ตอนที่ 133 ผมเคยหลอกลวงคุณตอนไหน
ตอนที่ 133 ผมเคยหลอกลวงคุณตอนไหน
“แม่ยายครับ ประโยคนี้พูดจริงใช่ไหม? ถังสังจะโอนหุ้นให้กู้ รั่ว วง่ายดายขนาดนั้นได้ไง?”
ฉินซือเหลียน เกิดความสงสัยเลยมองพาดไปที่จ้าวเสี่ยวหวั่น ราวกับกำลังสงสัยในคำพูดของเธอ
กู้รั่วรั่วเริ่มพูดแก้ตัว “แม่ ที่พูดออกมาทั้งหมดมันคือความจริง พ่อเป็นคนให้สัญญากับฉันก่อน แค่ฉันแต่งงานกับจี้หยินเฟิ งก็จะโอนหุ้น 20 เปอร์เซ็นต์ให้ฉัน แม้ว่าหุ้นฉันจะน้อยก็ถังรั่ว ชู แต่ฉันก็ถือว่าเป็นผู้สืบทอดของบริษัทถังซื่อกรุ๊ป อีกอย่าง หลายปีที่ผ่านมานั้นความคิดต่างๆ นานาของถังรั่วชูไม่ได้มุ่ง ไปทางนั้น บริษัทก็ต้องตกเป็นของฉันอยู่ดี ถึงเวลานั้น ตระกูล ถังกับตระกูลจี้ต่างก็สนิทชิดเชื้อกันขึ้นไปอีกขั้น ถ้าหากบริษัท เกิดเรื่องขึ้นมา ทั้งสองฝ่ายก็สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกัน พวก คุณรู้สึกว่ายังไง?”
ถือว่ากูรั่วรั่วเป็นคนฉลาดหลักแหลม รู้ว่าเมื่อลงมือทำควรจะ หาทางหนีทีไล่ไว้ให้ตัวเองก่อนเสมอ
ถังส่งเองก็ล้มหมอนนอนเสื่อ ถือว่ามันแปลกประหลาดมาก ถ้าเธอพูดออกมาตรงๆ ว่าบริษัทถังชื่อกรุ๊ปเป็นของเธอ งั้น ทั้งหมดนั่นก็จะทำให้คนสงสัย
แต่ว่าถ้าพูดว่าค่าสินสอดคือหุ้น 20 เปอร์เซ็นต์แล้ว คนทางตระกูลจี้ ก็ไม่สามารถพูดสู้รบตบมือได้
แต่ในความเป็นจริงแล้วก็เป็นเช่นนี้ ตอนที่กู้รั่วรั่วพูดจบนั้น สีหน้าของฉินซือเหลียน อ่อนโยนลงเยอะ “ถ้าเป็นไปตามที่พูด งั้นฉันก็ไม่มีข้อเสนอแนะใดๆ แต่ว่ายังคงต้องดูว่าจี้หยินเฟิงคิด อย่างไรด้วย”
พูดจบ สายตาของหลายๆ คนต่างมองไปที่จี้หยินเฟิง
จี้หยินเฟิงถึงกับประหลาดใจกับเรื่องที่อยู่ตรงหน้า แต่ว่าเขา กลับไม่ได้ตอบทันที
ในใจของเขา สำหรับถังรั่วชูแล้วไม่เคยคิดถึงเรื่องใดเลย แม้แต่น้อย
เขาไม่ยินยอมให้เธอเปลี่ยนไปเป็นผู้หญิงอีกคน ดังนั้นอยาก
จะหาวิธีคิดให้เธอกลับมาสักที
ก่อนหน้านี้มีเรื่องเกิดขึ้นในบริษัทไม่สามารถปลีกตัวได้เลย แต่ว่าตอนนี้หาเวลาได้แต่ไม่ง่ายเลย แต่กู้รั่วรั่วกลับพูดเรื่อง แต่งงานขึ้นมาแทน
ในใจของจี้หยินเฟิงรู้สึกไม่ยินยอม แต่ว่าท้องของกู้รั่วรั่วก็โต ขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ตกลง คงไม่ดี
คิดแล้วคิดอีก เขาได้แต่พยักหน้า “งั้นก็แต่งงานเถอะ ยังไงก็ เป็นเรื่องนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เรื่องแต่งงาน ก็ให้แม่จัดการเลยแล้วกัน เวลาไม่ต้องรีบมากนัก งานแต่งงานของผมจี้หยิน เฟิง ต้องแต่งให้คนลือกันทั้งเมือง”
ส่วนถังรั่วชู…. รอ ซูเทียนอ้ายกลับมารับตำแหน่งในประเทศ ก่อน เขามีเวลาที่ต้องทำให้เธอยอมแพ้!
ถังส้งที่กำลังป่วยนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาสาม วัน ถึงแม้ว่าจะย้ายห้องไปอยู่ห้องพักธรรมดาแล้ว แต่ว่า ร่างกายของเขา กลับไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นคืนมา
สาเหตุที่ทำให้ถังสังล้มป่วยลง วันรุ่งขึ้น คุณหมอก็มาแจ้ง อาการของคนไข้
“ประธานกู้ ที่ท่านเอาขวดยาน้ำขวดนั้นมาให้ก่อนหน้านี้ ทาง เราได้ตรวจสอบแล้ว ตามที่เราได้วิเคราะห์นั้น พบว่า ในยา นี้ มีส่วนผสมของยาพิษ มันจะทําลายระบบประสาทสมองให้ เจ็บปวดอย่างหนัก จนทําให้เกิดโรคหลอดเลือดทางสมอง อีก อย่างหลังจากคนที่รับประทานยาตัวนี้ไปแล้ว จะเกิดอาการ หน้ามืดเป็นระยะเวลายาวนาน ยาชนิดนี้ ไม่ว่าจะภายใน ประเทศ หรือว่าต่างประเทศก็ตามก็ไม่สามารถวางขายตาม ท้องตลาดได้ เพราะว่ามันเป็นยาพิษที่ทําลายร่างกาย”
คุณหมอจ้องมองลูซือจิ่นอย่างหน้าดำคร่ำเครียด พลางเดือน ด้วยความหวังดี “ประธานสู้ การมีตัวตนของยาชนิดนี้ถือว่าผิดกฎหมาย คุณถังถูกยาชนิดนี้ทำร้ายเข้า ดังนั้น ถ้า คุณมีเบาะแสอื่น กรุณาแจ้งทางตำรวจ ถ้ายาชนิดนี้เข้าสู่ท้อง ตลาด งั้นสำหรับผู้คนอีกมากมายแล้ว มันคือหายนะ ผมที่เป็น หมอ ไม่อยากเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นมาจริงๆ”
เรื่องเป็นไปตามที่ถังรั่วชูได้คาดการณ์ไว้ การที่ถังสังล้มป่วย ลงนั้น มันเกี่ยวข้องกับยา ชนิดนี้
พอคิดออกว่าจ้าวเสี่ยวหวั่นกับกู้รั่วรั่วร่วมมือสมคบคิดกันใน การวางยาพิษนี้จริงๆ ถังรั่วชูเหงื่อเย็นไหลเปียกโชกเต็มตัว
หลายปีที่ผ่านมานั้น คนที่ได้อยู่ข้างกายพ่อของเธอ กลับ กลายมาเป็นผู้หญิงร้ายกาจได้ขนาดนี้เลยเหรอ!
“เรื่องนี้ ต้องแจ้งความไหม! สองแม่ลูกนั่น กลายเป็นฆาตกร แย่งสมบัติไปแล้ว”
ถังรั่วชูถามจู้ซือจิ่น ทว่าในใจนั้นมีความรู้สึกรังเกียจกู้รั่วรั่ว กับจ้าวเสี่ยวหวั่น จนมันหมดความอดทนขั้นสูงสุดแล้ว
ลูซือจิ่นสีหน้าเย็นชา แต่ว่ายังคงรักษาอาการสงบนิ่งอยู่ ได้ แต่ส่ายหน้าไปมา “เรื่องนี้มันจะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต หยุดพูดเรื่องนี้เอาไว้ก่อนเพราะไม่มีหลักฐาน แจ้งความไป ก็ไม่มีประโยชน์อะไร แค่เอายาออกมาพูดธรรมดาก็พอ ว่า สิ่งของนี้มันปรากฏกายขึ้นในบ้านตระกูลถัง สำหรับคนใน ตระกูลถังเองไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตามต่างไม่ใช่เรื่องดีสำหรับ พวกเขา ถ้าตำรวจไปตรวจแล้ว ถึงเวลานั้นบิดาของคุณ รวมถึงคุณเองก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ไม่ต้องไปพูดถึง กู้รั่วรั่วกับจ้าวเสี่ยวหวั่นคงหันกลับมาทำร้ายคุณ ดังนั้น เราไม่ ควรแหวกหญ้าให้งูตื่น”
“หรือว่าไม่มีวิธีการในการจัดการปัญหานี้แล้วใช่ไหม?”
ถังรั่วชูกัดฟัน ใบหน้าสง่างามนั้น แต่ในเวลานี้มีแต่ความโกรธ อย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ว่าเราต้องรอเวลาเพื่อหาหลักฐานมา เริ่ม แรก ต้องจัดการหาที่มาของยาน้ำ แต่ว่าสิ่งของนี้ไม่มีเลขจดที่ แน่ชัด และก็ไม่มีสถานที่ผลิต ดังนั้นการควานหา มันก็เหมือน กับการงมเข็มในมหาสมุทร”
ลูซือจิ่นพูดอธิบายจากความเป็นจริง แต่ว่า เมื่อเขาเห็น ใบหน้าซีดเผือดของถังรั่วชูในเวลานั้น รีบพูดเสริมทันที “คุณ ภรรยาอย่ากังวลไปเลย ผมสามารถหาที่มาของมันได้ แต่ต้อง ใช้เวลา”
“จริงเหรอ?”
ถังรั่วชูถามไถ่ด้วยอาการตาแดงๆ
ลูซือจิ่นปวดใจได้แต่เอามือลูบคลำใบหน้าของเธอ แล้วเอ่ย ขึ้น “จริงสิ ผมเคยโกหกคุณด้วยเหรอ”
ลูซือจิ่น ขอบคุณ คุณมากนะ!” ถังรั่วชูกระโจนกอดเข้าอ้อมกอดของเขา พร้อมทั้งสูดดมกลิ่นกายของเขาอย่าง
ตะกละตะกลาม
จนถึงเวลานี้ ถังรั่วชูถึงได้รับรู้ว่าการมีอำนาจนั้นมันสำคัญ
มาก
พอมีอำนาจขึ้นมา เรื่องที่คนปกติธรรมดาไม่มีทางทําได้ แต่ สามารถจัดการได้
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสู้ซือจิ่น เรื่องนี้เธอเองคงไม่รู้ว่าจะทำ อย่างไรดี?
เพราะไม่รู้ว่าถังสังจะได้สติฟื้นมาตอนไหน ถังรั่วชูเองก็ไม่มี เวลาจะมีนั่งเฝ้าอยู่ตลอด ดังนั้น เลยจ้างคนที่น่าเชื่อถือมาหนึ่ง คน คอยช่วยดูแล
ส่วนจ้าวเสี่ยวหวั่นกับกู้รั่วรั่วนั้น คนแรกยังคงมาโรงพยาบาล อยู่ทุกวันเป็นปกติ ส่วนอีกคนไม่เจอหน้าเจอตาเลย
มองจากสถานการณ์แล้ว ในใจถังรั่วชูกลับรู้สึกว่าไร้ค่า สําหรับถังสัง
เพื่อคุ้มครองสองแม่ลูกนั่น หลายปีที่ผ่านมา ขนาดลูกสาว แท้ๆ ยังดูถูกดูแคลน จนสุดท้ายแล้ว กลับได้รับผลกรรมตอบ สนองมาแบบนี้ ขนาดชีวิตของตนเองอีกนิดเดียวก็จะรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้ว
ถังรั่วชูทั้งโมโหทั้งโกรธแค้นบิดาของเขาคนนี้อยู่มาก ตอน ที่เขาล้มหมอนนอนเสื่ออยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเป็น ตายร้ายดี ในใจกลับรู้สึกลำบากใจมากกว่าใครเสียอีก
สาเหตุนี้ ถังรั่วชูเกลียดจนอยากจะจัดการกู้รั่วรั่วจ้าวเสี่ยว หวั่นให้สิ้นซาก
สองแม่ลูกคู่นั้นเลวมาก เพื่อเป้าหมายของตนเอง เลือกใช้วิธี ต่างๆ ครั้งที่แล้วก็คือเธอ ครั้งนี้ก็ถังส้ง ดูออกว่าต้องการจัดการ พวกเธอสองคนพ่อลูกให้สิ้นซาก
ถังรั่วชูดูแลถังส้งที่โรงพยาบาลสามวันเต็ม พอล่วงเข้าวันที่สี่ บริษัทก็โทรศัพท์เข้ามา มีคําสั่งให้เธอกลับมาทํางานอย่างเร่ง
ด่วน
ถังรั่วชูรู้ดีว่าตนเองไม่ได้ทำงานมานานมันดูไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ ได้ขอต่อเวลา พลันรีบกลับไปทํางานอย่างปกติ
แต่ว่า บรรยากาศในวันนี้ของบริษัทสือรุ่ย มันดูไม่เหมือนวัน ก่อนๆ สักเท่าไหร่
เมื่อก่อน บรรยากาศในบริษัทมันดูสงบเงียบ แต่วันนี้มีกลิ่น อายความเคร่งเครียดออกมา
ถังรั่วชูรับรู้ได้ถึงความรู้สึกประหลาดพิกล เลยกระซิบถามสั่งอานหยี “บริษัทมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นมาเหรอ?”
“เหอะๆ มันมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นจริงๆ”
ส่งอานหยีได้แต่ยิ้มแหย ใบหน้าเยาะหยันแล้วเอ่ยขึ้นมา “ซู เทียนอ้ายกลับมาจากต่างประเทศแล้ว วันนี้เป็นวันที่เธอจะมา ทำงานอย่างเป็นทางการ เจ้าหล่อนเป็นถึงผู้จัดการใหญ่เลยนะ ตำแหน่งก็ด้อยกว่าท่านประธานอยู่หน่อย ดังนั้นพอเวลาจะมา ทำงานเลยขอร้องให้พนักงานทุกคนมาทำงานให้ครบจำนวน เพื่อเป็นการแสดงอาการต้อนรับขับสู้และถือว่าเป็นการให้ เกียรติกับเธอ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ