One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่148 ทําร้ายโดยตั้งใจ



ตอนที่148 ทําร้ายโดยตั้งใจ

ตอนที่148 ทำร้ายโดยตั้งใจ

เป็นเพราะเขาดื่มแอลกอฮอล์ ลูซือจิ่นจึงโทรเรียกคนขับรถ เขาและถังรั่วชูนั่งบริเวณเบาะหลัง

เมื่อขึ้นรถ เขาเอนกายลงพิงเบาะและหลับตาลง

เมื่อเห็นเช่นนี้ ถังรั่วชูจึงถามด้วยความเป็นกังวล “ไม่สบายเห

รอ?”

ลูซือจิ่นหันศีรษะมามองและหัวเราะเบาๆ “เปล่า แค่เหนื่อยนิด หน่อย”

ในช่วงเวลานี้เขาต้องจัดการกับเรื่องของบริษัทหวางถึงและ ยังมีเรื่องเล็กๆน้อยๆในอุตสาหกรรมของตระกูลสู้อีก คนเดียว สองงานก็เลยเหนื่อยหน่อย

ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ถังรั่วชูยื่นมือออกมา ด้วยความทุกข์ใจและช่วยเขาปวดขมับ

ดวงตาสีดำใสของลูซือจิ่นจ้องมองใบหน้าที่สวยงามของเธอ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

“คุณหลับตาลงเถอะ เมื่อถึงแล้วฉันจะเรียก”
ถังรั่วชูกล่าวเบาๆ นิ้วของเธอนั้นเคลื่อนไหวด้วยความอ่อน โยนราวกับว่ากำลังเปิดเพลงที่ชวนง่วงนอน

แค่เพียงอยู่ต่อหน้าเธอ เขาก็แสดงถึงความอ่อนแอได้อย่าง

ไม่อาย

อาการง่วงนอนค่อยๆคืบคลานเข้ามา ในการมองเห็นใบหน้า

ของเธอก็ค่อยๆพร่ามัว

และเขาก็หลับไป

ถังรั่วชูขอให้คนขับขับรถช้าลง เธอจ้องมองเขาอย่างลึกซึ้ง มือที่กำลังขยับอยู่ก็ค่อยๆหยุดลง ปลายนิ้วลูบไล้ไปตามโครง หน้าของเขาและในที่สุดก็หยุดอยู่บนคิ้วของเขาลูบวนไปมา

เขา คนที่ประสบความสำเร็จมีทุกอย่างเพียบพร้อม ยากที่จะ เข้าถึง แต่กลับมาแต่งงานกับเธอ

ถ้าวันนั้นเธอไม่เห็นว่าจี้หยินเฟิงนั้นทรยศ ไม่ได้บังเอิญพบ เขา ไม่ได้ได้ยินคำพูดของมู่หลิง หากไม่มีความกล้าที่ในตอน นั้น บางที…

ตอนนี้พวกเขาอาจเป็นเพียงคนแปลกหน้า

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่ใจจะสั่นไหว
เธอก้มหน้าลง ความอ่อนโยนเต็มไปในสายตาของเธอ ริม ฝีปากยกยิ้มและรู้สึกดีใจมากที่ได้พบเขา

ทิวทัศน์นอกหน้าต่างสว่างวาบขึ้น ความมืดกระจายไปตาม

ท้องถนน

ตกดึก จู่ๆโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นในห้องนอนที่เงียบสงบ

สู้ซือจิ่นที่หลับใหลมาตลอดก็ตื่นขึ้น เขาหันหน้าไปมองหญิง สาวที่กำลังหลับใหลอยู่ในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็พลิกตัว และลุกจากเตียง คว้าโทรศัพท์ที่ดังอยู่บนโต๊ะข้างเตียงแล้ว เดินออกไป

“ถังรั่วชู ช่วยฉันด้วย!

ทันทีที่เขารับสาย ก็มีเสียงหญิงสาวร้องห่มร้องไห้ดังมาจาก ปลายสาย สู้ซือจิ่นขมวดคิ้วและมองดูชื่อจากจอโทรศัพท์ นั่น คือสั่งอานหยี

“ฉันไม่ใช่รั่ว ”

เสียงร้องนั่นหยุดลงแล้วเสียงที่ตื่นตระหนกก็ดังขึ้น “ขอโทษ

ขอโทษ…..
อู๋ซือจิ่นขมวดคิ้วและถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “เกิดอะไรขึ้น?”

เสียงสะอื้นดังอยู่เป็นระยะ สู้ซือจิ่นนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้น ถ้าอีก ฝ่ายนั้นไม่ใช่เพื่อนรักของรั่วชู เขาผู้ที่ถูกปลุกจะวางสายใน ทันทีแทนที่จะรอคำตอบอย่างใจเย็นเช่นนี้

ผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงของสังอานหยีดังขึ้นอีกครั้ง “ประธานสู้ ได้โปรดช่วยฉันด้วย…

เสิ่นโม่เฟยหาวเปลือกตาบนและล่างของเขากำลังจะติดกัน แต่ตำรวจฝั่งตรงข้ามก็ยังคงพูดอย่างต่อเนื่อง

เขาอยากจะตะโกนร้องดังๆหลายๆหน ทําไมเวลาที่ควรจะ ต้องนอนเขาถึงต้องมายังสถานีตำรวจเพื่อทําเรื่องให้กับพี่ชาย ด้วย?

ครึ่งชั่วโมงที่แล้วตอนที่เขายังหลับอยู่ เขาถูกปลุกด้วยเสียง เรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือ เขาอยากจะสบถ าดังๆแต่เมื่อ เห็นสายที่โทรเข้ามา คำด่ามากมายก็กลับคืนลงลําคอไป

“ไปสถานีตำรวจประกันตัวคนออกมา”

เขาง่วงมากจนอยากจะปฏิเสธ แต่ก็ไม่กล้า นั่นเป็นเหตุผลที่เขาต้องนั่งอยู่ตรงนี้อย่างขมขื่น ฟังคำพูดที่ร่ายยาวของตำรวจ อยู่เป็นเวลานาน

แม้ว่าเขาจะอยากนอนมากแต่เขาก็ยังคงฟังเรื่องราวคร่าวๆ

ส่งอานหยี เพื่อนที่ดีที่สุดของพี่สะใภ้ จงใจทำร้ายผู้อื่นทำร้าย จนคนเจ็บต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ในขณะที่ส่งอานหยีนั้น ถูกส่งตัวเข้าสถานีตำรวจ

ตามที่สมาชิกในครอบครัวบอกกล่าว ส่งอานหยีจะไม่ถูก ปล่อยตัวไปไม่ว่าเธอจะใช้เงินจ่ายเท่าไหร่เธอก็จะถูกส่งเข้า คุก

“คุณชายเส็น พวกเราเองก็หมดหนทาง คุณสั่งจงใจทําร้าย ผู้อื่นโดยเจตนา เป็นการยากที่เราจะไม่ทำตามกฎหมายบ้าน เมือง”

ตารวจที่จัดการคดีพูดอย่างหมดหนทาง

เมื่อได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของเสิ่นโม่เฟยก็มืดมนลง สายตา ของเขาสว่างไสวราวกับว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้มีท่าทางที่ง่วงนอน เลย

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาค่อยๆพูดว่า “ก่อนที่จะมีการ ระบุอาการบาดเจ็บ คุณกักขังเธอไว้ด้วยเหตุผลอะไร? จงใจ ทำร้ายผู้คนอื่นโดยเจตนางั้นเหรอ?”
ตำรวจเปิดบันทึกคำสารภาพบนโต๊ะและอ่านเนื้อความอย่าง ชัดเจน “คุณหยางผู้เสียหายบอกว่าเธอทะเลาะกับคุณส่งต่อ มาเธอโกรธมากจนทุบแก้วข้างกายเธอและทุบหัวเธอ”

“ทุบ?” เสิ่นโม่เฟยกล่าวเยาะเย้ย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วย ความเย้ยหยัน “ในเมื่อหัวแตก จะมาให้คำบันทึกให้การได้ อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งแบบนี้เหรอ? อาการมันต้องโคม่าไปแล้ว

ตำรวจยิ้มอย่างเก้ๆกังๆ “คุณหยางนั้นมีอาการหน้าผากแตก และเลือดไหลออกมา”

อาการบาดเจ็บเล็กน้อยนั้นยังกล้าที่จะมาแจ้งตำรวจ?!

เสิ่นโม่เฟยรู้สึกว่ามันน่าขำ

เสิ่นโม่เฟยหันศีรษะและมองไปที่ร่างบางๆซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกล เธอจ้องมองไปยังตรงหน้าของเธอ ดวงตาของเธอว่างเปล่า และไม่มีร่องรอยของจ้องมองอะไรอย่างชัดเจน

มีความโศกเศร้ามากมายอยู่รอบกายเธอสามารถทำให้คน หดหู่ใจไปด้วย

พี่สะใภ้มีเพื่อนแบบนี้ได้อย่างไร?

เสิ่นโม่เฟยกระตุกริมฝีปากและพูดกับตำรวจที่จัดการคดี “ฉันขอประกันตัวเธอออกมา หากเหยื่อต้องการแจ้งความจริงๆให้เธอติดต่อฉัน”

เขาพูดพลางหยิบนามบัตรออกจากกระเป๋าและวางไว้บนโต๊ะ

แต่ว่า….” สิ่งที่ตำรวจต้องการจะบอกคือเหยื่อไม่ยอมให้คุณ ส่งได้รับการประกันตัว แต่เมื่อเขาเหลือบไปเห็นข้อความใน นามบัตร สีหน้าของเขาก็ตกใจจากนั้นดวงตาของเขาก็เบิก กว้างขึ้นแทบไม่อยากจะเชื่อ

“คุณคือคุณชายเส็นโม่เฟย?”

คนที่มีอำนาจในสังคมนี้มักจะได้เปรียบเสมอ ตัวอย่างเช่น หลังจากที่ได้รู้ตัวตนของเขาแล้วตำรวจก็รีบนำตัวส่งอานหยี ออกจากคุกอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณ!”

นี่เป็นประโยคแรกที่สังอานหยีพูดกับเขา

เสิ่นโม่เฟยเลิกคิ้วขึ้น “ไม่เป็นไร ฉันแค่ช่วยพี่สะใภ้ของฉัน เท่านั้น”

หลังจากนั้นส่งอานหยีก็หันศีรษะของเธอออกไปมองนอก หน้าต่าง เสินโน่เฟยก็เหลือบมองไปด้านข้างของเธอ เขาเลิก คิ้วขึ้นเล็กน้อยและไม่พูดอะไร
บนเส้นทางรถขับไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นเป็นเวลานานเสียงผู้

หญิงที่นุ่มนวลก็ดังขึ้นในรถที่เงียบสงบ

“ประธานเส็น คุณพอมีเวลาไหม?”

คำถามที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ เสิ่นโม่เฟยตกตะลึง จากนั้นเขาก็ตอบสนองและถามกลับว่า “มีอะไรหรือเปล่า?”

“ฉันจะเลี้ยงเครื่องดื่มคุณ”

ส่งอานหยีหันกลับมามองเขา

เสิ่นโม่เฟยมองไปที่เธออย่างสับสน แสงในรถนั้นค่อนข้าง สลัว ดวงตาของเธอนั้นสวยมาก ไม่มีความโศกเศร้าที่อยู่ใน สถานที่ตำรวจอีกแล้ว สวยมากจริงๆ

ใจของเขาอดสั่นไหวไม่ได้ เขารีบพยักหน้าในทันที “โอเค”

เมื่อรู้ว่าเกิดเรื่องกับอานหยี จิตใจของถังรั่วชูนั้นแทบจะ กระโดดออกมา จากนั้นเธอก็รู้ว่าเสิ่นโม่เฟยได้จัดการเรื่องนี้ แล้วเรียบร้อย จิตใจของเธอถึงกลับสู่สภาพปกติ

“ขอบคุณซือจิน”
ดีที่มีเขาอยู่ ไม่เช่นนั้นอานหยีอาจจะยังอยู่ในคุกที่สถานี

ตำรวจ

“กับฉันไม่จำเป็นต้องเกรงใจ” คำขอบคุณของเธอทำให้ผู้ซื้อ จิ่นรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

ถังรั่วชูสังเกตเห็นดังนั้นเธอจึงยิ้ม “ฉันขอบคุณคุณแทนอาน หยี ฉันน่ะไม่เกรงใจคุณหรอก”

ในขณะที่เธอพูดเธอเดินไป ยืนเขย่งเท้าและจูบริมฝีปากของ เขาเบาๆ “ฉันดีใจมากที่คุณเป็นห่วงเพื่อนของฉัน”

เขาเลิกคิ้วขึ้น สายตาเจ้าเล่ห์ เขาจับเอวเธอไว้และกอดเธอไว้ แน่น

ริมฝีปากบางเม้ม “แบบนี้ยังไม่พอ”

ก่อนที่เขาจะพูดจบเขาจับริมฝีปากสีแดงของเธอและพุ่งเข้า โจมตีด้วยความร้อนแรง

ถังรั่วชูรู้สึกว่าเธอเป็นเหมือนเรือลำเล็กๆที่ลอยอยู่ในทะเล ฝน กระหน่ำทำให้เธอไม่สามารถต้านทานได้และในที่สุดเธอก็จม อยู่ใต้คลื่นที่บ้าคลั่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ