ตอนที่ 242 ฉันไม่อยากไปจากคุณ
ตอนที่ 242 ฉันไม่อยากไปจากคุณ
กู้รั่วรั่วถูกไล่ออกจากคฤหาสน์ตระกูลจื้
ฉินซือเหลียนโหดร้ายจริงๆ ให้คนนำของกูรั่วรั่วโยนออก ไปโดยตรง จากนั้นให้นำกู้รั่วรั่วโยนออกไปด้วยกัน
“กู้รั่วรั่ว ตั้งแต่นี้เธอกับตระกูลจี้ หยินเฟิง ไม่มีความ เกี่ยวข้องกันสักนิด ไสหัวไปให้ไกลได้แค่ไหนก็ไปไกล เท่านั้น”
ตามมาด้วยเสียงเย็นชาของฉินซือเหลียน ประตูใหญ่สี ทองแดงของคฤหาสน์ค่อยๆ ปิดลงโดยอัตโนมัติ
กู้รั่วรั่วที่หมอบอยู่บนพื้นหันหน้ามองภาพร่างสูงด้านใน ประตูใหญ่ ในสายตาเป็นความผิดหวัง
ตั้งแต่แรกจนจบ เขาไม่ได้พูดแทนตนเองสักประโยค เดียว ตอนที่ฉินซือเหลียนไล่ตนเองออกมา เขาก็ทําเพียง แค่มองดูอย่างเฉยชา ถึงแม้หล่อนจะร้องไห้ตะโกน “หยิน เฟิง ฉันไม่อยากไปจากคุณ ฉันรักคุณ” เขาต่างไม่สะทก สะท้าน
ที่แท้ผู้ชายคนหนึ่งหมดรักขึ้นมาช่างน่ากลัวขนาดนี้
หล่อนหัวเราะเยาะตนเองออกมา น้ำตาร่วงลงเป็นเม็ดๆ หยุดไม่อยู่
ภายในหนึ่งวัน โลกของหล่อนพังทลายลงแล้ว
เดิมหล่อนคิดว่าจะสืบทอดบริษัทถังซื่อกรุ๊ปอย่าง สมปรารถนา และแต่งเข้าตระกูลจื้อย่างสมหวัง กลาย เป็นภรรยาของหยินเฟิงดั่งใจปรารถนา
เป็นเพียงความฝันเท่านั้น ควรตื่นจากฝันได้แล้ว
หล่อนเกลียด
เกลียดฉินซือเหลียน
เกลียดจี้หยินเฟิง
เกลียดคนที่เคยทำลายหล่อน
แต่ที่หล่อนเกลียดที่สุดคือถังรั่วชู
ถ้าไม่ใช่ถังรั่วชู หล่อนคงไม่ตกมาถึงขั้นแบบในตอนนี้
ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของถังรั่วชู
น้ำตาหยุดทันใด หล่อนบีบมือทั้งคู่อย่างแน่น ในดวงตา หมุนวนความเกลียดที่เข้มข้น
หล่อนกัดฟันไว้ “ถังรั่วชู ฉันไม่ปล่อยเธอแน่!”
“นายน่าจะรู้ รั่วรั่วเป็นลูกสาวของนาย หรือว่านายคิดจะ ให้ลูกสาวของนายใช้ชีวิตอย่างไม่สบายใจเหรอ?”
“ลูกสาวของฉัน? จ้าวเสี่ยวหวั่น เมื่อก่อนฉันอยากเจอรั่ว รั่วสักหน่อย แล้วเธอให้ฉันเจอรึเปล่า? เธอยังให้ฉันลืมไป ว่ารั่วรั่วเป็นลูกสาวของฉัน ทำไม? ตอนนี้เกิดเรื่องเข้า จำ ฉันได้ขึ้นมาแล้วเหรอ?”
“เซจื้อกาง นายคิดว่าฉันอยากมาหานายเหรอ? ถ้าไม่ใช่ เพื่อรั่วรั่ว ชาตินี้ฉันไม่อยากเจอนายอีก”
จ้าวเสี่ยวหวั่นหน้าเย็นยะเยือก สายตาเย็นชากลึงไป ทางผู้ชายที่นั่งอยู่ในที่มืด
ผู้ชายคนนั้นลุกขึ้นยืน ก้าวเท้าชิดมาใกล้หล่อน ยกมือ ใช้แรงบีบที่คางของหล่อนไว้ อาศัยแสงไฟที่ส่องเข้ามา ทางหน้าต่าง รอยแผลเป็นบนหน้าของผู้ชายตั้งแต่คิ้วถึง กรามด้านล่างมองเห็นชัดเจน
น่าสยองขวัญ!
ร่างกายของจ้าวเสี่ยวหวั่นเริ่มสั่นเทาอย่างอดไม่ได้ ผู้ชายคนนี้น่ากลัวกว่าที่หล่อนจินตนาการเอาไว้
“จ้าวเสี่ยวหวั่น ฉันสามารถทำให้เธอไม่ต้องเจอฉันได้อีก ในชาตินี้” ในสายตาผู้ชายเป็นความเย็นชาที่โหดร้าย
มือที่บีบคางหล่อนไล่ลง บีบคอของหล่อนไว้ทันที ใช้แรง นิ้วมือ
ชั่วขณะนั้นจ้าวเสี่ยวหวั่นรู้สึกหายใจไม่ได้ หล่อนถลึงตา โตดิ้นรนด้วยความหวาดผวา
มือทั้งคู่จับมือที่เขาบีบคอไว้ พยายามอยากจะดึงออก แต่ทั้งสองคนเรี่ยวแรงต่างกันมาก เดิมทีหล่อนไม่มีทาง ขยับได้สักนิด
ตอนที่หล่อนคิดว่าตนเองจะตาย ชายหนุ่มถึงปล่อยมือ ออก แวบหนึ่งหล่อนก็ฟุบนั่งไปกับพื้น
“แค่กๆ… จ้าวเสี่ยวหวั่นจับคอไว้ ไออย่างรุนแรง
“เรื่องของรั่วรั่วฉันจะช่วยหล่อนเอง สำหรับเธอ ฉันไม่อยากเห็นเธออีก ไสหัวไปเดี๋ยวนี้”
เสียงชายที่ดุเดือดหล่นลงมา จ้าวเสี่ยวหวั่นหายใจอย่าง ไม่ทั่วท้อง ปีนขึ้นมาแล้วใช้มือเท้าทั้งสองพร้อมกัน จาก นั้นวิ่งออกไปอย่างโซซัดโซเซ
“ท่านกาง คุณจะช่วยหล่อนจริงๆ เหรอ?” คนที่ซ่อนอยู่ ในมุมมืดมาตลอดเดินออกมา
ผู้ชายชำเลืองมองเขา พูดด้วยน้ำเสียงดุเดือด “มีบาง เรื่องไม่ใช่เรื่องที่นายควรถาม”
ในใจคนนั้นตระหนก รีบก้มหน้าลง “เป็นกระผมปากมาก ไป ขอให้ท่านกางอย่าได้ตำหนิ”
“นายไปถึงเมืองเป่ยหนิงก่อน พยายามอย่างสุดความ สามารถของตนเองช่วยพวกหล่อนสักที” ผู้ชายนั่งกลับลง ไปที่มุมมืดมิดอีกครั้ง
“ครับ” คนนั้นรับคําสั่งออกไป
ในห้องกลับคืนสู่ความเงียบแล้ว
เพราะไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไร ถังรั่วซูจึงให้ผู้ซือจิ่นส่ง เธอไปพักที่โรงพยาบาลที่พ่ออยู่
“พ่อคะ หนูรักษาบริษัทถังชื่อกรุ๊ปไว้ได้แล้วนะคะ” ถังรั่ว ซูมองหน้าบิดาที่ยังคงหลับตาทั้งคู่ไว้ มุมปากยกขึ้นนิดๆ
“พ่อคะลุงเฉินเขาบอกว่าหนูเป็นลูกสาวที่พ่อภูมิใจได้นะ คะ พ่อคิดว่ายังไง?”
พูดถึงตรงนี้ ถังรั่วชูหัวเราะเสียงต่ำๆ “หนูว่าพ่อคงไม่รู้ สึกภูมิใจ แค่รู้สึกว่าหนูไร้สาระ”
เธอมองเขาอยู่เงียบๆ รอยยิ้มที่ริมฝีปากค่อยๆ หดลงไป ในสายตาผุดความเศร้าใจบ้าง เธอหวังมากว่าตอนนี้บิดา จะฟื้นขึ้นมาชี้หน้าว่าเธอเหลวไหลไม่รู้ภาษา
แต่บิดาที่อยู่ตรงหน้า ดึงมุมปากขึ้น “พ่อคะ อีกไม่กี่วัน พ่อต้องไปอเมริกาแล้วนะคะ หนูรู้ว่าพ่อต้องว่าหนูที่ส่งพ่อ ไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแบบนั้น แต่ขอเพียงพ่อสามารถ ฟื้นขึ้นได้ สามารถดีขึ้นมาได้ ถึงจะโดนพ่อด่า หนูก็รู้สึก ดีใจค่ะ”
ขณะพูดเธอก็หัวเราะขึ้นมาอย่างโง่ๆ น้ำตาไหลร่วง อย่างไม่ตั้งใจ
ภายใต้น้ำตาเต็มเบ้า หน้าของบิดาค่อยๆ เลือนราง
อู๋ซือจิ่นที่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นที่เธอกลั่น ไว้ ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง
เขาผลักประตูเปิดเดินเข้าไป พอมองเห็นคนที่นั่งร้องไห้ อยู่ข้างเตียง เขาเดินเข้าไปโอบเธอไว้ในอ้อมอกอย่างรัก ใคร่
เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่กอดเธอเงียบๆ ปล่อยให้เธอ ร้องไห้อย่างตามต้องการอยู่ในอ้อมอก
มีอารมณ์บางอย่าง กดไว้นานเกินไป ไม่สบายอยู่นาน เกิน หลังจากที่เรื่องราวลุล่วง ในที่สุดก็สามารถปลด ปล่อยออกมาได้
จากโรงพยาบาลกลับมาถึงบ้านก็หนึ่งทุ่มกว่าๆ แล้ว พอ เข้าประตูมา ป้าอู่เข้ามาต้อนรับ พวกเสิ่นโม่เฟยมากันแล้ว
ถังรั่วซูรีบเดินไปที่ห้องรับแขก กลับสังเกตเห็นว่า บรรยากาศทั้งหมดแปลกอยู่บ้างอย่างว่องไว
เสิ่นโม่เฟยกับลูซึ่งเหยาต่างนั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวคนละ ตัว ส่วนเซียวเซียวกับอานหย์นั่งบนโซฟายาวด้วยกัน สีหน้าทุกคนล้วนไม่สู้ดีเอามากๆ
ถึงแม้จะเห็นพวกเขากลับมาแล้ว ก็เพียงแค่พูดเรียบๆ ว่า “พวกเธอกลับมาแล้วเหรอ”
แปลกมาก แปลกเป็นพิเศษ
ถังรั่วชูกับลูซือจิ่นมองหน้ากัน จากนั้นเดินเข้าไปนั่งด้าน ข้างเซียวเซียว ถามขึ้นเสียงเบาๆ “นี่เกิดเรื่องอะไรกันขึ้น กับพวกเธอเหรอ? ทำไมแต่ละคนท่าทางดูเหมือนไม่ดีเอา มากๆ ล่ะ?”
ยิ่งเซียวเซียวเบ้ปาก “ฉันกับผู้ซึ่งเหยาทะเลาะกันจริง ไม่ เบิกบานอยู่หน่อย”
เรื่องระหว่างอานหยีกับโม่เฟยไม่ต้องพูดแล้ว
ถังรั่วชูยักคิ้ว จากนั้นถามว่า “พวกเธอกินอะไรกันรึยัง?”
“ยังไม่ได้กิน พี่สะใภ้จะออกไปฉลองหน่อยไหม?” สู้ซึ่ง เหยาชำเลืองมองยิ่งเซียวเซียว พูดแนะนำ
“ฉลอง?” ถังรั่วชูขมวดคิ้ว
“ใช่สิ ฉลองที่ต่อไปที่จะได้เป็นประธานบริษัทถังชื่อกรุ๊ป แล้วไง”
ถังรั่วชูพยักหน้า “นี่คุ้มค่าที่จะฉลองมาก” จากนั้นเธอหัน หน้ามองทางสู้ซือจิ่น ถามขึ้น “ซือจิ่น คุณว่ายังไง?”
“ตามใจคุณ” ลูซือจั่นตอบเสียงนุ่ม มอบสิทธิ์ตัดสินใจให้ เธอ
ดังนั้นถังรั่วชูจึงลุกขึ้นมา พูดขึ้น “ไป ฉันจะไปเลี้ยง อาหารมื้อใหญ่พวกเธอ”
“พี่สะใภ้ พี่ตัดสินใจได้ฉลาดเหลือเกินเลย” สู้ซึ่งเหยา ยกนิ้วโป้งทางเธอ
ถังรั่วชูหัวเราะ จากนั้นหันหน้าถามเซียวเซียวกับอานหยี “พวกเธอสองคนคิดว่ายังไงบ้าง?”
“ฉันได้หมด” ยิ่งเซียวเซียวยักไหล่อย่างไม่เป็นไร
ส่วนส่งอานหยีลังเลนิดหน่อย ก่อนจะพยักหน้า “ฉันก็ได้ เหมือนกัน”
“งั้นได้ พวกเราออกไปกันเถอะ”
ดังนั้นคนกลุ่มหนึ่งจึงมุ่งไปสถานที่ที่พวกเขาต้องการ ฉลองอย่างครึกครื้น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ