One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 201 ฉันจะอยู่ข้างกายเธอตลอดไป



ตอนที่ 201 ฉันจะอยู่ข้างกายเธอตลอดไป

ตอนที่ 201 ฉันจะอยู่ข้างกายเธอตลอดไป

ถังรั่วชูได้ถอนหายใจอย่างจนปัญญา “อึม ผิดหวังมาก”

เดิมทีเธอคือคิดที่จะจับคู่ให้สังอานหยีกับเสิ่นโม่เฟย เพียงแต่ เมื่อดูตอนนี้แล้ว เธอก็ไม่ต้องเป็นห่วงไร้กังวลต่อเรื่องนี้แล้ว

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เธอก็ได้ถอนหายใจอีกแล้ว ไม่ต้องการที่จะ พัวพันอยู่บนเรื่องนี้ต่อไปอีก ด้วยเหตุนี้จึงได้เปลี่ยนหัวข้อการ สนทนาออกไป และได้พูดถาม: “บริษัทถางไห่ได้มีการส่ง จดหมายเชื้อเชิญให้กับนายไหม?”

“มี” ลูซึ่งเหยาได้ลูบผมของเธอไว้ด้วยท่าทางที่นุ่มนวล “เธอ อยากไป?”

ถังรั่วชูออกจากอ้อมอกของเขา จากนั้นได้เงยหัว มองเข้าใน ลูกตาที่ลึกซึ้งของเขา จากนั้นก็ได้ยิ้มอย่างปลิ้นปล้อนเหลี่ยม จัด “อย่างนั้นก็ต้องเชิญถามประธานรู้ว่าต้องการที่จะเปิดเผย เรื่องที่ตัวเองได้แต่งงานแล้วไหม?”

ล้ซึ่งเหยายกคิ้วขมวด จากนั้นก็จงใจถามกลับด้วยความ แปลกใจ: “หรือว่าตอนนั้นคนที่เสนอขึ้นมาว่าไม่เปิดเผย ชั่วคราวไม่ใช่เธอเหรอ”
เป็นเธอจริงๆ

เพียงแต่ว่าสถานการณ์ตอนนั้นซับซ้อน อีกทั้งพวกเขาก็เป็น เพียงแค่การเป็นพันธมิตรร่วมมือกันแต่งงาน ไม่ได้มีอารมณ์ และความรู้สึก หากว่าเปิดเผยแล้วก็จะนําความยุ่งยากมาให้ เขา อย่างนั้นจิตใจที่รู้บาปบุญคุณโทษของเธอก็จะไม่สงบ

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว พวกเขามีอารมณ์และความรู้สึก ยังคงเป็นอารมณ์และความรู้สึกที่ลึกมากประเภทนั้น

แม้ว่าจะพูดเช่นนี้ แต่หากเปิดเผยล่ะ…….

ถังรั่วซูเม้มริมฝีปากคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็ได้ละทิ้งความคิด ที่ต้องการจะเปิดเผยนี้ “ยังคงอย่าเปิดเผยแล้ว มิเช่นนั้นนายก เปิดโปงต่อหน้ามหาชนแล้ว”

หากว่าเปิดเผยละก็จะต้องกลายเป็นการพาดหัวแรกอย่าง แน่นอน ตอนนั้นที่เธอได้ระเบิดอารมณ์และความรู้สึกที่ร้อน แรงต่อเนื่องกันของเสิ่นโม่เฟยไปกี่วันถึงได้ถอดออกไปอย่าง ช้าๆ หากว่าเป็นผู้ซือจิ๋นละก็…..

ถังรั่วชูสามารถที่จะจินตนาการได้ถึงตอนนั้นที่เมืองเป่ยหนิง ทั้งเมืองได้จมดิ่งอยู่ในเสียงดังสะท้านที่ทำให้คนตกใจยังไง แล้ว

เมื่อคิดๆทั้งหมดก็รู้สึกว่าน่าหวาดกลัวมาก!
“อย่างนั้นเธอคิดที่จะสื่อสารเมื่อไหร่?” ลูซือจิ่นกาม

“อืม……” ถังรั่ว คิดแล้วคิดอีกอย่างจริงจัง หลังจากนั้นก็ได้ ให้คําตอบหนึ่งออกมาแล้ว

“รอตอนที่สภาพภูมิอากาศสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์และ การสนับสนุนการคัดค้านของใจคนที่เหมาะสม พวกเราค่อย เปิดเผย”

สภาพภูมิอากาศสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์และการ สนับสนุนหรือการคัดค้านของใจคนที่เหมาะสม? เป็นความคิด หนึ่งที่คลุมเครือขนาดไหนล่ะ

ลูซือจิ่นหัวเราะไปหัวเราะมา จากนั้นได้นำเธอโอบกอดเข้าไป ในอ้อมกอดใหม่ “ฉันไม่ได้ฉลาดเหมือนภรรยา สามารถ อธิบายความหมายของสภาพภูมิอากาศสภาพแวดล้อมทาง ภูมิศาสตร์และการสนับสนุนหรือการคัดค้านของใจคนที่ เหมาะสมสักหน่อยได้ไหม?”

อะไรเรียกว่าไม่ได้ฉลาดเหมือนเธอล่ะ? แบ่งได้อย่างชัดเจน ก็คือกำลังหัวเราะเยาะเธอ

แต่ถังรั่วชูยังคงได้อธิบายอย่างเชื่อฟัง “ที่จริงนี่ก็เป็นเพียงแค่ ฉันพูดออกมาทันทีอย่างไม่ได้คิด และที่ได้คิดจริงๆก็คือรอให้ ทุกอย่างล้วนสงบเงียบลงมาแล้ว อารมณ์ความรู้สึกของพวก เราก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆอีก อย่างนั้นพวกเราก็เปิดเผย”
อารมณ์ความรู้สึกไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ? ซือจิ่นได้ยก คิ้วขมวดขึ้น “หากว่าอารมณ์ความรู้สึกไม่มีการเปลี่ยนแปลง ล่ะก็ อย่างนั้นก็มีเพียงแค่ฉันยิ่งรักเธอมากขึ้นแล้ว แบบนี้เธอก็ จะไม่เปิดเผยเหรอ?”

เมื่อคําพูดแบบนี้ ถังรั่วชูถึงได้ค้นพบว่าคำพูดที่ตัวเองได้พูด

ได้มีปัญญา

นี่ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้ว

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้รีบพูดเสริม: “การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่ ฉันพูดคือการเปลี่ยนแปลงไปทางข้อเสียผลร้ายล่ะ”

“อ้อ ที่แท้คือการเปลี่ยนแปลงไปทางผลร้ายเหรอ” ลูซือ จิ่นตั้งใจทําท่าพยักหน้าอย่างตรัสรู้โดยฉับพลัน ทันทีหลัง จากนั้นก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่: “จะไม่มีการ เปลี่ยนแปลงแบบนั้น

ถังรั่วชูยกคิ้วขมวดแล้วขมวดอีก จากนั้นก็ได้พูดบ่นไปแล้ว ประโยคหนึ่งอยู่ในคอ: “เรื่องที่ไม่รู้ใครจะพูดได้อย่างถูกต้อง แม่นยำาได้ล่ะ”

แม้ว่าเธอจะพูดจนน้ำเสียงเบามาก แต่ยังคงได้ถูกเขาได้ยิน

ไปแล้ว

เขาปล่อยเธอออก จากนั้นได้ก้มหัว ใช้ลูกตาดำทั้งหมดมอง เธอไว้อย่างลึกซึ้ง”ถังรั่วชู เมื่อกี้เธอพูดอะไร?”
รู้อยู่แก่ใจว่าเขาได้ยินถึงคําพูดของตัวเองแล้ว ถังรั่วชูยังคง ได้ไม่ยอมรับ “ไม่ได้พูดอะไรนี่”

“อ้อ ใช่เหรอ?” ลูกตาดำของอู๋ซือจิ่นได้หรี่แล้วหรี่อีก เป็นการ การหรี่ตา นทีมีเงาของร่องรอยที่แฝงไปด้วยความอันตราย “เธอไม่เชื่อฉัน”

“อ๋า?” ถังรั่วชูได้ชะงักงัน “ฉันไม่ได้ไม่เชื่อนาย

พูดอย่างถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น เธอคือเชื่อเขา แต่ เดิมทีชีวิตของคนเราก็มีการดำรงอยู่ของจำนวนตัวเลขที่ เปลี่ยนแปลงได้มากมาย ไม่รู้ว่าวินาทีถัดไปจะเกิดอะไรขึ้น ดัง นั้นเธอจึงได้รักและทะนุถนอมทุกนาทีทุกวินาทีที่ได้อยู่ด้วย กันกับเขามาก

มองบนใบหน้าที่รูปงามของเขาเห็นได้ชัดถึงความไม่ สบายใจ ถังรั่วชูได้ยื่นมือไปโอบกอดเอวของเขาเอาไว้ นำ หัวพิงไปอยู่ที่หน้าอกของเขา จากนั้นก็ได้พูดเบาๆ: “ลูซือจิ่น บางทีเป็นฉันที่ได้สร้างโชคไว้เมื่อพันปีก่อน ถึงได้สามารถ อยู่ด้วยกันกับนายได้ ฉันรักและทะนุถนอมมาก และฉันก็จะ ไม่เชื่อนายได้ยังไงกันล่ะ? เพียงแค่ฉันไม่สบายใจมากต่อ อนาคต”

ถึงอย่างไรเสียฐานะของพวกเราที่แตกต่างกันมากขนาด นั้น คำพูดประโยคนี้เธอไม่ได้พูดออกมา เพียงแค่พูดอยู่ในใจ อย่างเงียบๆ
แต่ผู้ซือจิ่นเป็นคนที่มีความคิดเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง เขา ได้ยกมือลูบไปยังเส้นผมที่งดงามของเธอไว้อย่างนุ่มนวล จาก นั้นก็ได้ถอนหายใจออกมาเสียงหนึ่ง “ถังรั่วชู ไม่ว่าอนาคตจะ เกิดอะไรขึ้น ฉันก็จะอยู่ข้างกายของเธอ”

มืออดไม่ได้ที่จะรวบรวมล้อมรอบไปอยู่ที่เอวของเขาไว้แน่น เธอได้นำหน้าฝังเข้าไปในอ้อมอกของเขา จากนั้นก็ได้พูด อย่างกลัดกลุ้ม: “อืม ฉันเชื่อนาย”

น้ำเสียงของเธอมีร่องรอยของการสะอึกสะอื้น

ความคิดขยับเล็กน้อย เขาได้น่าเธอผลักออก จากนั้นก็ได้ก้ม หัว มองเข้าไปในลูกตาดำที่เต็มไปด้วยน้ำตา ลูกตา ที่ลอย อยู่บนน้ำมีความจนปัญญากับความรักและเป็นดูมากจนเกิน ไปอยู่เล็กน้อย จากนั้นเขาก็ได้พูดออกมาประโยคหนึ่งเบาๆ “คนโง่”

หน้านิ้วมือหยาบๆได้เช็ดไปยังน้ำตาที่ลื่นไถลตกลงมาอยู่ ตรงแก้ม หลังจากนั้นมือทั้งคู่ก็ได้กรอบหน้าของเธอเอาไว้ และ ได้จูบลงไปอยู่บนริมฝีปากแดงๆเล็กๆใบนั้น

ริมฝีปากรอบด้านได้แปะติดซึ่งกันและกัน ถังรั่วชูได้ปิดตาลง ช้าๆ รู้สึกถึงฝีปากที่ร้อนแผดเผาของเขา หยดน้ำตาหยดหนึ่ง ได้ลื่นไถลหล่นออกมาจากมุมสายตาของตัวเอง

จูบหนึ่งที่พยายามอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด มีความอาลัยรักที่ ไม่มีที่สิ้นสุด
ถังรั่ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องของเสิ่นโม่เฟยกับสังอานหยี หรือว่าคือเพราะว่าสาเหตุของร่างกายตัวเอง เธอรู้สึกว่าตัวเอง มีอารมณ์อยู่บางอย่างไร้สาเหตุ มีความรู้สึกไวมาก มีความ เปราะบางมาก

รู้สึกไวจนคิดว่าหลังจากนี้ในอนาคตพวกเขาจะต้องแยกจาก

กัน

ความคิดมาจนถึงตอนนี้ เธอได้ยกมือไปคว้าจับข้อมือของ เขาเอาไว้อย่างแน่นหนา เกรงกลัวว่าเขาจะจากตัวเองไปกะทัน หันจริงๆ

บางทีอาจจะคือได้สังเกตเห็นถึงใจเธอที่ไม่อยู่ที่ไหนเลย จูบของเขาก็ไม่ได้อ่อนโยนอีกแล้ว อีกทั้งยังมีการลงโทษที่ ความบ้าคลั่งเอาแต่ใจ ในชั่วพริบตาก็ได้ยึดสติปัญญาความ สามารถในการเข้าใจเหตุผลของเธอไปแล้ว

เธอโยนความไม่สงบกับความรู้สึกไวพวกนั้นลงไปแล้ว และ ได้หลงใหลเคลิบเคลิ้มอยู่ในจูบที่ร้อนแผดเผาอย่างบ้าคลั่ง เอาแต่ใจของเขา

ที่ด้านนอกด้านต่าง ในกลางดึกและความเงียบสงบดวงดาว ยังคงประดับเต็มท้องฟ้าเหมือนเดิม

หลังจากตั้งแต่วันนั้นที่ได้ออกมาจากสถานที่กักตัว กู้รั่วรั่วก็ได้ล็อกอยู่ในห้องอยู่ตลอด นอกจากแม่ของตัวเองกับจี้หยิน เฟิงแล้ว คนอื่นเธอก็ไม่อยากพบทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้จี้หวินจื่อกับฉินซือเหลียนจึงรู้สึกไม่สบายใจ ความ คิดเห็นที่มีต่อเธอก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ยิ่งแทบอยากที่จะรีบนำ บริษัทถังชื่อกรุ๊ปให้ถึงมือ หลังจากนั้นก็นำเธอไล่ออกไปจาก ตระกูลจี้

เด็กสาวที่เมียน้อยให้กำเนิดคนหนึ่ง เดิมทีก็ไม่คู่ควรกับ ลูกชายของพวกเขา

กู้รั่วรั่วไม่รู้ว่าการกระทำของตัวเองได้กวนโมโหพ่อแม่ของจี้ หยินเฟิงแล้ว แน่นอนว่าเธอก็จะไม่ไปสนใจ ตอนนี้ที่เธอสนใจก็ คือหน้าของเธอ

แดงบวมเขียวช้ำ เมื่อมองขึ้นไปก็ทำให้คนตกใจกลัวเป็น อย่างมาก

เธอคิดพยายามที่จะใช้แป้งรองพื้นปกปิดไว้ แต่เดิมทีก็ปกปิด

ไว้ไม่อยู่

เธอโกรธจนใช้แรงนำแป้งรองพื้นตีแตกอยู่บนพื้น

เห็นถึงสถานการณ์ จ้าวเสี่ยวหวั่นก็ได้เดินขึ้นไปด้านหน้า จากนั้นก็ได้ปลอบโยนเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน: “กู้รั่วรั่ว บาดแผลพวกนี้ผ่านช่วงเวลาหนึ่งก็จะจางหายไป เธอไม่จำเป็น ต้องหาเรื่องกับแป้งรองพื้นอันหนึ่งนะ”
“แม่ เดิมทีฉันก็รอนานขนาดนั้นไม่ได้” กู้รั่วรั่วคือร้อนใจไม่ เป็นสุขมาก คือกระวนกระวายร้อนใจมาก

“ทำไม?”

หลังจากที่ลูกไหลหลุดไป เธอก็ได้ยกเลิกสัญญากับบริษัท อีกทั้งกลุ่มละคร ชีวประวัติพระชายาชิง) ก็ได้ยกเลิกสัญญา กับเธอแล้ว ก็คือพูดได้ว่าตอนนี้เธอคืออยู่ในสถานะที่ไม่มีงาน ทํา ถ้าเช่นนั้นจะมีอะไรที่รอนานเช่นนั้นไม่ได้?

แน่นอนว่าการถามเกี่ยวกับข้อสงสัยพวกนี้ก็แม้ว่าจะเป็นแม่ก็ ไม่กล้าถาม กลัวว่าจะทำให้เธอโกรธ ถึงเวลานั้นตัวเองก็จะถูก อารมณ์ขุ่นมัวฉุนเฉียวกระทบกระเทือนถึง

“แม่ดูเอง” กูรั่วรั่วคว้ากระดาษแผ่นหนึ่งบนโต๊ะขึ้นยัดเข้าไป ในมือของจ้าวเสี่ยวหวั่น

จ้าวเสี่ยวหวั่นมองเธอไปแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้ก้มหัวลง นี่ ถึงได้ค้นพบว่าคือจดหมายเชื้อเชิญแผ่นหนึ่ง

จดหมายเชื้อเชิญของพิธีที่ยิ่งใหญ่จากบริษัทถางไห่ มองไปมองมาคร่าวๆ จ้าวเสี่ยวหวั่นก็ได้เงยหัวขึ้นมองเธอ “เธอต้องการจะไปเข้าร่วม?”

“พิธีที่ยิ่งใหญ่จะต้องมีผู้กำกับใหญ่ผู้ผลิตใหญ่ไม่น้อย หากว่าฉันไม่ไปก็จะคือโง่จนเกินไปแล้ว?” กู้รั่วรั่วหัวเราะอย่างเย็นชา นี่เป็นถึงโอกาสใหญ่ที่ดีในการพลิกตัวเธอ เธอจะ พลาดไปได้ยังไง?

“แต่ว่า…… จ้าวเสี่ยวหวั่นอยากจะพูดแต่ก็หยุดไม่พูด เส้น สายตาได้ตกไปอยู่บนใบหน้าของเธอ

กู้รั่วรั่วรู้ว่าเธอคิดจะพูดอะไร จึงได้หัวเราะอย่างเย็นชา “ไม่ ว่ายังไง ฉันก็จะคิดวิธีในการเข้าร่วม”

รู้อย่างลึกซึ้งถึงนิสัยของลูกสาว จ้าวเสี่ยวหวั่นทำได้เพียง ถอนหายใจไปแล้วฟอดหนึ่ง และไม่ได้พูดอะไรอีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ