ตอนที่ 192 ต้องได้รับการผ่าตัด
ตอนที่ 192 ต้องได้รับการผ่าตัด
เจ็บ
เจ็บมาก
ประสาทหูได้ยินเสียงกู้รั่วรั่วกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง แถมยัง มีโม่เฟยตะโกนออกมาด้วยความโกรธ แถมยังมีเสียงเรียก อย่างตกใจของสังอานหยี
ถังรั่วชูกุมบริเวณท้องของตนเองเอาไว้ จากนั้นก็ทรุดลงด้าน ข้างโต๊ะไปด้านล่างเรื่อยๆ จนถึงกับนั่งกองที่พื้น
เจ็บ ความเจ็บปวดค่อยๆ ทวีกระจายไปทั่ว ทั้งร่างกาย
ร่างกายสั่นสะท้านจนเสียการควบคุม น้ำตาไหลเป็นสาย เธอ รู้สึกเจ็บปวดมากจริงๆ มากเหลือเกิน
“ชูชูไม่สบายตรงไหน?”
สังอานหยีรีบวิ่งมาหา พร้อมทั้งนั่งคุกเข่าข้างกายเธอ น้ำเสียง รีบร้อน
“สังอานหยี ฉันเจ็บบริเวณท้องมาก”
กัง วชเงยหน้า ขาว ดขึ้น และพูดอย่างไม่มีแรง
พอเห็นใบหน้าของเธอที่ขาวโพลนของเธอ จนส่งอานหยียัง ตกใจไปด้วย เลยรีบเรียกทันที “เงินไม่เฟย ซูซูได้รับบาดเจ็บ แล้ว”
“ซูซูไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะโทรหา 120 ไม่ต้องกลัว
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาด้วยอาการสั่นเทา กดหาอยู่สัก พักถึงได้โทรศัพท์ออกไป
เธอร้องไห้คร่ำครวญพร้อมทั้งพูดบรรยายสภาพกับคนที่อยู่ ปลายสาย พร้อมทั้งกำชับให้พวกเขารีบมาอย่างเร่งด่วน
หลังจากวางสายแล้ว เธอดึงไหล่ของถังรั่วซูเข้ามาหา เพื่อให้ ตัวเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง พร้อมทั้งกำมือของเธอ เอาไว้แน่น เพื่อจะให้เธอเก็บแรงเอาไว้สู้ต่อ
เสิ่นโม่เฟยไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อนเลย แต่ว่าวันนี้เขา ถือว่าเป็นข้อยกเว้น
พอเห็นว่าพี่สะใภ้ถูกกู้รั่วรั่วรังแก เขาจะมองดูเฉยๆ ไม่ยอม ช่วยได้ยังไง?
หลังจากไปดึงตัวกู้รั่วรั่วออกมา เขาไม่สนใจสภาพของพี่ สะใภ้ที่มีตอนนี้เลยด้วย แถมยังตรงดิ่งไปตบหน้ากู้รั่วรั่วเต็ม แรง จนตบเธอหน้าคว่ำล้มกองอยู่กับพื้น
ยิ่งเห็นสภาพที่กู้รั่วรั่วนอนกองอยู่ที่พื้นไม่ขยับเขยื้อน เขายิ้ม อย่างเย็นชา “กูรั่วรั่ว การเป็นมนุษย์ไม่ควรท่าล้ำเส้นไปแบบนี้ ถ้าแกไม่ได้จิตใจต่ำทราม ลูกของแกก็คงมีชีวิตอยู่ต่อ ก็คงไม่ ถูกบริษัทยกเลิกสัญญา พูดให้ถูก ทุกอย่างมันมาจากสิ่งที่แก เป็นคนก่อขึ้นมาทั้งหมด
พูดจบ เขาก็หันหลัง สายตามองไปยังใบหน้าขาวซีดของถัง รั่วชู หัวคิ้วผูกโบไว้แน่น
เขารีบเดินไปหา แล้วนั่งคุกเข่าลง แถมยังไม่สนใจความเจ็บ ปวดบริเวณหลังของตนเองเลย พร้อมทั้งรีบอุ้มถังรั่วชูขึ้นมา
จากนั้นก็สาวเท้าเดินออกไป ส้งอานหยีรีบเดินตามหลังของ เขาไปอย่างรีบร้อน
ผู้ช่วยเลขานุการเห็นเขาอุ้มคนออกมา เลยรีบลุกยืนขึ้น พร้อมทั้งมองมาด้วยสายตาประหลาดใจ
“หลินหลิน รีบแจ้งตำรวจ ให้ทางตำรวจมาพาตัวผู้หญิงที่อยู่
ในห้องไป
เสิ่นโม่เฟยพูดสั่งการพร้อมทั้งรีบเดินไปทางด้านหน้า
เลขาฯ หลินหลินรับตกปากรับคํา “ได้ค่ะ ฉันจะโทรศัพท์หา
110 ทันที”
ถังรั่วชูถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัด
สังอานหยืนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว พร้อมทั้งจ้องมองไฟที่แสดง สัญญาณอยู่หน้าห้องผ่าตัด มือทั้งสองข้างประสานอยู่บริเวณ หน้าอกเอาไว้แน่น ในใจมีแต่ความหวาดกลัวและหวาดหวั่น
ชูชูจิตใจแสนดี คงต้องปลอดภัยไม่มีอันตรายแน่ๆ
ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่ตนเองคิดอยู่ในใจ
จะไม่มีเรื่องเกิดขึ้นแน่นอน
หลังจากที่เสิ่นโม่เฟยโทรศัพท์เสร็จแล้ว ก็เห็นว่าสีหน้าของ เธอไม่เป็นสุขเลย แววตาทอประกาย จากนั้นก็เดินไปนั่งข้างๆ เธอ
“พี่สะใภ้เป็นคนที่กล้าหาญเข้มแข็งคนหนึ่ง ต้องไม่มีเรื่องเกิด ขึ้นแน่นอน”
เบากระซิบแผ่วเบา
ส่งอานหยีหันไปมองเขา พร้อมทั้งอ้าปากพูด “อืม ชูซูต้องไม่มี อะไรเกิดขึ้นแน่”
เสิ่นโม่เฟยยิ้มเธออย่างปลอบใจ จากนั้นก็ลูบหัวเธออย่างแผ่ว
เบา
พร้อมทั้งมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากทางเดินทีเงียบเชียบ เงิน โม่เฟยหันไปมองตามเสียง ก็เห็นลูซึ่งเหยากับยิ่งเซียวเซียว กำลังวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน
“ตกลงว่าเรื่องมันเป็นมายังไง?” ยิ่งเซียวเซียวถามตรงๆ
“เซียวเซียว…” พอหันไปเห็นเพื่อนสนิท สั่งอานหยีตาแดง ทันที
ยิ่งเซียวเซียวเดินไปกอดเธอเอาไว้ “สังอานหยี นี่มันเกิดเรื่อง
อะไรขึ้น? แล้วทำไมชูชูถึงได้เข้าไปในห้องผ่าตัดได้ล่ะ?”
“ใช่สิโม่จื่อมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” ลูซึ่งเหยารีบถามซักเร่ง
ร้อน
เขากำลังประชุมอยู่ พอรับโทรศัพท์ของโม่จื่อที่โทรศัพท์ เข้าไปบอกว่าพี่สะใภ้เข้าโรงพยาบาล ตกใจจนทิ้งงานพร้อม ทั้งรีบบึงมาทันที แถมตลอดทางยังผ่าไฟแดงมาหลายครั้ง
“เซียวเซียว ทั้งหมดมาจากกู้รั่วรั่ว เธอเป็นคนทำให้ถังรั่วชูเข้าโรงพยาบาล”
พอคิดได้ว่ากูรั่วรั่วทำอะไรบ้างกับชูชู ส่งอานหยีสีหน้า เคร่งเครียด “เธอถีบท้องของชูซู หมอตรวจแล้วหมอบอกว่า บริเวณช่องท้องมีเลือดไหลออกมา ต้องผ่าตัดด่วน”
“กูรั่วรั่ว!” ยิ่งเซียวเซียวกัดฟันเอ่ยชื่อนี้ออกมา แววตามีแต่ กองไฟความโกรธแค้นปะทุขึ้น
“ระยำ ตอนนั้นไม่ควรจะฟังที่พี่สะใภ้พูดเลย ควรจัดการกู้รั่ว รั่วไปให้สิ้นซาก เรื่องในวันนี้คงไม่มีวันเกิดขึ้น” สู้ซึ่งเหยาใช้ หมัดต่อยก๋าแพง พร้อมทั้งพูดอย่างอารมณ์เสีย
เขากับพี่ใหญ่ให้ความเคารพกับคำพูดของพี่สะใภ้ แต่พวก เขาก็ลืมไปซะสนิทว่ากู้รั่วรั่วเป็นผู้หญิงที่แสนร้ายกาจคนหนึ่ง ลืมไปเลยว่าเธอยังเอาเรื่องที่แท้งลูกมาโยนให้เป็นความผิด ของพี่สะใภ้ได้
พอกันตรงๆ พวกเขาประมาทเลินเล่อเกินไป
“พี่ใหญ่ล่ะ?” เสิ่นโม่เฟยถามทันที
ล้ซึ่งเหยาหันกลับไปมองเขา “เขาไปประชุมที่ต่างเมือง ตอน นี้กำลังเดินทางรีบกลับมา”
สู้ซึ่งเหยาขมวดคิ้ว “โม่จื่อฉันดูแกแล้วเหมือนว่าแกดูไม่ปกติ?”
สีหน้าขาวซีด ดูแล้วเหมือนว่ากำลังอดทนอะไรอยู่
พอพูดจบ สังอานหยีที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน เลยคิดได้ว่าตอนที่ ตนเองวิ่งเข้าไปในห้องทํางานก็เห็นภาพนั้นทั้งหมด จนใจสั่น เลยรีบตอบแทนเสิ่นโม่เฟยทันที “เขาถูกที่วางทับกระดาษ หล่นใส่หลัง”
“ที่วางทับกระดาษ?”
หัวคิ้วล้ซึ่งเหยาย่นเข้าหากันแน่น พร้อมทั้งถามลองใจกลับ “ที่วางทับกระดาษที่คุณตาส่งให้แกอะนะ?”
เสิ่นโม่เฟยส่งเสียง “อืม” “ก็แค่ถูกขว้างใส่นิดหน่อย ไม่เป็นไร หรอก”
แต่ในเป็นที่วางทับกระดาษที่ทำมาจากหยก น้ำหนักก็ไม่น้อย
การที่ถูกเขวี้ยงใส่นั้น จะไม่เป็นไรไปได้ยังไง?
ลูซึ่งเหยาไม่เชื่อเขา เลยเดินก้าวไปข้างหน้า พร้อมทั้งถกเสื้อ เชิ้ตสีขาวของเขาขึ้นมา
“ซี้ด!”
สังอานหยีกับยิ่งเซียวเซียวสูดลมหายใจเข้า เมื่อเห็นแผ่น หลังขาวเกลี้ยงเกลาของเสิ่นโม่เฟยมีรอยช้ำเขียว แถมยังเห็น เลือดฟกช้ำอย่างชัดเจน
ดูจากสภาพแล้วช่างน่าตกใจ ไม่เห็นว่าไม่เป็นไรตรงไหนเลย
“สังอานหยี คุณพาเขาไปหาหมอให้หมอดูอาการหน่อย” ลู่ซึ่ง
เหยาเองก็กลัวว่าจะไม่ได้มีแค่รอยฟกช้ำนะสิ
ส่งอานหยีตกตะลึง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน “อ้อ ฉันจะพาเขาไป เดี๋ยวนี้”
พูดจบ เธอก็ประคองเสิ่นโม่เฟยเอาไว้ พร้อมทั้งเงยหน้าจ้อง มองนัยน์ตาดำของเขา อีกทั้งยังรีบทำทันที พร้อมทั้งประคอง เขาไปยังห้องฉุกเฉินเพื่อดูอาการ
“ส่งอานหยี”
ส่งอานหยีหยุดเท้าลง พร้อมทั้งหันกลับมามอง ก็ได้ยินเสียง ยิ่งเซียวเซียวถามขึ้นมา “ทั้งหมดนี่กู้รั่วรั่วเป็นคนเขวี้ยงใช่ ไหม”
“อืม” เดิมทีเธอต้องการที่จะขว้างใส่ชูชู แต่ท่านประธานเสิ่น ต้องการปกป้องชูชูเอาไว้เลยโดนหางเลขไปด้วย
ยิ่งเซียวเซียวกำหมัดไว้แน่น สายตามีแต่ความเย็นเฉียบ “ฉัน จะไม่ปล่อยกู้รั่วรั่วให้ลอยนวลไปง่ายๆ แน่”
เธอหมายหัวคนชั่วอย่างกูรั่วรั่วเอาไว้นานแล้ว ทำผิดมา หลายครั้งหลายหนแล้ว ครั้งนี้เธอไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ ต้องเรียกร้องสิ่งที่เธอทำร้ายซูซูให้เพิ่มอีกหลายเท่าให้
สาสม
“เธอถูกส่งตัวไปสถานีตำรวจแล้ว” เสิ่นโม่เฟยกระตุกยิ้มรอย ยิ้มลึกซึ้งอย่างมีนัยน์ “คุณยิ่ง ควรจะรู้ใช่ไหมว่าควรจะทำ อย่างไร”
ยิ่งเซียวเซียวแสยะยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันรู้ดี”
“งั้นก็รอฟังข่าวดีก็แล้วกัน”
เสิ่นโม่เฟยหันไปมองเธออย่างมีความหมายอยู่แวบหนึ่ง จาก นั้นก็หันไปพูดกับสังอานหยี “เราไปกันเถอะ”
ส่งอานหยืมองเซียวเซียวอยู่แวบหนึ่ง จากนั้นก็พยุงเขาเดิน
ไปทางด้านหน้า
อาศัยอำนาจของตระกูลเสิ่นทั้งทางด้านทางทหารและอำนาจ ทางการเมือง แถมยังมีตระกูลของเซียวเซียวอีกที่มีหน้าตาใน สังคม การที่จะมาต่อกรกับกู้รั่วรั่วถือว่าเป็นเรื่องง่าย
“คุณไม่ใช่ว่าคิดเหมือนกับพี่สะใภ้หรอกเหรอ ที่ว่าอยากจะ ให้กู้รั่วรั่วรับกรรมไปทีละนิด? ทำไมถึงได้เปลี่ยนความคิดเร่ง ด่วนขนาดนี้?”
ลูซึ่งเหยาจ้องมองยิ่งเซียวเซียวที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มให้
ซึ่งเขียวเขียวเหล่ตามองเขาอย่างเป็นชา ทุกอย่างเปลี่ยนไป ตามกาลเวลา
ซึ่งเหมายิ้ม แต่ดวงตากลับไม่มีรอยยิ้มมีแต่ความเย็นชาสื่อ มาจากดวงดา
“งั้นก็เหมารวมฉันด้วย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ