ตอนที่ 152 ผู้หญิงที่เนรคุณชั่วช้า
ตอนที่ 152 ผู้หญิงที่เนรคุณชั่วช้า
มีเธออยู่ข้างกาย ฉันก็ไม่รู้สึกเหนื่อย
ดูราวกับว่าได้สะกดอารมณ์ความรู้สึกที่เข้มข้นของเขาไว้ น้ำ
เสียงของเขามีเสียงแหบแห้งฟังไม่ชัดอยู่บ้าง
ถังรั่วซูเม้มริมฝีปากไว้ มืออีกข้างหนึ่งได้จับไปที่หน้าอกอย่าง แน่นหนา ที่นั่นมีความตื้นตันใจอยู่บ้างมีความเจ็บปวดอยู่บ้าง ในลูกตาดำที่สวยงามได้เต็มไปด้วยน้ำที่ลอยขึ้นทั่วไปแล้ว น้ำ โหมซัดสาดซาบซึ้งกินใจ
“หากเธอยังมองฉันแบบนี้ ผมกลัวว่าผมจะควบคุมไว้ไม่อยู่”
ลูซือจิ่นหัวเราะ และได้พูดอย่างครึ่งหนึ่งคือจริงจัง ครึ่งหนึ่ง คือล้อเล่น
หากว่าไม่ใช่ว่าไม่ถูกกาลเทศะ เขาก็จะนำเธออุ้มเข้าไปใน อ้อมอกนานแล้ว จากนั้นก็จูบไปที่ริมฝีปากแดงๆที่อ่อนโยน ของเธออย่างรุนแรง
ได้ยินว่าเมื่อถังรั่วชูยกคิ้วภายใต้สายตาก็จะปรากฏแวบหนึ่ง ถึงความปลิ้นปล้อนเหลี่ยมจัดไม่ซื่อหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ถัดไป เธอได้เข้าใกล้ไปทางสู้ซือจิ่นอย่างคาดไม่ถึง จากนั้นก็ได้จูบลงไปบนริมฝีปากของเขาแล้ว
อยู่ในตอนนี้ตัวเองมีสติปัญญาคงอยู่ สู้ซือจิ่นจำใจที่จะต้อง จากริมฝีปากของเธอไป และได้มองริมฝีปากที่ละเอียดอ่อน งดงามหมดจนของเธอไว้ สีของลูกตาดำมีความลึก
ปลายนิ้วนุ่มๆได้ลูบไล้ริมฝีปากของเธอไว้เบาๆ ริมฝีปา กบางๆของชายรูปงาม “วันนี้กลับบ้านเร็วหน่อย”
ถังรั่วชูได้ส่งเสียง “อืม” เบาๆแล้ว
ทั้งสองคนได้พะเน้าพะนอเอาใจแล้วครู่หนึ่ง เขาถึงได้จากไป
และหลังจากที่สู้ซือจิ่นจากไปได้ไม่นาน จ้าวเสี่ยวหวั่นกับกู้รั่ว รั่วก็มาด้วยกันแล้ว
ถังรั่วชูกำลังเติมน้ำอยู่ในห้องอาบน้ำ เสียงน้ำไหลทำให้เธอ
ไม่ได้ยินถึงการเคลื่อนไหวด้านนอก
จนกระทั่งถึงตอนปิดหัวก๊อกน้ำ เธอถึงได้ยินถึงเสียงที่มาจาก ด้านนอกโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน
“รั่วรั่ว พ่อเธอก็จะไม่ตื่นขึ้นมาแล้วใช่ไหม?”
เป็นเสียงของจ้าวเสี่ยวหวั่น
แม่ แม่วางใจ ชีวิตนี้พ่อก็จะไม่ตื่นขึ้นมาตลอดไปแล้ว” ”
ในน้ำเสียงของกู้รั่วรั่วมีความเลวทรามอันโหดเหี้ยมอย่าง ที่สุด
“อย่างนั้นหากว่าล่ะ?” จ้าวเสี่ยวหวั่นยังคงคือไม่วางใจ ตาเฒ่า ชั่วคนนี้หากว่าได้ตื่นขึ้นมา อย่างนั้นบริษัทถังชื่อกรุ๊ปก็จะกลับ ไปถึงในมือเขากับถังรั่วซูสาวน้อยชั่วช้าคนนั้น
“หากว่า?” กูรั่วรั่วหัวเราะด้วยน้ำเสียงเย็นชากี่ที “หากว่ามี เหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนฉุกเฉิน ฉันก็จะไม่ให้มันเกิดขึ้น”
ไม่ง่ายที่ได้นำบริษัทถังชื่อกรุ๊ปจัดการมาถึงมือ เธอจะไม่ให้ เหตุการณ์นอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นเด็ดขาด
บริษัทถังซื่อกรุ๊ป เธอมีพลังมุ่งมั่นที่จะต้องได้รับมัน
“อย่างนั้นก็ดี” จ้าวเสี่ยวหวั่นปล่อยลมหายใจโล่งอกออกมา เบาๆ หัวข้อสนทนาได้เปลี่ยน “ช่วงนี้ประธานคณะกรรมการ บริหารพวกนั้นของบริษัทถังชื่อกรุ้ปเป็นยังไงบ้าง? ยังคงกัด แน่นไม่ปล่อยไหม?”
“นอกจากกี่คนกับถังสังคนคร่ำครึที่มีความรู้สึกของ จิตใต้สำนึกไม่ยอมปล่อย คนอื่นก็ล้วนพยักหน้ารับปากที่จะ สนับสนุนฉัน”
“ไม่ต้องสนใจคนคร่ำครึกี่คนนั้น ถึงอย่างไรบนมือของเธอก็มีสิทธิ์ในผู้ถือหุ้นของถังสัง บวกกับการสนับสนุนของคนอื่น ตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารเธอก็นั่งได้อย่างมั่นคง แล้ว”
แบบนี้ฉันก็สามารถแต่งเข้าตระกูลจี้ได้อย่างราบรื่นแล้ว”
สำหรับกู้รั่วรั่วแล้ว ที่เธอสนใจที่สุดที่จริงก็คือตำแหน่งลูก สะใภ้ของตระกูลจี้
ไม่อย่างนั้นเธอก็จะไม่พะวงมุ่งหวังแย่งจี้หยินเฟิงไปจากข้าง กายของถังรั่วชู
ไม่นานนัก เธอกำลังจะกลายเป็นคนคุมอำนาจของบริษัทถัง ชื่อกรุ๊ป และก็กำลังจะกลายเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลจิ้
มีเพียงเธอที่ปีนขึ้นไปไม่หยุด ถึงสามารถนำถังรั่วซูมาเหยียบ
ย่ำอยู่ใต้เท้าอย่างโหดเหี้ยมได้
ได้ฟังการสนทนาพูดคุยที่ลำพองใจโอหังมากมายของคู่แม่ ลูกนอกประตูนั้น ถังรั่วชูก็ได้กัดฟันไว้อย่างโกรธแค้น เป็น อย่างที่คิดไว้ก็ล้วนคือเรื่องดีงามที่พวกเขาทำจริงๆ!
ก่อนหน้ายังคงกลัดกลุ้มทำไมบริษัทถังซื่อกรุ๊ปที่ปกติดีคาด ไม่ถึงว่าจะเต็มใจจัดสรรเงินให้ไว้บริษัทจี้ชื่อ
ในที่สุดตอนนี้ก็รู้ว่าคือใครกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมแล้ว
นั่นคือสิ่งของที่พ่อของเธอได้วางรากฐานมาอย่างยากลำบาก เธอจะไม่อนุญาตให้มีคนคิดพยายามมาย้อมสียุ่งกับมันเด็ด ขาด
เธอก็ไม่ได้ออกไปยันกันต่อหน้ากับจ้าวเสี่ยวหวั่นแม่ลูก และ ได้รอพวกเขาจากไปแล้วถึงเดินออกไป
เดินไปถึงด้านหน้าของเตียงผู้ป่วย เธอจ้องเขม็งไปที่ใบหน้า แก่ที่ไร้เรี่ยวแรงของพ่อ รอยยิ้มเย้าหยอกหนึ่งก็ได้ลอยกว้าง ออกมาอยู่ตรงริมฝีปาก “พ่อ พ่อได้ยินแล้วไหม? พ่อดูแลพวก เขาทั้งสองคนด้วยใจจริง ท้ายที่สุดแล้วพวกเขากลับกำลังคิด ร้ายกับพ่อ”
เธอรู้สึกไม่คุ้มค่าแทนพ่อ จากนั้นก็ได้เม้มริมฝีปากเม้มแล้ว เม้มอีก และได้พูดต่อ “พ่อ ฉันจะไม่ให้บริษัทถังซื่อกรุ๊ปตกสู่ใน มือของพวกเขา ฉันจะรักษาบริษัทถึงชื่อกรุ๊ปให้ดีแทนพ่อกับ แม่
เธอมองพ่ออย่างมุ่งมั่นอยู่ครู่หนึ่งถึงได้หมุนตัวจากไป
และหลังจากที่เธอได้หมุนตัว มุมสายตาของตัวพ่อถังก็ได้มี น้ำตาหยดหนึ่งไถลตกลงมา ในห้องได้เงียบสงบลงมา มีเพียง เสียงของเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ “ตื้ดๆ” ที่เหลือไว้อยู่
ตั้งแต่ที่ได้ออกจากโรงพยาบาล ถังรั่วซูจึงได้ไปที่บริษัทถัง ชื่อกรุ๊ปแล้ว
อยู่ตรงแผนกต้อนรับส่วนหน้า เธอได้ถูกขวางกั้นเอาไว้แล้ว
“คุณผู้หญิงคนนี้ คุณได้นัดล่วงหน้าไว้ไหม?”
หลังจากตั้งแต่ที่ความสัมพันธ์เปลี่ยนเป็นแย่กับพ่อ เธอก็แทบ จะไม่เคยมาที่บริษัทถังชื่อกรุ๊ป ดังนั้นก็คือปกติที่ตรงแผนก ต้อนรับส่วนหน้าจะไม่รู้จักเธอ
“ฉันไม่ได้นัดล่วงหน้า” ถังรั่วชูตอบกลับตามความจริง
“อย่างนั้นคุณไม่สามารถเข้าไปได้” ผู้หญิงสวยน่ารักตรง แผนกต้อนรับส่วนหน้าได้ยิ้มอย่างมีมารยาท
ถังรั่วชูขมวดคิ้วขึ้น “ฉันคือลูกสาวของท่านประธานถังของ
พวกเธอ ถังรั่วชู”
เธอได้เปิดเผยฐานะของตัวเองออกมาแล้ว สาวสายน่ารักคือ ได้ชะงักงันก่อน หลังจากนั้นก็ได้พูดอย่างอ่อนโยน: “ขอโทษ ค่ะ ไม่ว่าคุณคือใคร ไม่ได้นัดล่วงหน้าก็ไม่สามารถเข้าไปได้
“คุณคือมาทํางานตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ถังรั่วซูได้ถามอย่างกะทันหัน
ผู้หญิงสวยน่ารักได้ตกใจกลัว “ครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว”
อย่างนั้นก็คืออยู่ในตอนที่พ่อมาทำงาน
ถังรั่วซูได้ยิ้มแล้วยิ้มอีกให้กับเธอ “ฉันรู้สึกถึงความภูมิใจ แทนพ่อของฉันที่มีเธอพนักงานที่พยายามปฏิบัติหน้าที่อย่าง เต็มที่เช่นนี้”
ผู้หญิงสวยน่ารักกลั้นไม่ไหวได้ยิ้มแล้ว และไม่ใช่รอยยิ้มที่มี มารยาทสร้างตามแบบประเภทนั้นอีก แต่คือรอยยิ้มที่ส่งออก มาจากในหัวใจของตัวเอง
“คุณคือลูกสาวของประธานคณะกรรมการบริหารจริงๆเห รอ?” ผู้หญิงสวยน่ารักได้พูดถามอย่างระแวง
เพราะว่าอยู่ในการแยกแยะรับรู้ของเธอ โดยปกติแล้วลูก ของคนมีเงิน ก็ล้วนยืนอยู่เหนือมวลชนเป็นอย่างมาก ดูถูกคน เป็นอย่างมาก
มีความโอนอ่อนตามเช่นนี้ที่ไหนกัน
ถังรั่วชูรู้ความคิดของเธอ จึงได้ยิ้มเล็กน้อย “อืม ฉันคือ ลูกสาวของพ่อฉันจริงๆ”
“อย่างนั้นคุณกับคุณผู้หญิงท่านนั้นชั้นบนคือพี่น้อง?” ผู้หญิง สวยน่ารักก็ได้ถามอีกครั้ง
ชั้นบน? ถังรั่วซูยกปลายคิ้วขมวดขึ้น ถามอย่างลองหยั่งเชิง “กูรั่วรั่ว?”
“ใช่ ก็คือเธอ บริษัททุกระดับชั้นก็ล้วนกำลังเล่าต่อๆกันว่าเธอ อาจจะเป็นประธานคณะกรรมการบริหารคนใหม่”
ผู้หญิงสวยน่ารักได้มองแล้วมองอีกไปรอบด้าน พบว่าไม่มี ใครสนใจพวกเธอทางด้านนี้ เธอจึงได้เข้าใกล้ถึงด้านข้างหู ของถังรั่วชู จากนั้นก็ได้พูดเบาๆ: “โครงสร้างของเธอใหญ่มาก ทุกครั้งเมื่อมา ผู้จัดการของบริษัททุกระดับชั้นก็ล้วนเคลื่อน ย้ายมาล้อมเธอไว้ มองใครไม่ถูกชะตาต้องใจนิดหน่อยก็ไล่ ออกตรงๆ ทั้งหมดไม่คิดถึงความรักความผูกพันของคนอื่นเขา กับประธานคณะกรรมการบริหารคนเก่าเลยสักนิด
ทางด้านนี้ได้พูด มุมสายตาของถังรั่วซูก็ได้เห็นแวบหนึ่งถึง เงาที่คุ้นเคยหนึ่งที่เดินจากในลิฟต์ตรงนั้นออกมา
เธอหันหัวไปมองคนนั้นให้ชัดเจน และได้พบว่าคนนั้นคือคนที่ เธอรู้จักทั้งหมดจริงๆ
“ลุงหยาง” ได้ตะโกนไปทางคนนั้น
คนนั้นได้ยินเสียง ก็ได้มองเข้ามาทางเธอแล้ว ในชั่วพริบตาที่ได้เห็นถึงเธอ ใบหน้าที่เดิมทีกลัดกลุ้มก็ได้มีชีวิตชีวาขึ้นมา
ทันที
“ถังรั่วชู ทำไมเธออยู่ที่นี่?” ลุงหยางรีบก้าวเดินมาถึงด้านหน้า ของเธอ
“ฉันเข้ามาดูๆ” ถังรั่วชูยิ้มพร้อมพูดตอบ
เธอตระหนักได้ถึงกระเป๋าจดหมายราชการที่เขาถือไว้ จึงได้ ถาม: “ลุงหยาง อาต้องการออกไปเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูด รอยยิ้มบนสีหน้าของลุงหยางก็ได้จางหาย ไป จากนั้นก็ได้ถอนหายใจอย่างลึกๆแล้วฟอดหนึ่ง “ฉันนี้คือ กลับบ้านกินตัวเองแล้ว”
น้ำเสียงของเขามีความไม่ยอมกับจนปัญญาอยู่บ้าง
“ผู้จัดการหยาง คุณคือถูกไล่ออกแล้ว?” ผู้หญิงสวยน่ารัก ตรงแผนกต้อนรับส่วนหน้าได้ตะโกนเสียงเบาๆออกมาด้วย ความตื่นตกใจ
ใครก็รู้ตั้งแต่ตอนที่ผู้จัดการหยางยังเป็นหนุ่มก็ได้ติดตามอยู่ ข้างกายประธานคณะกรรมการบริหารคนเก่ามาโดยตลอด ความรักความผูกพันกับประธานคณะกรรมการบริหารคนเก่า ก็ไม่เลว
“ลุงหยาง คือกู้รั่วรั่วไล่อาออก? ”
“ใ ส นอกจากเธอแล้วยังมีใครล่ะ?” ลุงหยางคือไม่พอใจเป็น อย่างมาก “เธอว่าแต่ไหนแต่ไรมาร่างกายของท่านประธาน คณะกรรมการบริหารก็แข็งแรงมาโดยตลอด ทําไมพูดว่าล้ม ลงก็ล้มลงแล้วล่ะ? ดี ถึงแม้ว่าล้มลงแล้วก็ไม่ควรที่จะเอาบริษัท ไปมอบให้กับคนแบบนั้นสิ เขาไม่ใช่ว่ายังมีลูกสาวคนนี้อย่าง เธออยู่เหรอ? ทำไมก็เลอะเลือนแบบนี้ล่ะ?”
มองลุงหยางที่ถอนหายใจส่ายหัว ด้วยท่าทางที่โกรธเคืองไม่ พอใจ ในใจของถังรั่วชูก็ยากที่จะรับได้มาก แต่กลับก็ได้อยู่ใน เวลาเดียวกันที่ความคิดในใจของเธอก็ได้ยิ่งเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ขึ้นแล้ว
บริษัทถังซื่อกรุ๊ป เธอจะไม่ยอมให้มันตกถึงในมือของกู้รั่วรั่วอย่างเด็ดขาด
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ