ตอนที่ 163 มอบให้เธอสามคำ
ตอนที่ 163 ส่งให้เธอสองคำ
(ชีวประวัติพระชายาชิง) ประกาศอย่างเป็นทางการ
พระเอกคือเหยียนซู่ นางเอกคือนิ่งเฉียวเฉียว
เรื่องนี้รู้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่า…….
ถังรั่ว ขมวดคิ้ว มองนิ่งไปที่ชื่อของนางรองบนหน้าจอ คอมพิวเตอร์——
รั่วรั่ว!
นักลงทุนและโปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้คงบ้าไปแล้ว ถึงให้กู้ รั่วรั่วแสดงบทบาทที่สำคัญขนาดนี้
เธอนึกถึงจี้หยินเฟิงและนิ่งเฉียวเฉียวที่เจอในร้านปลาผัก กาดดองเมื่อวันนั้น กู้รั่วรั่วเป็นนางรองได้ยังไง เพียงแค่คิดก็รู้ แล้ว
มองดูภาพโฆษณาของกู้รั่วรั่วบนหน้าจอ สายตาของถังรั่ว ชูเขียนคำว่าเย็นชาเอาไว้ ผู้หญิงคนนี้เห็นแก่ตัวมาก เพื่อผล ประโยชน์ของตนเองแล้วแม้แต่ว่าที่เจ้าบ่าวก็เอามาใช้เป็น เครื่องมือ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการจริงๆ!
ยกแก้วน้ำที่วางอยู่ข้างๆมือขึ้นมาดื่ม สายตาจับจ้องไปที่ รูปของกู้รั่วรั่ว คลายยิ้มเย็นยะเยือกอย่างช้าๆ “กู้รั่วรั่ว เธอ พยายามปีนขึ้นไปเถอะ ยิ่งอยู่สูงเท่าไหร่ ตอนตกลงมาถึงจะ เจ็บ!”
บรรยากาศภายในร้านอาหารนั้นเงียบและอบอุ่น ภายใต้แสง ไฟสีส้ม ส่องสะท้อนทำให้สีของอาหารบนโต๊ะชวนกินมากยิ่ง
ขึ้น
คืบเนื้อปลาหนึ่งชิ้นแล้วเอาเข้าปาก ถังรั่วชูกัดตะเกียบเอา ไว้ สายตามองไปยังผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า แววตาของเธอฉาย ความลังเลขึ้นมา
อาจจะเป็นเพราะรับรู้ถึงสายตาที่มองมาของเธอ หนังตาของ ชายหนุ่มกระตุกเล็กน้อย แล้วถามขึ้น:“เป็นอะไร? ”
ถังรั่วชูวางตะเกียบลง สองมือวางไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ พูดอย่างว่าง่าย:พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปทำงานแล้วค่ะ”
เธอเห็นคิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพูด เสริม:อาการบาดเจ็บของฉันหายดีแล้ว”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่เธอพูดเสริม เขาเลิกคิ้วขึ้น “คุณกลัวว่าผมจะไม่ยอมรับปากให้คุณไปทำงานหรอ?”
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” ถังรั่วชูเบ้ปาก “ฉันแค่กลัวว่าคุณจะไม่ วางใจ”
เมื่อได้ฟัง ลูซือจิ่นก็คลายยิ้มเล็กน้อย จากนั้นพยักหน้า “ผม ไม่วางใจจริงๆนั่นแหละ”
ไม่วางใจจริงๆด้วยหรอ? ! ถังรั่วซูเบ้ปาก ตาดำของเธอหมุน ไปมา ใบหน้าเล็กๆที่น่ารักนั้นยิ้มอย่างออดอ้อน “บริษัทนี้มีโม่ เฟยอยู่ ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ”
“โม่เฟย?” ลูซือจิ่นเลิกคิ้วขึ้น “ตอนนี้เขาอยู่แอฟริกาใต้
“แอฟริกาใต้? ! “ถังรั่วชูร้องพูดด้วยความตกใจ “เขาไป แอฟริกาใต้ทําไมคะ?”
เขาไม่ได้ตอบ ทำเพียงแค่จ้องมองมาที่เธออย่างลึกซึ้ง
ถังรั่วชูขมวดคิ้ว ลองถามขึ้น:“คงไม่ใช่เพราะฉันใช่ไหมคะ?”
ลูซือจิ่นไม่ได้ยอมรับและไม่ได้ปฏิเสธ เขายิ้มแล้วพูด ขึ้น:”อยากไปทำงานก็ไปทำงาน ไม่ต้องสนใจความคิดของผม มากเกินไป”
จู่ๆเขาก็พูดแบบนี้ ถังรั่วซูรู้สึกรับมือไม่ทันเท่าไหร่ เอ่ยถาม ขึ้นอย่างล้ำๆอึ้งๆ …คุณเห็นด้วยที่จะให้ฉัน…ไปทำงาน แล้ว?”
ลูซือจิ่นยิ้ม “ผมก็ไม่ได้ไม่เห็นด้วยหนิ”
นั่นก็จริง! ถังรั่วซูเลิกคิ้ว “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะไปทำงานแล้ว นะคะ”
“อืม”
เขาตอบกลับเสียงเบา จากนั้นก้มหน้ากินข้าวโต๊ะ
ร้านอาหารกลับมาเงียบอีกครั้ง แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงของ เธอดังขึ้นอีกครั้ง
“ซือจิ่น คุณย้ายโม่เฟยไปที่แอฟริกาใต้แบบนี้ มันไม่โหดร้าย
ไปหน่อยหรอคะ?”
“ที่ฉันโดนน้ำร้อนลวกเป็นเพราะหรุเสี่ยวหลิน ไม่เกี่ยวกับโม่
เฟย”
“โม่เฟยก็เป็นถึงลูกพี่ลูกน้องของคุณ แอฟริกาใต้เป็นที่แบบ ไหน คุณทำใจให้เขาไปที่นั่นได้?”
ข้างหูคือเสียงพูดของเธอ อู๋ซือจิ่นทำเหมือนไม่ได้ยิน เขาค่อยๆกินน้ำซุปในถ้วยจนหมด
หยิบกระดาษทิชชู่ที่อยู่ด้านข้างมาเช็ดปาก จากนั้นเขาค่อย เงยหน้าขึ้นมองถังรั่วชูที่พูดไม่หยุด
แสงไฟที่อยู่ในความมืดทำให้เป็นดวงดาว ปากบางกระตุกยิ้ม ขึ้น เขาเอ่ยพูดอย่างช้าๆ :ถ้าเขาไม่ไป ผมต้องเป็นคนไป”
คำพูดนี้ฆ่าถังรั่วซูในชั่วพริบตา
เธอที่เดิมทีพูดเข้าข้างเสิ่นโม่เฟยอยู่นั้น รีบเปลี่ยนคำพูดใน ทันที “อันที่จริง โม่เฟยอายุยังน้อย ให้ไปฝึกประสบการณ์ด้าน นอกหน่อยก็ดีเหมือนกันค่ะ”
ลูซือจิ่นมองไปที่เธอด้วยความอ่อนโยน ริมฝีปากบางคลาย
ยิ้ม
เสิ่นโม่เฟยที่อยู่ในทวีปแอฟริกาจามอย่างหนัก เขาขยี้จมูก จากนั้นมองไปยังที่แห้งแล้งตรงหน้า และเพื่อนผิวสีที่มองมาที่ เขา
ไม่นานก็ร้อนจนเหงื่อแตก พระเจ้า! ทำไมฉันต้องมาอยู่ในที่
บ้าๆแบบนี้ด้วย?
วันถัดไป ถึง วชไปถึงบริษัทแห่เข้า
หลีน่าเรียกเธอไปที่ห้องทำงานของตนเอง
“ร่างกายดีขึ้น ยัง?” หลีน่าถาม
ถังรั่วชูคลายยิ้มบางๆ “ขอบคุณนะคะ ดีขึ้นมากแล้วคะ
หลีน่าพยักหน้า เงียบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วค่อยพูดขึ้น “เดิมทีหรุ เสี่ยวหลินถูกประธานไล่ออกไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าผู้จัดการศู จะมาขอคนจากฉัน หรูเสี่ยวหลินจึงกลายเป็นผู้ช่วยของเธอ”
“ดังนั้น…….” หลีน่ายิ้มอย่างละอาย “ฉันขอโทษด้วย ที่ช่วยเธอ
ไม่ได้”
ถังรั่วชูส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ หรุเสี่ยวหลินเป็นคนยังไง ผู้ จัดการกับฉันเราต่างก็รู้ดี เธอไม่มีวันยอมแพ้ฉันง่ายๆหรอกค่ะ ดังนั้นการที่เธอกลายเป็นผู้ช่วยของผู้จัดการซู ถือเป็นเรื่องที่ สามารถคาดคิดได้”
“ก็จริง เพียงแต่….” หลีน่าถอนหายใจเบาๆ มองไปที่เธอด้วย สายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล “เธอคงอยู่ที่บริษัทได้ยากขึ้น กว่าเดิมแล้ว”
ถังรั่วซูยิ้มอย่างไม่สนใจ “ฉันไม่กลัว อย่างมากทหารมาใช้ ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินด้าน”
เมื่อได้ฟัง แววตาของหลีน่าก็เผยความชื่นชมขึ้นมา “ความนิ่ง เฉยของเธอทําให้ฉันนับถือจริงๆ”
ถังรั่วชูยิ้มและไม่ได้พูดอะไรอีก
ทั้งสองพูดคุยเรื่องงานกันเล็กน้อย ถังรั่วชูจึงจะเดินออกไป
เดิมทีพวกที่คอยสนับสนุนหรุเสี่ยวหลินพูดคุยกันอย่างมี ออกรสนั้น เมื่อเห็นถังรั่วชู ทุกคนก็ทำหน้าเหมือนเห็นผี ยืนมอง ดูเธอเดินผ่านไป
ถังรั่วซูกวาดตามองพวกเธออย่างนิ่งๆ มุมปากของเธอกระตุก
ขึ้นมา
เดินที่ยังโต๊ะทำงานของตนแล้วนั่งลง ส่งอานหยีรีบพุ่งตัวมา
หาในทัน
“แผลของแกหายแล้วหรอ? ทำไมกลับมาทำงานเร็วขนาดนี้? ทำไมไม่ลาป่วยหลายๆวันหน่อย?”
ถังรั่วชูเปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้นหันกลับไปมองดูเธอ พูดเล่น ครึ่งหนึ่งพูดจริงจังขึ้นหนึ่ง:”ฉันคิดถึงแกไง”
“น้อยๆหน่อย” สังอานหยีหัวเราะออกมา “แกมีประธานสู้ของ แกคอยอยู่ด้วย แล้วยังจะคิดถึงฉันหรอ?”
ถังรั่วชูอดไม่ได้ที่จะหัวเราออกมา ยื่นมือไปบีบแก้มของเธอ “โอเค ฉันไม่ได้คิดถึงแก ฉันแค่รู้สึกว่ายิ่งอยู่เรื่องมันก็ยิ่งสนุก ขึ้น อยากจะรีบกลับมาทำงาน”
ส่งอานหยีทำหน้า “ฉันรู้อยู่แล้ว” แล้วมองบน แสร้งทำเป็น
เสียงใจแล้วพูดขึ้น “คนพวกนั้นทำไมน่าสงสารขนาดนี้?” “คนที่น่าสงสารต้องมีที่น่ารังเกียจ” ถังรั่วชูยิ้มแล้วปรายตาม
องดูเธอ
จากนั้นก็เปิดหน้าเว็บ มีข่าวIPขนาดใหญ่ของเรื่อง
(ชีวประวัติพระชายาชิง))
ส่งอานหยืมองดู จากนั้นหัวเราะในลำคอแล้วพูดขึ้น:”คิดไม่ ถึงจริงๆว่ากูรั่วรั่วจะได้รับบทเป็นนางรอง”
ตอนแรกนึกว่ากูรั่วรั่วจะถูกทางโปรดิวเซอร์คัดออก ทว่าใคร จะไปคิดว่าโปรดิวเซอร์จะไม่มีจรรยาบรรณขนาดนี้ ยังกล้า เอานักแสดงอย่างกูรั่วรั่วที่ไม่มีฝีมือการแสดงมาแสดง
“การที่เธอสามารถทำได้ นั่นก็เป็นความสามารถของเธอ แต่ ว่าจะดังไหมนั้น นอกจากความสามารถของตนเองแล้ว สิ่งที่ มากไปกว่านั้นคือชะตาชีวิต”
กู้รั่วรั่วคิดว่าการที่ตนเองแสดงละครหนึ่งเรื่องก็จะดังขึ้นมา จริงๆงั้นหรอ? คิดว่าคนดูโง่หรือไง?
มอบให้เธอสามคําฝันไปเถอะ!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ