ตอนที่144 ประสบการณ์ทางความรู้สึกที่ไม่เคยพบเจอ
ตอนที่144 ประสบการณ์ทางความรู้สึกที่ไม่เคยพบเจอ
คุณชายน้อยแห่งตระกูลเสิ่นกลายเป็นประธานคนใหม่ของบ ริษัทสือรุ่ย และในขณะเดียวกันก็กลายเป็นเจ้าของบริษัทสือรุ่ ย ข่าวดังกล่าวทำให้ตระกูลจี้รู้สึกร้อนใจ
“เทียนอ้าย เสิ่นโม่เฟยนี่หมายความว่าอย่างไร?” จี้หวินจื่อมี สีหน้าเคร่งเครียด สายตาที่เฉียบแหลมหันไปมองซูเทียนอ้าย ที่อยู่ด้านข้าง
“ในปัจจุบันฉันนั้นไม่รู้ความตั้งใจในการครอบครองสือรุ่ย เลย…แต่..” ซูเทียนอ้ายหยุดนิ่งไป มีประกายที่คมชัดในดวงตา ของเธอ “ฉันเดาว่าเรื่องนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับถังรั่วชู”
“เป็นไปไม่ได้!” จี้หยินเฟิงปฏิเสธคำพูดของซูเทียนอ้าย
“สถานะของถังรั่วชูคืออะไร? เธอจะไปมีความสัมพันธ์กับเสิ่น โม่เฟยได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็น ไปได้”
จี้หยินเฟิงพูดคำว่า เป็นไปไม่ได้ ซ้ำๆเหมือนกับว่าเธอเองก็ไม่
มั่นใจ
“ก็จริง..ถังรั่วชูเธอจะไปมีความสัมพันธ์กับตระกูลเสิ่นได้อย่างไร”
กู้รั่วรั่วเห็นด้วย แม้ว่าเธอจะพูดแบบนั้นแต่ภายในใจเธอก็ รู้สีกผิดแปลก
ถังรั่วชูมีชายที่แข็งแกร่งอยู่ข้างกายแล้ว หากว่าเพิ่มเสิ่นโม่ เฟยเข้าไปอีกคน จากนั้นเธอและความปรารถนาของตระกูลจิ้ ที่จะจัดการกับถังรั่วชูก็จะกลายเป็นความฝันที่โง่เง่า
ความคิดของซูเทียนอ้ายแตกต่างจากพวกเขา “ทําไมจะเป็น ไปไม่ได้? เดิมทีฉันต้องการให้อดีตประธานจัดการถังรั่วชู ถ้า หากว่าเสิ่นโม่เฟยไม่ปรากฏตัวขึ้นมา ฉันว่าตอนนี้ถังรั่วชูคง ไม่มีหน้าอยู่ในบริษัทสือรุ่ยแล้ว”
เมื่อกู้รั่วรั่วได้ยินเช่นนั้นเขากัดฟันอย่างเกลียดชัง สุดท้าย แล้วถังรั่วซูนั้นโชคเข้าข้างหรือว่าจะมีคนคอยแอบช่วยเธออยู่ กันแน่?”
“หยินเฟิง ชายที่อยู่ข้างกายถังรั่วชูนั้นตรวจสอบได้ความว่า อย่างไร?”
จี้หวินจื่อเริ่มถาม
“ยังไม่มีอะไรคืบหน้า” จี้หยินเฟิงขมวดคิ้วแน่น “คนคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในโลกนี้ อย่างน้อยก็ควรจะมีเบาะแสอะไรบ้าง แต่ ชายคนนั้นกลับไม่มีอะไรเลย แปลกมาก
“ผู้ชายคนไหน?” ซูเทียนอ้ายไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไร
“พี่ ก็ชายที่อยู่ข้างกายถังรั่วซูไง ชายที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว” กู้รั่วรั่วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวเมื่อนึกถึงผู้ชายคนนั้น
ซูเทียนอ้ายมองดูพวกเขาแต่ละคนด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตลก “เหมือนกับที่หยินเฟิงกล่าว สถานะ ของถังรั่วชูคืออะไร ชายที่อยู่ข้างๆเธอมีอำนาจมากแค่ไหน เก่งกาจได้ถึงขนาดไหน
ไม่เข้าใจจริงๆว่าพวกเขากังวลอะไร
“พี่ ไม่ใช่..คือ..
กู้รั่วรั่วยังคงอธิบายต่อ ในตอนนี้จี้หยินเฟิงก็กล่าวขัดบท สนทนา “พี่สาว คุณคิดว่าตอนนี้มีเสิ่นโม่เฟยอยู่ในสือรุ่ยแล้ว คุณยังสามารถจัดการกับถังรั่วชูได้อยู่อีกไหม?”
กู้รั่วรั่วได้ยินเช่นนั้นจึงรีบกล่าวอย่างรวดเร็ว “ใช่ สิ่งที่สำคัญ ที่สุดในตอนนี้ก็คือสั่งสอนถังรั่วชูให้สมกับสิ่งที่เธอทำ
ซูเทียนอ้ายยิ้มเยาะเย้ย “พวกคุณคิดว่าฉันเป็นคนไร้ความ
สามารถขนาดนั้นเลยหรือไง?”
ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ จี้หยินเฟิงและกู้รั่วรั่วก็มองตากันและยิ้มออกมา
ใช่แล้ว พี่สาวนั้นมีความสามารถมาก พวกเขาจะไม่เข้าใจได้ อย่างไร?
เมื่อไม่นานมานี้แผนกสื่อนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นน้ำหอมอบอวล ผู้คนแทบจะลำสัก
“ฤดูใบไม้ผลินี้กำลังจะมาถึงแล้วหรือ?” ส่งอานหยีบีบจมูก ของเธอเพื่อกลั้นหายใจ “ฉันจะต้องเป็นจมูกอักเสบอีกแล้ว”
ถังรั่วชูมองไปรอบๆและยิ้มเบาๆ “ฤดูใบไม้ผลิจริงๆแหละ”
“เฮอะ!” สั่งอานหยีส่งเสียงเย้ย “ฤดูใบไม้ผลิอะไรกัน? ไม่ใช่ แค่ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่คิดถึงฤดูใบไม้ผลิหรอกหรือไง?”
“นี่ไม่ใช่ฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้วเหรอ? ”
ถังรั่ว อดไม่ได้ที่จะแกล้งทำเป็นงงงวย
ส้งอานหยีกลอกตาแล้วถอนหายใจ “ฉันคิดว่าหลังจากนั้นฉัน คงไม่กล้าซื้อน้ำหอมอีกแล้ว แต่ไหนแต่ไหนมาฉันไม่เคยรู้เลย ว่ากลิ่นน้ำหอมมันจะเหม็นได้ขนาดนี้”
ตั้งแต่ เสิ่นโม่เฟยขึ้นดำรงตำแหน่งประธานคนใหม่ กลุ่มหญิง สาวบ้าคลั่งที่นำโดยหรุเสี่ยวหลินนั้นคลั่งไคล้ในการแต่งตัวแต่งหน้าในทุกๆวันทำตัวราวกับนางสนมในสวนหลังวัง รอคอยองค์จักรพรรดิเข้าหา
สิ่งนี้นั้นเดือดร้อนผู้อื่น นอกจากการได้กลิ่นน้ำหอมแรงๆใน ทุกๆวันแล้วยังต้องคอยฟังน้ำเสียงที่บีบเคล้นจากลําคอของ พวกเธออีก
“ฉันว่าฉันจะเป็นบ้าแล้ว” ส่งอานหยีคร่ำครวญและล้มตัวลง นอนบนโต๊ะ หากเป็นแบบนี้ต่อไปเธอได้บ้าจริงแน่
“เอาเถอะ ใจเย็นๆ” ถังรั่วซูลูบหัวเธอเบาๆ “รอให้ฉันส่งข่าวนี้ ก่อน พวกเธอได้ปวดใจแทบตายแน่”
“ข่าว?” ส่งอานหยีรีบนั่งตัวตรง โน้มคอดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอเห็นชื่อของเอกสารบนหน้าจอเขียนไว้ว่า “ประสบการณ์ ทางความรู้สึกที่ไม่เคยพบเจอของคุณชายน้อยแห่งตระกูล เสิ่น”
หลังจากดูเนื้อหาคร่าวๆแล้ว ส่งอานหยีก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ กล่าว “รั่วชู ขุดข่าวขุดคุ้ยเจ้านายของตัวเอง มันไม่ดีเท่าไหร่ หรอกมั้ง”
“งั้นเหรอ?” ถังรั่วชูเลิกคิ้วขึ้น “ช่วงนี้ข่าวนั้นน่าเบื่อมาก หากว่า ไม่มีความที่ร้อนแรงเลย ชีวิตของทุกคนก็คงน่าเบื่อเกินไป” ส่งอานหยียิ้ม “คุณนายอู๋ นั้นคงอยากจะไปเดินเล่นที่เมืองเป่ยหนิงจริงๆ นะ!”
“แน่นอน มีสิทธิพิเศษนี้แล้วจะไม่ใช้ได้อย่างไรกัน?”
ถังรั่วชูพิมพ์ข่าวนี้ออกมาแล้วรวบรวมเสร็จก็ส่งให้กับหลีน่า ได้ตรวจดู
“เสี่ยวถัง ดูเหมือนว่าไม่เหมาะสมที่จะเปิดเผยความเป็นส่วน ตัวของผู้นำบริษัทนะ”
หลีน่าเปิดเอกสารข่าวและมองไปยังถังรั่วชูอย่างไม่พอใจ
“ผู้จัดการหลี ฉันคิดว่าในฐานะคนทำงานสื่อไม่สามารถ พลาดข่าวสารที่มีความน่าสนใจและมีค่าได้ ฉันคิดว่าประธาน เสิ่นจะต้องเข้าใจ”
ถังรั่วชูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แต่ภายในใจเธอกลับแอบ หัวเราะ ความเป็นส่วนตัวนี้ถูกเปิดเผยเพราะเสิ่นโม่เฟย เธอจะ พลาดได้อย่างไร เขาอยากพาดหัวข่าวที่ร้อนแรงนี่?
หลีน่าคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังจากนั้นก็พยักหน้า “โอเค ฉันจะ ให้หัวหน้าใหญ่ลองดู ถ้าหากว่าได้เราก็จะพาดหัวข่าวไป
“ได้เลย”
ถังรั่วชูมั่นใจอย่างเต็มร้อยว่าข่าวฉบับนี้จะได้ออกพาดหัวข่าวอย่างแน่นอน
แต่ความจริงนั้นเกินความคาดหมายของเธอ เมื่อเธอได้นั่งลง ในห้องทำงานและจัดเก็บเอกสารด้วยความมั่นใจ ทันใดนั้น ก็ได้รับโทรศัพท์จากซูเทียนอ้าย
“ขึ้นมา”
น้ำเสียงที่เย็นชาดังจากปลายสายจากนั้นสายโทรศัพท์ก็ได้
วางไป
ถังรั่วชูหัวเราะเยาะ ซูเทียนอ้ายจริงๆเลย
ยากที่จะอธิบาย!
ทันทีที่เธอเข้าไปในห้องทำงานของผู้จัดการ วัตถุสีขาวก็พุ่ง ตรงเข้าหาถังรั่วชู โชคดีที่เธอตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เธอ ถอยหลบไปหนึ่งก้าวและหลบวัตถุประหลาดได้อย่างพอดี
เมื่อสิ่งนั้นตกลง เธอก้มศีรษะลงและมองอย่างตั้งใจ ดวงตา ของเธอบีบแน่น นั่นคือข่าวประชาสัมพันธ์ที่เธอทำมาอย่าง ลําบากยากเย็น
เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปยังซูเทียนอ้าย และเห็นว่าเธอก็ กำลังมองมาอย่างเย็นชา มีคำใบ้ของชัยชนะในการแสดงออก ของเธอ
มือนั้นกำแน่นและค่อยๆคลายออก เธอระงับความโกรธในใจ ก้มลงและหยิบข่าวขึ้นมาจากนั้นก็ค่อยๆก้าวเข้าไปอย่างไม่เร่ง
ดวงตาของทั้งสองจ้องมองกันผ่านอากาศ ดวงตาของทั้งคู่นั้น เต็มไปด้วยความรังเกียจและไม่มีใครยอมใคร
เมื่อเข้าใกล้ “ฟุบ!”
ข่าวประชาสัมพันธ์ถูกวางไว้ที่โต๊ะ ถังรั่วชูจ้องมองซูเทียน อ้ายอย่างเยือกเย็น ริมฝีปากของเธอยิ้มเย้ยหยันและกล่าว เย็นชา “ผู้จัดการซู คุณหมายความว่าไง?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ