ตอนที่ 191 ดวงฉันยังไม่ถึงฆาต
ตอนที่ 191 ดวงฉันยังไม่ถึงฆาต
บานประตูห้องทํางานมีคนผลักประตูเข้ามาจากด้านนอก ร่าง สูงเพรียวเดินเข้ามาด้านใน
“พี่สะ…”
พอเห็นว่าใครมา เส็นโม่เฟยเกือบหลุดเรียกชื่อออกมาแล้ว ดี ที่เขาตั้งตัวทัน เลยรีบเปลี่ยนค่าเรียกแทน “ผู้ช่วยผู้จัดการถัง ทําไมคุณถึงมาที่นี่ได้?”
ถังรั่วซูเดินเข้ามาหา พร้อมยิ้มให้เขา จากนั้นสายตาก็มองไป ที่กู้รั่วรั่วแทน พร้อมทั้งแสยะยิ้ม “ได้ข่าวว่ามีคนมาก่อเรื่อง ฉัน เลยขึ้นมาดูหน่อย”
กู้รั่วรั่วหันไปมอง พร้อมทั้งจ้องมองเธออย่างเอาเป็นเอาตาย
คนที่เป็นศัตรูกันมองหน้ากันเหมือนจะกินเลือดกันเนื้อ น่าจะ บรรยายสถานการณ์แบบนี้ได้
ถังรั่วชูเห็นถึงสายตาของเธอที่มีแต่ความจงเกลียดจงชังเธอ อย่างชัดเจน ถ้าในเวลานี้เธอถือมีดอยู่ในมือ คงจัดการฆ่าเธอ ทิ้งอย่างไม่ลังเลเลย
สภาพของกู้รั่วรั่วในเวลานี้ดูแทบไม่ได้ โดยปกติเธอชอบแต่งหน้าอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าวันนี้ไม่ได้แต่งหน้ามาเลย ใบหน้าซีดขาวโพลน ริมฝีปากก็ซีด ดูแล้วเหมือนจะแก่ลงไป เยอะ
สิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ถังรั่ว คาดไม่ถึง
เดิมที่คิดว่าเธอใช้ประโยชน์จากลูกของตนเอง คงไม่ได้มี ความรู้สึกใดๆ กับลูก แต่ดูท่าทางแล้วมันไม่ใช่
สายตามองไปที่ท้องของเธออย่างไม่รู้ตัว สายตาฉายแวว ความเจ็บปวดและการขอโทษขึ้นมาแทน
กู้รั่วรั่วพูดก็ไม่ผิด ความจริงแล้วเธอก็มีส่วนในการฆาตกรรม เด็กไปด้วย
เธอเม้มปากไว้แน่น พร้อมทั้งสูดลมหายใจเข้า จากนั้นก็ สบตาและพูดตรงไปตรงมากับกู้รั่วรั่ว “เรื่องเด็ก ฉันขอโทษ เธอด้วยจริงๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ กู้รั่วรั่วตะลึงไปสักพัก พลันตอบกลับ อย่างเย็นชา “ถังรั่วชู แกอย่ามัวเสแสร้งแกล้งทำไปเลย เด็กก็ ตายไปแล้ว แกคงดีใจอยู่มาก แกคงคิดว่าฉันเป็นคนไปแย่งจี้ หยินเฟิงมา สวรรค์เลยลงโทษฉัน”
“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น” ถังรั่วชูส่ายหน้าไปมา “กู้รั่วรั่ว ฉัน ไม่ใช่แก ฉันไม่ได้ใจหยาบขนาดนั้น
“ฮ่าๆ …” กู้รั่วรั่วหัวเราะเสียงดัง แววตาจ้องมองเธออย่างเศร้า โศกเสียใจ สายตาเย็นยะเยือกดุจความหนาวเย็นยามเดือน สิบสอง
“ถังรั่วชู ทำไมตอนนั้นฉันไม่ขับรถชนแกให้ตายไปเสียเลย นะ?”
นํ้าเสียงเย็นชาพร้อมทั้งจงเกลียดจงชังอย่างเห็นชัดเจน
คำพูดประโยคนี้ที่หลุดออกมาจากปาก มันทำให้สีหน้าของผู้ จัดการและเส็นโม่เฟยเปลี่ยนไปทันที สิ่งที่พวกเขาเห็นคือ ถึง แม้ว่ากูรั่วรั่วจะหาวิธีในการเล่นงาน แต่ว่าการจ้องทําร้ายคน อื่นให้ถึงแก่ชีวิตนั้น แต่ไม่เคยคิดว่าเธอเคยคิดอยากจะขับรถ ชนถังรั่วชูให้เสียชีวิต
“ดวงฉันยังไม่ถึงฆาต” ถังรั่วชูอ้าปาก แววตาแปรเปลี่ยนเป็น เย็นชา น้ำเสียงไม่มีความเกรงใจไว้เลย “สวรรค์ไม่ยินยอมให้ ฉันตายไปอย่างไร้มนุษยธรรม ท่านให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อจะ ได้มีชีวิตอยู่พอเพื่อจะได้เห็นว่าชีวิตของพวกแกจุดจบมีสภาพ น่าเวทนาขนาดไหน”
เดิมทีคิดว่าเพื่อเด็กนั่น เลยรู้สึกขอโทษกับเธอ แต่ว่าการที่ได้ เห็นว่าเธอไม่ยอมแก้ไขนิสัยแย่ๆ แบบนี้ ความรู้สึกขอโทษนั้น ก็ขอถอนคําพูดกลับ
สําหรับเธอแล้ว ไม่มีวันใจอ่อนอีกต่อไปอีกแล้ว แค่วินาทีเดียว ก็ไม่มีวัน
กู้รั่วรั่วโกรธจนกัดฟันเอาไว้ พร้อมทั้งดวงตา จ้องมองใบหน้า รูปไข่ของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย ความโกรธเกลียดในใจมัน ทวีคูณอย่างไม่หยุดยั้ง
เธอเป็นคนทําให้ลูกของเธอเสียชีวิตจนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ ต่อบนโลกใบนี้ได้
เธอเป็นคนทําให้บริษัทยกเลิกสัญญากับเธอ จนชื่อเสียงป่นปี้
เธอนั่นแหละ ทุกอย่างมาจากเธอ เพราะการมีชีวิตอยู่ของเธอ ทุกอย่างของเธอมันกลายเป็นว่าขัดขวางไปทุกอย่าง
ความโกรธเกลียดที่ไม่สามารถบังคับเอาไว้ได้ แววตาเจตนา ฆ่าคนฉายแววขึ้นมาทันที กู้รั่วรั่วคว้าที่วางทับกระดาษที่อยู่ บนโต๊ะในห้องทำงานของเสิ่นโม่เฟยแล้วขว้างไปทางถังรั่วชู
ที่วางทับกระดาษของเสิ่นโม่เฟยเป็นของขวัญที่คุณปู่ของ เขาส่งให้ ทำมาจากหยกทั้งชิ้น ราคาแพงมหาศาล และน้ำ หนักก็เบาเลยสักนิด
ตอนที่เขาเห็นว่ากู้รั่วรั่วคว้าที่วางทับกระดาษแล้วขว้างไป ทางพี่สะใภ้ ม่านตาของเขาร้อนรนทันที เขาแทบไม่ต้องคิด อะไรเลย พลันกระโดดข้ามโต๊ะหนังสือจนตัวปลิว พอข้ามพ้น แล้ว จากนั้นก็ยื่นมือออกไปคว้าตัวถังรั่วชูดึงเข้ามาอ้อมกอด แทน ที่วางทับกระดาษนั่นหล่นตุ๊บลงบนหลังเขาอย่างจัง
ส่วนส่งอานหยี วิ่งมาเห็นภาพนั้น ได้แต่เอามือปิดปากเอาไว้ ในใจเกิดความรู้สึกตกใจจนเครียดตามไปด้วย
ความเจ็บปวดที่ปะทะเข้ามาอย่างแรง เสิ่นโม่เฟยได้แต่ส่ง เสียงในลําคอ จนหัวคิ้วผูกโบเข้าหากัน
ถังรั่วชูที่ถูกเขาปกป้องอยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นดึงสติกลับ มาได้ พอได้ยินเสียงที่วางทับกระดาษมากระทบกับแผ่นหลัง ของเขานั้น ในเวลานั้นก็ได้ยินเขาส่งเสียงอื้ออึงอยู่ในลําคอ เลยรีบถามอย่างเร่งรีบ “โม่เฟยคุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
ไม่ว่าจะเจ็บปวดขนาดไหน เงินไม่เฟยก็ต้องอดกลั้นความ เจ็บปวดนั้นเอาไว้ พร้อมทั้งฉีกยิ้มให้อย่างปลอบใจ “ผมไม่เป็น พี่สะใภ้
คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน สีหน้าขาวซีดเล็กน้อย ดูจาก อาการแล้วไม่เหมือนที่เขาพูดว่าไม่เป็นไรเลย
ถังรั่วชูตาแดง “ทำไมคุณถึงทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้? ถ้ามันไป โดนจุดสำคัญตรงไหนเข้าแล้วฉันจะไปบอกสู้ซือจิ่นยังไง?”
เสิ่นโม่เฟยฉีกยิ้ม “การคุ้มครองพี่สะใภ้คือเรื่องที่น้องชาย อย่างพวกเรามีหน้าที่ที่รับผิดชอบ ถ้ามีอะไรไปทำให้คุณต้อง บาดเจ็บ ผมก็ไม่สามารถจะไปบอกกับพี่ใหญ่ได้เหมือนกัน”
เขากับผู้ซึ่งเหมาคอยดูแลเธอด้วยความจริงใจ แต่ไม่ใช่ เป็นเพราะว่าเธอคือสะใภ้ของผู้ซือจิ่น แต่ทุกคนคิดว่าเธอเป็น คนในครอบครัว
เธอจะทำให้พวกเขาน้อยอกน้อยใจไปได้ไง?
ถังรั่วชูปาดน้ำตาที่ไหลลงมา แล้วก็ลุกยืนจากอ้อมกอดของ เขา พร้อมทั้งจ้องมองกู้รั่วรั่วด้วยสายตาคมเฉียบ
บางทีกู้รั่วรั่วเองก็คาดไม่ถึงว่าเสิ่นโม่เฟยจะพรวดพราดออก มาปกป้องถังรั่วซูเอาไว้ จนตัวเธอยืนเซ่อซ่าอยู่กับที่
ส่วนผู้จัดการของเธอเองไม่มีแม้แต่เงา คงตกใจกับอาการบ้า คลั่งของกู้รั่วรั่ว จนถึงขั้นหวาดกลัวเลยวิ่งเตลิดหนีไป
หรี่ตาลง ดวงตาเย็นยะเยือก ถังรั่วชูสาวเท้าไปข้างหน้า แล้ว
เงื้อมือขึ้น
“เพียะ !”
เสียงชัดเจนดังลั่นทั่วห้องทำงานขนาดใหญ่
ใบหน้ากู้รั่วรั่วหันไปอีกทาง แล้วไม่ได้หันกลับมาอีกเลย
“ตบนี้ฉันตบแทนโม่เฟย” ถังรั่วชูพูดอย่างเย็นชา
จากนั้น ก็มีเสียง “เพียะ!” ดังขึ้นอีกครั้ง
“ตบ ฉันตบแทนตบฉันเอง”
“เพียะ!”
“ส่วนอันนี้ฉันตบแทนลูกของแกที่ตายไป”
การตบติดกันสามครั้งนั้น มือของถังรั่วชูถึงกับชา เขาขมวด คิ้ว พลางสะบัดมือ
กู้รั่วรั่วก็เหมือนกับตุ๊กตาแก้วที่แตกหัก ศีรษะหันไปอีกทาง เส้นผมปกปิดใบหน้าของเธอเอาไว้ มองไม่เห็นสภาพอารมณ์ ความรู้สึกของเธอในตอนนี้
“ชูชูทำได้ดีมาก!”
สังอานหยีเดินมาหา พร้อมทั้งยกนิ้วโป้งให้เพื่อชมเชย
การที่ได้ยินว่าถังรั่วชูตบหน้ากู้รั่วรั่วไปถึงสามครั้ง สั่งอานหยี รู้สึกปล่อยปล่อยอารมณ์ความโกรธลงไป
สำหรับการตอบแทนคนพรรค์นั้นอย่างกู้รั่วรั่วอย่าไปยอมมือ
ให้
“สงอานหยี แกมาแล้ว” ถังรั่วชูกวาดตามองเธออยู่ครั้งหนึ่งจากนั้นเลยพูดว่า “โม่เฟยยกให้แกร๊บผิดชอบ”
สั่งอานหยีเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “ยกให้ฉัน”
“อืม ฉันขอจัดการกับกู้รั่วรั่วก่อน”
พูดจบเธอก็หันไปมองเสิ่นโม่เฟย เลยเห็นว่าสีหน้าของเขา ขาวซีดอย่างหนัก หน้าผากผุดเหงื่อเต็มไปหมด
ใจเต้นไม่หยุด เธอรีบร้อนพูดกับสังอานหยี “ส่งอานหยี เร็ว รีบไปประคองไม่เฟย เราจะต้องพาเขาไปหาหมอ
ที่วางหนังสือที่ทำมาจากหยกมันหล่นลงบนแผ่นหลังของเขา จนเจ็บมากขนาดนั้น ถ้ามันโดนส่วนไหนที่ทําให้บาดเจ็บใ การไม่ได้ขึ้นมา จะทํายังไงดี?
ทว่าตอนที่เตรียมจะพยุงตัวเสิ่นโม่เฟยขึ้นมานั้น เส้นผมก็ โดนคนจิกหัวเอาไว้ ผิวหนังแสบ จนต้องหันกลับมามอง แต่ยัง ไม่ทันเห็นอะไรที่ชัดเจน สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพร่ามัว
“เพียะ”
ฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าของเธอ
กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ในปาก ใบหน้าปวดแสบปวดร้อน ผ่าว หูดังอื้ออึง
“พี่สะใภ้!”
ส่งอานหยีกับส่งเสียงตะโกนเรียกเสียงดัง ทั้งคู่รีบไปเดินไป ข้างหน้าแล้วดึงกู้รั่วรั่วเอาไว้
กู้รั่วรั่วใช้แรงจิกเส้นผมของเธอเอาไว้ พร้อมทั้งพูดอย่างบ้า คลั่ง “ถังรั่วซู แกตายไปซะ”
กู้รั่วรั่วเหมือนคนประสาทเสียไปแล้ว เธอกัดสังอานหยีแต่ พยายามดึงมือเธอเอาไว้
สิ่งที่พวกเขาทำได้คือแกมือออก พอแกะมือข้างหนึ่งออกแล้ว แต่ว่ากู้รั่วรั่วกลับใช้เท้าถีบเข้าบริเวณช่วงท้องของถังรั่วชูเข้า อย่างแรง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ