ตอนที่ 224 อดีตที่น่าเศร้า
ตอนที่ 224 อดีตที่น่าเศร้า
ถังรั่วชูอยู่บ้านพักผ่อนหลายวัน ทุกวันไม่ใช่ดูละครไร้ สาระ แต่คือการเรียนทําอาหารกับป้าอู่ วันเวลาจืดชืดน่า เบื่ออยู่บ้าง
วันนี้ ป้าอู่บอกจะสอนเธอทำกระดูกซี่โครงเปรี้ยวหวานที่ ซือจิ่นชอบทาน
เธอรีบกอดสมุดแล้ววิ่งส่ายสะโพกเข้าไปในห้องครัว
ในห้องครัว ป้าอู๋กำลังล้างกระดูกซี่โครง พอเห็นเธอเข้า มา ก็ยิ้มพูดหยอกล้อ “คุณนายคะ นี่พอบอกว่าเป็นอาหาร ที่คุณชายชอบทานที่สุด คุณก็วิ่งมาเร็วขนาดนี้เลย”
รู้ว่าเธอกำลังหัวเราะตนเอง แต่รั่วชูก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิด กลับพูดด้วยท่าทีที่เรื่องราวควรจะเป็นเช่นนั้น “ก็ใช่ ว่า กันว่าอยากคว้าหัวใจของผู้ชายสักคน ต้องพิชิตกระเพาะ ของเขาให้ได้ก่อน ขอเพียงฉันเรียนทำกับข้าวที่ซือจิ่น ชอบกินที่สุดเป็น ฉันคิดว่าต่อไปเขาจะต้องไปจากฉันไม่ ได้แน่ๆ ค่ะ”
พูดถึงตรงนี้ ในสมองของเธอลอยภาพหนึ่งขึ้น: ซือจิ่น น้ำตาเต็มหน้าขอร้องให้เธอทำกระดูกซี่โครงเปรี้ยวหวานให้เขา ร้องไห้จนน่าสงสารมาก เสียใจอย่างมาก
“หึๆ……” เธอหัวเราะโง่ๆ
ป้าอู๋ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เห็นเธอหัวเราะโง่ๆ จึง อดถามอย่างตลกไม่ได้ “คุณกำลังคิดอะไรอยู่คะ? ดู หัวเราะตลกขนาดนี้”
เสียงของป้าอู่ดึงความคิดที่ล่องลอยของเธอกลับมา เธอ
มองเห็นป้าอู่ทำหน้าสงสัย จึงได้แต่หัวเราะแห้งๆ สักนิด
จากนั้นเปลี่ยนหัวข้อ ชี้กระดูกซี่โครงในชามแล้วถามขึ้น “ป้าอู๋ กระดูกซี่โครงนี้ต้องล้างกี่รอบคะ?”
ชั่วครู่ป้าอู่ก็ถูกย้ายความสนใจแล้ว “ล้างสองสามรอบ ก็ได้แล้วค่ะ เดี๋ยวต้องใช้น้ำต้มอีกสักพัก”
“อ๋อๆ ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง” ถังรั่วชูพยักหน้าอย่างเข้าใจมา ฉับพลัน จากนั้นชี้ไปที่สมุดในมือ ยิ้มแล้วพูดกับป้าอู๋ “ฉัน ขอจดพวกนี้ลงไปก่อนนะคะ”
จากนั้นกางสมุดลงที่เคาน์เตอร์สะอาดทันที ก้มหน้า หยิบปากกาไว้ จดบันทึกลงไป
ป้าอู่ล้างกระดูกซี่โครงเรียบร้อยแล้ว
ต่อมา ป้าอู่สอนเธอทำกระดูกซี่โครงเปรี้ยวหวานที่ซือจิ่น ชอบทีละขั้นตอน
มีอะไรที่ต้องจดจําเอาไว้เธอก็เขียนลงไปในสมุดทั้งหมด
ที่แท้ทำกระดูกซี่โครงเปรี้ยวหวานสักจานใช้เวลาไปไม่ น้อย บวกกับต้องสอนเธอทําด้วย ทั้งหมดจึงใช้เวลาชั่วโม งกว่าๆ ถึงจะทำอาหารจานนี้เสร็จ
หน้าตาอาหารดูขึ้นมาแล้วถือว่าไม่เลว ไม่รู้ว่าทาน เข้าไปจะเป็นอย่างไรบ้าง
“คุณนายคะ คุณลองชิมดูหน่อยว่าอร่อยหรือเปล่า” ป้าอู่ ยื่นตะเกียบให้ถังรั่วชู
พอรับเข้ามา คีบกระดูกซี่โครงมาชิ้นหนึ่ง เป่าให้หาย ร้อนหน่อย จากนั้นยื่นมาที่ปากกัดอย่างระมัดระวังคำหนึ่ง
ป้าอู๋มองเธอด้วยความรอคอยและตื่นเต้น
ชั่วขณะที่รสชาติเปรี้ยวหวานเต็มทั่วทั้งช่องปาก เธอหรี่ตา ส่งเสียงด้วยความประหลาดใจ “อร่อยมากเลยค่ะ”
พอได้ยินเธอพูดแบบนี้ ป้าอู่โล่งอกไปทีหนึ่ง พูดอย่าง หน้าตาดีใจ “ที่อร่อยนั่นก็เพราะคุณนายฉลาด เรียนรู้ไว”
คำชมของป้าอู่ทำให้ถังรั่วซูเขินอย่างมาก “ที่ไหนกันคะ เป็นเพราะป้าอู่ฝีมือดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่เกือบเป็นที่ป่า อู่ทำเองทั้งหมดด้วย ถ้าฉันลงมือทำเอง ต้องทำรสชาตินี้ ออกมาไม่ได้แน่ค่ะ”
ความถ่อมตัวของเธอทำให้ป้าอู่ส่ายหน้าอย่างจำใจ “เด็กคนนี้……..
ถังรั่วชูแลบลิ้นออกมา จากนั้นคีบกระดูกซี่โครงชิ้นหนึ่ง ส่งไปที่ขอบปากของเธอ “มาค่ะ ป้าอู๋ คุณก็ชิมหน่อย อร่อยมากนะคะ”
ป้าอู่มองเธออยู่ ถูกรอยยิ้มที่สว่างไสวของเธอทำให้ ใจลอย
ระหว่างที่ใจลอย เหมือนว่าเธอได้ย้อนไปเมื่อยี่สิบกว่าปี ก่อน หญิงสาวที่ยิ้มแย้มแจ่มใสแบบเดียวกันคนคนนั้น ยก กระดูกซี่โครงเปรี้ยวหวานที่พึ่งทำเสร็จจานหนึ่งไว้ พูดกับ เธออย่างยากจะปิดความดีใจบนหน้า “พี่อู๋ ในที่สุดก็เรียนท่ากระดูกซี่โครงเปรี้ยวหวานได้แล้ว พี่รีบมา ลองชิม”
ป้าอู๋ใจลอยจนทำให้ถังรั่วชูขมวดคิ้วขึ้น ป่าอู๋จ้องมอง เธอตรงๆ ในสายตายังมีการหวนนึกที่ซับซ้อน นี่ป่าอู๋กำลัง นึกถึงใครกันเหรอ?
“ป้าอู่….” เธอเรียกด้วยความระมัดระวัง
“หา?” ป้าอู่ได้สติกลับมา มองเธออย่างสับสน เห็น ท่าทางสงสัยของเธอ จึงรีบหัวเราะทันที ก่อนจะบอกว่า “คุณนายบอกว่าอร่อยก็อร่อยค่ะ ฉันไม่ชิมแล้ว”
พูดจบ ป้าอู๋ก้มหน้าลง หมุนตัวเตรียมไปเก็บห้องครัว
เวลานี้ถังรั่วชูส่งเสียงเรียกเธอไว้ “ป้าอู่ เมื่อกี้คุณมอง เห็นใครบนตัวฉันเหรอคะ?”
ป้าอู๋ฝีเท้าหยุดชะงัก อากาศจมเข้าสู่ความเงียบชั่วพัก หนึ่ง
ป้าอู่ไม่ได้หันหน้ากลับมาครู่หนึ่ง ตอบด้วยน้ำเสียง เรียบๆ “ไม่มีค่ะ คุณนายคิดมากไปแล้ว”
ถังรั่วชูมองภาพเธอรีบเดินเข้าห้องครัวไป สายตาเหมือนกําลังคิดอะไร
ตอนเย็น ถังรั่วชูนำกระดูกซี่โครงเปรี้ยวหวานที่ป่าอู่สอน ตนเองทำไปอุ่นในไมโครเวฟ จากนั้นยกไปจัดวางที่โต๊ะ อาหาร
ตอนที่ผู้ซือจิ่นมองเห็นกระดูกซี่โครงเปรี้ยวหวานจานนั้น ขมวดหัวคิ้วเล็กน้อยแล้ว
“ป้าอู่ทำเหรอ?” เขาถาม
“ไม่ใช่” ถังรั่วชูลากเก้าอี้ออกนั่งลงตรงข้ามเขา วางมือ ทั้งคู่ซ้อนกันที่ขอบโต๊ะ มองเขาอย่างยิ้มกริ่ม “ป้าอู่เป็นคน สอนฉันทำ เธอบอกว่านี่เป็นอาหารที่คุณชอบที่สุด”
เขาโค้งมุมปาก แววตาประกายนิดๆ “กินได้รึเปล่า?”
“กินได้แน่นอนสิ คุณรังเกียจฝีมือของฉันรึไง” ถังรั่วชู ถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นหยิบตะเกียบ ขึ้นมาคีบชิ้นหนึ่งใส่ในถ้วยของเขา “รีบลองกินดู”
ลูซือจิ่นมองเธอแวบหนึ่ง จากนั้นคีบกระดูกซี่โครงขึ้นมา กัดคำหนึ่ง
“เป็นยังไงบ้าง?” ถึงรั่ว มองเขาอย่างรอคอยมาก
สู้ซือจีนค่อยๆ เคี้ยว ท่าทางเรียบนิ่งไม่สั่นไหว ดูไม่ออก ว่าชอบหรือไม่ชอบ
ถังรั่วซอดขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้ ถามอย่างระมัดระวัง “ไม่ อร่อยเหรอ?”
ลูซือจิ่นวางตะเกียบลง ยิ้มเล็กน้อย “อร่อยมาก
ได้ยินคำชมของเขา ชั่วขณะนั้นถังรั่วซูจิตใจเบิกบาน หน้าตายิ้มแย้ม “อร่อยก็กินมากๆ หน่อย
เธอคืบให้เขาอีกหลายชิ้น ชั่วพริบตาเดียวก็ใกล้เต็มถ้วย แล้ว
เธอยิ้มทางเขาไป จากนั้นก้มหน้าตักข้าวคำใหญ่ พูด ตามตรงถูกเขาชมขนาดนี้ เธอรู้สึกว่าความอยากอาหาร ของตนเองเยอะมาก ตอนเย็นสามารถทานข้าวได้เป็น ถ้วย
ลูซือจิ่นไม่ได้ขยับตะเกียบ เพียงแค่มองเธอทานอยู่ เงียบๆ แววตาเผยอารมณ์ที่ซับซ้อน
เม้มริมฝีปากบาง จากนั้นเอ่ยปากถาม “ซูซู คุณรู้ไหมว่าทำไมผมถึงชอบกินกระดูกซี่โครงเปรี้ยวหวาน?”
ถังรั่วซูเงยหน้ามองเขา กลืนข้าวในปากลง ยิ้มเล็กน้อย พูดอย่างภูมิใจมาก “ฉันรู้แน่นอน ป่าอู่บอกฉันหมดแล้ว บอกว่าตอนเด็กคุณเลือกกิน ชอบกินอาหารที่รสชาติ เปรี้ยวหวานมาก ดังนั้นเลยมักจะทำกระดูกซี่โครงเปรี้ยว หวาน ปลาเปรี้ยวหวานอะไรแบบนี้ให้คุณ”
อู๋ซือจิ่นหัวเราะ “นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง”
“หือ?” ถังรั่วชูยักคิ้วอย่างสงสัย “ยังมีเหตุผลอื่นอีกเห รอ?”
“อืม” อู๋ซือจิ่นพยักหน้า “เพราะนี่เป็นกับข้าวรสเด่นที่สุด ของแม่ผม
ลูซือจิ่นก้มหน้าหัวเราะ ในท่าทางเผยความเศร้าใจนิดๆ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว “นี่คือกับข้าวที่แม่เรียนทำตามตำรา ให้ผมด้วยตัวเอง เรียนครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายเรียนจน ทําเป็น”
ที่แท้อาหารจานนี้ยังมีเรื่องราวแบบนี้นี่เอง ถังรั่วชูอด นึกถึงป้าอู่ที่ใจลอยตอนนั้นไม่ได้ คงไม่ใช่เพราะแม่ของ ซือจิ่นเหมือนกันมั้ง?
“แต่ว่าต่อมาแม่ผมตาบอดแล้ว เธอก็ไม่เคยทำอีกเลย”
พูดถึงตรงนี้ สู้มือจั่นหัวเราะ “แต่ตอนนี้มีคุณอยู่ ผม สามารถกินได้อีกแล้ว”
ถังรั่ว ..….……….
ไม่ใช่ป้าอู่ก็ทำเป็นเหรอ? ให้ป้าอู่ทำก็ไม่ได้แล้วหรือไง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ