ตอนที่ 160 ถูกคนรังแกแล้ว
ตอนที่ 160 ถูกคนร้งแกแล้ว
ถังรั่วชูที่เพราะว่าแผลถูกลวกอีกทั้งถูกให้หยุดไปแล้วกี่วัน จึงได้รู้สึกว่าตัวเองมีความรู้สึกประเภทที่เพราะว่าหม้อถึงได้ รับความสุขอย่างไร้เหตุผล
เพียงแต่ในเมื่อมีวันหยุด อย่างนั้นก็ต้องเสพสุขดีๆ
ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้นัดเซียวเชียวออกมาแล้ว ตั้งแต่เขียว เขียวกลับประเทศจนกระทั่งตอนนี้ พี่สาวน้องสาวทั้งสองคนก็ รวมตัวกันน้อยมาก
ครั้งนี้อาศัยโอกาสของวันหยุดในการรวมตัวกันให้ดีๆ
“ขอโทษ ฉันมาสายแล้ว”
เซียวเซียวนํากระเป๋าทิ้งไปถึงบนเก้าอี้ตรงด้านหนึ่งตาม อำเภอใจ หลังจากนั้นตูดก็ได้นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับถังรั่วชู
ถังรั่วชูมองไปแวบหนึ่งที่กระเป๋าที่น่าสงสารใบนั้น จากนั้น ก็ได้ทําเสียง ปากส่ายหัว “เซียวเซียว เธอก็คือไม่เอาเงินมา ทําเป็นจริงเป็นจังจริงๆนะ”
เซียวเซียวที่กำลังรินน้ำอย่างเต็มที่ได้ยินคำพูดของเธอแล้ว จากนั้นก็ได้ขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีกอย่างกลัดกลุ้ม หลังจากนั้นก็ได้พูดถาม: “เธอไปเอาการหดหูทอดถอนใจมาจาก ที่ไหนแล้วล่ะ?”
น่า!” ถังรั่วชูใช้แววตาบอกใบ้ถึงกระเป๋าที่นอนอยู่บนเก้าอี้ตัว นั้น “นั่นเป็นถึงกระเป๋าที่มีปริมาณจำกัด สตรีมีชื่อเสียงที่มีเงิน เป็นจำนวนมากตอนนี้ต้องการจะซื้อก็ซื้อไม่ได้ คาดไม่ถึงว่า เธอยังไม่เห็นคุณค่าอีก
กระเป๋าที่มีปริมาณจำกัดของยี่ห้อดังระหว่างประเทศ ปกติก็ ล้วนมีการเก็บรักษามูลค่า
เธอนี้ได้ทิ้งตามอำเภอใจ หากว่าสัมผัสกระทบกระแทกแล้ว อย่างนั้นก็จะเสื่อมมูลค่าลงแล้ว
“ขอร้อง!” เซียวเซียวพลิกสายตามองค้อน “ตอนนี้เธอเป็นถึง คุณผู้หญิงอู๋ อย่ามีความคิดของชาวเมืองผู้มีอันจะกินประเภท นี้ กระเป๋าพังแล้วพวกเราก็ซื้อใหม่ อย่างไรเสียพวกเราก็ไม่ ขาดเงิน!”
ถังรั่วชูหัวเราะแห้งๆ “คุณหนูใหญ่เซียวเซียวมีเงินมากแล้วก็มี อิทธิพลมากสินะ ชาวเมืองผู้มีอันจะกินนี้อย่างฉันเทียบไม่ได้”
“ไม่กล้าไม่กล้า ฉันมีเงินทองมั่งคั่งใหญ่โตก็ยังคงเทียบกับ สามีของชาวเมืองผู้มีอันจะกินไม่ได้ ไปไกลถึงมีอิทธิพลมาก
เขียว เขียว กลั้วขมวดขึ้นอย่างมีเลศนัย “ฉันจะต้องยิ่งเทียบ ไม่ได้แล้ว ถึงอย่างไรฉันก็ไม่มีไง”
ตอนเริ่มแรกถังรั่วชูไม่ได้มีท่าทีโต้ตอบในความหมายที่ลึก ซึ้งในคำพูดของเธอเข้ามา แต่เมื่อเห็นเธอหัวเราะได้อย่าง คลุมเครือเช่นนั้น เธอที่ได้อ่อนไหวต่อสิ่งต่างๆก็อยู่ในตอนที่ ไม่มีใครค้นพบแต่ก็จะรู้ก่อนถึงได้ตระหนักถึงความผิดปกติใน คำพูด
“เซี้ย เซียวเซียวทำไมเธอสกปรกโสมมแบบนี้ล่ะ?” ใบหน้า ของถังรั่วชูเต็มไปด้วยความรังเกียจ
เซียวเซียวทำปากจู๋อย่างไม่มีความผิด “ฉันสกปรกโสมม ที่ไหนแล้ว? เห็นได้ชัดว่าเป็นเธอที่คิดมากไปเอง”
เห็นถึงสถานการณ์นี้ถังรั่วชูจึงอดไม่ได้เผลอส่งเสียงหัวเราะ ออกมาแล้ว และเซียวเซียวก็ได้ปรากฏรอยยิ้มที่สวยสด งดงามออกมาด้วย
มีกลิ่นหอมของกาแฟลอยอยู่ในอากาศ เสียงดนตรีเปียโนที่ ไพเราะฟังแล้วรื่นหูกำลังไหลรินอยู่ในร้านกาแฟที่ใหญ่อะไร อย่างนั้น และพวกเขาได้นั่งใกล้กับหน้าต่าง พูดคุยกันอย่างมี ความสุข
และก็ได้อยู่ในตอนที่ถังรั่วชูเสพสุขกับวันหยุดของเธอ เวลานี้ฝ่ายบุคคลก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว
เดิมทีหรุเสี่ยวหลินที่ได้ถูกเพิกถอนตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายสื่อมวลชน คาดไม่ถึงว่าได้กระโดดและเลื่อนขึ้นกลาย เป็นผู้ช่วยของผู้จัดการใหญ่
ตอนนี้ไม่ใช่แค่ถังรั่วชู ส่งอานหยีที่ต้องมองสีหน้าของเธอใน การปฏิบัติหน้าที่ แม้แต่หลีน่าก็ใช่
“ไม่มีอะไรแตกต่างเลยจริงๆ!” สำหรับเรื่องนี้ส้งอานหยีทำ เสียงฮึดฮัดดูถูกและเหยียดหยาม
“หรุเสี่ยวหลิน หลังจากนี้เธอจะต้องดูแลพวกเราหน่อย ฉัน กลัวว่าเธอไปแล้ว จะมีคนฉวยโอกาสรังแกพวกเรา”
คนที่พูดคําพูดนี้ ได้มีสายตาเหมือนความมีเจตนาแต่ก็ไม่มี
เจตนาที่ได้ลอยปลิวไปทางส่งอานหยี
สังอานหยีได้ฟังแล้ว ก็พลิกสายตาค้อนหนักไปตรงๆ รังแก พวกเขา?! เธอกับถังรั่วชูยังระแวงว่าจะเสียเวลาล่ะ!
“วางใจ มีฉันอยู่ ไม่มีใครที่จะรังแกพวกเธอได้” หรูเสี่ยวหลิน เก็บของเสร็จ ทันใดทันทีก็ได้มีคนที่เป็นสุนัขรับใช้รีบช่วยเธอ ถือกล่อง
ผู้หญิงมองการณ์ไกลกี่คนนั้นที่ได้ติดตามเป็นกลุ่มภายใต้ การอาศัยหัวม้าอย่างหรุเสี่ยวหลิน หรุเสี่ยวหลินก็เหมือนกับนกยูงที่เย่อหยิ่งผยองตัวหนึ่งได้เดินไปถึงด้านข้างของส่งอาน หยี มือคู่ได้กอดอกไว้ จากนั้นก็ใช้มุมหางตาปล่อยทิ้งแสงรังสี ไปยังส่งอานหยีทีหนึ่ง และได้ขีดรอยยิ้มของการหัวเราะเยาะ ขึ้น
“มีบางคนอ่ะ คิดว่าได้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการก็มีทั้งโลกทั้ง ในครอบครองแล้ว ดีที่สุดคือเอาเก้าอี้มานั่งด้วยความ กระตือรือร้นแล้ว มิเช่นนั้นเมื่อถึงเวลาที่ตกลงมาก็จะไม่น่าดู แล้ว”
เวลาเดียวกันกับตอนที่พูด หรูเสี่ยวหลินก็ได้ดึงลอนผมที่ได้ ตั้งใจย้อมจนเป็นสีเหลืองน้ำตาลของตัวเองไปมา ด้วยท่าทาง ที่กระหยิ่มยิ้มย่องภาคภูมิใจมาก
สังอานหยีมองไปยังเธอที่อยู่ด้านข้างแวบหนึ่ง จากนั้นก็ได้ ยิ้มอย่างเย็นชา: “ผู้ช่วยหรุ ประโยคนั้นยังคงเก็บไว้ให้ตัวเธอ เองเถอะ”
ถัดไปเธอก็ได้ลุกขึ้นมาพร้อมหัวเราะฮ่าๆ เส้นสายตาที่เย็น ชากวาดผ่านไปที่พวกเขากี่คน สุดท้ายก็ได้หยุดอยู่ที่หรูเสี่ยว หลินทีบนใบหน้าเต็มไปด้วยความลำพองใจนั้น และได้ขีดริม ฝีปากยิ้ม อย่าลําพองใจจนเร็วเกินไป มิเช่นนั้นเมื่อถึงเวลาก็ จะตายได้อย่างไม่น่าดูมาก”
สีหน้าของหรูเสี่ยวหลินได้เปลี่ยน รอยยิ้มของความลำพองใจ ในชั่วพริบตาก็ได้แข็งทื่อไม่กระดิกแล้ว จากนั้นก็ได้ถลึงตาใส่ สังอานหยีด้วยความโกรธแค้น
“ส่งอานหยี เรื่องอย่าคิดว่าตัวเองเลื่อนตำแหน่งแล้วก็เอาตัว เองมาเป็นจริงเป็นจังจริงๆ ก็เป็นเพียงแค่ผู้ช่วยผู้จัดการตัว เล็กๆคนหนึ่งมีอะไรน่าลำพองใจ หรุเสี่ยวหลินคนอื่นเขาเป็นถึง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ยอดเยี่ยมกว่าเธอ เธอไม่สามารถตามติด ได้”
ผู้สนับสนุนหรุเสี่ยวหลินได้กระโดดออกมาเพื่อหน้าแทนเธอ คําที่ได้พูดก็ได้ทําให้ส่งอานหยีหัวเราะขำขันไปตรงๆแล้ว
ปีนี้อะไรก็ไม่มากจริงๆ ก็มีผู้พิการทางสมองที่มีมากเป็นพิเศษ
ส้งอานหยีเขวี้ยงสายตาที่เย็นชาโดยเฉพาะไปทางคนนั้น แวบหนึ่ง “ดังนั้นรีบฉวยโอกาสตอนนี้กอดต้นขาไว้ หลีกเลี่ยง ว่าหลังจากนี้คิดจะกอดก็กอดไม่ได้แล้ว”
เมื่อพูดจบ อยู่ภายใต้การเพ่งมองด้วยความโกรธไม่ยอมของ พวกเธอ ส่งอานหยี ได้เดินออกไปอย่างคล่องแคล่วว่องไว
รอดูเถอะ! เธอจะต้องทำให้สังอานหยีกับถังรั่วชูน่าดู!
หรูเสี่ยวหลินถลึงตาใส่เงาที่เดินออกไปของสังอานหยีไว้ อย่างโกรธแค้น
ถังรั่ว นั่งอยู่ในรถ ตอนที่เห็นถึงเงาที่เดินออกมาจากตึกสูง ก็ได้รีบลดหน้าต่างรถลง ยื่นมือออกไปโยกแล้วโยกอีกทาง ด้านคนนั้น
“สงอานหยี พวกเราอยู่ที่นี่”
ส่งอานหยีได้ยินเสียง จึงได้มองไปตามเสียงที่ส่งมา และได้ เห็นรถจี๊ปคันหนึ่งหยุดอยู่ไม่ไกล
เธอขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก หลังจากนั้นก็ได้วิ่งเหยาะๆ
เข้าไป
“เซียวเซียว ทําไมเธอก็ขับรถจี๊ปมาอีกแล้ว?” เมื่อได้นั่ง ส้ งอานหยีก็พูดถามตั้งแต่ต้น
“ฉันชอบนี่” เซียวเซียวที่นั่งอยู่บนเบาะที่นั่งคนขับก็ได้กลับ
หลังหันยิ้มหวานให้กับเธอ
สังอานหยีทิ้งริมฝีปาก “ไม่เข้าใจจริงๆเธอเป็นเด็กผู้หญิงคน หนึ่งทําไมก็ชอบขับรถของเพศชายแบบนี้”
สตรีที่มีชื่อเสียงมีเงินทองมากมายคนอื่นเขาขับก็ล้วนคือรถ สปอร์ตที่มีสีสันสวยสดงดงามประเภทนี้ ทำไมหล่อนก็ชอบรูป ร่างใหญ่สีดำประเภทนี้แล้ว?
“อานหยี เธอไม่ต้องทุกครั้งที่เห็นรถของเซียวเซียวก็ต้อง แขวะหล่อนครั้งหนึ่ง” ถังรั่วชูกลับหันหลังมองเขา “เธอก็รู้ว่าเขียวเขียวได้เติบโตอยู่ในครอบครัวทางการทหารตั้งแต่เด็ก นิสัยค่อนข้างเหมือนเด็กผู้ชาย ดังนั้นชอบรถประเภทนี้ก็คือ ปกติ
“ก็ใช่ไง ยังคงเป็นถังรั่วชูที่เข้าใจฉัน” เซียวเซียวยกมือเอียง ตัวไปกอดถังรั่วชูไว้ จากนั้นก็ได้พูดออดอ้อน: “ถังรั่วชู อานหยี เธอรังแกฉัน”
ตอนที่พูดเธอก็ใช้แววตาที่น่าสงสารจ้องมองไปยังส่งอานหยี
ไว้
“ได้แล้ว”
“ฉันก็ล้วน OKนะ” เซียวเซียวยักไหล่แล้วยักไหล่อีก ด้วย ท่าทางที่ให้พวกเขาตัดสินใจเธอตามใจ
“ฉันก็ได้ทั้งหมด ไม่เลือกกิน” ส่งอานหยีมีท่าทางเหมือนกัน
ถังรั่วชูจับไปที่หน้าผากจากนั้นถอนหายใจเบาๆ “แพ้ให้กับ พวกเธอแล้วจริงๆ”
เซียวเซียวกับสังอานหยีได้มองซึ่งกันและกันและได้หัวเราะ ขึ้น ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน “พวกเราไปกินปลาต้มผักกาด ดองกันเถอะ”
ถังรั่วชูหัวเราะ “ดี ก็กินปลาต้มผักกาดดอง
ผู้หญิงทั้งสามคนได้มองแล้วมองอีกซึ่งกันและกัน จากนั้น ก็ได้ส่งเสียงหัวเราะออกมาแล้วพร้อมกันโดยไม่ได้นัด
“ที่จริงพวกเรายังคงมีสัญญาณลับมาก” เซียวเซียวด้านหนึ่ง เริ่มสตาร์ทรถยนต์อีกด้านหนึ่งได้พูด
“นั่นคือความรักความผูกพันกี่ปีของพวกเรานะ” ส่งอานหยีได้ เงยคางขึ้นเล็กน้อยอย่างภูมิใจ
ถังรั่วซูยิ้มๆไม่ได้พูดอะไร
เวลานี้ส่งอานหยีดูเหมือนว่านึกอะไรออกแล้ว และได้มองถัง รั่วชูอย่างเป็นห่วง จากนั้นก็ได้พูดถาม: “ถังรั่วซู ยังเจ็บไหม?”
ถังรั่ว ได้ยิ้มตอบกลับ “ไม่เจ็บแล้ว”
เซียวเซียวที่กําลังใจจดใจจ่อกับการขับรถได้ยินการพูดคุย ของพวกเขา จึงได้แบ่งความสนใจหันหัวมามองพวกเธอแล้ว แวบหนึ่ง จากนั้นก็ได้ถามอย่างไม่สบายใจ: “เจ็บไม่เจ็บอะไร ล่ะ?”
“เธอไม่ได้บอกเซียวเซียวเหรอ?” ส่งอานหยียกคิ้วขมวดด้วย ความประหลาดใจ
“ไม่มี” ถังรั่วชูส่ายหัว
“บอกฉันว่าอะไร? พวกเธอมีเรื่องอะไรปิดบังฉันใช่ไหม?”
ฉวยโอกาสเวลาว่างที่รอไฟจราจร เซียวเชียวใช้มือข้างหนึ่ง วางขวางตรงๆอยู่บนพวงมาลัยรถยนต์ จากนั้นก็เอียงตัวหรี่ตา ขึ้น และได้มีรังสีสะท้อนของร่องรอยความอันตรายหนึ่งทะลุ ออกมา
สังอานหยีมองไปที่ถังรั่วซูแล้วแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้พูด อย่างเชื่องช้า: “ก็คือเมื่อวานถังรั่วชูได้ถูกคนรังแกแล้วตอนอยู่ บริษัท”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ