ตอนที่ 151 มีเธออยู่ข้างกาย ฉันก็ไม่รู้สึกเหนื่อย
ตอนที่ 151 มีเธออยู่ข้างกาย ฉันก็ไม่รู้สึกเหนื่อย
ติดตามกันมาด้วยการร้องเสียงแหลมกับการต่อสู้ดิ้นรนของ หยางเซียนเซียน ถังรั่วชูได้ฉีกผ้าพันแผลที่พันไว้อยู่ตรงหน้า ผากของเธอออกไป และได้ปรากฏให้เห็นถึงบาดแผลหนึ่งตรง ขมับแล้ว
เป็นอย่างที่คิดไว้ก็คือบาดแผลเล็กๆบาดแผลหนึ่ง
* หยางเซียนเชียนคิดว่าสถานีตำรวจเป็นของบ้านเธอจริงๆ ใช่ไหม ” ถังรั่วซูนำผ้าพันแผลทิ้งไปถึงบนตัวของหยางเขียน เขียน หรือว่าเธอคิดว่าบ้านของเธอมีเงินเพียงพอ จึงสามารถ ที่จะใช้เงินซื้อความสะดวกติดสินบนบนความสัมพันธ์นำสั งอานหยีส่งเข้าคุก?”
หยางเซียนเซียนเห็นว่าตัวเองถูกเปิดโปงด้วยกลอุบาย จึงถือ โอกาสก็ไม่เสแสร้งแล้ว “ใช่แล้วทำไม? ไม่ใช่แล้วยังไง? อยู่ใน สายตาของฉัน ส่งอานหยีก็เป็นเพียงแค่ตุ่นหรือมดตัวหนึ่ง ฉัน แค่บีบก็นำเธอมาบีบจนตายแล้ว”
ลมหายใจที่ค่อนข้างอวดดีอย่างบ้าระห่ำของหยางเซียน เชียน ทำให้เซียวเซียวโกรธจนเมื่อยกมือขึ้นก็อยากที่จะตบ ฝ่ามือพัดเข้าไป ถังรั่วซูจึงได้รีบดึงลากเธอไว้ “เซียวเซียว อย่า ใจร้อน”
“แต่ว่า….” เซียวเซียวได้โกรธจนระเบิดแล้วจริงๆ
ถังรั่วชูได้ยิ้มเบาๆ “เขียวเขียว หมากัดเธอแล้ว หรือว่าเธอก็ อยากกัดกับหมาเหรอ?”
“ถังรั่วชู คุณพูดว่าใครคือหมาล่ะ?”
เซียวเซียวนี่ถึงได้คิดออกในฉับพลัน จากนั้นทันใดทันทีก็ได้ ฉุนกลับไป: “ใครยอมรับคนนั้นก็คือหมา”
เมื่อพูดจบยังได้ทำหน้าตลกต่อหยางเขียนเชียนแล้ว หลัง จากนั้นก็ได้โกรธจนสั่นระริกไปทั่วตัว และได้นําสายตาจ้อง ถลึงตาโตๆได้จ้องเขม็งใส่เซียวเซียวไว้อย่างหนักหนา
“หยางเชียนเชียน ฉันรู้ว่าลุงสังกับน้าสังคือถูกเธอใส่ร้าย เพื่อ หานยี่เฉินคนหนึ่ง เธอก็สิ้นเปลืองความพยายามที่มีอยู่ของ จิตใจที่มุ่งหวังอย่างสุดขีดเลยนะ”
ถังรั่วชูได้หัวเราะเบาๆ และได้หรี่ลูกตาดำขึ้น โดยได้มีความ เย็นชาทะลุออกมา “ตอนนี้เธอแม้แต่ส่งอานหยีก็ไม่ปล่อย คิด ไม่ถึงว่าชู้รักคนหนึ่งจะกำเริบเสิบสานจนถึงขั้นนี้ คือคิดว่าส้ งอานหยีรังแกได้ง่ายจริงๆงั้นเหรอ?”
“กล้ารังแกสั่งอานหยี ตัวฉันก็จะส่งคืนกลับไปสิบเท่า” เซียว เซียวได้พูดคล้อยตามอยู่ที่ด้านหนึ่ง
ส่งอานหยีได้มองเพื่อนที่ดีทั้งสองคนที่ออกหน้าเพื่อเธอ เบ้าตาก็ได้ร้อนขึ้น น้ำตาก็เกือบที่จะไหลออกมาด้วยความตื้น ตันใจเป็นอย่างยิ่ง
ยังดีที่เธออดกลั้นไว้แล้ว ถึงรั่ว บอกเธอว่าห้ามร้องไห้ต่อ หน้าผู้ชายเลวผู้หญิง วอย่างเด็ดขาด เธอก็จะไม่ร้องไห้อย่าง แน่นอน
หายใจลึกๆแล้วฟอดหนึ่ง สังอานหยีก็ได้ล้วงแฟลชไดรฟ์จาก ในกระเป๋าออกมาอันหนึ่ง “หยางเชียนเชียน พ่อแม่ของฉันคือ ถูกใส่ร้าย ฉันได้ทําแทนพวกเขาหาหลักฐานเจอแล้ว ขอเพียง ฉันนําแฟลชไดรฟ์อันนี้มอบให้กับตำรวจ อย่างนั้นพวกเขาก็ สามารถออกมาได้แล้ว”
ในสายตาของหยางเชียนเชียนได้ปรากฏแวบหนึ่งถึงความ ลุกลี้ลุกลน แต่ก็ได้ถูกระงับปิดบังไปด้วยความรวดเร็วมาก จากนั้นเธอจึงได้หัวเราะอย่างเย็นชา “ก็อาศัยแฟลชไดรฟ์อัน นั่นก็คิดพลิกคดีแทนพ่อแม่ของเธอ ไร้เดียงสาเกินไปแล้วใช เปล่า?”
“ไร้เดียงสาไหม ตำรวจพูดก็พอแล้ว”
ส่งอานหยีเดินเข้าใกล้เธออย่างช้าๆด้วยแววตาที่เด็ดเดี่ยว และเยือกเย็น “หยางเชียนเชียน อย่าคิดว่าเรื่องสกปรกเรื่อง นั้นที่เธอกับหานยี่เฉินทำจะไม่ถูกคนรู้”
“เธอรู้อะไร?” หยางเชียนเขียนถลึงตาใส่เธอ เห็นถึงท่าทาง ของเขาที่มีความแรงมาก เธอจึงอดไม่ได้ที่จะหวั่นไหวอยู่บ้าง
สังอานหยียิ้มเล็กน้อย “ฉันรู้ว่าอะไรไม่มีความเกี่ยวข้องกับเธอ หยางเรียนเชียนความดีและความชั่วต้องได้รับการ ตอบแทน พ่อแม่ของฉันเข้าคุกได้ยังไง เธอกับหานยี่เฉินก็รอ เถอะ”
เมื่อพูดจบเธอก็ได้หมุนตัวกลับ “ถังรั่วชู เขียวเชียว พวกเรา
ไปเถอะ”
“ก็แบบนี้?” ดูเหมือนว่าเซียวเซียวไม่ได้พอใจมากกับความคิด ของสงอานหยี และคิดว่าได้ถูกคนเลวคนนั้นเอาเปรียบแล้ว
“เซียวเซียว บนความทรมานของความรู้สึกในใจมีบางครั้งที่ เมื่อเทียบกับบนร่างกายแล้วก็ยังเจ็บปวดยิ่งกว่า”
ถังรั่ว ได้มองไปยังหยางเซียนเชียนที่เห็นได้ชัดว่าเริ่มที่จะ กระวนกระวายใจ มุมปากได้ยกหัวเราะขึ้นอย่างยาวนานลึก ซึ่ง
คำพูดคือพูดเช่นนี้ แต่ว่าพวกเขาก็เสียเวลามาแล้ว” “
เซียวเซียวชี้แล้วชี้อีกไปที่พวกเขาสู้ซึ่งเหยากับเสิ่นโม่เฟย เดิมทีก็ยังคงคิดว่าต้องการที่จะให้พวกเขาออกมือช่วยเหลือ ใครจะไปรู้ว่าเมื่อตะโกนเรียกพวกเขามาก็ได้กลายเป็นกลุ่ม คนชอบเสือกแล้ว
“จะเสียเวลามาได้ยังไงล่ะ?”
ถังรั่ว ลากสงอานหยีย้ายผ่านไป และได้นำเธอผลักไปถึง ตรงหน้าของเสิ่นโม่เฟย “โม่เฟย หล่อนก็มอบให้เธอแล้ว”
“พี่สะใภ้ ฉัน..
เส้นโม่เฟยเปิดปากคิดที่จะปฏิเสธ เพียงแค่เห็นถึงแววตาหนึ่ง ของพี่สะใภ้ปลิวมา เมื่อคำพูดถึงตรงด้านปากจึงทำได้เพียง เปลี่ยนคำพูด: “พี่สะใภ้วางใจ ฉันจะพาเธอส่งกลับบ้านอย่าง ปลอดภัย”
“นี่ถึงจะเชื่อฟังล่ะ” ถังรั่ว ได้แสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา ให้เห็นแล้ว
ทำไมรู้สึกว่าพี่สะใภ้ก็ได้ทําเหมือนเขาเป็นเด็กแล้ว? เสิ่นโม่ เฟยขมวดคิ้วขึ้นอย่างจนปัญญา จากนั้นสายตาก็ได้มองกวาด ผ่านไปที่ส่งอานหยีอย่างไม่สนใจ
ในช่วงวินาทีนั้นสายตาของทั้งสองคนก็ได้มองชนกันโดย บังเอิญ พวกเขาก็ล้วนตกตะลึงแล้ว แต่ก็ได้เคลื่อนย้ายออกไป อย่างรวดเร็วมาก
“ซึ่งเหยา เซียวเชียวก็มอบให้เธอแล้ว”
ถังรั่วซูได้นำเซียวเซียวกับลูซึ่งเหยาก็จัดการอย่างดีแล้ว
“อย่างนั้นเธอล่ะ?” เซียวเชียวถาม
“ฉันต้องไปดูๆพ่อของฉัน”
ถังส่งยังคงได้อยู่ในสถานการณ์สลบไม่ได้สติ หมอได้พูด แล้วว่ายาในการรักษาก่อให้เกิดอันตรายเป็นอย่างมากต่อ ศูนย์รวมเส้นประสาทในสมอง ดังนั้นแม้ว่าจะตื่นขึ้นมา ก็เกรง ว่าได้เป็นบุคคลที่สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไม่มี ความรู้สึกใดๆทั้งสิ้นแล้ว
หลังจากที่แม่ตายไปไม่นานนัก จ้าวเสี่ยวหวั่นแม่ลูกก็ได้เข้า ประตูของตระกูลถังแล้ว นี่ทำให้แต่ไหนแต่ไรมาเมื่อวัยเยาว์ ของถังรั่วชูจึงได้ไร้วิธีที่จะยอมรับพ่อที่ก็ได้เริ่มต้นความรัก ใหม่อีกครั้งกับคนอื่นรวดเร็วขนาดนี้ ดังนั้นในใจจึงได้มีความ คับแค้นใจต่อพ่อมาโดยตลอด
ดังนั้นหลายปีมานี้ความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อก็ยิ่งอยู่ยิ่งแย่
ตอนนี้เมื่อได้คิด ที่จริงตัวเองก็ฉลาดไม่พอ ความสัมพันธ์ ของตัวเองกับพ่อไม่ดี ไม่ก็คือกำลังนำพ่อผลักไปทางด้านของ จ้าวเสี่ยวหวั่นแม่ลูกงั้นเหรอ? นี่ไม่ก็พอดีกับความปรารถนาใน จิตใจของพวกเขา
ตัวเองก็คือโง่จริงๆ!
ถังรั่วชูหัวเราะเยาะเย้ยตัวเองหัวเราะแล้วหัวเราะอีก หลังจาก นั้นจึงได้กุมมือที่มีความเยือกเย็นอยู่บ้างของพ่อ และได้กระซิบเสียงเบาๆ: “พ่อ หากว่าพ่อไม่ลำเอียงไปที่กู้รั่วรั่ว บางที พวกเราก็จะไม่เดินมาถึงขั้นนี้ พ่อก็จะไม่ถูกจ้าวเสี่ยวหวั่นแม่ ลูกทําร้ายจนกลายเป็นแบบนี้”
“ครั้งนี้ฉันจะไม่ปล่อยจ้าวเสี่ยวหวั่นแม่ลูกไป พ่อจะไม่ สามารถนําเอียงใจไปทางพวกเขาได้อีกแล้ว”
“พ่อ ฉันแต่งงานแล้ว เขาคือผู้ชายที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่ง
และดีต่อฉันมาก
“หากว่าพ่อตื่นขึ้นมาฉันก็จะทำปลาน้ำแดงที่พ่อชอบกิน แม่ เคยสอนฉันไว้ว่าต้องทำยังไง แล้วที่พ่อไม่ได้กินอาหารที่แม่ ทําน่าจะนานแล้วเถอะ”
ถังรั่วชูพูดไม่หยุดพูดไปมากแล้ว รู้อย่างชัดเจนว่าในการ สลบไม่ได้สติของพ่อเดิมทีก็ไม่ได้ยิน แต่เธอยังคงดื้อรั้นพูด ไปมากแล้ว ราวกับว่ามีเพียงเช่นนี้เธอถึงสามารถรู้สึกได้ว่าพ่อ ยังคงอยู่
สู้ซือจิ่นได้เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย ก็ได้เห็นถึงคนที่ฟูกนอน คว่ำอยู่ที่ด้านเตียง
คิ้วรูปดาบที่รวมเข้าใกล้กันอย่างแน่นหนาที่ดูดี เขาได้ถอด เสื้อคลุมตัวนอกบนตัวลง จากนั้นก็ได้เดินเข้าไปแล้วเบาๆ นำ เสื้อคลุมไปพาดไว้บนตัวของเธอเบาๆ
เส้นผมที่เส้นที่ได้ตกลงปกคลุมใบหน้าของเธอ เขาได้ยื่นมือไปนำมันปัดออก มุมใบหน้านอนหลับที่เงียบสงบได้เข้าสู่ใน สายตาของเขาแล้ว
ลูกตาทำทั้งหมดได้ทรงตัวไม่อยู่เล็กน้อย เขาก็ได้จ้องเขม็ง เธออย่างลึกซึ้งอยู่แบบนั้น ภายใต้สายตาได้พรั่งพรูความรู้สึก ลึกซึ้งที่เข้มข้นเหมือนกับหมึกออกมา
ถังรั่วชูนอนอย่างไม่ใช่ว่าจะมั่นคง และได้ฝันร้ายอย่างโชค ร้ายมาก
ในฝัน แม่ พ่อ ยังมีลูซือจิ่น ต่างก็ล้วนจากเธอไป ทิ้งเธอไว้ เพียงคนเดียว
“ไม่เอา!” ถังรั่วชูส่งเสียงพูดละเมอ หลังจากนั้นก็ได้สะดุ้ง ตกใจจนถูกทำให้ตื่นแล้ว
มองไปยังทั้งหมดตรงหน้าที่คุ้นเคย ใจที่ความลุกลี้ลุกลนก็ได้
สงบลงมาแล้วอย่างช้าๆ
ยังดีที่เป็นเพียงฝัน
แผ่ลมหายใจยาวๆออก จากนั้นเธอก็ได้พึงไปที่พนักเก้าอี้หลัง ยกมือขึ้นมาคิดที่จะเหยียดเอวขี้เกียจ ในเวลานี้เสื้อคลุมที่ พาดไว้บนตัวของเธอก็ได้ตกลงมาแล้ว
เธอได้กลับหันหลังนำเสื้อคลุมเก็บขึ้นมา “เอ๊ะ นี่ไม่ใช่เสื้อผ้าของลูซือจิ่นเหรอ?”
เสื้อผ้าอยู่ตรงนี้ อย่างนั้นคนก็ควรจะอยู่ถึงจะถูก
เธอหมุนหัว เพียงสายตาแวบเดียวก็ได้เห็นถึงเงาบนโซฟา
แล้ว
เขาได้นอนหลับแล้ว
ถังรั่ว ลุกขึ้น เดินเข้าไปอย่างมือเบาเท้าเบา เพิ่งจะคิดที่จะ นําเสื้อคลุมคลุมไปถึงบนตัวของเขา เขาก็ได้เปิดตาออกมา แล้วอย่างกะทันหัน
เผชิญหน้ากับลูกตาดำที่ลึกซึ้งของเขา ในช่วงเวลาสั้นๆถังรั่ว ชูก็ได้โง่แล้ว
“เป็นอะไรแล้ว?” เขายิ้มเล็กน้อย
ได้ยินถึงน้ำเสียงที่ต่ำลึกน่าหลงใหลของเขา ถังรั่วชูจึงได้สติ กลับมา งอริมฝีปากปาก ส่ายหัว “ฉันเห็นว่านายนอนหลับแล้ว จึงคิดที่จะนําเสื้อคลุมมาคลุมให้นาย
เส้นสายตาของลูซือจิ่นได้กวาดมองไปยังเสื้อคลุมในมือเธอ จากนั้นก็ได้ยื่นมือลากเธอมานั่งที่ด้านข้างตัวเอง “ฉันไม่ได้ หลับ เพียงแค่ปิดตาพักผ่อนครู่หนึ่ง”
ระหว่างหน้าผากของเขายังคงแสดงให้เห็นได้ชัดถึงสีหน้า ความเหนื่อยล้า เธอยกมือลูบเบาๆไปยังขนคิ้วของเขา จากนั้น ก็ได้ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน: “เหนื่อยมากไหม?”
มองเข้าไปตรงๆในสายตาของเธอที่เต็มไปด้วยความรัก ความสงสารที่โหมพัดกระพือ หัวใจเพิ่มจนเติมสัน เขาได้กุม มือเธอเอาไว้ วางไปถึงด้านปากจูบเบาๆ “มีเธออยู่ข้างกาย ฉัน ก็ไม่รู้สึกเหนื่อย”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ