One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 212 ไม่ได้เข้าใกล้ผู้หญิงนานแล้ว เลยร้อนรนเหรอ



ตอนที่ 212 ไม่ได้เข้าใกล้ผู้หญิงนานแล้ว เลยร้อนรนเหรอ

ตอนที่ 212 ไม่ได้เข้าใกล้ผู้หญิงนานแล้ว เลยร้อนรนเหรอ

“เลว ไอ้คนเลวทราม..……..

ยิ่งเซียวเซียวกัดฟันกรอดๆใช้แรงเฉือนสเต๊กเนื้อที่อยู่ในจาน เสียงมีดกระทบกับจานดังแสบแก้วหู

สังอานหยีนั่งขมวดคิ้วอยู่ตรงข้ามเธอ รู้สึกอึดอัดจนต้องยื่น มือออกไปหยุดการกระทำของเธอ “เซียวเซียว เธอช่วยคิดถึง ความรู้สึกของฉันบ้างได้ไหม”

เธอแทบจะถูกเสียงนั้นทำให้เป็นบ้าอยู่แล้ว

ยิ่งเซียวเซียวยิ้มเจื่อนๆ “ขอโทษนะ ฉันลืมไป

พูดจบ เธอก็วางมีดกับส้อมลง ดื่มน้ำผลไม้อีกหนึ่งเพื่อปรับ สภาพจิตใจ ก่อนจะพ่อต่อว่า “อานหยี เธอว่าไหมทำไมผู้ชาย ถึงได้เลวขนาดนี้นะ”

“ถึงจะเลวแต่เธอก็ชอบเขาไม่ใช่เหรอ” ส่งอานหยีก้มหน้า

มนําเสียงเบา

ยิ่งเซียวเซียวได้ยินไม่ชัด “อานหยี เธอพูดอะไรน่ะ เสียงเบา ซะขนาดนั้น”
ส่งอานหยีเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ผู้ชายน่ะ ก็ มีช่วงเวลาที่ชอบทำตัวเลวๆทั้งนั้นแหละ เธอก็ไม่ต้องไปถือสา อะไรเขาหรอก”

ยิ่งเซียวเซียว มเย็น “ฉันไม่ได้ถือสา แต่ฉันจะเอาเรื่องเขาให้

ถึงที่สุด” กล้ามาจับหน้าอกเธอ เธอจะทำให้เขารู้ว่าหน้าอกเธอไม่ใช่

อะไรที่จะจับกันได้ง่ายๆ

ส่งอานหยีกุมขมับ แล้วแอบทอดถอนใจ คู่นี้ช่างเป็นคู่รักคู่ แค้นกันจริงๆ

นี่เป็นเรื่องภายในระหว่างเซียวเซียวกับลูซึ่งเหยา ไม่ใช่เรื่อง ที่คนนอกอย่างเธอจะเข้าไปยุ่งได้

ดังนั้น…

“เลิกงานแล้ว พวกเราไปเยี่ยมชูชูกันเถอะ วันนี้หล่อนออก จากโรงพยาบาลแล้ว” ส่งอานหยีเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

เมื่อเธอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ยิ่งเซียวเซียวถึงได้คิดเรื่องสำคัญ เรื่องนี้ขึ้นมาได้

“บ้าจริง ฉันถูกล้ซึ่งเหยานั่นทำให้โมโห จนลืมเรื่องนี้ไปซะ สนิทเลย” เมื่อคิดถึงสู้ซึ่งเหยาขึ้นมา ยิ่งเซียวเซียวก็ไม่อาจ สงบลงได้
ส้งอานหยีมึนตึ๊บไปหมด “นี่เธอได้รับอิทธิพลจากผู้ซึ่งเหยา มากเกินไปรึเปล่า”

“งั้นเหรอ” ยิ่งเซียวเซียวขมวดคิ้ว จากนั้นก็โบกไม้โบกมือ “ไม่ พูดถึงคนน่ารังเกียจนั่นแล้ว พวกเรามาปรึกษากันดีกว่าว่าจะ ซื้ออะไรไปให้ชูชู”

สั่งอานหยีครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็ถามออกมา “เธออยาก จะให้อะไร

ยิ่งเซียวเซียวเอียงคอครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็เผยรอย ยิ้มลุ่มลึกออกมา “แน่นอนว่าต้องเป็นของที่ช่วยกระชับความ สัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองสามีภรรยาอยู่แล้ว”

สังอานหยีชะงักไปก่อน จากนั้นถึงค่อยเข้าใจความหมายใน คําพูดของเธอ หีหี” ส่ายหน้า “เขียวเซียว เธอไม่กลัวว่าให้ไป แล้ว จะทำให้ชูชูโกรธเข้าเหรอ”

“หล่อนจะโกรธเรื่องอะไร นี่ฉันหวังดีกับหล่อนนะ เข้าใจไหม ยิ่งเซียวเซียวจิ้มสเต๊กชิ้นหนึ่งขึ้นมา หรี่ตายิ้ม “อิอิ” หัวเราะ สองที “ถ้าหลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของ พวกเขาแน่นแฟ้นขึ้น จะต้องนึกขอบคุณฉันแน่”

ส่งอานหยือดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบน นี่เธอจะมั่นใจในตัว เองเกินไปหรือเปล่า
“พี่รองที่รัก นี่พี่ไม่ได้เข้าใกล้ผู้หญิงนานแล้ว เลยร้อนรน เหรอ” เสิ่นโม่เฟียนั่งมองผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้า สนุกสนาน

พี่รองของเขาคนนี้ถึงภายนอกบางทีจะดูไม่ใช่คนจริงจังอะไร แต่แท้จริงแล้วในใจนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างจริงจัง แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีวันหนึ่งที่เขาไม่จริงจังขนาดนี้ ถึงขั้นที่

ภายในใจเกิดความคิด น-กามขึ้นมา แล้วไปจับยิ่งเซียวเชียว

ช่างเป็นการทําลายล้างมุมมองที่มีต่อเขาจริงๆ

ลูซึ่งเหยาสีหน้าเคร่งตึง ยกมือขึ้นลูบแก้มที่ยังเจ็บอยู่ แล้ว ถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ “นายว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ ลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้”

เสิ่นโม่เฟยกลอกตามองบนใส่เขาหนึ่งที “นี่นายพูดจาไร้สาระ อะไรของนาย นายไปจับของเขาทั้งสองครั้ง เขาจะไม่ลงมือ โหดเหี้ยมได้ยังไง หล่อนไม่ตัดของนายก็บุญแค่ไหนแล้ว”

ลูซึ่งเหยาลูบแก้มตัวเอง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทำอะไรไม่ถูก “ฉันก็ทำเพื่อพิสูจน์ให้เห็นความแตกต่างระหว่างกระทำกับถูก กระทําไม่ใช่หรือไง ไม่งั้นฉันจะจับครั้งที่สองทําไม

เสิ่นโม่เฟยมึนตึ้บ “ฉันล่ะนับถือนายจริงๆ พี่รองของฉันเอ๋ย”
เขาลุกขึ้นเดินไปตบบ่าของผู้ซึ่งเหยาแรงๆทีหนึ่ง “จับก็จับไป แล้ว ตบก็ตบไปแล้ว ระหว่างพวกพี่ก็ถือว่าหายกันแล้ว พี่ก็เลิก คิดได้แล้ว เลิกงานแล้วพวกเราไปเยี่ยมพี่สะใภ้กัน”

“ไม่เอา” ผู้ซึ่งเหยาส่ายหัว “ยิ่งเซียวเซียวจะต้องไปด้วยแน่ๆ เดี๋ยวพวกเราเจอหน้ากันจะต้องกัดกันอีกแน่ ฉันไม่อยากไป สร้างปัญหาให้พี่สะใภ้

“อ๋อ” เสิ่นโม่เฟยขมวดคิ้ว สายตาปรากฏแววหยอกล้อขึ้น “ผมว่าพี่กลัวยิ่งเซียวเซียวแล้วสินะ”

“กลัวหล่อน?” ลูซึ่งเหยาร้อนรนขึ้นมา “ฉันไม่ได้กลัวหล่อนสัก หน่อย แค่ไม่อยากสร้างปัญหาให้พี่สะใภ้ต่างหาก เข้าใจไหม”

เห็นเขาร้อนรนจนตาเบิกโต หางตาของเสิ่นโม่เฟยก็กระตุก เล็กน้อย รีบร้อนพูดคำปลอบโยนขึ้น “เข้าใจ เข้าใจแล้ว ผม เข้าใจหมดแหละ”

“แบบนี้ค่อยใช้ได้หน่อย” ลูซึ่งเหยาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

ปฏิกิริยาทั้งหมดของเขาบ่งบอกว่าถูกคนจี้จุดเข้าแล้ว แต่เขา กลับไม่ยอมเชื่อ

เสิ่นโม่เฟยแอบถอนให้ใจเงียบๆ เมื่อต้องเจอเรื่องผู้หญิงเข้า ไอคิวของผู้ชายก็ต่ำลงทั้งนั้นแหละ
อย่างเช่นตัวเขาเอง

เมื่อคิดถึงผู้หญิงที่ปฏิเสธเขาอย่างโหดเหี้ยม ใจเขาก็ปวด ร้าวขึ้นมา

เมื่อเห็นสภาพน่าอดสูของลซึ่งเหยา ก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า” มันช่างเวิ้งว้างเหลือเกิน

“พี่รอง เดี๋ยวคืนนี้พวกเราไม่ต้องไปเยี่ยมพี่สะใภ้แล้ว เดี่ยว ผลเลี้ยงเหล้าพี่เอง

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผู้ซึ่งเหยาก็เงยหน้าขึ้นมองเขา ในแววตา เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “นี่ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากทิศ ตะวันตกแล้วเหรอ”

เพราะน้องชายลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนี้ร่างกายไม่ค่อยแข็ง แรง คุณปู่เองก็เข้มงวดกับเขามาก เลยมีโอกาสน้อยมากที่จะ ดื่มเหล้า แถมยังคออ่อนมาก นี่ชวนเขาไปดื่มเหล้ากะทันหัน ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดอะไรใช่ไหม

เสิ่นโม่เฟยจะไม่รู้ความคิดของเขาได้ยังไง เลยพูดขึ้นมาว่า “ทําไม จะไปไหม ผ่านช่วงเวลานี้ไปก็จะไม่มีร้านนี้แล้วนะ”

“ไปสิ ทำไมจะไม่ไป” ผู้ซึ่งเหยาไม่อยากจะพลาดโอกาสนี้ไป หรอก เพียงแต่…

“ทำไมจู่ๆนายถึงไม่อยากไปเยี่ยมพี่สะใภ้ขึ้นมาล่ะ” สู้ซึ่งเหมาถามอย่างสงสัย

แน่นอนว่าเพราะไม่อยากไปเจอส่งอานหยี

แต่คำตอบนี้เขาไม่มีวันบอกเขาแน่ เขาเลยยิ้มแล้วตอบไปว่า

“ไปเป็นเพื่อนพี่ไง ไม่อย่างนั้น คงเบื่อแย่

ลูซึ่งเหยา “หึหึ” ส่ายหัวไปมา “คิดไม่ถึงเลยว่านายจะมีด้านที่ เอาใจใส่คนอื่นเป็นแบบนี้”

เสิ่นโม่เฟยหัวเราะ “พี่พูดแบบนี้ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้ว”

ลูซึ่งเหยาอดขำไม่ได้ “ใครให้นายไม่รู้จักเอาใจใส่คนอื่นมา

ตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ” เสิ่นโม่เฟยห่อไหล่ สีหน้าหดหู่ “พวกพี่รังแกผมตั้งแต่เด็ก จะ

ให้ผมเอาใจใส่เป็นได้ยังไง”

เมื่อคิดถึงความหลังอันสนุกสนานเหล่านั้น ทั้งสองคนก็อด

หัวเราะออกมาไม่ได้

“กลับไปไม่ได้แล้ว” เสิ่นโม่เฟยทอดถอนใจออกมา

วันเวลาที่ใสซื่อและอิสระเหล่านั้นมันกลับไปไม่ได้อีกแล้ว

ในแววตาของลูซึ่งเหยาก็ปรากฏความคะนึง “ใช่ กลับไปไม่ได้แล้ว”

อากาศเงียบสงบลง พวกเขานั่งแยกกันบนโซฟาคนละฝั่ง ต่าง ก็กำลังหวนคิดถึงความหลังอันสวยงาม

ถังรั่วซูออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ลูซือจิ่นตั้งใจแบ่งเวลาว่างออกไปรีบเธอที่โรงพยาบาล

“เก็บของครบเรียบร้อยหรือยัง” ซือจิ๋นเห็นมู่หลิงถือถุง สัมภาระ เลยเอ่ยปากถามขึ้น

“ครับ คุณผู้หญิงเป็นคนเก็บเองกับมือ” มู่หลิงตอบกลับอย่าง

นอบน้อม

เมื่อได้ยินแบบนั้น ลูซือจิ่นก็ขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นมองถังรั่วชู ที่กำลังเดินมา ก็บอกว่าให้มู่หลิงเป็นคนเก็บของไม่ใช่หรือไง ทําไมถึงลงมือทําเองล่ะ”

ถังรั่วชูมองมู่หลิงทีหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา “มู่หลิงเป็นผู้ชาย ไม่ค่อยสะดวก ฉันเลยจัดการด้วยตัวเอง”

เมื่อเธอพูดแบบนั้น ลูซือจิ่นถึงได้คิดถึงปัญหานี้ขึ้นมาได้ เลย อดไม่ได้ที่จะทําสีหน้าเลิ่กลั่กออกมา “ฉันคิดไม่รอบคอบเอง”

ถังรั่วชูยิ้มออกมา ก่อนจะเดินไปคล้องแขนเขา เอียงคอม องเขา เถอะ” แล้วพูดอย่างขี้เล่นว่า “กลับบ้าน พวกเรากลับบ้านกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ