ตอนที่199 ฉันไม่ได้สัญญาว่าจะคบกับคุณ
ตอนที่199 ฉันไม่ได้สัญญาว่าจะคบกับคุณ
หลังจากที่พยาบาลทำความสะอาดบาดแผลเสร็จ แล้วพัน ด้วยผ้าก๊อซสะอาดพันปิดแผล จากนั้นก็กำชับเธอว่าพยายาม อย่าให้โดนน้ำ
เธอกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็ลุกขึ้นและออกจากห้องพยาบาล
ทางเดินทอดยาว แสงสว่างจากหลอดไฟส่องแสงสว่างลงมา เงียบๆ เธอมุ่งหน้าเดินไปทางห้องของถังรั่ว อย่างช้าๆ
เมื่อคิดได้ว่าใครบางคนยังอยู่ เธอไม่อยากจะกลับไปสักเท่า ไหร่ แต่เธอก็ไม่สามารถจากไปในลักษณะแบบนี้ได้ ไม่อย่าง นั้นชูซูจะสงสัยเอาได้
พอเดินใกล้จะถึงประตูห้องพักคนป่วยนั้น ก็มีคนเปิดประตู เดินออกมา
เป็นเสิ่นโม่เฟยนั่นเอง
ฝีเท้าเธอหยุดชะงักทันที จิตใต้สำนึกอยากจะหันหลังกลับ
“อานหยี” เขาตะโกนเรียกเธอเอาไว้
แผ่นหลังแข็งทื่อ เธอกำมือแน่น สะกดความปั่นป่วนในหัวใจ จากนั้นจึงเงยหน้า มองเขาอย่างเย็นชา “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า คะ ท่านประธานเสิ่น”
เสิ่นโม่เฟยไม่ได้ตอบเธอ แต่รีบอ้าวก้าวเข้ามาใกล้ สายตา กวาดตามองผ้าก๊อซสะอาดที่พันอยู่บนมือของเธอ ความปวด ใจปรากฏอยู่ในแววตา
“ทำไมถึงไม่ระวังอย่างนี้ล่ะ” เขาเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนมาก ส่งอานหยีงุนงงไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ไม่นานเธอก็กลับมาเป็นปกติดังเดิม พร้อมทั้งกล่าวอย่าง เฉยชาว่า “ถ้าไม่มีเรื่องอะไร ฉันไปอยู่เป็นเพื่อนกับ ชูชูก่อน นะ”
พอพูดจบ เธอก็เดินผ่านเขาไป ทันใดนั้น ข้อมือของเธอก็ถูก ดึงเอาไว้
วินาทีต่อมา เธอก็อยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น
“เสิ่นโม่เฟยปล่อยฉัน” เธอดิ้นรน
“ไม่ปล่อย” เสิ่นโม่เฟย กอดเธอแน่น
ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายอยู่ในสภาพอย่างตอนนี้ เธอคงตะโกน ให้ดังลั่นไปทั่วตั้งนานแล้วว่า “มีคนรังแก
ปลายจมูกได้กลิ่นลมหายใจที่หอมสะอาด ดวงตาของเธอ แดงอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งๆ ที่ไม่สามารถมอบความรักอย่างที่ เธอต้องการได้ แต่ก็ยังมาคอยยั่วโมโหเธออยู่อย่างนี้ ทำไม เขาถึงได้ทำกันได้ลงคอขนาดนี้?
เธอสูดลมหายใจเข้า เพื่อปรับอารมณ์ที่วุ่นวายให้คงที่ พลาง พูดกระแนะกระแหนว่า “ท่านประธานเสิ่น คุณเป็นผู้ชายแท้ๆ การที่คอยมาวุ่นวายกับฉันที่เป็นผู้หญิงอย่างนี้ คงไม่ใช่ว่า ประสาทเสียไปหรอกนะ?”
“ผมเต็มใจ” เขาตอบอย่างเหมือนไม่มีใครอบรมมา
ส่งอานหยีถูกยั่วโมโหจนโกรธขึ้นมาจริง “เสิ่นโม่เฟยคุณอย่า ให้มันมากเกินไปนัก
เสิ่นโม่เฟยก้มหน้าลง สายตาจับจ้องใบหน้างดงามที่อัดแน่น ไปด้วยความกรุ่นโกรธ พลางยกมุมปาก “อานหยี ผมสามารถ ถอนหมั้นกับคนอื่นได้ ถ้าคุณสัญญาว่าจะเป็นแฟนของผม ได้ ไหม?”
ถอนหมั้น? สังอานหยีชะงัก “คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”
“ไม่ได้บ้า พี่สะใภ้พูดถูก ชีวิตเป็นของผม ความสุขเป็นของ ผม และคุณก็คือความสุขของผม ผมต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา”
เดิมคิดว่าเขาพูดขนาดนี้แล้ว เธอจะต้องซาบซึ้งมาก ใครจะรู้ว่า เธอจะแค่ถามคำถามอย่างสงบนิ่งว่า “ซูซูรู้แล้วเหรอ?”
“อืม เธอรู้แล้ว”
“แม่ง!” เธอสบถออกมาคำหนึ่ง พร้อมทั้งใช้แรงผลักเขาออก จากนั้นรีบวิ่งเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย
ถังรั่วชูที่กำลังอ่านหนังสือได้ยินเสียงฝีเท้ารีบเร่ง จึงเงยหน้า ขึ้น เห็นส่งอานหยวิ่งเข้ามา ก็เลิกคิ้ว จากนั้นก็ปิดหนังสือ ยิ้ม อย่างอ่อนโยน ถามว่า “มีอะไรเหรอ?”
สั่งอานหยีวิ่งมาตรงหน้าเธอ หอบเล็กน้อย ถามหยั่งเชิงว่า “เธอรู้หมดแล้วเหรอ?”
ถังรั่วชูรู้ว่าที่เธอถามหมายถึงอะไร ก็ยิ้มพลางพยักหน้า “ใช่ แล้ว ฉันรู้หมดแล้วล่ะ”
แม่ง! สังอานหยีพึมพำเสียงต่ำอย่างอารมณ์เสีย
“ทำไม? เธอไม่อยากให้ฉันรู้เหรอ?”
เห็นหล่อนอารมณ์เสียขนาดนั้น ดูเหมือนว่าเรื่องที่เธอไปรับรู้ เข้าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากเรื่องหนึ่ง
สังอานหยีกัดริมฝีปาก สายศีรษะปฏิเสธ “ก็ไม่ใช่หรอกแต่…
เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น อันที่จริงก็ แค่อายที่จะเปิดปากพูด ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเธอเลย
รู้จักเธอมานานขนาดนี้ ทำไมถังรั่วซูจะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอคิด
สายตาอ่อนโยนของถังรั่วชูมองมาที่เธอ “อานหยี ฉันเข้าใจ ที่เธอกังวล ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องรู้สึก…เขินอายหรืออะไร หรอก”
การที่เธอเข้าใจมันทำให้สังอานหยีซาบซึ้งมาก “ขอบคุณนะ
ถังรั่วชูยิ้ม “ระหว่างพวกเราไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนี้หรอก”
เธอเห็นเสิ่นโม่เฟยเดินเข้ามา ก็เลิกคิ้วทันที จากนั้นก็พูดกับ งอานหยีในฐานะเพื่อนสนิทว่า “อานหยี ชีวิตของคนเราจะเจอ คนที่รักเราและเราก็รักเขาได้ ถือ เป็นเรื่องโชคดีมากจริงๆ นะ ไม่ลองคว้าโอกาสลองดูหน่อย แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าคนสอง คนจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตได้ไหม? เพราะงั้น Fllow your heart เถอะ จะได้ไม่ต้องเสียดายกันภายหลัง”
สังอานหยีกัดริมฝีปาก แต่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
เธอรู้สึกว่าด้านหลังมีคนเขยิบเข้ามาใกล้ และเธอก็รู้ว่าเป็น
ใคร
“พี่สะใภ้ ขอบคุณมาก” เสิ่นโม่เฟยยิ้มพลางกล่าวกับถังรั่วชู
ถังรั่ว สายศีรษะเบาๆ “คุณไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ถ้าคุณ ปฏิบัติต่ออานหยีไม่ดี ฉันจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่”
เสิ่นโม่เฟยยิ้ม “ผมรู้
ส่งอานหยีกํามือแน่น หัวเราะเสียงเบา จากนั้นก็หันศีรษะกลับ ไปมองชายหนุ่ม สายตาเต็มไปด้วยความเยาะหยัน “ขอโทษ ด้วย เหมือนว่าฉันไม่เคยให้คำสัญญาว่าจะคบกับคุณนะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็ไม่สนใจที่เขาทำหน้าคว่ำลงทันที พลางหัน ไปหาถังรั่วชู ยิ้มให้เล็กน้อย “ชูชูฉันไม่ได้รักเขา เรื่องที่ได้พบ เจอกับเขามันก็เป็นเรื่องที่โชคดีเรื่องหนึ่ง เพราะงั้นการที่ได้ เห็นเขามีความสุขนั้นถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
เธอเดินไปหยิบกระเป๋าของตนเองขึ้นมา พลางหมุนตัวเตรียม เดินออกไป
เมื่อเห็นแล้ว ถังรั่วซูก็ถกผ้าห่มออก เพื่อเตรียมที่จะลงจาก เตียงไล่ตามไป
“อ๊ะ!”
ความเจ็บที่จากแผลผ่าตัดทำให้เธอร้องออกมา จนต้องยอม นอนกลับลงไปอีกครั้ง
“พี่สะใภ้!” เสิ่นโม่เฟยอุทานอย่างตกใจ พร้อมทั้งรีบรุดหน้าขึ้นไปดูอาการ
การเคลื่อนไหวที่ด้านหลังทำให้สังอานหยีหยุดชะงัก เธอหัน กลับมา เห็นถังรั่วชกุมท้องและนิ่วหน้า
“ซูซูเธอไม่เจ็บตรงไหน?” เธอถามอย่างเป็นกังวล รีบเดิน เข้าไปอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
ถังรั่วซูเงยขึ้นมองเธอ เบ้ปาก พูดอย่างรู้สึกผิดว่า “เธอโกรธ ฉันเหรอ”
สั่งอานหยีฉิ่งขึง “ฉันเปล่านี่”
“งั้นทำไมเธอถึงยังจะไปอีกล่ะ?”
“ฉัน…” สั่งอานหยีชำเลืองมองเสิ่นโม่เฟยอีกด้านหนึ่งของ เตียง แต่ไม่มีคำพูดอื่นพูดเสริมต่อ
จากภาพที่เห็น ดวงตาถังรั่วชูกะพริบตาตาหนึ่งครั้ง พลางร้อง เสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด “โอย ฉันปวดท้องมากเลย ปวดมากเลย”
ส่งอานหยีเริ่มร้อนรนอย่างกังวลใจ พลันรีบยื่นมือออกไปจะ กดกริ่งเรียกพยาบาลให้มาหา
ในเวลานั้นเอง เสิ่นโม่เฟยห้ามเธอเอาไว้อย่างทันท่วงที เธอเงยหน้า เห็นเพียงเขากล่าวอย่างยิ้มๆ ว่า “พี่สะใภ้กำลังแกล้ง ท่าอยู่นะ”
ในใจถังรั่วซู: ตัวแสบ นางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ คิดจะช่วยเขา จนถึงขนาดรังแกเธอไปด้วย “แกล้งเหรอ?” สั่งอานหยีก้มหน้า ลงไปมองถังรั่ว อย่างสงสัย
ถังรั่วชูยิ้มแห้งให้ “อานหยี ฉัน…”
ยังพูดไม่จบประโยค ก็เห็นเธอตาแดง น้ำตาร่วงตามลงมา
การเปลี่ยนแปลงนี้ทําให้ถังรั่วซูกังวล รีบนั่งตัวตรงทันที พลางใช้มือช่วยเช็ดน้ำตาให้เธอ “อานหยีคนดี อย่าร้องไห้อีก เลย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอตกใจนะ ฉันนึกว่าเธอโกรธฉัน แล้ว ก็เลย….ก็เลย…
พูดถึงตรงนี้ เธอก็ฟาดเสิ่นโม่เฟยด้วยความโกรธไปหลาย ครั้ง “ต้องโทษคุณ โทษคุณทั้งหมดเลย หยอกใครไม่หยอก มาหยอกอานหยีของฉัน”
เดิมเสิ่นโม่เฟยเห็นส้งอานหยีร้องไห้ ก็ปวดใจมากอยู่แล้ว ตอนนี้พี่สะใภ้ยังมาดุตนเองอย่างนี้อีก จึงรู้สึกผิดขึ้นมาทันที “พี่สะใภ้ ผมชอบเธอก็ผิดด้วยเหรอ!”
“ผิด ผิดอย่างมากด้วย!” ถังรั่วชูส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น หนักหน่วง “อานหยีของฉันไม่ใช่คนที่จะให้คนอย่างคุณมา ชอบตามใจได้นะ”
เส้นโมเฟย ..….…….
ล้วนพูดกันว่าผู้หญิงเปลี่ยนหน้าเร็วกว่าพลิกฝ่ามือ เหมือนจะ เป็นความจริงสินะ! เมื่อกี้ยังบอกว่าจะช่วยเขาอยู่เลย มาตอนนี้ กลับมาตั้งแง่กับเขาแล้ว
สังอานหยีถึงกลับกลั้นไว้ไม่อยู่ “พรวด” หัวเราะออกมาทันที ทั้งๆ ที่หางตายังมีหยดน้ำตาเปรอะเปื้อนอยู่
เมื่อเห็นเธอยิ้มได้แล้ว ถังรั่วซูก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ราวกับมี ความรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกไปสักที
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ