One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 153 คู่สุนัขชายหญิงคู่หนึ่ง



ตอนที่ 153 คู่สุนัขชายหญิงคู่หนึ่ง

ตอนที่ 153 คู่สุนัขชายหญิงคู่หนึ่ง

เพราะว่ายืนยันฐานะของเธอแล้ว ในเวลาเดียวกันภายใน จิตใจก็มีความไม่พอใจต่อกู้รั่วรั่ว ผู้หญิงสวยน่ารักของแผนก ต้อนรับส่วนหน้าจึงได้ให้ถังรั่วเข้าไปแล้ว

ผ่านเรื่องราวเก่าๆในอดีตกับลุงหยาง ถังรั่วชูจึงได้รู้เรื่อง พนักงานเก่าที่ได้ร่วมทำงานกับพ่อจำนวนหนึ่งก็ได้ทยอยถูก ไล่ออกแล้วอย่างต่อเนื่องกัน

ลุงหยางพูดว่าหากว่ายังเป็นแบบนี้ต่อไป บริษัทถัง อกรุ๊ปจะ ต้องถูกทำลายทิ้งแล้วจริงๆ

ถังรั่ว มุ่งตรงมาถึงที่ห้องทำงานของประธานคณะกรรมการ บริหารที่ตั้งอยู่ชั้นบน ยังคงเหมือนกับภาพแห่งความทรงจำยัง ไงยังงั้น นอกจากคุณอาคุณป้าที่ใกล้ชิดสนิทสนมกี่คนนั้นที่จะ

ตะโกนเรียกเธอ “ถ้งรั่วชู” ก็ไม่อยู่แล้ว

“จี้หยินเฟิง ฉันก็ไม่มีความรู้เลยแม้แต่น้อยต่อการจัดการ ควบคุมบริษัท รอฉันรับช่วงบริษัทถังชื่อกรุ๊ปแล้ว ฉันก็จะนำ มันส่งมอบให้ถึงมือเธอเป็นยังไง?”

ประตูห้องทํางานไม่ได้ปิดสนิท ที่มีซอกร่องหนึ่งเหลือไว้ ดัง นั้นเมื่อเดินเข้าไปใกล้ ก็ได้ยินถึงเสียงจากด้านในได้ง่ายดาย
“นี่ยังดีเถอะ นี่เป็นถึงสติปัญญาและกำลังของพ่อเธอ มอบให้ ฉันก็ไม่ค่อยดีเถอะ”

ได้ยินถึงคำพูดปฏิเสธของจี้หยินเฟิง ถังรั่วซูจึงได้ด่าในใจไป แล้วหนึ่งประโยค เสแสร้ง!

“จี้หยินเฟิง นี่ไม่มีอะไรไม่ดี รอพวกเราแต่งงานกันแล้ว ของ ฉันก็คือของเธอ ของเธอก็คือของฉัน ไม่ต้องแยกแยะจน ชัดเจนเช่นนั้น”

สมองของกู้รั่วรั่วคนนี้ก็ป่วยจริงๆ เพื่อผู้ชายคนหนึ่งคาดไม่ ถึงว่าแม้แต่บริษัทที่จะถึงมือแล้วก็ต้องการที่จะหลีกทางให้ ออกไป

“แต่ว่า…….…..” จี้หยินเฟิงยังคิดที่จะเสแสร้งปฏิเสธ แต่กลับถูก ” กู้รั่วรั่วทำให้หัวข้อสนทนาหยุดลงแล้ว “ได้แล้ว ก็ตกลงกัน แบบนี้แล้ว ฉันเชื่อว่าถ้าบริษัทถังซื่อกรุ๊ปอยู่ในมือนายจะต้อง พัฒนาจนดีมากกว่าตอนนี้อีก”

“อย่างนั้นก็ได้” จี้หยินเฟิงรับปากด้วยความพยายามทำสุด ความสามารถแม้มีความสามารถไม่พอก็ตามแล้ว

คู่สุนัขชายหญิงคู่หนึ่ง!

ในสายตาของถังรั่วชูในช่วงเวลานั้นก็ได้มีส่วนความหนาว เย็นที่เรียวแหลม ทันทีหลังจากนั้นเธอก็ใช้แรงผลักประตูเปิดออก
ชายหญิงที่โอบอุ้มอยู่ด้วยกันในห้องก็ถูกความกะทันหันของ ความเงียบนี้ทำให้ตกใจจนรีบแยกออกจากกัน หลังจากที่มอง เธอชัดเจนแล้ว กู้รั่วรั่วก็ได้สงบเยือกเย็นลงมากเร็วมาก จาก นั้นก็ได้พูดซักถามด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดแสบแก้วหู: “ถังรั่วชู เธอมาทำอะไรที่นี่?”

ตอนที่จี้หยินเฟิงกำลังมองถังรั่วชู ภายใต้สายตาที่มีความ สว่างไสวของความชื่นชมกระตือรือร้นก็ได้กระโดดลอยขึ้น ไม่เจอกันกี่วัน เธอก็ยิ่งสวยขึ้นอีกแล้ว

กระโปรงยาวตัวหนึ่ง นำรูปร่างลักษณะร่างกายของเธอขับ ให้เด่นขึ้นจนยิ่งเพิ่มความละเอียดมากขึ้น เส้นผมยาวถูกสาน จนกลายเป็นเปียก้างปากเอียงวางตะแคงข้างอยู่ตรงคอ เมื่อ มองคนทั้งคนขึ้นมาแล้วก็สุภาพอ่อนโยนและสง่างามเป็นอย่าง มาก มีนิสัยเฉพาะตัวที่สดชื่นและสง่างาม

เมื่อกู้รั่วรั่วเห็นถึงเขาที่จ้องมองถังรั่วชูอยู่ตลอด ความคิดใน ใจก็ได้โกรธเคืองขึ้น สายตาที่มองไปทางถังรั่วชูคือยิ่งโหด เหี้ยมอำมหิต ยิ่งกว่า

ถังรั่วซูด้านหนึ่งได้สังเกตห้องทำงาน อีกด้านหนึ่งได้ก้าวเดิน เข้าไปช้าๆ เดินไปถึงหน้าโต๊ะทำงานที่มีสง่าราศีมากตัวนั้นจึง ได้หยุดฝีเท้า ปลายนิ้วได้ลูบไปที่ขอบโต๊ะที่เกลี้ยงเป็นมันเต็ม เปี่ยมไปด้วยพลังเบาๆ เส้นสายตาได้ตกไปอยู่ที่เก้าอี้เจ้านาย ภายใต้สายตาได้มีร่องรอยของความเย้ยหยันถากถางหนึ่ง กระเพื่อมขึ้นมา

“ฉันมาดูว่าด้านบนเก้าอี้ของพ่อฉันมีคนนั่งแล้วหรือยัง”
เธอหันหัวมองไปทางคู่สุนัขชายหญิงคู่นั้น จากนั้นริมฝีปาก แดงๆก็ได้กระดกยกขึ้น “อย่างไรเสียก็มีคนมากมายอยากจะ ได้เก้าอี้ตัวนั้น”

ลูกตา ทั้งหมดของกู้รั่วรั่วได้หรี่ตาขึ้น “ถังรั่วชู หรือว่าเธอก็ คิดจะนั่งบนเก้าอี้ตัวนั้น?”

กู้รั่ว วยกคิ้วขมวดขึ้น “แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากนี้เก้าอี้

ตัวนี้ก็จะเป็นของฉัน”

“ฮ่าๆๆ……” กูรั่วรั่วหัวเราะเสียงดังออกมา มองแววตาของถัง รั่ว ที่ได้เขียนเต็มไปด้วยความเย้าหยอก “เธอคิดว่าเก้าอี้ตัวนี้ จะเป็นของเธอจริงๆ?

“ไม่อย่างนั้นล่ะ?” ริมฝีปากของถังรั่วชูมีรอยยิ้มที่เพิ่มความ ลึกขึ้นไป ส่วน แต่สายตากลับเย็นชามาก จากนั้นเธอก็ได้พูด ทีละค่าทีละประโยค: “มีบางคนอย่าคิดว่าสามารถคลุมท้องฟ้า ได้ด้วยมือเดียว คิดว่าเรื่องที่ตัวเองทําไม่มีคนรู้ และก็อย่าคิด ว่าชั่วครั้งชั่วคราวของความโอหังลำพองใจก็คือชั่วชีวิต”

คำพูดนี้ก็เป็นเพียงตักเตือนเธอว่าอย่าคิดเพ้อเจ้อลมๆแล้งๆไร้ สาระคาดหวังบริษัทถังซื่อกรุ๊ป น่าเสียดายที่บริษัทถังซื่อกรุ๊ป เธอได้จับอย่างมั่นคงไว้อยู่ในมือแล้ว

เพียงแค่มีการประชุมกรรมการบริษัท เธอก็คือประธานคณะ กรรมการการบริหารคนใหม่ของบริษัทถังซื่อกรุ๊ปแล้ว
เมื่อคิดถึงถังรั่ว เมื่อได้ยินถึงการเปลี่ยนมือของบริษัทถัง ชื่อกรุ๊ปว่ามีความบ้าคลั่งและการแตกกระจายมากแค่ไหน ร่างกายและจิตใจของกูรั่วรั่วก็มีความสุขสบายใจ

“ถังรั่วชู ฉันรอคอยวันที่เธอได้นั่งบนเก้าอี้ตัวนั้น” กู้รั่วรั่วพูด อย่างมีความสุขอารมณ์ดี และยังมีร่องรอยของความลำพอง ใจกับการยั่วยุ

รอยยิ้มด้านริมฝีปากในชั่วพริบตาก็ได้ซ่อนหายไป ถังรั่วชู ถลึงตาใส่หล่อนกับจี้หยินเฟิงอย่างเยือกเย็น เธอแทบอยากจะ ขึ้นไปฉีกใบหน้าของรอยยิ้มที่เสแสร้งลำพองใจนั้นของกู้รั่วรั่ว

แต่ว่าส่วนของเหตุผลบอกกับเธอว่าไม่ได้ จะต้องใจเย็น มี เพียงความใจเย็นที่จะวิเคราะห์ได้ว่าต้องทำยังไงเธอถึง สามารถรักษาบริษัทถัง อกรุ๊ปไว้ได้

จากนั้นก็ได้หายใจเข้าลึกๆฟอดหนึ่ง ถังรั่วซูจึงได้ยื่นมือหยิบ กรอบรูปที่จัดวางอยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมา

ครอบครัวหนึ่งสามคนบนรูปภาพ เมื่อมองขึ้นมาแล้วก็มีความ

สุขเป็นอย่างมาก

นั่นคือพ่อกับแม่ของเธอ ยังมีเธอในวัยเยาว์

ที่แท้หลายปีมานี้ รูปภาพที่พ่อวางบนโต๊ะก็ไม่เคยเปลี่ยนมาตลอด
ทันใดนั้น ภายในใจก็เต็มไปด้วยความยากที่จะรับได้ ความ ทุกข์ไม่สบายใจ พูดไม่ออก

ปลายนิ้วได้ลบไปที่คนบนรูปภาพ ลูกตาดำทั้งหมดได้ลึก ขึ้น เธอได้พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น: “กู้รั่วรั่ว พ่อฉันปฏิบัติ ต่อพวกเธอแม่ลูกยังไง ในใจของเธอรู้ดี หากว่าเธอยังมุ่งมั่น ตลอดทางต้องการเดินไปถึงความมืด เช่นนั้น ฉันจะไม่ปล่อย เธอไป”

เมื่อพูดจบ เธอก็ได้หยิบกรอบรูปและก็ออกจากห้องทํางาน ไปอย่างไม่กลับหันหลัง

ตั้งแต่ต้นจนจบจี้หยินเฟิงก็ไม่ได้พูดแม้แต่คําเดียว หลังจากที่ ถังรั่วชูจากไป ก็ยังคงจ้องทองไปตรงประตูอยู่ตลอด

“จี้หยินเฟิง!”กู้รั่วรั่วผลักเขาแล้วครู่หนึ่งอย่างไม่พอใจ

เขาได้สติกลับมา หันหัวมามองเธอ จากนั้นก็ได้ถามด้วยน้ำ เสียงอ่อนโยน: “เป็นอะไรแล้ว?”

“นายบอกฉัน นายยังชอบถังรั่วชูใช่ไหม?”กู้รั่วรั่วถลึงตาใส่ เขาด้วยความโกรธ

ลูกตาดำทั้งหมดได้ทรงตัวไม่อยู่เล็กน้อย จี้หยินเฟิงมองเธอ อย่างเงียบสงบ

นานมากถึงได้หัวเราะเบาๆออกมา นำเธอโอบกอดเข้าไปในอ้อมอก “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ? พวกเราก็ต้องการแต่งงานแล้ว

ฉันจะยังชอบถังรั่ว ได้ยังไงกันล่ะ?”

“ไม่มีดีที่สุด” กู้รั่วรั่วได้โอนอ่อนผ่อนตามฟุบอยู่ตรงหน้าอก ของเขา “ฉันสามารถเอาบริษัทถังชื่อกรุ๊ปมอบให้นายได้ แต่ เธอถังรั่วชูทำไม่ได้”

เธอก็ไม่ได้มองเห็นถึงในสายตาที่เปล่งประกายระยิบระยับ ด้วยรังสีสะท้อนที่โหดเหี้ยมอ่ามหิตของจี้หยินเฟิง

บริษัทถึง อกรุ๊ป เขาต้องการ!

ถังรั่วชู เขาก็ต้องการ!

ได้พูดตกลงกับลูซือจิ่นไว้ ถังรั่วซูก็ได้กลับบ้านก่อนเวลาเร็วมาก

เมื่อกลับถึงบ้าน เธอก็เริ่มลงมือเตรียมอาหารเย็น

ปลาน้ำแดง มะเขือเทศผัดไข่ ผัดบวบ น้ำแกงหมูเส้นผัก เสฉวน

ก็ล้วนคืออาหารประจําบ้าน เธอเสียเวลาไปหนึ่งชั่วโมงกว่า ก็ได้เตรียมเสร็จทั้งหมดแล้ว
เมื่อซือจีนกลับถึงบ้าน ก็ได้กลิ่นหอมของอาหาร

และได้นําเสื้อคลุมทิ้งตามอำเภอใจอยู่ที่โซฟา เขามุ่งตรงมา ถึงห้องอาหาร ตอนที่มองอาหารบนโต๊ะอาหาร มุมริมฝีปาก ก็ได้โค้งขึ้นเล็กน้อย

ฝีเท้าเดินเตร่ไปทางเงาที่ยุ่งอยู่ในห้องครัว จากนั้นก็ได้กาง มือโอบกอดเอวเธอเอาไว้แล้ว

ถังรั่วชูกำลังขัดหม้อ ก็ได้ถูกคนโอบกอดเอวเอาไว้จากด้าน หลังอย่างกะทันหัน และก็ได้ตกใจจนผ้าล้างถ้วยในมือหล่นไป ถึงในอ่างซิงค์

ทันทีหลังจากนั้น ลมหายใจที่คุ้นเคยค่อยๆเข้ามา เธอได้ ปล่อยลมหายใจโล่งออกมาเบาๆฟอดหนึ่ง ในเวลาเดียวกันก็ รู้สึกว่าตัวเองโง่จนได้ ในบ้านนี้นอกจากเขาแล้วยังจะมีใครอีกล่ะ

“กลับมาแล้ว ท้องหิวไหม?” เธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

อู๋ซือจิ่นนำหัวไปฝังอยู่ที่ระหว่างคอของเธออย่างลึกซึ้ง และ ได้ดมกลิ่นหอมสดชื่นที่เป็นของเธออย่างลึกซึ้ง ท้ายสุดความ เหนื่อยล้าทั้งวันก็ได้ลดเบาลงอย่างปาฏิหาริย์แล้ว

ดวงไฟสีเหลืองบนยอดหัวได้ตกอยู่บนตัวของพวกเขาได้ก่อ บรรยากาศที่หอมเย็นอบอุ่นออกมา
นานมาก เขาถึงได้ส่งเสียงออกมาอย่างกลัดกลุ้ม “ถังรั่วชู เธอรู้ไหม?”

“อืม?”

“เมื่อกี้น้ำเสียงที่เธอถามฉันเหมือนกับภรรยาที่เพียบพร้อม เป็นอย่างมาก”

“อะไรเรียกว่าเหมือน?” ถังรั่วชูผลักเขาออกด้วยความไม่ พอใจ “เดิมทีฉันก็คือภรรยาที่เพียบพร้อม ดีไหม?”

ดูเธอที่ได้ทําปากจู๋ ด้วยท่าทางที่หอบด้วยความโกรธ ก็น่ารัก เป็นอย่างมาก

ซือจิ่นได้ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ และลูกตาดำได้ กระเพื่อมเส้นของลำแสง

เขาพูด: อืม เธอก็คือภรรยาที่เพียบพร้อมคนหนึ่ง

บนใบหน้ารูปไข่ที่น่ารักอ่อนช้อยของถังรั่วชู รอยยิ้มของ ความสวยสดงดงามก็ได้กระเพื่อมไหลล้นออกมาช้าๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ