ตอนที่143 คลั่งไคล้
ตอนที่143 คลั่งไคล้
ถังรั่วซูมองไปยังหลีน่าด้วยสายตาขอบคุณจากนั้นก็ยิ้มจางๆ ให้เธอ “กลับไปทำงานเถอะ”
ถังรั่วชูยิ้มและพยักหน้าจากนั้นก็กลับไปที่นั่งของตัวเอง
ทันทีที่นั่งลง สังอานหยีก็เอนตัวเข้ามาหา “รั่วชู ประธานคน ใหม่คนนั้นดูเหมือนจะสนใจเธอมากนะ”
“ใช่เหรอ?” ถังรั่วชูเหลือบมอง
“ใช่สิ เธอดูนะหรูเสี่ยวหลินอ่อยไปขนาดนั้นแต่คุณชายเสิ่น นั้นไม่เหลือบมองแม้แต่หางตา”
เมื่อพูดถึงหรุเสี่ยวหลิน ส่งอานหยีมีสีหน้าเหยียดหยาม ผู้ หญิงคนนั้นไม่ส่องกระจกดูสารรูปตัวเองบ้างหรือไง ตระกูล เสิ่นนั้นสูงเกินคว้าสำหรับคนอย่างเธอ
“แล้วยังไง?” ถังรั่วชูหันไปมองเธออย่างใจเย็น
“ดังนั้น…เธอเพียงแค่ยืนนิ่งๆไม่ได้ทำอะไร แต่คุณชายเสิ่นไม่ เพียงแต่จะจ้องมองเธอเท่านั้นเขายังพูดคุยกับเธออีกด้วย นี่ เหมือนกับว่า..”
ส่งอานหยีเอียงศีรษะและคิด “เหมือนว่า…มาเจอเธอโดย
เฉพาะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถังรั่วชูก็หัวเราะเบาๆ “เธอคิดมากไปแล้ว อย่างมากที่สุดเขาก็คงได้ยินเรื่องราวข่าวลือเกี่ยวกับฉันและ อยากจะมาเห็นตัวจริงเท่านั้นมากกว่า”
“งั้นเหรอ?” ส่งอานหยีขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“นั่นแหละ รีบกลับไปทำงานไป”
ถังรัวชูหยิบแฟ้มเอกสารจากบนโต๊ะและยัดมันลงในอ้อมแข
นของส่งอานหยี
ให้ส่งอานหยีรีบกลับไปทำงาน ถังรั่วชูเริ่มสงบสติอารมณ์ลง
ในขณะที่เปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอนึกถึงแววตาของ ประธานคนใหม่เมื่อตอนที่มองเธอ มันช่าง..ตรงไปตรงมาและ มีความสนใจอยู่ในนั้น
ไม่แปลกใจที่ส่งอานหยีจะคิดไกล มีที่ไหนเจอกันเพียงครั้ง แรกก็จ้องมองกันแบบนี้
ถังรั่วชูยิ้มและไม่คิดอะไรไปกว่านั้น เธอเลื่อนเมาส์และพาตัว เองเข้าสู่งานที่ยุ่งวุ่นวาย
เมื่อตำแหน่งเพิ่มขึ้นภาระงานก็มากขึ้นเช่นกัน ถังรั่วชูทำโอที เพิ่มอีกสักพักงานทั้งหมดของเธอจึงเสร็จสิ้นลง
เมื่อเดินออกจากประตูบริษัท ท้องฟ้าก็มืดแล้ว เธอเดินลงจาก ขั้นบันไดด้วยความเร็วและคิดจะเรียกแท็กซี่เมื่อเดินไปข้าง ทาง
ทันใดนั้น Lamborghini สีแดงก็ปรากฏตรงหน้าเธอและขวาง ทางเธอเอาไว้
ถังรั่วชูขมวดคิ้วขยับปลายเท้าพยายามจะเลี่ยงรถคนนี้
และในตอนนั้นเอง กระจกก็ค่อยๆลดระดับลงและมีเสียงที่คุ้น
เคยดังออกมา
“รองผู้จัดการถัง”
การก้าวเท้าได้หยุดลง ถังรั่ว ได้หันไปมองต้นตอของเสียง และได้พบกับประธานเสิ่นคนใหม่ เขากำลังนั่งอยู่ในรถพร้อม ด้วยรอยยิ้มและจ้องมองมาทางเธอ
เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคารพ
“ประธาน”
“เพิ่งเลิกงานเหรอ?”
“ใช่”
“ขึ้นมา ฉันไปส่ง”
ถังรั่วชูตกตะลึงและปฏิเสธ “ขอบคุณสำหรับความกรุณาของ ประธาน แต่ฉันเรียกแท็กซี่กลับเองได้
เสิ่นโม่เฟยไม่ได้ฝืนใจเธอ “งั้นโอเค แล้วเจอกันใหม่”
พูดจบเขาก็เหยียบคันเร่งและจากไป
มองดู Lamborghini สีแดงที่ดุเดือดพุ่งเข้าสู่การจราจร ถังรั่ว ชูขมวดคิ้วสีหน้าเธอรู้สึกประหลาดใจ
หากว่าฟังไม่ผิด เมื่อกี้ท่านประธานคนใหม่พูดว่า “แล้วเจอกัน
ใหม่”
เขาพูดผิดหรือเปล่านะ?
ถังรั่วซูเบ้ปาก ช่างเถอะ ไม่ว่าเขาจะพูดผิดหรืออะไรก็ไม่ได้ เกี่ยวอะไรกับเธอ
ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือการกลับบ้าน
ในเวลานี้นั้นล้ซือจิ่นน่าจะอยู่ที่บ้านแล้ว
เมื่อนึกถึงว่าเขากำลังรอเธอ เธออดไม่ได้ที่จะเร่งความเร็วใน การก้าวเดินและพุ่งตัวกลับบ้านในทันที
โลกใบนี้เล็กและเต็มไปด้วยความประหลาดใจในทุกหนแห่ง
เช่นเดียวกับตอนนี้ที่บ้านเธอ เธอเห็นเสิ่นโม่เฟยกำลังอยู่หน้า ประตู
ถังรั่วชูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่เธอก็ฟื้นคืนสติกลับมาอย่าง รวดเร็วจากนั้นเธอเดินไปหาชายสองคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น
เธอผ่านชั่วเวลาแบบนี้มามากมาย เธอได้เรียนรู้ทักษะที่จะ
ไม่มีท่าทีตื่นตกใจ
ในขณะที่เข้าไปใกล้ ถังรั่วชูยิ้มและเสิ่นโม่เฟยเองก็ยิ้มให้ “ประธานเสิ่นบังเอิญเสียจริง! คุณอยู่ที่นี่ด้วย”
ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะบอกว่า “เจอกันใหม่” ที่แท้ก็เพราะเขา มาที่บ้านของเธอ!
เมื่อได้ยินเธอใช้คำว่า “คุณ” ริมฝีปากของเสิ่นโม่เฟยก็ กระตุกและอธิบายอย่างรวดเร็ว “พี่สะใภ้ ฉันแค่อยากเจอพี่ ชายและคุณพี่สะใภ้”
“พี่สะใภ้?” ถังรั่วชูเลิกคิ้วและจ้องไปที่อู๋ซือจิ่นที่นั่งเงียบไม่ พูดจา “ลูซือจิ่น นี่คือน้องคุณอีกแล้วงั้นเหรอ?”
“ใช่” ลูซือจิ่นพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ลูกชายของลุงฉันเอง”
“แม้ว่าฉันกับพี่ชายจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆกัน แต่ความรู้สึกนั้นไม่ ได้แพ้ลซึ่งเหยาเลย”
เสิ่นโม่เฟยเสริมประโยค
เธอขมวดคิ้ว ถังรั่วชูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามอย่างไม่แน่ใจ “อู๋ซือจิ่น ที่เขามาในสือรุ่ย คุณคือคนจัดการใช่ไหม?”
“ไม่ดีใจเหรอ?” ลูซือจิ่นไม่ตอบเธอโดยตรง ดวงตาสีดำลึก ของเขาจ้องมองที่เธอ
ถังรั่วชูส่ายหน้า “ไม่ได้ไม่ดีใจ ฉันแค่คิดว่ามันไม่คุ้มค่าที่คุณ ทำแบบนี้ จริงๆแล้วงานของฉันฉันจัดการเองได้
จี้หยินเฟิงกลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทสือรุ่ยและได้ ให้ซูเทียนอ้ายเข้ามาในบริษัทเพื่อปราบปรามเธอ
เธอไม่กังวลหรือกลัวเรื่องนี้เพราะเธอเชื่อว่าเธอสามารถแก้ ปัญหานี้ได้
แต่ตอนนี้ เขาต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อสือรุ่ยเอาไว้ เธอรู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่าเสียเลย
“รั่วซู” ลูซือจิ่นคว้ามือเธอเอาไว้และกล่าวด้วยเสียงนุ่มนวล เรื่องที่ทําเพื่อเธอยังไงมันก็คุ้มค่า”
มองเข้าไปในดวงตาสีดำที่อ่อนโยนของเขา จมูกของถังรั่วชู ก็รู้สึกจี๊ดขึ้น ทำไมเขาถึงแสนดีและอ่อนโยนขนาดนี้?
“พี่สะใภ้ ซาบซึ้งใช่ไหมล่ะ?”
ทันใดนั้นเสียงที่รบกวนบรรยากาศก็ดังขึ้น
และถังรั่วชูก็นึกได้ว่ามีบุคคลที่สามอยู่ที่นี่ด้วย เธอจึงสูดจมูก และกล่าว “ใช่ ซาบซึ้งมาก”
เธอยิ้มให้กู้ซือจิ่นจากนั้นนั่งลงข้างๆเขา
“พี่สะใภ้ ฉันน่ะศรัทธาคุณจริงๆ” จู่ๆเสิ่นโม่เฟยก็กล่าวเช่นนี้
ออกมา
ศรัทธา?! ถังรั่วชูมองไปที่อู๋ซือจิ่นจากนั้นก็มองไปที่ เสิ่นโม่ เฟยด้วยสีหน้างุนงง “คุณหมายถึงอะไร?”
“พี่ชายของฉันเป็นเหมือนภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ พี่สะใภ้คุณ กล้าที่จะแต่งงานกับเธอ นี่ฉันเลื่อมใสศรัทธาคุณจริงๆ”
“ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่?” ถังรั่วชูหันหน้าไปมองอู๋ซือจิ่นและ ถามด้วยความตลกขบขัน “สู้ซือจิ่น คุณคือภูเขาน้ำแข็งขนาด ใหญ่เหรอ?”
ลูซือจิ่นเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “คุณคิดว่าไง?”
“ไม่ใช่เลย” ถังรั่วชูส่ายหน้า “ฉันคิดว่าคุณไม่เห็นจะเย็นชา เลย อย่างน้อยคุณก็ไม่เคยเย็นชากับฉัน”
และยังให้ความร้อนแรงอีกต่างหาก! ถังรั่วซูเพิ่มประโยคใน ความคิดของเธอ และฉากที่อ้อยอิ่งของทั้งสองก็ปรากฏใน จิตใจของเธอ เธอตื่นตระหนกจนต้องรีบส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว
คิดอะไรเนี่ย? ถังรั่วชู
พฤติกรรมของเธอดึงดูดความสนใจของเสิ่นโม่เฟย เขา สังเกตเห็นว่าหน้าของเธอเริ่มแดงและภายในดวงตาก็มีรอย
ยิ้ม
“พี่สะใภ้ คุณไม่คิดว่าพี่ชายของฉันเย็นชาแน่นอนอยู่แล้ว พี่ ของฉันก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง”
เสิ่นโม่เฟยยิ้มอย่างมีความหมาย
ถังรั่วชูหน้าแดงหนักขึ้นเมื่อเธอได้ยินความหมายที่ลึกซึ้งใน คำพูดของเขา
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่คลุมเครือของเสิ่นโม่เฟย เธอก็อดไม่ได้ที่จะ รู้สึกรําคาญ เธอหรี่สายตาลงและเผยความเจ้าเล่ห์ออกมา
“อู๋ซือจิ่น ปลายเดือนนี้ ฉันอยากได้ข่าวใหญ่”
เธอยิ้มและพูดกับลูซือจิ่น
ลูซือจิ่นเห็นความฉลาดในดวงตาของเธอและพูดเบาๆว่า “ฉัน คิดว่าเรื่องซุบซิบของประธานคนใหม่ของสือรุ่ยน่าจะเป็นข่าว ใหญ่”
แน่นอนว่าสู้ซือจิ่นของเธอนั้นเข้าใจเธอ!
ถังรั่วชูยิ้มตาหยีด้วยความพึงพอใจ
เสิ่นโม่เฟยที่อยู่ด้านข้างนั้นร้อนใจ “เรื่องซุบซิบของประธาน คนใหม่หมายความว่าไง? พี่สะใภ้ คุณให้ฉันเป็นข่าวไม่ได้เด็ด ขาด ไม่งั้นที่บ้านฉันอาจเป็นกังวลเกี่ยวกับฉัน”
“นั่นคือสิ่งที่คุณต้องแก้ไขมันเองและไม่ได้เกี่ยวกับฉัน”
ถังรั่วชูยิ้มให้เขาเหมือนจิ้งจอกน้อยที่ประสบความสำเร็จ
เสิ่นโม่เฟยไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพียงได้ยินพี่น้องที่ โตมาพร้อมกับเขากล่าว “เป็นของขวัญการพบหน้าของพี่สะใภ้คุณ”
ในตอนนั้นเสิ่นโม่เฟยก็พูดอะไรไม่ออก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ