสินะ”

ตอนที่ถังรั่วชูมองจนใจลอย ทันใดนั้นด้านหลังก็มีเสียง คุ้นเคยดังขึ้น
เธอตกใจ พอหันหน้า ใบหน้าหล่อเหลาไม่ธรรมดา สะท้อนเข้าม่านตา ทำให้บนหน้าน้อยๆ สวยเพริศพริ้งเกิด รอยยิ้มแจ่มใส

“ประชุมเสร็จแล้วเหรอ?” เธอถามเสียงเบาๆ

“อืม ประชุมเสร็จแล้ว” ลูซือจิ่นพยักหน้า จากนั้นยกมือ เขี่ยบ่อยผมที่ห้อยลงตรงแก้มของเธอออก จ้องมองเธอ อย่างล้ำลึก ถามด้วยเสียงนุ่มนวล “ทำไมถึงเข้ามาล่ะ?”

“กลัวคุณจะหิวไง” ถังรั่วชูหัวเราะอย่างซุกซน

เขายิ้มพลางลูบผมของเธอไป ตาดำที่ลึกล้ำกระเพื่อม แสงละมุนที่ประณีต

เขาหันหน้ามองทางนอกหน้าต่าง แสงยามค่ำคืนที่

งดงามสะท้อนอยู่ในแววตาเขา เส้นรัศมีวงกลมยกขึ้นที่

ริมฝีปาก เพิ่มความลึกอีกหลายระดับ

“วิวที่นี่ของคุณสวยจนทำให้ฉันอิจฉา” ถังรั่วชูหันหน้าไป ชมบรรยากาศยามค่ำคืนเหมือนกันกับเขา พูดอย่างกึ่งล้อ เล่นกึ่งเอาจริง

“งั้นมาทำงานที่บริษัทการบันเทิงหวางถิง จะได้ดูวิวยาม ค่ำที่สวยขนาดนี้ได้ทุกวัน”
ขณะกำลังพูด อู๋ซือจั่นย้ายสายตากลับมาบนตัวเธอ มองทั่วทั้งใบหน้างดงามของเธอ

“นี่ยั่วยวนคนมากเกินไปแล้ว แต่ฉันยังชอบสือรุ่ยอยู่” ถัง รั่วชูหันหน้ามายิ้มแย้มกับเขา

รอยยิ้มนี้ งดงามมีชีวิตชีวา

ความคิดเขากระเพื่อมนิดหน่อย ยื่นมือโอบเอวของเธอ ไว้ โอบเธอเข้ามาในอ้อมอกของตนเอง

การกระทำที่ฉับพลันของเขา ทำให้ถังรั่วชูส่งเสียงหาย ใจเล็กๆ

“ประธานลู่ นี่คุณคิดจะยั่วฉันเหรอ?” ถังรั่วซูเงยหน้า มองเขาอย่างยิ้มแพรวพราว ในลูกตาใสแจ๋วประกาย ความชอบนิดๆ

ลูซือจิ่นยักคิ้วปลายงอนนิดๆ ก้มหน้าแนบริมฝีปากไป ที่ริมฝีปากของเธอ เอ่ยขึ้นเบาๆ “งั้นคุณคิดว่าจะสำเร็จ เปล่า?”

เสียงของเขาทุ้มต่ำน่าดึงดูด ค่อยๆ สะกิดใจของเธอ

ดวงตางดงามประกายหมุนวน เธอพูดคล้ายๆ เสียงต่ำ”คุณทำสำเร็จตั้งนานแล้ว”

คำพูดยังไม่ทันจบ ริมฝีปากของเขาประกบไปที่ริมปาก ของเธอ พลิกไปมาดูดอย่างอ่อนโยน

ในใจหวาดเสียวอย่างยิ่ง เธอยกมือโอบคอของเขาไว้ รุกตอบสนองจูบของเขา

ด้านนอกกระจกใส แสงยามค่ำคืนยังคงสวยงาม

ภายในกระจกใส พวกเขากอดจูบกัน อ่อนโยนอย่าง

“หาว….” ลูซึ่งเหยาหาวขึ้น นอนเบื่อหน่ายอยู่ที่โต๊ะ ทํางานของเลขานุการ

บางทีก็เงยหน้ามองทางประตูห้องทำงานท่านประธานที่ ปิดสนิท จากนั้นถอนหายใจอย่างจำใจ

เขาคิดว่าเขาน่าจะเป็นน้องชายที่น่าเวทนาที่สุดใน ประวัติศาสตร์แล้ว

หิวจนท้องไม่มีความรู้สึกหิว แต่สองคนที่อยู่ในห้องนั้นเหมือนยังไม่มีทีท่าว่าจะทานข้าว

เขากำลังพิจารณาว่าตนเองไปก่อน ไปกินข้างนอกล่ะ? หรือว่าไปเคาะประตูตอนนี้ ทำลายความอ่อนละมุนของ พวกเขา?

อย่างแรก เขาจะไม่ได้ทานกุ้งผัดซอสมะเขือที่ป่าอู่ทำ

อย่างหลัง เขาอาจจะถูกลูกพี่ดึงมาใช้ทั้งวัน

พอสองตัวเลือกเอามาเทียบกัน ในใจเขามีตัวเลือกแล้ว

เห็นเพียงเขาลุกขึ้นมา เดินไปที่ด้านนอกประตูห้อง ทำงานท่านประธานโดยตรง ยกมือมาอยากเคาะประตู อย่างไม่ลังเลสักนิด

แต่มือยังไม่ทันแตะประตู ประตูก็เปิดทันทีแล้ว

เดิมทีถังรั่วชูอยากออกมาเรียกสู้ซึ่งเหยาทานข้าว แต่ พอเปิดประตู ก็มองเห็นคนยืนที่หน้าประตูพอดี โดนทำให้ ตกใจเข้า

เธอมองอู้ซึ่งเหยาที่มือค้างกลางอากาศอย่างตลกอยู่ บ้าง “ซึ่งเหยา นี่นายกำลังทำพิธีอะไรอยู่เหรอ?”
ลูซึ่งเหยาเก็บมือกลับ หัวเราะแห้งๆ สองที “พี่สะใภ้ พลัง จินตนาการของพี่นี่มากมายเลยนะ”

ถังรั่วชูยักคิ้ว “ก็ใช่ พวกเราทำงานสื่อ ไม่มีพลัง

จินตนาการจะเขียนข่าวออกมาได้ยังไง”

“พี่สะใภ้ คำพูดนี้ทำไมพี่พูดเล่นแง่อย่างนี้ล่ะ?”

ใช้พลังจินตนาการเขียนข่าวออกมา นั่นไม่ใช้สร้างเรื่อง หลอกลวง ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิงเหรอ?

“ไม่เล่นแง่” ถังรั่วชูหันตัวเดินไปในห้องทำงาน พูดไป พลาง “นักข่าวบันเทิงนะ มักจะมีภาพวาดหวังกระแส ฟัง ไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด อย่างนั้นจึงต้องใช้จินตนาการ มาแต่งเรื่องราวให้ครบถ้วน

“นั่นเป็นพวกปล่อยข่าวปลอม ไม่ใช่นักข่าวบันเทิง พี่ สะใภ้”

ถังรั่วชูหันหน้ามายิ้มทางเขา “ความหมายพอๆ กันนั่น แหละ”

ได้ยินอย่างนั้น สู้ซึ่งเหยาก็ยักไหล่ ความจริงเป็นความ หมายพอๆ กัน นักข่าวบันเทิงปัจจุบันนี้ยังมีคนไหนที่เอา ตามความจริง ไม่สร้างข่าวเองบ้าง
พวกเขานั่งลงบนโซฟา ลูซือจีนวางกับข้าวที่พวกเขาน่า มาไว้บนโต๊ะ

มองเห็นกับข้าวที่ยังไอร้อนขึ้นมา ผู้ซึ่งเหยาเกือบจะ น้ำตาเต็มเบ้า ในที่สุดเขาก็สามารถทานข้าวได้แล้ว

“ซึ่งเหยา นี่ให้นาย” ถังรั่วชูนำตะเกียบยื่นให้เขา มอง เห็นเขาจ้องกับข้าวตาเป็นมัน รู้สึกไม่สบายใจเท่าไร

“ขอโทษนะ ซึ่งเหยา ให้นายรอเป็นเพื่อนฉันนานขนาด

สู้ซึ่งเหยาส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ยังไงผมก็ไม่มีธุระอะไร”

พูดจบ เขาหยิบตะเกียบมา ยกถ้วยขึ้น ไม่รอพวกเขาก้ม หน้าก็ทานขึ้นมาเลย

เห็นแบบนี้ ถังรั่วซูกับลูซือจิ่นมองหน้ากันยิ้มๆ ดูแล้วหิว แทบแย่จริงๆ

“ซือจิ่น กินกุ้งสิ” ถังรั่วชูคีบกุ้งวางในถ้วยตรงหน้าของ

ลูซือจิ่นกำลังอยากอ้าปากพูดอะไร ก็เห็นตะเกียบคู่หนึ่ง ยื่นเข้ามาคีบกุ้งตัวนั้นไป
เขาเงยหน้ามองไป เห็นเพียงผู้ซึ่งเหยานำกุ้งกัดเข้าปาก “กุ้งนี้ให้ผมกันเถอะ ลูกพี่ พี่อย่ากินเลย”

“อู๋ซึ่งเหยา นายเป็นเด็กน้อยรึไง? ไม่รู้จักแบ่งปันหน่อย เหรอ?” ถังรั่วชูเห็นเขาเป็นเด็กน้อยขนาดนี้ ไม่รู้จะร้องไห้ หรือหัวเราะจริงๆ

“ไม่ใช่ไม่รู้จักแบ่งปัน แต่ว่าลูกพี่กินลิปสติกก็พอแล้ว ยัง จะกินกุ้งอะไรอีก?”

คำพูดนี้ออกมา ถังรั่วชูมือสั่น กุ้งที่ใช้ตะเกียบคีบไว้แทบ หล่นลง

เธอเบิกตาโตมองทางอู้ซึ่งเหยา “ซึ่งเหยา เมื่อกี้นายพูด อะไรแล้ว?”

ลูซึ่งเหยายิ้มแล้วเบ้ปากไปทางพวกเขา “ผมว่าลูกพี่ขอ แค่กินลิปสติกก็พอแล้ว”

พูดพลางส่งสายตากำกวมกวาดผ่านริมฝีปากของถังรั่ว ชู ถังรั่วซูรีบยกมือปิดปากของตนเองไว้ ชั่วขณะนั้นแก้ม ระเบิดแดงซ่าน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ