ตอนที่ 156 ผู้ชายคนหนึ่งสอน
ตอนที่ 156 ผู้ชายคนหนึ่งสอน
ตั้งแต่ได้รู้ฐานะซึ่งกันและกันแล้ว เสิ่นโม่เฟยก็มักจะใช้ เหตุผลต่างๆนานาให้ถังรั่วชูมาหาเขาที่ห้องทำงานของ ประธาน
หนึ่งครั้งสองครั้งก็ยังดี จำนวนครั้งมากแล้ว ในบริษัทก็จะเริ่ม แพร่กระจายคำนินทากาเลข่าวลือของพวกเขาทั้งสองคน
มีคนพูดว่าถังรั่วชูคือคนรักที่เสิ่นโม่เฟยเลี้ยงดู
มีคนพูดว่าเสิ่นโม่เฟยเพื่อถังรั่วชูแล้วก็ถลุงเงินเป็นว่าเล่นซื้อ ช่วงเวลานั้นลงมาแล้ว
มีคนยิ่งไม่มีเหตุผล ใช้สมองเพิ่มเติมไปที่ละครใหญ่เรื่องหนึ่ง ของบุญคุณความแค้นของตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพลไป ตรงๆ
พูดว่าอะไรถังรั่วชูคือรักแรกของเสิ่นโม่เฟย ทั้งสองคนต่างรัก ซึ่งกันและกันแต่ไม่ได้รับการยอมรับจากตระกูลเสิ่นละครรัก จอมปลอมประเภทนี้
เมื่อสังอานหยีนำเรื่องพวกนี้บอกกับถังรั่วชูอย่างสมจริงสมจัง ถึงบทบาท มุมสายตาที่ด้านหลังก็ได้ดึงออกไปดึงมา พูดอย่าง รังเกียจไม่แยแส: “ละครรักจอมปลอมพวกนี้เขียนกลายเป็นนิยายก็รังเกียจยากที่จะดู”
“พวกเขาทำไมไม่พูดที่จริงฉันคือนางบำเรอของพ่อเสิ่นโม่ เฟยประเภทนี้ล่ะ? ความรักที่ผิดจรรยาบรรณถึงจะเพียงพอ ต่อความเร้าใจ”
สั่งอานหยี:”…….
ก็มีเพียงเธอที่อยู่ภายใต้ข่าวลือใส่ร้ายป้ายสีต่างๆนานาที่ยัง คงสามารถมีความสุขสนุกสนานได้
ที่จริงก็ไม่ใช่ถังรั่วชูที่มีความสุขสนุกสนาน เธอเพียงรู้สึกว่า เรื่องที่ไม่จําเป็นพวกนี้ไม่ต้องไปสนใจ หากว่าได้ไปสนใจโต้ เถียงกับพวกนั้นแล้ว ไม่แน่ว่ายังได้แพร่กระจายจนยิ่งไม่มี เหตุผลมากขึ้นอีกล่ะ
บุคคลที่เป็นผู้บริสุทธิ์ แม้ไม่ได้ชี้แจงอะไรเพื่อตัวเอง แต่ก็ สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้เองโดยธรรมชาติไงล่ะ
ดังนั้นเธอควรทํางาน ทํางาน ควรพักผ่อนก็พักผ่อน ทั้งหมด ไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวลือการนินทา
แต่มีคนที่กดความอดทนไว้ไม่ได้แล้ว
“โอย นี่ไม่ใช่ภรรยาในอนาคตของท่านประธานของพวกเรา งั้นเหรอ?”
ถังรั่วซูได้ยกแก้วเดินเข้าไปในห้องน้ำชา ข้างๆหูก็มีเสียงของ ท่าทางการพูดจาปลิ้นปล้อนไม่จริงใจหนึ่งดังขึ้นมา
มองตามเสียงไปคือศัตรูคู่หรูเสี่ยวหลิน
เธอได้ยกคิ้วขึ้นแล้วขึ้นอีก หรุเสี่ยวหลินคนประเภทนั้น เธอ ยิ่งไปสนใจหล่อนก็ยิ่งมาด้วยอารมณ์ที่มากขึ้น
ดังนั้นเธอเลือกที่จะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้เดินมุ่งตรงไปถึงหน้าเครื่องน้ำดื่มเพื่อเติม
เธอไม่คิดที่จะสนใจฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่คิดที่
จะปล่อยเธอไป
“ถังรั่วชู ฉันพูดกับเธอ เธอไม่ได้ยินเหรอ? หูหนวกเหรอ?”
ได้พลิกตาค้อนปะหลับปะเหลือก ถังรั่วชูได้หมุนตัวมองไป ทางหรุเสี่ยวหลิน จากนั้นได้ยิ้มเล็กน้อย “ผู้ช่วยผู้จัดการทรุ เมื่อกี้คุณกำลังพูดอยู่เหรอ? ฉันยังคิดว่าคือหมากำลังเห่าสะ เปะสะปะล่ะ?”
ในชั่วพริบตาสีหน้าของหรุเสี่ยวหลินก็ได้อึมครึมลึกลงมาแล้ว ทันทีหลังจากนั้นก็ได้ก้าวเท้าใหญ่ๆเดินไปถึงด้านหน้าของถัง รั่วชู ถลึงตาใส่เธออย่างเย็นชา “ถังรั่วชู เธอยังคิดว่าประธาน เสิ่นคนอื่นเขาชอบเธอขึ้นมาจริงๆแล้ว? น่าขำ เธอก็เป็นเพียงแค่ของเล่นชิ้นหนึ่งของคนอื่น
“ของเล่น?” ถังรั่ว ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ หลังจากนั้น ก็ได้ดึงผมยาวๆของตัวเองไปมา มุมสายตาได้ยกขึ้น “น่า เสียดายที่มีคนคิดอยากจะเป็นของเล่นก็ไม่มีโอกาสนะ”
หรูเสี่ยวหลินที่ได้ถูกแทงตรงความเจ็บปวดก็โกรธจนนำ ดวงตาถลึงตาจนโตมาก ในสายตายิงความเข้มข้นของความ โกรธแค้นได้อย่างแตกกระจาย เธอได้พูดด้วยความกัดฟันสู้ “ถังรั่วชู อย่าได้ลำพองใจเกินไป จะต้องมีวันหนึ่งที่ฉันจะทำให้ เธอตายอย่างน่าเกลียดมาก”
“ฉันรอ” ถังรั่วซูยิ้มแล้วยิ้มอีกพุ่งใส่เธอ หลังจากนั้นก็ได้หมุน ตัวต้องการเดินไป
เธอไม่ได้ตระหนักถึงในสายตาที่ปรากฏความโหดร้ายแวบ หนึ่งของหรูเสี่ยวหลิน ทันใดนั้นผมยาวๆก็ถูกคนดึงฉุดไว้จาก ทางด้านหลัง ส่งเสียงเรียกตะโกนด้วยความตื่นตกใจ เธอได้ โซซัดโซเซไปทางด้านหลังก้าวหนึ่ง ถือโอกาสทั้งหมดนำน้ำใน แก้วที่ถือไว้อยู่ในมือได้เทใส่หน้าอกของตัวเองแล้ว
เพราะว่าคือหน้าร้อน เธอจึงสวมใส่ชุดเดรสบางๆตัวหนึ่ง และ นําก็คือเพิ่งจะร้นร้อนมาก
กล้ามเนื้อหน้าอกถูกลวกจนเจ็บปวด พื้นที่ระหว่างคิ้วก็ได้ ขมวดขึ้น ถังรั่วชูฝันอดทนต่อความเจ็บปวดเอาไว้ จากนั้นก็หัน หัวด้วยความโกรธถลึงตาใส่ผู้ที่ทำให้บรรยากาศเลวร้ายลง———
หรูเสี่ยวหลิน
“ขอโทษนะ ฉันไม่ระวังจับไปถึงผมของเธอแล้ว”
หรเสี่ยวหลินกล่าวค่าขอโทษอย่างเสแสร้ง ในสายตาเต็มไป ด้วยความลำพองใจ
“เผียะ!”
ฝ่ายมือหนึ่งได้พักไปอยู่บนหน้าที่ลำพองใจนั้นของหรุเสี่ยว หลินแล้ว เธอได้กุมแก้มที่เจ็บปวดเอาไว้
เมื่อคิดที่จะเปิดปากด่าถังรั่วชู แต่ตอนที่เห็นถึงสายตาที่ เยือกเย็นราวกับนําค้างแข็งของฤดูหนาวเดือนสิบสองของถัง รั่วชูก็ขี้ขลาดแล้ว ได้กลืนคำพูดกลับไปแล้ว
“หรูเสี่ยวหลิน เธอต้องการให้ฉันตายอย่างน่าเกลียด?” ถังรั่ว ชูบีบบังคับเข้าใกล้เธอ มีแววตาที่อึมครึมจนน่ากลัว
สีหน้าของหรูเสี่ยวหลินปรากฏถึงความกลัว เท้าได้ถอยไป ด้านหลังอย่างอัตโนมัติ “เธอต้องการทำอะไร?” น้ำเสียงเพราะ ว่ากลัวและได้มีความสั่นระริกอยู่บ้าง
“ทำอะไร?” ถังรั่วชูหัวเราะอย่างเย็นชา “หรุเสี่ยวหลิน ฉันจะ
อยู่ก่อนหน้าที่จะตายน่าเธอลากเข้าไปในนรกด้วยกัน”
หรุเสี่ยวหลินมองกังรั่วซูที่เหมือนกับซาตานที่น่ากลัว จากนั้น ก็ได้กลืนน้ำลายกลืนแล้วกลืนอีก คำพูดแค่ประโยคหนึ่งก็ไม่ กล้าที่จะส่งเสียงออกมา
ตรงหน้าอกเจ็บอย่างรุนแรง ถังรั่วซูหายใจเข้าลึกๆอดทนต่อ ความเจ็บเอาไว้ สุดท้ายก็ได้ชำเลืองมองไปที่หรูเสี่ยวหลิน อย่างเย็นชา ถึงได้หมุนตัวจากไป
หลังจากที่เธอจากไปแล้ว หรุเสี่ยวหลินก็ได้ขาอ่อน ล้มนั่งลง อยู่บนพื้น มีความรู้สึกประเภทที่เพิ่งมีชีวิตรอดจากภัยพิบัติ แล้ว
“น่ากลัวมาก” เธอได้กระซิบเสียงต่ำออกมา
“ส่งอานหยีไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนฉัน”
ถังรั่วชูที่ออกมาจากห้องน้ำชาก็มุ่งตรงเดินมาถึงข้างโต๊ะทำ งานของส่งอานหยี
“เป็นอะไรไปแล้ว?” ส้งอานหยีเงยหัวมองเธอ เส้นสายตา กวาดไปถึงตรงหน้าอกของเธอ จากนั้นก็ได้ส่งเสียงตะโกน ด้วยความประหลาดใจ “ทำไมเสื้อผ้าได้เปียกแล้ว?”
“ค่อยอธิบายบนทางกับเธอ”
ถังรั่วชูจับเธอขึ้น จากนั้นก็ก้าวเท้าใหญ่ๆเดินไปทางด้านลิฟต์
“ขอโทษค่ะ ผู้จัดการหลี เรื่องเกิดอย่างกะทันหันจึงไม่ทันได้ ขอลาหยุดกับคุณ เกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ?”
ส่งอานหยีหันหัวมองไปทางถังรั่วชูที่นอนให้พยาบาลทายา อยู่บนเตียง และได้เม้มริมฝีปากคิดไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้ นำเรื่องในมือตอนนั้นบอกไปยังหลีน่า
“หรเสี่ยวหลินคนนี้คือไม่อยากจะอยู่ในบริษัทแล้ว” เมื่อหลี น่าฟังจบก็โกรธจนนําปากกาหมึกซึมในมือตีไปที่บนโต๊ะอย่าง รุนแรง
“ผู้จัดการ สภาพอาการบาดเจ็บของถังรั่วชูยังคงหนักมาก นั่นเป็นถึงน้ำเดือดเลยนะ เมื่อได้หกลงไปแบบนี้ไม่แน่ว่าหนัง จะต้องลอกออก”
ที่จริงหมอได้ตรวจสอบแล้วพูดแต่เพียงแค่เป็นแผลน้ำร้อน ลวกเล็กน้อยเท่านั้น ทายาสักหน่อยผ่านไปกี่วันก็ดีแล้ว
แต่ถ้าไม่พูดให้หนักหน่อย หรุเสี่ยวหลินจะได้รับการกรรม ตามสนองที่เธอควรมีได้ยังไงกัน
“ฉันจะตอบสนองไปทางด้านบน เธอกับเสี่ยวถังพูดว่ารอแผลหายดีแล้วค่อยกลับมาทำงาน
หลีน่ารอไปแล้วรอบหนึ่งถึงได้ตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง
“ส่งอานหยี เธอเปลี่ยนเป็นร้ายแล้ว”
ถังรั่ว ได้ยินถึงการสนทนาระหว่างหล่อนกับหลีน่า จึงส่ง เสียงพูดยั่วเย้าออกมา
“ฉันเปลี่ยนเป็นร้ายที่ไหนแล้ว?”
ส่งอานหยีเดินเข้ามา จงใจทําเป็นถลึงตาใส่เธอด้วยความไม่ พอใจ “ฉันนี้เรียกว่า…..แก้ปัญหาโดยพื้นฐาน ทำให้หรุเสี่ยว หลินไม่มีโอกาสที่ยังโจมตีได้อย่างเด็ดขาด”
ถังรั่วชูหัวเราะ “แก้ปัญหาโดยพื้นฐาน? เธอไปเรียนกลยุทธ์ สามสิบหกมาจากที่ไหนล่ะ?”
“รับมือกับศัตรู พวกเราห้ามใจอ่อนเด็ดขาด ขอเพียงคว้า โอกาสไว้ได้ก็จะนำพวกจู่โจมจนถึงไร้แรงที่จะต่อต้านรับมือ”
สังอานหยีคิดถึงคำพูดที่วันนั้นผู้ชายบางคนได้บอกกับเธอ จึงอดไม่ได้ที่จะมีความใจลอยอยู่บ้าง
ถังรั่วชูเห็นเธอที่ชะงักงันไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จึงได้พูด ถามด้วยความอึดอัดใจ: “ส้งอานหยี เธอคิดอะไรถึงคิดได้อย่างจริงจังเช่นนี้ล่ะ?”
“อ๋?” สังอานหยีได้สติกลับมา เห็นถึงเธอที่มีใบหน้าที่เต็มไป ด้วยความชอบในการมองตัวเอง จึงได้รีบอธิบาย: “ไม่มีอะไร ฉันก็คือกำลังคิดถึงตัวเองว่าเรียนกลยุทธ์สามสิบหกมาจาก ที่ไหน”
ตอนที่พูดเธอก็ได้ยกน้ำดื่มขึ้นจากบนโต๊ะ เพื่อปกปิดความ ไม่สบายใจของตัวเอง
“อ้อ?” ถังรั่วชูยกหัวคิ้วขมวดขึ้น “คงจะไม่ใช่คือผู้ชายคนหนึ่ง สอนเธอใช่ไหม?”
“พรวด!”
น้ำคำหนึ่งได้พ่นออกมาแล้ว
“โขลกๆ…..” ส่งอานหยีที่ถูกการสำลักน้ำใส่แล้ว
ถังรั่วชูอดที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมาไว้ไม่ได้ “สังอานหยี เธอนี่คือร้อนตัวแล้ว? ยังคงถูกฉันพูดตรงจุดร้อนใจแล้ว?”
สังอานหยีโยนสายตาของความคับแค้นใจไปทางเธอสายตา หนึ่ง รอจนคลี่คลายเข้ามาแล้ว ถึงได้พูดด้วยท่าทีที่ไม่ดี: “ถัง รั่วชู เธอไม่ต้องคิดมากเกินไปได้ไหมนะ?”
“ฉันคิดมากไปแล้วเหรอ?” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่ผิด ของถังรั่วชู “ฉันเพียงคิดว่ากลยุทธ์สามสิบหกทางทหารมี เพียงผู้ชายเท่านั้นถึงจะศึกษานะ อย่างเช่น ลูกพี่ลูกน้องชาย ของผู้ซือจีน เจ้านายของพวกเราเสิ่นโม่เฟยก็มีการศึกษาอย่าง มากต่อเรื่องนี้”
“โขลกๆ……” ครั้งนี้เป็นสังอานหยีที่ถูกการสำลักน้ำของตัว เองใส่แล้ว
ถังรั่วชูขมวดคิ้ว “สังอานหยี เธอระวังหน่อยได้ไหม?”
สั่งอานหยีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นี่ยังไม่โทษคำพูดแบบนั้น ที่เธอพูดอีก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ