ตอนที่ 137 จะสุดหล้าฟ้าเขียวฉันก็จะต้องตามหาคุณจนเจอ
ตอนที่ 137 จะสุดหล้าฟ้าเขียวฉันก็จะต้องตามหาคุณจนเจอ
ลูซือจิ๋นเห็นอาการของเธอที่เป็นแบบนี้ เจ็บปวดหัวใจจนใจจะ ขาด ตอนที่เดินเข้ามานั้น ก็หย่อนกายลงด้านข้างเธอ พลางใช้ มือลูบคลำเส้นผมอย่างเบามือ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เป็นอะไรไป?”
น้ำเสียงสุขุมลึกล้ำ ราวกับสามารถรักษาอาการของคนอื่นได้ ได้ยินเสียงแล้วช่างอบอุ่นสบายใจ
ถังรั่วชูลืมตา จ้องมองมาที่เขา
ลูซือจิ่นกำลังสวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อนสบายตาเข้ากับบ้าน ทั้งคน ดูสง่างามยิ่งนัก ถังรั่วชูรู้สึกมาตลอด ไม่ว่าจะใส่ชุดอะไรแต่ก็ เป็นผู้ชายที่ยังหล่อเหลามาก นี่แหละถือว่าหล่อจริงๆ สู้ซือจิ่น จัดอยู่ในหมวดนั้น งดงามหยาดเยิ้มยิ่งกว่าหญิงงามที่ทำให้ อาณาจักรล่มสลาย
อีกอย่าง การสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูสบายตา แต่กลับไม่สามารถ ปกปิดนิสัยนิ่งๆ ของเขาเอาไว้ได้
ถังรั่วชูดูออก พร้อมทั้งอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบ “หล่อจริงๆ!”
ริมฝีปากอู๋ซือจิ่นยิ้มเล็กน้อย พลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “งั้นก็จะให้คุณดูแบบนี้ไปทั้งชีวิต”
ทำไมดีกับฉันจัง?” “
ปลายจมูกถังรั่วซูเริ่มแสบขึ้นมา
เวลาอยู่ภายนอก ไม่ว่าเธอจะสู้กับคนอื่นอย่างไร แต่ในใจยัง คงเหนื่อยล้ามาก
ว่าเธอจะกล้าหาญสักเพียงใด จะฉลาดหลักแหลมขนาด ไหน แต่เธอก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น เธอก็มีความ อ่อนแอ ต้องการให้คนอื่นมาคอยปกป้องเช่นกัน
เรื่องนี้สูงอานหยีก็ไม่สามารถทำได้ เซียวเซียวเองก็ทําไม่ได้ มีเพียงผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าคนเดียวที่ทำได้
เธอรับรู้ความรู้สึก ฝ่ามือของผู้ซือจิ่นช่างอบอุ่น ดวงตาดำ ขลับถลําลึกลงไปยังความรู้สึกภายใน ภายในเต็มไปด้วย ความรู้สึกผ่อนคลาย หวงแหนและทะนุถนอม ราวกับตนเอง เป็นสิ่งมีค่าในมือของเขาเช่นนั้น
สายตาแบบนี้ ตั้งแต่ที่แม่ของเธอเสียชีวิตในปีนั้น เธอก็ไม่ เคยเห็นมันอีกเลย
สําหรับปัญหาของเธอ อู๋ซือจิ่นก็ครุ่นคิดอยู่นาน
สักพัก เขาถึงได้ตอบกลับ “เพราะว่าคุณเป็นภรรยาของ ผม การมีตัวตนอยู่ของผมก็เมื่อเวลาที่คุณเหนื่อยล้าหมดแรง ต้องการคนปกป้อง ก็จะเป็นคนคอยให้ที่พักพิง ถ้าเป็นไปได้ ผมหวังว่าไม่อยากให้คุณแข็งแกร่งไปกว่านี้ ผมหวังว่าภรรยา ของผม จะมีความสุข ก่อนหน้านี้คุณโดดเดี่ยวเดียวดาย ถูก พวกเขารังแกได้อย่างสบายใจ แต่ว่าตอนนี้คุณเป็นเมียของ ผมแล้ว ผมจะใช้ความสามารถที่มี รักคุณ ปกป้องคุณ จะไม่ ให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องคุณ”
น้ำเสียงของชายหนุ่มสุขุมอย่างชัดเจน เฉกเช่นค้อนหนักหนึ่ง ด้าม มันเคาะลงไปปักลึกในหัวใจของเธอ
ความรู้สึกหนักหน่วงที่พูดอธิบายออกมาไม่ได้ ราวกับเหมือน ก้อนแป้งที่กำลังหมักอยู่ มันค่อยๆ พองโตทีละนิด สุดท้ายแล้ว ในระเบิดอยู่ในหัวใจของเธอ
ปีที่แสนงดงามของเธอ ต้องมาพบเจอก็การหักหลังที่แสนเจ็บ
ปวดทรมาน
แต่ว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่ดีที่สุดสำหรับเธอ กับการได้พบเจอ คนที่ดีที่สุด
ก่อนหน้านี้ เธอมักจะโทษว่าสวรรค์ไม่ยุติธรรม แต่ตอนนี้เธอ กลับรู้สึกไปอีกอย่าง สวรรค์ช่างใจดีกับเธอเหลือเกิน เพราะว่า เลือกสรรในที่สิ่งที่ดีที่สุด ให้กับเธอที่อยู่ตรงหน้า
“ทำยังไงดี ถ้ามีวันหนึ่ง ต้องไปจากคุณ คุณคงจะตรอมใจตาย”
ถังรั่วชูเอามือพาดบ่าเขาเอาไว้ก่อน จากนั้นส่วนร่างกายกลา เข้าอ้อมอกของเขา พยายามสูดดมกลิ่นกายของเขาอย่าง ตะกละ เพื่อดูดซับความอบอุ่นจากเขา
กลิ่นนี้ อุณหภูมิแบบนี้ เธอจดจำได้ตลอดทั้งชีวิต
“ถ้ามีวันนั้นเกิดขึ้นมาจริง คุณห้ามตาย เพราะฉันจะไปตาม หาคุณ ไม่ว่าสุดหล้าฟ้าเขียวฉันก็จะตามหาคุณจนเจอ”
ลูซือจิ่นกอดเธอเอาไว้นาน พลางจูบเธออย่างแผ่วเบา บริเวณ หน้าผากของเธอ จากนั้นก็เอ่ยออกมา “แน่นอนแหละ ผม จะพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องพวกนี้ไม่มีวันให้มันเกิดขึ้นมาได้ เพราะว่า ผมไม่อยากจะจินตนาการเลย ถ้าไม่มีผมอยู่ข้างกาย คุณจะเปลี่ยนไปจนกลายเป็นอะไร”
คนที่อยู่ในอ้อมกอด เขากกกอดเธอเอาไว้แน่น ทั้งชีวิตไม่คิด จะจากไป
ถังรั่วชูยิ้มออก “ถ้ามีวันนั้นเกิดขึ้นมาจริงๆ ฉันก็จะไปยืนที่มัน สว่างแสบตา คุณจะได้มองเห็น แบบนี้ คุณก็จะหาฉันเจอแล้ว”
“ตกลงตามนี้”
เมื่อพูดเรื่องซาบซึ้งจบ เขายิ้มพลางอุ้มเธอ เดินขึ้นด้านบนเพื่อเข้าห้อง
ด้านนอกหน้าต่าง ความอบอุ่นในเวลาค่ำคืน รวมถึงในห้อง ต่างมีความสุขสมภิรมย์หมาย
การล้างแค้นของซูเทียนอ้ายมาช้ากว่าที่จินตนาการเอาไว้ เวลาล่วงเลยมาหลายวัน แต่ก็ไม่เห็นว่าเธอจะทำอะไร
แต่ว่าถังรั่วชูก็รู้ดีว่า ความเงียบสงบมักจะมาก่อนที่พายุจะ เข้าเสมอ ซูเทียนอ้ายคงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ
เรื่องก็เป็นไปตามที่ถังรั่วชูคาดคิดไว้ ซูเทียนอ้ายไม่ใช่ว่าไม่ ล้างแค้น แต่เธอก็พยายามหาโอกาสเหมาะในการลงมือ
ในบริษัท อรุ่ย ชูเทียนอ้ายเป็นคนที่มีอำนาจมาก เธอมีเวลา ที่สามารถจะสร้างเอกสารขึ้นมาได้ จากนั้น ก็ลากถังรั่วชู เข้าไปติดกับดักตลอดไป
แต่ว่า การที่เธอรอเวลาอยู่นั้น แค่รอเวลาที่เหมาะสมในการ
ลงมือกับถังรั่ว!
แต่ในหลายวันที่ผ่านมานี้ บริษัทสือรุ่ยกลับเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
วันนี้ช่วงเช้า ถังรั่วชูเพิ่งจะมาถึงห้องทำงาน ก็ถูกคนซุบซิบ นินทาไปทั่ว
“ได้ข่าวไหม? ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเรามีการ
เปลี่ยนแปลง”
“เปลี่ยนไปยังไง? เกิดอะไรขึ้น บริษัทเราระยะนี้เกิดเรื่องขึ้น มากมาย ไม่ปล่อยให้ทำงานได้สบายใจบ้างเลยเหรอไง?”
“วันนี้ฉันไปฝ่ายบุคคลมา ได้ยินผู้จัดการพูดขึ้นมาว่า ได้ว่า ท่านประธานเปลี่ยนคนแล้ว ไม่น่าจะเป็นข่าวปลอม”
“ดูแล้ว น่าจะเป็นข่าวภายในมาจากทางผู้บริหารระดับสูง รู้ ไหมว่าท่านประธานคนใหม่เป็นใคร?”
“ข่าวว่ากันว่าเป็นคุณชายคนเล็กของตระกูลเส็น!”
“ตระกูลเส็นตระกูลไหนกัน?
“จะเป็นตระกูลไหนไปได้ ก็เป็นคนที่มาเทียบเคียงกับ ตระกูลยักษ์ใหญ่ แถมยังเป็นตระกูลที่มีอำนาจทางด้าน การเมืองของตระกูลเส้นนั่นไง!”
“มิน่าล่ะนักแสดงสาวๆ ถึงได้ไปยืนต้อนรับทางโถงด้านล่าง บริษัทกันเป็นแถว ที่แท้ก็มารอคอยคุณชายคนเล็กมาถึง นี่เอง?”
ถังรั่ว ถามสงอานหยีหน้าตาตื่น “มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ตามที่เธอได้ยินนั่นแหละ บริษัทเราเปลี่ยนผู้บริหารคนใหม่ คนที่มาในวันนี้ ก็คือคุณชายเสิ่นโม่เฟยของตระกูลเสิ่น” ส้ งอานหยียักไหล่ตอบ
“คนของตระกูลเสิ่นส่วนใหญ่ไปทางการเมือง เมื่อไหร่กันที่ เปลี่ยนทิศทางมาทางด้านธุรกิจได้?” ถังรั่ว ขมวดคิ้วหากัน “งั้นคุณชายตระกูลเสิ่นท่านนี้มีอะไรแปลกประหลาดเหรอ?”
“เรื่องนี้เธอก็ไม่รู้ น่าเสียดายที่เธอเป็นนักข่าวซุบซิบเนี่ย”
สั่งอานหยีกลอกตามองบน แล้วเริ่มอธิบายให้ถังรั่ว เข้าใจ “ได้ข่าวคุณชายของตระกูลเสิ่นคนนี้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เลยปล่อยวางเรื่องทางทหาร จึงเลือกเดินสายธุรกิจแทน อย่า ดูถูกเขานะ ได้ข่าวว่ามีชื่อเสียงในต่างประเทศไม่เลวเลยที เดียว ไม่เพียงแต่สร้างบริษัทได้ พื้นฐานร่ำรวยมั่งคั่ง ส่วนพื้น หลังนั้น พูดออกมาแล้วจะตกใจ”
“อ้อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ถึงว่าวันนี้ผู้หญิงในออฟฟิศถึงได้บ้ากัน ไปหมด”
“อิๆ ปีนี้ ใครกันไม่อยากบินขึ้นเป็นนางพญากันล่ะ แต่งเข้า บ้านคนมีฐานะ ต่างก็เป็นความฝันของผู้หญิงทุกคนทั้งนั้น ไม่ เคยเห็นเลยที่นักแสดงหญิงของบริษัทเราจะยืนเบียดเสียดจนแมลงหวี่ไม่สามารถเล็ดลอดไปได้
คำพูดของสังอานหยี ถังรั่วชูไม่อาจปฏิเสธได้
เธอในเวลานี้ มีเรื่องราวมากมายที่ไม่สามารถสนใจได้ จะเอา เวลาที่ไหนไปสนใจว่าใครจะได้ตบแต่งเข้าตระกูลคนรวย
อีกอย่าง ครอบครัวขนาดใหญ่อย่างตระกูลเสิ่นนั้น ปักหลัก อยู่เมืองเป่ยหนิงมาเป็นร้อยๆ ปี ทั้งทางด้านการเมืองและธุรกิจ นั้นก็เป็นไปได้สวย เส้นสายที่เชื่อมโยงกัน เกรงว่าคงเทียบได้ เท่ากับสี่ตระกูลยักษ์ใหญ่ได้ ตระกูลร่ำรวยแบบนี้ คนธรรมดา คิดอยากจะเข้าไปอยู่ก็สามารถเข้าไปอยู่ได้หรือไง?
“เฮ้อ หญิงสาวพวกนี้คิดเพ้อเจ้อ ตระกูลเสิ่นร่ำรวยขนาด นั้น จะให้คนธรรมดาเข้าไปแตะต้องได้หรือ? ไม่ใช่ทุกคนจะ เหมือนกับแกนี่ ที่สามารถดึงใครข้างถนนมาแต่งงานได้ ต่าง คิดว่าได้เพชรมาแล้ว”
นินทาอยู่สักพัก สงอานหยีก็ส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้
ถังรั่วชูก็มองเธออย่างติดตลกอยู่แวบหนึ่ง และก็ขี้เกียจไป สนใจเรื่องนี้อีก
ด้านนอก ผู้คนกำลังพูดคนเรื่องเปลี่ยนท่านประธานคนใหม่ ถกเถียงกันไปทั่ว ทว่าหลีน่ากลับได้รับโทรศัพท์จากห้องทํางานของผู้บริหารติดต่อเข้ามาเอง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ