ตอนที่ 226 พวกเธอสองคนเหมาะกันมาก
ตอนที่ 226 พวกเธอสองคนเหมาะกันมาก
พอคำพูดนี้ออกไป สีหน้าของถังรั่วซูเปลี่ยนเล็กน้อย “เธอเคยมาหาท่านเฉินแล้วเหรอ?”
“แน่นอน” ครั้งนี้กู้รั่วรั่วไม่ปิดซ่อนความทะเยอทะยาน ของตนเองสักนิดเดียว “ฉันอยากได้ตำแหน่งประธาน ใหญ่บริษัทถัง อกรุ๊ป นั่นฉันก็ต้องไปช่วงชิงเงื่อนไขที่ เป็นประโยชน์กับฉันทั้งหมด”
ที่แท้เธอมาช้าไปก้าวหนึ่ง
ถังรั่วชูสูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง “ท่านเฉินพูดแล้วว่าเขา ไม่สนับสนุนใครทั้งนั้น หรือว่าเขาหลอกฉันเหรอ?”
เดิมทีเธอเพียงแค่อยากใช้คำพูดของท่านเฉินมาลองเชิง ดูหน่อย แต่คาดไม่ถึงว่าจะทำให้เธอหาความจริงออกมา ได้แล้ว
ได้ยินเธอถามแบบนี้ บนหน้ากู้รั่วรั่วประกายความหวาด ผวานิดๆ ทว่ากลับโดนเธอจับได้แล้ว
ในที่สุดความกังวลก็กลับมาอยู่สงบแบบเดิม ถังรั่วชูยก มุมปากขึ้น “ดูแล้วท่านเฉินคงไม่ได้รับปากสนับสนุนเธอสินะ”
“ต้องสิ เขาจะสนับสนุนฉัน” กูรั่วรั่วที่โดนเปิดโปงเห็นได้ ชัดว่าลนลานอยู่บ้าง เพราะคะแนนหนึ่งของท่านเฉินนี้ ไม่ว่าสำหรับหล่อนหรือถังรั่วชูต่างสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้น อย่างไรเสียหล่อนไม่สามารถแพ้ให้ถังรั่วซูได้
ถังรั่วซูหัวเราะเบาๆ “งั้นฉันจะรอเธอที่การประชุมใหญ่ผู้ ถือหุ้นนะ”
พูดจบ เธอก็หมุนตัว รอยยิ้มบนใบหน้าชั่วขณะหนึ่งหด ไป สายตาแน่วแน่ คะแนนของท่านเฉินนี้ เธอจะไม่ยอม แพ้
“ซึ่งเหยา ช่วยฉันหน่อย”
“พี่สะใภ้มีอะไรต้องการให้ช่วย เอ่ยปากมาได้ทันทีเลย สู้ซึ่งเหยาหันหน้ามองกู้รั่วรั่วกับจี้หยินเฟิง ลูกตาดำผุด ความโหดร้ายนิดๆ “ถึงแม้พี่อยากให้จะผมจัดการพวกเขา สองคนทิ้ง ผมก็ไม่ปฏิเสธทั้งนั้น”
ได้ยินดังนั้นถังรั่วชูก็หยุดเท้า หันหน้ามองเขาอย่างจำใจ “พวกเราเป็นคนรักษากฎหมาย ไม่เล่นวิธีสกปรกจัดการ คนทิ้งตามชอบใจแบบนั้น”
ลูซึ่งเหยายักไหล่ ทำหน้าไร้ความผิด “ผมแค่ล้อเล่นเฉยๆ หาคำเปรียบเทียบเอง”
ถ้าต้องฆ่าคนจริง เขาก็ไม่กล้าลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้
ที่แท้แค่ล้อเล่น
ถังรั่วชูถอนหายใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ จากนั้นเดินไปข้าง หน้าต่อ
“นายหาคนคอยดูท่านเฉินไว้ให้ฉันหน่อย ฉันอยากรู้ เวลากิจกรรมของเขา”
วันนี้เธอมาหาท่านเฉินเป็นครั้งแรก ไม่ได้เข้าไปในบ้านก็ เป็นเรื่องปกติ
ถึงแม้ตระกูลถังกับท่านเฉินจะใกล้ชิดสนิทกันมาก แต่ คนอื่นเขาก็ไม่มีหน้าที่ต้องมาช่วยเธอ ดังนั้นจึงยังต้อง สร้างความเชื่อใจความประทับใจให้ท่านเฉินแบบนี้ บางที ถึงจะได้
เห็นถังรั่วชูกับผู้ชายตระกูลสู้คนนั้นออกไป จี้หยินเฟิงหรี่ ตาเล็กน้อย มืดครึ้มไม่กระจ่าง
“ถังรั่วชู ให้เธอได้ใจได้อีกไม่กี่วัน หลังจากนี้ฉันจะทำให้ จมลงในฝุ่น ถอนตัวไม่ขึ้นตลอดกาล” มองภาพด้านหลัง ของถังรั่วชูจากไป กู้รั่วรั่วโค้งรอยยิ้มร้ายกาจนิดๆ ขึ้นที่ มุมปาก
จี้หยินเฟิงชายตามองหล่อน “คุณมั่นใจว่าจะชนะเหรอ?”
“แน่นอนสิ” กูรั่วรั่วน้ำเสียงมั่นใจอย่างยิ่ง หล่อนต้องชนะ แล้วเอาบริษัทถังชื่อกรุ๊ปมาให้ได้
“งั้นก็ดี” จี้หยินเฟิงเก็บสายตากลับ ถือโอกาสปิดบังแวว ตาที่อึมครึม
ขอเพียงหล่อนสามารถได้รับบริษัทถังซื่อกรุ๊ป อย่างนั้น บริษัทจี้ซื่อต้องได้เข้าสู่โอกาสใหม่
กู้รั่วรั่วไม่รู้ความคิดที่เขาเก็บซ่อน ยังคงแสดงความ จริงใจที่ตนเองมีต่อเขา
“หยินเฟิง คุณเชื่อใจฉัน ในเมื่อฉันรับปากคุณแล้ว ฉัน ต้องทําได้แน่”
“ผมเชื่อใจคุณอยู่แล้ว” จี้หยินเฟิงยกมือลูบแก้มของ หล่อนเบาๆ ยิ้มอย่างอ่อนโยนละมุน
“หยินเฟิง……. ความเชื่อใจของเขาทำให้หล่อนประทับ ใจมาก ภายในใจยิ่งรีบร้อนอยากได้บริษัทถังชื่อกรุ๊ป แบบนี้หล่อนก็สามารถเป็นภรรยาของเขาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม เป็นคุณนายตระกูลจิ้
“พวกเรารีบขึ้นไปเถอะ ลูกชายลูกสะใภ้ของท่านเฉินกำ ลังรอพวกเราอยู่” กู้รั่วรั่วเดินเข้าไปที่บันไดของตึกก่อน
ส่วนจี้หยินเฟิงยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองภาพของหล่อนขึ้น ตึก สายตาริบหรี่ เหมือนมีความชั่วร้ายนิดๆ
“หยินเฟิง รีบเข้ามาเร็ว” กู้รั่วรั่วยืนบนบันไดเร่งเขาไป สายตาประกายแวววาว เขาก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปแล้ว
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
ยิ่งเซียวเซียวถือจานมาวางบนโต๊ะ จากนั้นนั่งลงตรงข้าม มองถังรั่วชูที่ค่อยๆ ทานซุปอยู่ด้วยความสงสัย
“พอใช้ได้มั้ง” ถังรั่วชูตอบอย่างไม่ได้เงยหน้า น้ำเสียง เรียบๆ ฟังอารมณ์ไม่ออก
“พอใช้ได้หมายความว่าอะไรกัน?” คำตอบที่ไม่แน่ชัด ขนาดนี้ ตอบก็เหมือนไม่ตอบ
“คือสถานการณ์ยังถือว่าค่อนข้างดี” ถังรั่ว วางช้อนซุป ลง เงยหน้ามองเธอ “ผู้ถือหุ้นเหล่านั้นล้วนเป็นเพื่อนเก่า ของพ่อฉัน ไม่ต้องให้ฉันเอ่ยปาก พวกเขาก็ล้วนจะช่วย ฉัน”
“จริงเหรอ? งั้นพวกเราก็ชนะแน่แล้วใช่รึเปล่า?” ยิ่งเซียว เซียวมองเธอด้วยความรอคอย
“ไม่ใช่”
สองคำที่เรียบนิ่งชั่วขณะนั้นทำให้อารมณ์ที่พุ่งพรวด ของยิ่งเซียวเซียวลดลงมา
“ทำไมล่ะ?” ผู้ถือหุ้นเหล่านั้นต่างตัดสินใจจะช่วยเธอ ทำไมถึงไม่แน่ว่าจะชนะล่ะ?
ถังรั่วชูทานซุปไปคำหนึ่ง “มีผู้ถือหุ้นคนหนึ่งที่ตอนนี้ท่าที ของเขายังไม่ชัดเจน ถึงแม้เขาจะบอกว่าไม่สนับสนุนใคร แต่ฉันกลัวว่าเขาจะถูกกู้รั่วรั่วดึงไปฝั่งหล่อนทางนั้น”
ยิ่งเซียวเซียวพอได้ฟัง จึงรีบร้อนอยู่บ้าง “งั้นพวกเรารีบ หาวิธีกัน”
เธอคิดแล้วพูดอีก “พวกเราสามารถให้ผลประโยชน์มาก พอกับเขาได้ ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะไม่รับปาก”
“ถ้าเรื่องราวจัดการได้ง่ายขนาดนี้ พี่สะใภ้คงไม่วุ่นวาย ใจแบบนี้หรอก”
เวลานี้เสียงของอู้ซึ่งเหยาลอยมาจากด้านหลังเธอ เธอ รีบหันหน้า ภาพคนตรงหน้าสั่นไหว เธอรีบหันไปอีกทาง หนึ่ง
เห็นเพียงอู้ซึ่งเหยายกจานอาหารนั่งลงด้านข้างเธอ ทั้ง ยังฉีกปากยิ้มทางเธออีก
ยิ่งเซียวเซียวมองตาค้อน พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “งั้นขอ ถามประธานรู้ว่ามีความเห็นอะไรล่ะ?”
“ไม่มี” ลูซึ่งเหยาตอบอย่างเร็วมากและสงบมากด้วย
“เชี่ย!” ยิ่งเซียวเซียวอดสบถคำหยาบไม่ได้ “ในเมื่อไม่มี ก็อย่าพูดแทรก”
สู้ซึ่งเหยายักคิ้ว “นี่ฉันไม่ได้เข้ามาคิดหาวิธีกับพวกเธอ เหรอ?”
ยิ่งเซียวเซียวทำเสียง “หึ” หันหน้าหนีไม่อยากสนใจเขาอีก
ถังรั่วชูมองพวกเขาสองคนอย่างยิ้มกริ่ม พูดหยอกล้อ “พอดูแบบนี้ พวกเธอสองคนก็เหมาะสมกันมากเลย
“เธอ?”
“เขา?”
ยิ่งเซียวเซียวกับลูซึ่งเหยามองหน้ากันและกัน จากนั้น หันหน้าหนีไปพร้อมกัน ทั้งสองคนต่างทำหน้าเมินเฉย
“เธอดูสิ พวกเธอรู้ใจกันขนาดนี้ ยังว่าไม่เหมาะกันอีกเหรอ”
ถังรั่วชูหยอกล้อพวกเขาต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวอะไร
ทั้งสองคนเอ่ยปากในเวลาเดียวกันอีก มองท่าทาง ที่สนใจเต็มที่ของถังรั่วชูอยู่ ยิ่งเซียวเซียวก็เกิดความ หงุดหงิดในใจ พูดทางสู้ซึ่งเหยา “นายอย่ามาลอกเลียน คำพูดฉันได้ไหม?”
ลู่ซึ่งเหยาส่ายหน้าด้วยความตลก “เธอคิดมากไปแล้ว ใครอยากลอกเลียนคําพูดเธอกัน”
ยิ่งเซียวเซียวยังอยากพูดอะไร ทันใดนั้นบนศีรษะถูกคน ตีมาเบาๆ เธอเงยหน้าทันใด
ที่แท้เป็นสังอานหยีมาแล้ว
เธอทําหน้าไม่เห็นด้วย “เซียนเซียน พวกเรามาช่วยชูชู กันนะ ไม่ใช่มาดูพวกเธอทะเลาะกัน”
พอเธอพูดแบบนี้ ยิ่งเซียวเซียวถึงได้รู้สึกตัวว่าตนเอง กำลังทำอะไรอยู่ รีบทำหน้าหัวเราะอย่างเกรงใจ “ขอโทษ ที ฉันลืมไป”
ต่อมาเธอหันหน้าพูดอย่างเย็นชา “วันนี้ฉันอารมณ์ดี จะ ไม่ถือสาหาความกับนายแล้ว”
เห็นท่าทีของเธอที่ดูเป็นท่าทีแบบ “วันนี้ฉันปล่อยนายไป นายก็ควรสำนึกในบุญคุณ” ประเภทนั้น
สู้ซึ่งเหยาส่ายหน้าอย่างไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ส่วนส่งอานหยีกับถังรั่วซูมองหน้ากัน อดหัวเราะไม่ได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ