One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 164 ฉันเป็นคนตบเอง



ตอนที่ 164 ฉันเป็นคนตบเอง

ตอนที่ 164 ฉันเป็นคนตบเอง

ลางานไปหลายวัน ถึงแม้ว่าอานหยีจะช่วยเธอแบ่งเบางานไป บ้างแล้ว แต่งานที่สะสมเอาไว้ก็มีมากเล็กน้อย

ครึ่งวันเช้ายุ่งจนไม่มีเวลาได้พัก

ในที่สุดก่อนที่จะกินมื้อเที่ยง เธอก็ทำงานส่วนมากที่สำคัญ เสร็จ

บิดคอที่เริ่มแข็งเล็กน้อย จากนั้นหันหน้าไปด้านหลังอยากจะ ถามอานหยีว่าเที่ยงนี้กินอะไร หางตากลับเห็นร่างที่คุ้นตา

เธอจ้องมองไป นัยน์ตาเผยความรู้สึกสนใจขึ้นมา คนที่หา เรื่องยุ่งยากมาแล้ว

เมื่อได้ยินว่าถังรั่วชูกลับมาทำงาน หรุเสี่ยวหลินก็ไม่สามารถ อดทนต่อความตื่นเต้นที่อยู่ในใจได้ เธออยากจะมาทำให้เธอ ขายหน้า

ทว่างานของเลขาผู้จัดการนั้นมีไม่น้อย ทำให้เธอไม่สามารถ มีเวลาว่างเว้นออกมาได้ จึงทำได้เพียงฉวยโอกาสตอนพัก เที่ยงมาหาถังรั่วชู

ถังรั่วซูและสังอานหยีส่งสายตาให้กัน นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานรอให้หรูเสี่ยวหลินเดินมาหาตน

หรูเสี่ยวหลินท่ามกลางสายตาของคนที่สนับสนุนเธอ เดินมา ช้าๆ เหมือนนกยูงที่หยิ่งทะนง

“ผู้ชายหรุ มาตรวจตราดูงานหรอคะ?” เมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้ ถังรั่วชูยิ้มแล้วเอ่ยถาม

หรุเสี่ยวหลินเชยคางขึ้น ปรายตามองดูเธอ แววตานั้นเต็มไป ด้วยความดูถูก

เธอกระตุกยิ้มเย็นชาแล้วพูดขึ้น:“คนบางคนคงคิดว่าฉันไม่มี วันมีวันนี้”

ถังรั่วชูขมวดคิ้ว ตอบกลับด้วยความเห็นด้วย:”ใช่ คิดไม่ถึง

จริงๆ”

หรุเสี่ยวหลินคิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดแบบนี้ เธอนิ่งค้างไปครู่ หนึ่ง จากนั้นก็กลับมาทำตัวปกติ

“ถังรั่วชู ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะเลือกลาออกด้วยตนเองอย่าง คนฉลาด ไม่อย่างนั้น ถ้าวันไหนถูกไล่ออกขึ้นมา คงขายหน้า มาก”

ถังรั่วชูยังคงยิ้มหวาน “คุณกำลังข่มขู่ฉันหรอคะ? ผู้ช่วยหรุ”
รองผู้จัดการถังฉลาดอยู่แล้ว รู้สึกว่ายังไงก็เป็นอย่างนั้น แหละ หรุเสี่ยวหลินยิ้มไม่สบอารมณ์

คางคกขึ้นวอ! มองดูท่าทีของหรุเสี้ยวหลินที่เป็นแบบนี้ ภายในใจของถังรั่วชูนึกถึงสี่พยางค์นี้

แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่จะมารังแกง่ายๆ

ถังรั่วซูยืนขึ้น ถึงแม้ว่าหน้าของเธอจะยังคงยิ้ม แต่ดวงตาคู่ นั้นเคล้าไปด้วยความเคร่งขรึม “ผู้ช่วยหรุ เรื่องบางเรื่องถ้วดีใจ เร็วเกินไป ระวังจะเสียใจมากกว่าเดิมนะคะ ยิ่งไปกว่านั้น

กวาดตามองดูพวกของหรุเสี่ยวหลิน เธอเชิดคางขึ้นด้วย สีหน้าหยิ่งทระนง “แม้แต่ซูเทียนอ้ายยังไม่อยู่ในสายตาของ ฉัน คิดหรอว่าฉันจะกลัวการข่มขู่ของเธอหรุเสี้ยวหลิน?”

“แก……” สีหน้าของหรุเสี่ยวหลินซีดขาว เธอถลึงตาโต กัดฟัน แล้วร้องตะโกน:ถังรั่วชู! ”

“ถังรั่วชู แกคิดว่าตัวเองสำคัญหรอ ก็แค่ผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงเอา ไว้ วันไหนที่ประธานเสิ่นเบื่อแก เขาก็จะถีบหัวส่ง ดูสิว่าแกจะ ยังจองหองแบบนี้อีกไหม”

“ผู้หญิงที่อาศัยหน้าตาของตัวเองที่สวยนิดสวยหน่อย แล้วไป ยั่วยวนผู้ชาย ยังกล้าที่จะจองหอง ฉันมีชีวิตมานานก็เลยได้ เห็นจริงๆ! “
“ดังนั้น ก็เลยไม่กลัวพวกเราไง แค่อ้าขาเปิดออก ก็มีผู้ชายมา หนุนหลังแล้ว”

ฟังคำพูดเย้ยหยันของพวกเธอ สีหน้าของถังรั่ว ยังคงไม่ เปลี่ยน เพียงแต่มองดูพวกเขาด้วยสายตาเย็นยะเยือก

พวกเขาอ้าปากและก็หุบปาก เหมือนพวกเป็ด ร้องเสียงดังจน ทำให้คนรังเกียจ

ทางด้านส่งอานหยีทนฟังไม่ได้ จึงพุ่งตัวออกมา ชี้หน้าพวก เธอแล้วด่าทอ “เป็นเพราะสันดาน ความคิดน่าเกลียดขนาดนี้ ไม่แปลกที่หน้าตาก็น่าเกลียดจนทำให้คนอยากอ้วก”

พูดจบ เธอยังเอามือมาป้องปากทำเสียงอ้วกอีกด้วย

“สังอานหยี! ”

ผู้หญิงพวกนั้นจะทนคนอื่นด่าว่าน่าเกลียดได้ยังไง พวกเธอ จะพุ่งตัวมาฉีกร่างลังอานหยี

เมื่อเห็นแบบนั้น ถังรั่วซูจึงก้าวเท้าใหญ่ๆหนึ่งก้าว ป้องส่งอาน หยีไว้ด้านหลังของตน “พวกเธอกล้าลงไม้ลงมือไม้ลงมือ วันนี้ ฉันจะทำให้พวกเธอไม่สามารถออกไปจากแผนกสื่อ”

เธอถลึงตามองดูพวกเธอ ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยรังสีบีบบังคับ ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นในเวลานี้เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็งในเดือนสิบสองในฤดูหนาว ทำให้คนรู้สึกว่า ความเย็นยะเยือกนี้แผ่มาจากเท้าขึ้นไปด้านบนร่างกาย ทําให้ หรูเสี่ยวหลินตกใจจนไม่กล้าต่อว่าพวกเธอแม้แต่คําเดียว

พูดตามความเป็นจริง สังอานหยีเองก็ตกใจกับสีหน้าของถัง รั่วชู ชูชูที่เธอรู้จักต่อให้เวลาโกรธ ก็ไม่น่ากลัวขนาดนี้

ทำให้เห็นว่า พวกหรุเสี่ยวหลินทำเกินไปแค่ไหน

“นอกจากพวกเธอจะเอาคำพูดพวกนี้มาว่าฉันแล้ว ยังทำอะไร เป็นอีกบ้าง?” ถังรั่วชูกระตุกมุมปากแล้วยิ้มเยาะ แววตานั้น แผ่ความเย็นยะเยือก “พวกเธออยากจะยั่วยวนผู้ชาย แต่พวก ผู้ชายเห็นพวกเธอก็อยากจะอ้วกแล้ว ต่อให้พวกเธออ้าขาออก มาด้วยตนเอง พวกเขาก็แค่น่ารังเกียจอยากจะอ้วกเท่านั้น”

บนโลกใบนี้คำพูดคือสิ่งที่ทำร้ายจิตใจคนที่สุดเสมอ

เมื่อพูดจบ พวกหรุเสี่ยวหลินก็โมโหจนขาดสติ พุ่งตัวมาจิกหัว ของถังรั่วชู จากนั้นก็ตะลุมบอนตบตีกัน

“พวกแกทำอะไร?”

เมื่อเห็นถังรั่วชู ส้งอานหยีก็เข้าไปร่วมตบตีอย่างไม่ลังเล แม้แต่น้อย ทุกอย่างชุลมุนวุ่นวาย

ในตอนหลังเมื่อหวนคิดถึงเรื่องนี้ ถังรั่วชูพูดด้วยความรู้สึกเศร้าและรู้สึกโชคดี โชคดีที่อานหยีเรียนเทควันโดตั้งแต่ ประถม ไม่อย่างนั้นฉันคงจะถูกผู้หญิงบ้าพวกนั้นฉีกเป็นชิ้นๆ แน่”

ไม่ผิด เพราะอานหยีมีพื้นฐานเทควันโด ทำให้สภาพของพวก หรุเสี่ยวหลินยอดเยี่ยมมากจริงๆ

“พวกเธอเห็นบริษัทเป็นอะไร?”

ซูเทียนอ้ายตบโต๊ะอย่างแรง แล้วร้องตะโกนขึ้น

ถังรั่วชูหันไปมองสบตากับสั่งอานหยี จากนั้นทั้งสองก็เบ้ปาก มองดูซูเทียนอ้ายด้วยความดูถูก

ซูเทียนอ้ายมองเห็นท่าทีเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ของพวกเธอทั้ง สองคน ตาลุกวาวขึ้นมาในทันที แล้วเดินสาวเท้าใหญ่ๆไปตรง หน้าหรุเสี่ยวหลิน “เสี่ยวหรุ เธอบอกมาสิ ว่ามันเกิดเรื่องอะไร ขึ้นกันแน่?

หรุเสี่ยวหลินในเวลานี้ไม่มีความจองหองเหมือนตอนแรก ไม่ เพียงแต่ผมเผ้าและเสื้อผ้าที่ยุ่งไปหมด แต่ยังมีขอบตาดำคล้ำ ด้วย ดูแล้วน่าอนาถและน่าตลกมาก

“พู่” สังอานหยีกลั้นหัวเราะไม่อยู่
ทันใดนั้น ก็มีสายตาของเกรี้ยวกราดของซูเทียนอ้ายมอง มา พร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นของหรูเสี่ยว หลินที่มองมายังพวกเธอ

ส่งอานหยีกระแอมไอเสียงเบา คลายยิ้มแล้วพูดขอโทษ “ต้อง ขอโทษด้วยนะคะ ฉันคิดถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ ก็เลยกลั้น เอาไว้ไม่อยู่ พวกคุณพูดต่อเลยค่ะ พูดต่อเย

ซูเทียนอ้ายมองไปที่เธออย่างเกรี้ยวกราด “คนบางคนควรจะ รู้ว่าตัวเองเป็นใคร อย่านึกว่ามีคนคอยหนุนหลัง แล้วจะสร้าง เรื่องได้

จากนั้น เธอก็พูดกับหรุเสี่ยวหลิน:”เสี่ยวหรุ เล่าเรื่องทุกอย่าง ให้ฉันฟัง”

เธอส่งสายตาแอบแฝงไปให้หรุเสี่ยวหลิน หรุเสี่ยวหลินรับ รู้ จากนั้นเบ้ปากในทันที แล้วร้องไห้เสียงดัง “ผู้จัดการซู คุณ ต้องให้ความยุติธรรมกับฉันด้วย พอฉันได้ยินว่ารองผู้จัดการ ถังกลับมาทำงาน ฉันก็เลยอยากมาขอโทษเธอเรื่องเมื่อคราว ที่แล้ว แต่เธอกลับไม่ยอมให้อภัยฉัน เราก็เลยมีปากเสียงกัน แล้วเธอก็ทําร้ายตบตีฉันค่ะ”

ถังรั่วชู: ..….…….

สั่งอานหยี: .………….”

นับถือหรุเสี่ยวหลินจริงๆ ที่บิดเบือนความจริงได้เก่งขนาดนี้ทำไมไม่ไปเป็นคนเขียนบท?

“คุณดูสิคะผู้จัดการซู “หรุเสี่ยวหลินเสยผมขึ้น เผยให้เห็น ขอบตาดำบนใบหน้าที่ชัดเจน “พวกเธอตบตีฉันจนกลายเป็น แบบนี้”

ซูเทียนอ้ายขมวดคิ้ว หันหน้าไปอีกทาง แล้วพูดเสียงเข้ม:”ถัง รั่วชู ส่งอานหยี นี่คือสิ่งที่พวกเธอตบหรอ?”

ถังรั่วชูพูดยอมรีบอย่างนิ่งเฉย :“ใช่ค่ะ ฉันตบเอง”

“ฉันก็เป็นคนตบด้วย” สั่งอานหยีพูดเสริม

ซูเทียนอ้ายหรี่ตาลง “ตอนแรกที่พวกเธอเข้ามาในบริษัทสือรุ่ ยก็น่าจะเคยอ่านกฎของบริษัทแล้ว ในนั้นมีกฎข้อหนึ่งเขียน เอาไว้ว่า หากทะเลาะวิวาทในบริษัท ก็ต้องไล่ออก?”

“จําไม่ได้แล้วค่ะ” ถังรั่วชูพูดออกไปในทันที จากนั้นหัวเราะ ในลำคอ “ต่อให้จำได้แล้วจะทำไม ถึงยังไงก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอซู เทียนอ้ายพูดแล้วต้องทําตาม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ