ตอนที่ 24 ยากที่จะต้านทานความเขินอายได้

ตอนที่ 24 ยากที่จะต้านทานความเขินอายได้

อาหารค่ำมื้อนี้ ทั้งสองคนรับประทานกันอย่างมีความสุขถังรั่ว ดื่มไวน์นิดหน่อย เลยมีอาการกรมๆ เล็กน้อย ตอนที่ออกจากห้อง อาหาร มีอาการเดินโซซัดโซเซเล็กน้อย

หลังจากที่กลับถึงบ้าน ซื้อจีนถอดเสื้อนอกไปพลาง พูดสั่งเขา ไปพลาง “เธอไปอาบน้าก่อน

ถังรั่วชูแก้มทั้งสองข้างแดงมากฝีเท้าเดินเข้าไปในห้องอาบ น้าอย่างรวดเร็ว

ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เขาก็อาบน้ำเสร็จออกมา แล้วพูดกับ ล้ซือจิ่นที่นั่งอยู่บนโซฟาว่า “ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว ถึงตาคุณไปอาบ แล้วค่ะ”

สู้ซือจิ่นเงยหน้าขึ้นมามองเขาแวบหนึ่ง มองดูเขาที่ผมยาว ยัง ไม่แห้ง ผมหมาดๆ กระจายอยู่บนบ่า อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา “มานั่งตรงนี้”

“อืม”
ถังรั่วชูลังเลเล็กน้อย และลงไปนั่งข้างกายเขา

สู้ซือจิ่นไม่ได้พูดอะไร ก็ลุกขึ้นยืน ไปหาไดร์เป่าผมมา ช่วยเป่า ผมให้เขา

ถังรั่ว รู้สึกตะลึงจากการได้รับความเอ็นดูขึ้นมาเล็กน้อย “ฉัน เป่าเองดีกว่า”

“อย่าขยับ

น้ำเสียงของเขาต่ำลง นิ้วมือเรียวยาวส่งไปที่ผมยาวของเขา ท่าทางตั้งใจอย่างผิดปกติ

ถังรั่วซูนั่งด้วยความงุนงง รู้สึกว่าเหมือนอยู่ในความฝัน

มันเป็นไปได้อย่างไร ซือจั่นผู้ชายสง่างามแข็งแกร่งและเป็น ไอดอลของใครหลายๆ คน กำลังเป่าผมให้เขาอยู่

ถ้าใน 1 ปีนี้ไม่อยากจะสระผมเลยจะทำอย่างไร…

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุด กู้ซือจิ่นก็ปิดไดร์เป่าผมที่อยู่ ในมือลง แล้วพูดกับเขาเบาๆ ว่า “เสร็จแล้ว

“ขอบคุณค่ะ”
ถังรั่ว มีสติกลับคืนมา ก็รวบผมปล่อยสลายไปด้านหลัง แล้วหัน มายิ้มให้เขาอย่างสวยงาม

สายตาของผู้ซือจิ่นมองนิ่ง ราวกับว่าถูกมนต์สะกดอย่างนั้น แหละ สายตาของเขาจู่ๆ ก็ไม่สามารถที่จะละสายตาออกจาก ใบหน้าของเขาได้เลย

ภายใต้แสงไฟที่สว่างไสว ความอ่อนโยนของเขา ได้ปกคลุม ใบหน้าอันมีเสน่ห์ของเขา แก้มของหญิงงาม คิ้วงามราวกับ สายนําในฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาคู่นี้ เปล่งประกายราวกับดาวระยิบ ระยับบนท้องฟ้า รอยยิ้มอ่อนโยน ชุดนอนผ้าโปร่งน้ำหนักเบา รวมกับร่างกาย อรชรงดงามของของเขา ช่างเป็นลักษณะที่ไม่ สามารถจะพูดบรรยายออกมาได้

อาจจะเป็นเพราะว่าฤทธิ์ของไวน์ยังไม่หมด ผิวของเขาจึงเป็น สีชมพูระเรื่อชวนน่าหลงใหล ตั้งแต่ใบหน้าลงมาจนถึงคอ เสน่ห์ เย้ายวนทำให้คนรู้สึกหวั่นไหว

หัวใจที่สงบนิ่งไม่อ่อนไหวต่อความรู้สึก ก็ได้เกิดความหวั่นไหว ขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง ซือ นอดใจไม่ไหว โอบกอดเอวของเขาเข้า มา แล้วก้มหน้าลงไปจูบ

ถังรั่ว ตกใจ จึงดิ้นขัดขืนไปตามสัญชาตญาณ แต่ทว่า จูบของ เขากลับมีพลังแห่งการไล่ล่าที่สูงมาก ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถ สะกดความรู้ล็กของเขาสําเร็จ
ความคิดของเขาสับสนวุ่นวาย ในที่สุดถูกเขาดึงดูดด้วยสัมผัส จากจมูกของเขาไปแล้ว จากนั้นก็ไหลไปตามอารมณ์สัมผัสที่รับ มา ซึ่งแสดงออกมาเป็นการกระทำไปตามอารมณ์ที่ไม่สามารถ ยับยั้งได้

และนี่ก็เป็นอีกจูบหนึ่งที่ลึกซึ้ง เต็มไปด้วยอารมณ์รักและความ ใคร่ ทั้งสองคนตกอยู่ในภวังค์ จนกระทั่งมือของ อู๋ซือจิ่นตวาด ไล่เข้าไปข้างในเสื้อของเขาถังรั่วซูก็รู้สึกสะดุ้งราวกับถูกสายฟ้า ฟาดขึ้นมา มีสติกลับขึ้นมาทันที

ผู้ชายก็รู้สึกตัว เรียกสติกลับมาได้ แล้วค่อยๆ ดึงมือกลับออกมา พร้อมกับระงับอารมณ์เร่าร้อนที่อยู่ภายในร่างกาย ยับยั้งให้หยุด แค่นั้น ไม่ไปต่อ

“ฉันไปอาบน้ำแล้ว เธอเข้านอนเถอะ”

เสียงของเขาทั้งแหบและทุ้มต่ำ ในนั้นได้แฝงไปด้วยความรู้สึก อดทนและอดกลั้น

“อืม”

ถังรั่วชใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมา รู้สึกเขินอายอย่างยากที่จะ ต้านทานได้ ขนาดมองยังไม่กล้ามองเขาเลย
ตู้ซือจิ่นเม้มปาก แล้วลูบไปทีผมยาวๆ ของเขา ไม่ได้เอ่ยปากพูด อะไรขึ้นมา จากนั้นก็หันหลังเดินไปอาบน้าอย่างรวดเร็ว

พอเขาเดินไปถึงรั่ว รู้สึกว่าพลังทั้งหมดของตัวเขาราวกับว่าได้ ถูกสูบไปจนหมดเกลี้ยงเสียอย่างนั้น เขาล้มตัวเอนลงบนโซฟา อย่างอ่อนแรง

เขาเอามือไปลูบที่หน้าอก ใจเต้นไม่หยุด เป็นส่วนที่โดนเขา ลูบไล้ไปเมื่อสักครู่ เป็นความรู้สึกที่เผ็ดร้อนอย่างยิ่ง ราวกับว่าถูก ไฟเผาไหม้เลย ยากที่จะเลือนหาย

วันรุ่งขึ้น เกี่ยวกับประเด็นของฉากละครรักนี้ระหว่างถังรั่วและ กู้รั่วรั่วกับจี้หยินเฟิง มีแนวโน้มที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

ในที่สุดก็เป็นแค่ข่าวบันเทิง กระแสเรื่องราวของความรักฉาวๆ มาไว และไปไวมาก ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยพื้นฐานของถังรั่วชูแล้ว เขาไม่ใช่ดาราแห่งวงการบันเทิง ส่วน กู้รั่วรั่วเองก็เป็นแค่นัก แสดงรับเชิญ แต่ถูกนำมาพาดหัวข่าวเป็นเรื่องราวใหญ่โต นั่นก็ เป็นเพราะว่าเรื่องนี้ส่งผลเสียในทางที่ไม่ดีมาก

“ชู้” คำนี้ สำหรับผู้หญิงหลายๆ คนแล้ว ถือว่าเป็นคำต้องห้ามเลย ทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้น ก็คือ เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทั้งหมดไม่ชอบ แล้วในนั้นยังจะมีหนุ่มไฮโซอย่างหยินเฟิงเข้าไปผสม ปนเปอีก ดังนั้น พอข่าวแพร่กระจายออกไป บรรดาชาวเน็ตต่างก็ กระพือขึ้นติดตามทันที ถือว่าเป็นการให้ความร่วมมือในการผลัก ดันสื่อ เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวข่าวก็ถูกส่งต่อกันไปอย่างรวดเร็ว

แต่ว่า หลังจากที่ประเด็นร้อนผ่านไป เหล่าบรรดาชาวเน็ตก็สงบ ลง หลงเหลือเพียงแค่บางกลุ่มที่ยังให้ความสนใจอยู่

หลังจากที่เรื่องนี้จบลงไปแล้วหยินเฟิงและกู้รั่วรั่วทั้งสองคนก็ เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างย่อยยับ มีคนไม่น้อยเลยที่เรียกร้องให้ขับ ไล่ กูรั่วรั่วออกจากวงการบันเทิงไป และหวังว่าเขาจะไม่มาทำให้ วงการบันเทิงแปดเปื้อนอีกต่อไป

หลังจากที่ กู้รั่วรั่วอ่านคอมเมนต์พวกนี้แล้ว ก็รู้สึกได้ถึงการถูก ทิ่มแทงขึ้นมาทันที หลับตาทั้งสองข้าง และเป็นลมล้มพับไปเลย

ถังรั่วชูผู้ที่ไม่ทราบเรื่องนี้ ในช่วงเช้า เขากับ สังอานหยีทั้งสอง คนออกไปทำข่าว พอกลับมาก็ก้มหน้าก้มตาเขียนข่าวฉบับร่าง ยุ่งขนาดที่ไม่มีเวลาไปสนใจอย่างอื่น จึงทำให้แทบจะไม่ได้รับ ผลกระทบใดๆ

พอถึงช่วงเที่ยง เขาก็โทรศัพท์หา อู๋ซือจิ่นหลังจากที่รายงาน โปรแกรมของตัวเองเสร็จ ก็ออกไปกินข้าวกลางวันกับ สั่งอานหยี

ระหว่างที่อยู่บนโต๊ะอาหาร สั่งอานหยีถามถังรั่วชูว่า “ทางด้าน กู้รั่วรั่วและจี้หยินเฟิงวันนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลยใช่ไหม

“นี่มันไม่ใช่เป็นเรื่องที่ดีหอกหรือ ต้นฉบับประกาศของ บริษัท จี้ซื่อได้ออกมาแล้ว ข่าวเน่าเสียเรื่องนี้มีผลเสียต่อพวกเขา แต่ ถ้าหากจะกัดไม่บ่อยละก็ มันก็จะเป็นการเห็นได้ชัดเลยว่าโง่เง่า ขนาดไหน ด้วยสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดของจี้หยินเฟิงแล้วละก็ ไม่มีทางที่จะไม่เข้าใจในเหตุผลนี้เป็นแน่แท้

ถังรั่วซูเคี้ยวอาหารที่อยู่ในปากด้วยท่าทีที่เรียบร้อยและงดงาม สำหรับเรื่องนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีความน่าสนใจมาตั้งแต่ต้น จนจบ