ตอนที่ 95 เชื่อฟังนะมีผมอยู่
ตอนที่ 95 เชื่อฟังนะมีผมอยู่
ถังรั่วชู ถูกรถชนจนตรงหน้าดำมืด หัวใจหดเป็นระยะๆ ความเจ็บปวดบนร่างกายแทรกเข้ามา แทบจะรู้สึกถึงเธอฉีก ขาด…..
มีคนใจดีบริเวณรอบๆผ่านเข้ามาช่วยประคองเธอ ถามเธอ อย่างเป็นห่วง”คุณผู้หญิงไม่เป็นไรใช่ไหม? ให้ฉันช่วยเรียก รถพยาบาลไหม? ”
“เมื่อสักครู่รถคันนั้นชนตัวเธอแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะหนีไปแล้ว สติฟั่นเฟือน…..”
ถังรั่ว ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ในขณะที่เลอะเลือนอยู่ เธอ มองรถที่ออกไปทางไกลๆ ภายในใจแทบจะฉีกชื่อนั้นออกมา เป็นชิ้นๆ——กูรั่วรั่ว!
ถังรั่วชูจะฝันก็ฝันไม่ถึง กู้รั่วรั่วผู้หญิงสติฟั่นเฟือนคนนั้น คิด ไม่ถึงว่าจะขับรถมาชนเธอ อยากที่ทําให้เธอไม่สามารถมี ชีวิตรอดได้
ผู้หญิงคนนั้น ไม่สามารถเรียกว่าเป็นสติฟั่นเฟือนได้อีกแล้ว นั่นก็คือจิตใจเหี้ยมโหดโดยสิ้นเชิง ถึงขั้นน่ากลัวจนทําให้คน กลัวจนตัวสั่น
ถังรั่วซูพยายามเรียกสติขึ้นมา กัดฟันอย่างดื้อๆ ไม่ให้ตัว เองสติหลุดกลับไป
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า ต่อสายไปหนึ่ง สาย ซือจิ่น…..
ตอนที่ถังรั่วชูโทรศัพท์ไปหาลูซือจิ่นนั้น เขากำลังฟังรายงาน เรื่องงานของผู้นำระดับสูงหลายท่านอยู่ในห้องสำนักงาน
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ตีแตก ความเคร่งขรึมบรรยากาศบริเวณรอบๆภายในห้องสำนักงาน อู๋ซือจิ่นมองหน้าจอโทรศัพท์หนึ่งครั้ง โบกไม้โบกมือส่ง สัญญาณมองไปทางผู้รายงานคนนั้นอย่างเงียบๆ หลังจากนั้น ก็รับสายโทรศัพท์
สายตาของเขาอ่อนโยนไปหลายระดับ ก็ขนาดเสียงที่พูด ในภายใต้สายตาตกตะลึงจนตาค้าง เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ”จะ กลับมาแล้วเหรอ?
“ซือจิ่น…..
เสียงสายโทรศัพท์ทางนั้น เป็นเสียงที่อ่อนแอของเธอเล็ก
น้อย
ล้ซือจิ่นตกตะลึงไปสักพักหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว“เป็น อะไรไป? น้ำเสียงไม่มีแรง เกิดเรื่องอะไรขึ้นไหม? ”
“ฉัน……ถูกรถคนหนึ่งชนแล้ว”
น้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อย บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าถูก ทำให้ตกตะลึงอย่างหนัก น้ำเสียงนำพาความหวาดกลัวมา ด้วยเล็กน้อย
คำพูดของเธอสิ้นสุดลง เพล้งหนึ่งครั้ง อู๋ซือจิ่นลุกขึ้นยืน จากเก้าอี้โดยทันที หัวคิ้วขมวดแน่น”เป็นอะไรไป? คุณอยู่ ที่ไหน? มีเรื่องอะไรไหม? บอกที่อยู่ผมมา ผมจะรีบไป
“ฉันเลือดไหลเยอะมาก ฉันอยู่…..
ถังรั่วชูรู้สึกว่าดวงตาของตัวเองเลอะเลือนมากขึ้นเรื่อยๆ ความเจ็บปวดถูกยกขึ้นมายังสมองของเธอ ทำให้เวลาเธอพูด ต้องเปลืองแรงเล็กน้อยอย่างชัดเจน
“คุณรอผมอยู่ที่นั่น ผมจะรีบไป
วางสายโทรศัพท์อย่างรีบร้อน ซือจิ่นหยิบเสื้อคลุมขึ้นมา ทิ้งลูกน้องไว้ ออกไปจากห้องสำนักงานอย่างไม่หันศีรษะกลับ
มา
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ทุกๆคนต่างไม่พูดไม่จามองหน้ากันเลิ่กลั่ก นี่เป็นครั้งแรกที่ เขาเห็นลูซือจิ่นควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้
ขับเคลื่อนรถเร็วปานสายฟ้าแลบมาถึงสถานที่เกิดอุบัติเหตุ ตอนที่ผู้ซือจิ่นมองเห็นหนึ่งชั่วโมงก่อนที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าอยู่ ดีๆนั้น แล้วตอนนี้ก็เห็นทั้งตัวคนเต็มไปด้วยเลือด รู้สึกเพียง แค่ว่ากลิ่นเลือด หยดไหลทั่วเต็มศีรษะ
เขารีบเข้าไปข้างกายถังรั่วอย่างรีบร้อน เธอในตอนนี้ เข้าไปสู่การสลบเล็กน้อยแล้ว ใบหน้ารูปไข่ที่สวยงดงามไม่มี สีเลือดเลยสักนิด ถ้าหากว่าดอกไม้หนึ่งดอกเหี่ยวเฉาแล้ว โกรธเคืองที่เมื่อก่อนได้สูญเสียไป
“ลูกพี่ เร็ว พวกเรารีบพาพี่สะใภ้ส่งไปโรงพยาบาลเร็ว มู่ หลิง นายอยู่ที่นี่จัดการที่เกิดเหตุ”
หลังจากนั้นผู้ซึ่งเหยาที่ตามมาก็มองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้านี้ ตกอกตกใจกันใหญ่ รีบร้อนจนวิ่งไปเปิดประตูรถ
ทั้งสองคนรีบนำตัวถังรั่วชูไปส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ในระหว่างทาง ลูซือจิ่นอุ้มถังรั่วซู บนใบหน้าเย็นชามาแต่ ไหนแต่ไร ตอนนี้ก็ปรากฏสีหน้ากระวนกระวายใจขึ้นมาแล้ว
“ภรรยา ฟื้นขึ้นสิ ลืมตาขึ้นมามองผม…..
เขาก้มศีรษะร้องเรียกเธออย่างไม่หยุดหย่อน หลังจากนั้นก็
กระตุ้นลู่ซึ่งเหยา “เร็วๆหน่อยสิ! ”
ถังรั่วชูพิงอยู่ในอ้อมกอดของเธอ ลืมตาอย่างขาดสติเล็ก น้อย สายตาโฟกัสอยู่จุดเดียวกันได้ยาก
อ้อมกอดของเขาค่อนข้างอบอุ่น
ความอบอุ่นที่คุ้นเคยเช่นนั้น ทำให้บนใบหน้าของเธอในที่สุด ก็ปรากฏรอยยิ้มสบายใจขึ้นมาหนึ่งอย่าง
“ในที่สุดคุณก็มาแล้ว”
เธอกระซิบเสียงเบา สุดท้ายในที่สุดก็หายเข้าไปในความ มืดอย่างไร้จิตใต้สำนึก
ตอนที่ถังรั่วชูฟื้นขึ้นมาอีกครั้งนั้น ผู้ซือจิ่นนั่งอยู่ข้างๆเตียง จับกุมมือของเธอ
มองเห็นเธอลืมตา เขาก็ลุกขึ้นยืนอย่างรีบร้อน ลูบแก้มของ เธอเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน เป็นอย่างไรบ้าง? รู้สึกไม่สบาย ตรงไหนหรือเปล่า? ”
สมองของถังรั่วชูว่างเปล่าชั่วขณะไปหลายวินาทีถึงจะนึก ขึ้นได้ว่าตัวเองถูกกู้รั่วรั่วขับรถชน ตอนนี้ตัวเองควรที่จะอยู่ใน
โรงพยาบาล
เธอรู้สึกได้สักพักหนึ่ง ว่าทั้งร่างกายเจ็บปวดไปหมด
“ฉันบาดเจ็บหนักเหรอ? “เธออ้าปาก ถามเขา น้ำเสียงกลับ แหบแห้งและไม่น่าฟังเล็กน้อย
ลูซือจิ่นพยักหน้า”แขนและขามีบาดแผลไม่ใช่น้อย สมอง ก็ได้รับการสั่นสะเทือนเล็กน้อย
“มิน่าล่ะฉันถึงได้รู้สึกปวดศีรษะขนาดนี้”
เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างช้าๆ บาดแผลตรงแขนและขา ทำให้เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ เจ็บจนใบหน้าเล็กซีดขาว
ลูซือจิ่นประคองเธออย่างไม่รอช้า การกระทำอ่อนโยนไร้ที่ เปรียบให้ผมไปเรียกคุณหมอให้ไหม”
“ไม่ต้อง ฉันไม่เป็นไร
เธอสายศีรษะ เอ่ยอย่างโอ้อวดเล็กน้อย
ลูซึ่งเหยาเดินเข้ามาจากด้านนอกพอดี ได้ยินคำพูดนี้ก็อด ไม่ได้ที่จะเม้มปากเอ่ย “เลือดไหลเยอะขนาดนี้ ยังบอกว่า ไม่เป็นไรอีก คุณไม่รู้เลยว่า ตอนที่ลูกพี่หาคุณเจอ ใกล้จะ ตกใจจนเป็นบ้าแล้ว”
นั่นเป็นถึงเขาโตมาขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เห็นผู้ซือจิ่นปรากฏสีหน้ากระวนกระวายแบบนั้นออกมา!
ถังรั่วชูเกิดความเสียใจมองอู๋ซือจิ่นหนึ่งครั้ง”ขอโทษนะคะ ทำให้คุณเป็นห่วงแย่เลย”
“ไม่เป็นไร เพียงแค่คุณไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว”
ลูซือจิ่นเอ๋ยน้ำเสียงเบาสบาย กอดเธอเข้ามาในอ้อมกอด อย่างเบาๆ ปกป้องเธอเหมือนดั่งไข่มุกเช่นนั้น
ถังรั่วชูอาลัยอาวรณ์อิงอยู่บนตัวของเขา จมูกดมกลิ่นที่เป็น ของเขา ชื่นชมความสบายที่เขานำพามาทำใจที่จะละจาก เขาไปไม่ได้เลยโดยสิ้นเชิง
เขาก้มศีรษะ จูบเส้นผมของเธออย่างเบาๆ ดวงตากลับมอง
ไปทางอู๋ซึ่งเหยาที่อยู่อยู่ด้านหลังของเธอ เหมือนกับอยากจะ ถามอะไรเขา
ลูซึ่งเหยาพยักศีรษะ สายตาก็มีความมึนทึบอยู่หนึ่งอย่าง
กล้าหาญชาญชัยมากที่มาทำร้ายเธอคนนั้นก็ต้องตายกัน
ไปข้างหนึ่งแล้ว!
อยู่ภายในอ้อมกอดของผู้ซือจิ่นสักพักหนึ่ง ถังรั่วชูก็รู้สึกว่า เหนื่อยล้าเล็กน้อย เธอหลับตาลงเบาๆ กลางสมองนึกถึง ตอนนั้นที่ตัวเองก่อนจะสลบไป
ตอนนั้น ในใจของเธอหวาดกลัวเล็กน้อย กลัวว่าตัวเองจะ ตาย จนกระทั่งกลัวว่าจะไม่ได้พบเจอสู้ซือจิ่นอีก
เธอกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นถึงได้โทรศัพท์ไป หาเขา
เธอบอกว่า “ซือจิ่น ฉันถูกรถชนแล้ว”
เขาบอกว่า “คุณเป็นอะไรไหม รอผมอยู่ที่นั่น ผมจะรีบไป
ตั้งแต่ที่คุณแม่เสียชีวิตไปแล้วนั้น บนโลกใบนี้ก็ไม่มีคนที่ เป็นห่วงเป็นใยเธอ รักและปกป้องเธอ เลยสักคน
คุณพ่อก็ทำไม่ได้ จี้หยินเฟิงก็ทำไม่ได้…..ทว่ามีเพียงอู้ซือจิ๋ นที่ทำได้
ทันใดนั้นเธอก็ร้องไห้เหมือนฝนตก ศีรษะมุดเข้าไปในอ้อม กอดของเขาร้องไห้จนสั่นไปทั้งตัว
ลูซือจิ่นนึกว่าเธอยังกลัวอยู่ อดไม่ได้ที่จะลูบหลังกล่อม เธอไม่กลัวนะ มีผมอยู่ ไม่เป็นอะไรแล้วนะ เชื่อฟังนะ ไม่ ร้องแล้วนะ……
เขาอ่อนโยนจนทำให้สะดุดสายตาคน ทว่าลูบไปตามน้ำ และน้ำมูกที่ไหลบนตัวของเธอ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ถังรั่วชูร้องไห้จนพอแล้ว นี่ถึงจะ ออกจากอ้อมกอดของผู้ซือจิ่นได้
อู๋ซึ่งเหยาอดไม่ได้ที่จะกระแอมหนึ่งครั้ง ล้วนแต่บอกว่าผู้ หญิงทำมาจากน้ำ วันนี้ผมนับว่าได้เห็นแล้วมา พี่สะใภ้ หิวแล้วสินะ มาทานอาหารก่อน ทานเสร็จแล้วจะได้มีแรง ร้องไห้ต่อ” คุณ
สู้ซึ่งเหยานำอาหารที่เพิ่งซื้อมาใหม่จากที่แห่งหนึ่งวางไว้บน โต๊ะ หยอกล้อหนึ่งประโยค
ถังรั่วชูสูดจมูก”เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รับบาดเจ็บหนักขนาด นี้ ไม่แน่อาจจะทิ้งรอยไว้ นายยังไม่ให้ฉันร้องไห้อีก มีความ เป็นมนุษยธรรมหรือเปล่า?”
ลูซือจิ่นมองตาขวางไปทางน้องชายของตัวเองหนึ่งครั้ง สายตานั้นเหมือนดังหิมะพลิ้วไหวในฤดูหนาว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ