One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 6 เดินทางมาเพื่อเธอ



ตอนที่ 6 เดินทางมาเพื่อเธอ

ตอนที่ 6 เดินทางมาเพื่อเธอ

ในเวลานี้ ทุกคนแทบจะแทบจะมองมาทางอู๋ซือจิ่น เป็นตาเดียว

แต่ทว่า อู๋ซือจิ่น กลับไม่ได้สนใจแต่อย่างใด สายตาของเขา จดจ่ออยู่เพียงถังรั่ว ในอ้อมกอด จากนั้นก็ใช้น้ำเสียงอันน่าหลง ไหลโทน าถามเธอว่า : “ไม่เป็นไรใช่ไหม?

“มะ….ไม่คะ ขอบคุณนะคะ !”

ถังรั่ว สายหน้า

จนกระทั่งในเวลานี้ เธอเพิ่งจะได้สติกลับมา ใบหน้ายังคง แสดงออกถึงความตกใจอยู่ไม่น้อย

ผู้ซือจิ่นถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ จากนั้นก็ประคองตัวของถังรั่ว ชขึ้นมา หลังจากที่เธอยืนขึ้นอย่างมั่นคงแล้ว ถึงจะปล่อยตัวเธอ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า : “ครั้งต่อไปก็ระวังตัวหน่อย ละกัน”

“อื้อ”
ถังรั่วชูพยักหน้า เธออดที่จะมองไปทางผู้ชายคนนี้ไม่ได้ ราวกับ อยากรู้ว่าทำไมเขาถึงได้มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่

ซือจิ่นกลับไม่ได้พูดอะไร นอกจากมองไปทางสายตาของ คณะกรรมการบริษัทสือรุ่ยที่เฝ้ารอยคอยอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตา นิ่งเฉยราวกับไม่รู้จักเธอ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างไม่พอใจเล็กน้อย ว่า : “ประธานจ้าว บรรยากาศการทํางานของบริษัท อรุ่ย มักจะ ‘ครึกครื้น’ แบบนี้ตลอดเหรอครับ?”

สีหน้าของของคณะกรรมการบริษัทสือรุ่ยซีดเซียวลงทันที เห็น ได้ชัดว่าเขาเองก็โกรธจนหน้ามืดตามัวกับภาพที่วุ่นวายอลหม่าน เมื่อสักครู่ไม่น้อย

แต่ไหนแต่ไรมา บริษัทสึอย ก็เป็นเหมือนคู่ขาของบริษัทการ บันเทิงหวางถึงมาโดยตลอด กว่าจะมีโอกาสมามันไม่ง่ายเลย แต่ กลับนึกไม่ถึงว่าซือจิ่นจะมาเห็นภาพแบบนี้ด้วย

ด้วยความโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เลยเดินมาขวางอยู่ข้างกายของ ซือจิ่น ไว้ เขาไม่สามารถระเบิดความโกรธออกมาได้ เลยทำได้ เพียงแค่อดกลั้นมันเอาไว้ จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงลำบาก ใจว่า : “ท่านประธาน ลู่คุณก็ช่างน่าขบขันจริง ๆ เราไปในห้อง ทํางานกันเถอะครับ เชิญทางนี้ครับ

“อื้อ”
ลูซือจิ่นตอบรับด้วยน้ำเสียงเย็นชา โดยไม่ได้แสดงกิริยาท่าทาง อื่นแต่อย่างใด ไม่มีท่าทีโกรธเคืองสักนิด

หลังจากที่ ผู้ซือจิ่นและคณะกรรมการจากไปแล้ว ภายในห้อง ทำงานก็ตกสู่ความฮือฮาไปชั่วขณะอีกครั้ง

“สมกับที่เป็นตระกูลสูงศักดิ์ที่มีทรงคุณค่าที่สุดในปักกิ่งจริง ๆ เลย หล่อเกินไปแล้ว ! หล่อไม่บันยะบันยัง ! ”

“ได้เห็นเขาแล้ว คุ้มกับที่เกิดมาแล้วละ

“นี่เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงเลยน่า ! มีเงิน มีอำนาจ สง่างามสูงศักดิ์ เห็นปุ๊ปก็รู้ในทันทีว่าเป็นเทพบุตรที่แสนสุขุม เยือกเย็น พวกเธอเห็นกิริยาท่าทางนิ่งเฉยของเขาตอนที่ประคอง ถังรั่วชูเมื่อสักครู่นี่ไหม เหมือนกับเทพเจ้าที่จุติลงมาเกิดก็ไม่ปาน เลยแหละ ฉันถูกเขากำราบเข้าซะแล้วละ…….

บรรดาสาว ๆ ต่างก็ตื่นเต้นจนหน้าดำหน้าแดง ทุกคนต่างก็ ปรารถนาให้คนที่ล้มลงเมื่อสักครู่นี้เป็นตัวเองทั้งนั้น เพราะแบบนี้ จะทำให้มีโอกาสตกลงสู่อ้อมกอดของผู้ซือจิ่น ได้

เมื่อสักครู่นี้ จะยังมีใครจำเรื่องที่ ถังรั่วซู ‘แย่ง’คู่หมั้นของพี่สาว ได้อีกไหม?
สังอานหยืมองไปทางพวกเธอด้วยสายตาดูถูก ก่อนจะด่าออก ด้วยความแค้นว่า : “พวกบ้าผู้ชายไร้จริยธรรม

เห็น ๆ อยู่ว่าเมื่อวินาทีก่อนหน้านั้นยังโจมตีถังรั่ว เพื่อไอ สารเลวจี้หยินเฟิงคนนั้นอยู่เลย พริบตาเดียว ก็เปลี่ยนมาหลงใหล สู้ซือจิ่นกันไม่เอาอะไรอีกแล้ว

ไร้ขอบเขตสิ้นดี !

“ช่างเถอะ”

ถังรั่วซูยิ้มอย่างลำบากใจไปทางสั่งอานหยี

คนเหล่านี้ต่างพากันตื่นเต้นครึกครื้นกันใหญ่โต ไม่ได้เป็นกังวล มากมายขนาดนั้น พวกเธอจะไปรู้ได้ยังไงกันละคำพูดน่ารังเกียจ เหล่านั้นได้สร้างความเจ็บปวดใจให้กับตัวเองขนาดไหน?

ถ้าเมื่อสักครู่นี้ไม่ใช่การปรากฏตัวที่ทันเวลาของผู้ซือจิ๋นละก็ เกรงว่าเธอคงได้ถูกด่าจนยากที่จะทนฟังได้แล้ว

แต่ ถังรั่วชูก็ยังรู้สึกซาบซึ้งอยู่ภายในใจ : “ไม่ว่ายังไง อานหยี เมื่อกี้ขอบคุณเธอมากนะ
“จะมาเกรงใจอะไรฉันละ? พวกชั้นเหล่านี้ก็มักจะจับกลุ่ม นินทาไร้สาระกันเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่สั่งสอนพวกเธอสักหน่อย ก็ คงจะยังคิดว่าเธอหน่ะรังแกได้ …..เมื่อกี้ มันก็อันตรายมากจริง ๆ นะ ฉันคิดว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว โชคดีที่ผู้ซือจิ่นมา ช่วยเธอไว้ได้ทันเวลาพอดี

เมื่อคิดถึงภาพเมื่อสักครู่นั้น สั่งอานหยีก็อดรู้สึกเสียใจไม่ได้

“ฉันไม่เป็นไร เธออย่ากังวลไปเลย”

“โชคดีที่ไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นฉันคงได้ฆ่าพวกเธอแน่ เมื่อส่งเสียงฮึดฮัดออกแล้ว สั่งอานหยีจึงได้ผ่อนคลายลง

ในเวลานี้ ภายในห้องทำงานยังคงวุ่นวายกันอยู่ไม่น้อย ทุกคน โดยรอบต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันถึงสาเหตุที่ซือจิ่นมาปรากฏตัว ณ บริษัทสือรุ่ยแห่งนี้กันยกใหญ่

สั่งอานหยีก็ติดเชื้อนั้นไปด้วย เลยอดที่ถามถังรั่วชูด้วยความ อยากรู้ไม่ได้ว่า : “เธอว่า ท่านประธาน บริษัทการบันเทิงหวางถึง ทำไมถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ในที่เล็ก ๆ ของเราแบบนี้ได้? ถ้าจำไม่ ผิด บริษัทเราได้ส่งคําขอร่วมมือกับ บริษัทการบันเทิงหวางถึง หลายต่อหลายครั้งแต่กลับถูกปฏิเสธมาโดยตลอด ครั้งนี้ผู้ซือจิ่ นมาด้วยตัวเอง หรือว่าจะมีโครงการใหญ่อะไร?”
“ไม่รู้สึ

ถังรั่วชูส่ายหน้า ด้วยความรู้สึกงุนงงมากเช่นเดียวกัน

ถึงแม้ว่าบริษัทสือรุ่ยจะถือว่าเป็นบริษัทบันเทิงที่ใหญ่มากใน ประเทศ และมีดารานักแสดงอยู่ภายใต้สังกัดมากก็ตาม แต่เมื่อ เปรียบเทียบกับบริษัทการบันเทิงหวางถึง แล้ว ไม่คุ้มค่าที่จะ เปรียบเทียบเลยสักนิด

หลายปีมานี้ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทสือรุ่ยต่างก็หมดแรงใจ จะร่วมมือกับ บริษัทการบันเทิงหวางถึงไปแล้ว จนปัญญา ด้าน บริษัทการบันเทิงหวางถึง เลยเป็นเฉยไป นึกไม่ถึง วันนี้สู้ซือจิ่น จะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ซะได้

ถังรั่วชูกลับมีเรื่องเข้าใจผิดบางอย่างปรากฏขึ้นมาในจิตใจอย่าง ฉับพลัน ราวกับว่าเขาตั้งใจมาเพื่อเธออย่างไรอย่างนั้น

แต่ไม่นาน เธอก็ปฏิเสธความคิดนี้ไป

ถึงแม้ว่าเธอกับ สู้ซือจิ่น จะแต่งงานกันแล้วก็ตาม แต่ทั้งสองฝ่าย ก็ยังเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกันอยู่ อีกทั้ง ผู้ซือจิ่น ก็มีกิจการ มากมาย จะมาเพื่อเธอได้ยังไงกัน?

“ช่างเถอะ ไม่ว่าเขาจะมาเพราะเรื่องอะไร ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวเราก็ได้รู้เองแหละ ฮิฮิ นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ น่าว่าชีวิตนี้จะได้ โฉมหน้าของผู้สูงศักดิ์อย่างเขากับตาตัวเอง นี่แหละคือเทพบุตร ที่แท้จริง ! อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง ทั้งคุณค่าและทั้งอุปนิสัย เมื่อเปรียบเทียบกับไอคนเจ้าชู้อย่าง จี้หยินเฟิง แล้ว แพ้อย่าง ราบคาบ

สั่งอานหยีส่งเสียงจิ๊จ๊ะออกมาด้วยความรู้สึกอนิจจัง

ถังรั่วซูมองไปทางเขา : “เธอประเมินเขาสูงเกินไปแล้ว”

“เรื่องที่ออกตัวเข้ามาช่วยเธอนั้น มันก็ต้องสูงอยู่แล้ว! เธอไม่ เห็นอะไร ในตอนที่เขากอดเธออ่า โครตหล่อเลย ถ้าเป็นฉันละก็ จี้หยินเฟิงสัก 10 คน เกรงว่าก็คงจะสู้เขาไม่ได้”

เมื่อพูดถึง จี้หยินเฟิง สีหน้าของ สั่งอานหยีก็เอือมระอาขึ้นมา ทันใด

แววตาของถังรั่วชูเรียบเฉย : “ใช่ ต้องโทษที่ฉันตาบอด คนหรือ หมาก็แยกไม่ออก

สังอานหยีรู้ว่าในใจของเธอนั้นรู้สึกแย่มากขนาดไหน เลยกอด เธอพร้อมกับพูดปลอบโยนว่า “ชีวิตใครบ้างละที่ไม่เคยเจอคนเลว สักคนสองคนกันนะ ตอนนี้เธอยอมรับมันได้ก็ยังไม่สาย อีกอย่าง รั่วชูของเราทั้งสวยทั้งมีความสามารถมากขนาดนี้ จี้หยินเฟิงไม่รู้ จักทะนุถนอมไว้ ยังไงก็ต้องมีคนรู้จักทะนุถนอมสักวัน ต่อแต่นี้ไป เธอต้องหาผู้ชายที่ดีกว่าเขา หลายร้อยเท่าเลยนะ แล้วไปตะบันหน้าเขาเลย ให้เขาได้รู้ว่าเขา อ่าพลาดผู้หญิงที่ดีงามมากมายขนาดนี้ไปแล้ว”

“อื้อ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของสั่งอานหยี ในใจของถังรั่วชูก็ดีขึ้นมากที เดียว แต่ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ในใจเล็กน้อย

เรื่องที่เธอกับผู้ซือจิ่นแต่งงานกันแล้ว เธอไม่ได้บอกกับ อานหยี แต่อย่างใด

เพียงแต่ เธอแค่จดทะเบียนกับผู้ซือจิ่นกันเท่านั้นเรื่องงานแต่ง อะไรยังไม่ได้เปิดเผยออกไปในช่วงนี้

เงื่อนไขนี้เธอเป็นคนเสนอเอง ถ้าเธอพูดออกมาในเวลานี้ ก็จะ ถือว่าเป็นการผิดคำสัญญา ย่อมไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์กับ ล้ซือจิ่นแน่

เมื่อนึกถึงสังอานหยีที่ดีกับตัวเองมากขนาดนี้ ถังรั่วชูก็อดรู้สึก ผิดต่อเธอไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ