ตอนที่117 ต้องให้เธอชดใช้ค่าตอบแทนที่แสน เจ็บปวด

ตอนที่117 ต้องให้เธอชดใช้ค่าตอบแทนที่แสนเจ็บปวด

“เหตุการณ์ในครั้งนี้มันช่างร้ายแรงเกินไปแล้ว เพราะเรื่อง ราวที่นักข่าวแพร่กระจายออกไป ต่างก็มีหลักฐานเพียงพอ บริษัททำได้เพียงประชาสัมพันธ์ขั้นวิกฤติอย่างง่ายๆ ส่ง ต้นฉบับขอโทษ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ได้ผลมากนัก และอีก อย่าง บริษัทในตอนนี้ ยังมีกองละครที่ถ่ายทำอยู่นอกสถานที่ ต่างก็รายล้อมไปด้วยสื่อมวลชนแล้ว พวกเราอยากจะออกไป บางทีก็ยังไม่ง่ายเลย

ผู้ช่วยรายงานสถานการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียดให้กับฉินมั้น นีด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

เมื่อได้ยินฉินมั้นนีก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น : “เดี๋ยวพวกแก มีใครสักหนึ่งคนแกล้งแต่งตัวเป็นฉัน ดึงนักข่าวกลุ่มนั้นออกไป ก่อน นอกจากนี้เตรียมรถไว้อีกหนึ่งคัน ฉันจะแอบออกไปจาก ทางด้านหลัง”

“ฉันจะรีบไปจัดการโดยเร็ว”

ผู้ช่วยรับคำสั่ง เร่งรีบหันหลังออกไป

เมื่อผู้ช่วยออกไป ผู้จัดการก็พูดกับ ฉินมั้นนีด้วยความกลุ้ม ใจ : “มั้นนี เหตุการณ์ในครั้งนี้เกรงว่าจะไม่มีวิธีที่ทำให้ดีขึ้น เลย เช้าวันนี้ บทละครโทรทัศน์ที่เดิมทีพวกเราต่างก็เจรจากันเรียบร้อยแล้ว ต่างก็ได้รับแจ้งการเปลี่ยนตัวละคร อีกทั้ง ยังมี โฆษณาที่เหลือและการประกาศอีกไม่กี่รายการ ก็ถูก เรียกร้องให้ยกเลิกสัญญา ครั้งนี้บริษัทสูญเสียค่าผิดสัญญา เป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก จึงทำให้ผู้บริหารระดับสูงโกรธเป็น อย่างมาก ผลเสียที่สุด เกรงว่าบริษัทอาจจะทิ้งคุณไปเลย

ตอนที่คำพูดของผู้จัดการพูดออกมาจากปากนั้น เดิมที ใบหน้าของฉินมั้นนีที่มีความมืดมนอยู่แล้วนั้น มุมปากก็อดไม่ ได้ที่จะกระตุกออกมาสองครั้งแล้ว

เธอกัดฟันครู่หนึ่ง ในใจก็ยังมีความตื่นตระหนก

àนมั้นนีเข้าวงการบันเทิงมานั้น เป็นเวลาประมาณสิบปี จาก คนที่เพิ่งเข้าวงการมาใหม่ไม่มีชื่อเสียงอะไร เกลือกกลิ้งมาถึง ตำแหน่งเฉกเช่นวันนี้

หลายปีที่ผ่านมานี้ เพื่อที่จะยืนหยัดในวงการบันเทิง เธอได้ ใช้ความพยายามและค่าตอบแทนที่ยากจะจินตนาการได้

ปีนี้เธอเพิ่งจะสามสิบปี ยังมีโอกาสอีกมากมายที่สามารถเพิ่ม ระดับให้สูงขึ้นอีก ชื่อเสียงที่ป่นปี้เฉกเช่นตอนนี้ ในอนาคต อยากจะปรับเปลี่ยนตัวเอง อาจจะต้องเพิ่มความดิ้นรนและ อดทนมากกว่าคนที่เพิ่งจะเข้าวงการมาใหม่

ไม่เพียงแค่นั้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเธอยังมีคู่แข่งมากมาย ในวงการ ในช่วงเวลานี้ก็ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากแค่ไหนที่แอบมองเธอด้วยการหัวเราะเยาะ รอโอกาสที่จะซ้ำเติม

เมื่อคิดมาจนถึงตรงนี้ ฉินมั้นนีที่มักจะหยิ่งผยอง ก็รู้สึกว่าใน ใจค่อนข้างที่จะทนไม่ไหว ดังนั้น

เกี่ยวกับความเกลียดชังของถังรั่วซูก็ยิ่งลึกลงมากยิ่งขึ้น

“ถ้าหากครั้งนี้ฉันไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองใหม่กลับมาได้ ถ้า ฉันตายก็ต้องลากถังรั่วชูลงไปยังขุมนรกด้วย ” ฉินมั้นนีขบ เขี้ยวเคี้ยวฟันพูดน้ำเสียงเบาๆด้วยความเกลียดชัง

เมื่อผู้จัดการได้ยิน แววตาก็เย็นชา : “มั้นนี คุณแน่ใจจริงๆเห รอว่าข่าวนี้เป็นถังรั่วซูแพร่กระจายออกมา ? ถ้าหากว่าใช่ละก็ ไม่ว่าจะยังไงเรื่องนี้ก็จะต้องให้บริษัทรับรู้ ครั้งนี้เพราะว่าเกี่ยว กับเธอ บริษัทจึงเสียหายอย่างมาก คิดว่าผู้บริหารใหญ่ก็คงจะ โกรธเช่นกัน ถึงเวลานั้น ก็คงจะให้บทเรียนกับถังรั่วชูได้อย่าง แน่นอน”

พวกคนเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นผู้ช่วยที่อยู่กับ ฉินมั้นนีมานับ หลายปี ขอไม่พูดถึงความรู้สึกว่าเป็นอย่างไร เพราะว่าความ โด่งดังของฉินมันนี หลายปีมานี้พวกเธอก็ได้รับค่าตอบแทนที่ ค่อนข้างสูงเช่นกัน

ตอนนี้ฉินมั้นนีตกต่ำลงแล้ว แม้แต่กลุ่มพวกเธอก็พาให้ซวย ไปด้วย กลับกลัวว่าจะต้องหาทางออกอื่น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเธอไม่กลัวว่าจะหางานไม่ได้ แต่อยากที่จะเซ็นสัญญาศิลปินที่มีชื่อเสียงเทียบเท่ากับฉนมนน นั้นก็เป็นเพียงฝันที่โง่ๆ

คิดมาถึงตรงนี้ ในใจของพนักงานทั้งหลายนี้ต่างก็รับไม่ได้ อย่างมาก ในใจก็อยากที่จะด่าทอปาปารัสซี่ที่ปล่อยข่าวนี้ออก มาสักรอบ

“เป็นเธออย่างแน่นอน ไม่ผิด นอกจากพวกแกแล้ว มีเพียงแค่ ถังรั่วชูที่รู้ความสัมพันธ์ของฉันกับประธานจ้าว”

ฉินมั้นนีน้ำเสียงที่พูดออกมาอย่างมั่นใจ ก็นำข้อกล่าวหานี้ไว้ บนหัวของถังรั่ว ไปโดยปริยาย

ความคิดของฉินมั้นนีช่างง่ายดายอย่างมาก เมื่อก่อนตอนที่ เธอคบหากับประธานจ้าว ก็ระมัดระวังตัวมาโดยตลอด ไม่มี การเปิดเผยเบาะแสอะไรเลย

จนกระทั่งเมื่อคืนวานที่ได้พบเจอกังรั่วชู ถึงจะเปิดโปงอย่าง แท้จริงแล้ว

ผลสรุป หลังจากนั้นหนึ่งคืน ข่าวก็ถูกปล่อยออกมาแล้ว

บนโลกใบนี้กลับไม่ได้มีความบังเอิญขนาดนั้น บวกกับ กี่วัน มานี้เกิดความกระทบกระทั่งกันระหว่างเธอกับถังรั่วชู ดังนั้น ฉินมันนีไม่ทันได้คิด ก็ตัดสินใจทันทีว่านี่เป็นการทำของถังรั่ว
ผู้จัดการได้ยินฉินมั้นนีพูดอย่างมั่นใจขนาดน พยักหนาท “เรื่องนี้ฉันจะรายงานกับบริษัท โดยใช้ตำแหน่งที่อยู่ในวงการ บริษัทถางไห่เธอเป็นเพียงแค่นักข่าวตัวเล็กๆ อยากที่จะสร้าง คลื่นอะไรออกมา เกรงว่าคงจะเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าเบื้องหลัง ของเธอจะมีคนคอยสนับสนุนก็ตาม ”

“พูดถูก แม้ว่าถังรั่วชูนั้นจะมีคนหนุนหลัง แต่ถางไห่เป็นนัก กินมังสวิรัติ ตราบใดที่อยู่เบื้องหลังของเธอไม่ใช่หวางถิง นั้น ก็อยากที่จะเนรเทศเธอออกไปจากวงการ ก็เป็นการจัดการได้ ง่ายดายมาก นอกจากนี้ ฉันก็ยังได้ยินมาอีก เมื่อไม่นานมานี้ ถังรั่วชูดูเหมือนจะผิดใจกับผู้กำกับหลินเฉิง”

“พวกแกก็รู้ ผู้กํากับหลินเฉิงคนนั้นจงเกลียดจงชังได้มาก เท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขากับกู้รั่วรั่วจัดการถังรั่วชู ไม่ได้ รับผลกระทบมากนัก เกรงว่าจะมีความเกลียดชังอยู่ในใจ ถ้า หากว่าเรื่องนี้สามารถลากเขาเข้ามาได้ล่ะก็ ถึงเวลานั้นบริษัท ก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะไปจัดการเธอ”

ในตอนนี้ผู้ช่วยอีกท่านหนึ่งก็แสดงความคิดเห็นให้กับฉินมั้นนี

ทุกคนต่างก็ลงเรือล่าเดียวกัน ตอนนี้เรือล่มแล้ว โดยแท้จริง แล้วก็มีจิตใจที่อยากจะจัดการคนที่คว่ำเรือนั้นให้ตายไปเลย

เมื่อได้ยินกลุ่มผู้ช่วยต่างก็แย่งกันพูดเสนอความเห็น ฉินมั้นนี ขมวดคิ้วแน่น ดูเหมือนจะเอาแน่เอานอนไม่ได้
เธอเป็นคนเดียวที่สัมผัสกับถังรั่วซู เกี่ยวกับอิทธิพลของ ผู้ชายคนนั้นที่อยู่เบื้องหลังเธอ ชัดเจนที่สุด

เพียงพอที่จะทำให้เธอสูญเสียการเป็นพรีเซนเตอร์มากมาย ขนาดนั้น เห็นได้ชัดเจนมาก อีกฝ่ายค่อนข้างที่จะมีข้อมูล ภายในอย่างละเอียด

ล่วงเกินอำนาจอย่างนี้ สำหรับฉินมั้นนีซึ่งมีเบื้องหลังคอย สนับสนุนไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ยังคงค่อนข้างที่จะลังเล

แต่ทว่า ฉินมั้นนีเปลี่ยนมุมมองความคิด ก็รู้สึกได้ว่าที่ผู้ช่วย พูดนั้นก็สมเหตุสมผล

ในวงการบันเทิง นอกจากหวางถิงแล้วนั้น บริษัทถางไห่ก็ ถือว่าเป็นบริษัทบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และก็ยังมีไพ่ใบสุดท้าย อยู่ในมือ ก็คือเบื้องหลังของถังรั่วชูมีภูมิหลังอะไร แต่บริษัทไห่ ถางที่เผชิญหน้าอยู่ในวงการแทบจะทั้งหมด เกรงว่าก็ไม่ใช่ เรื่องง่ายขนาดนั้น

กฎระเบียบในวงการบันเทิง บริษัทนอกวงการอยากที่จะ แทรกซึมเข้ามาสู่ภายใน แท้ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

บริษัท ชื่อนั้นก็เป็นตัวอย่างของการดำรงชีวิต

มิฉะนั้น ใช้ตำแหน่งบริษัทจี้ชื่อที่อยู่ในประเทศ กู้รั่วรั่วจะถูก บีบให้พ่ายแพ้ขนาดนั้นเลยเหรอ?
เห็นได้ชัดเจนมาก ถังรั่วชูเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับกฎใน วงการบันเทิง ถึงสามารถเอาบริษัทจี้ชื่อ และยังมีกู้รั่วรั่วคนไม่ ได้เรื่องได้ราวนั้นทำจนตื่นตระหนกขนาดนั้น

คิดมาถึงตรงนี้ ฉินมั้นนี้ดูเหมือนจะโล่งใจอย่างมาก พูดกับผู้ จัดการทันที : “เรื่องนี้ ก็ส่งมอบให้คุณไปจัดการ จะต้องลาก หลินเฉิงเข้ามาสู่แนวร่วมกับพวกเราให้ได้ ฉันต้องการให้ถังรั่ว ชูชดใช้อย่างสาสม! ”

“อืม ให้เป็นหน้าที่ของฉัน”

และตอนที่ ฉินมั้นนีค่อยๆที่จะเอาถังรั่วซูมาคิดแค้นผูก พยาบาทนั้น ระยะหลังๆกลับไม่รู้ตัวไปโดยสิ้นเชิง

แม้ว่าถังรั่วชูจะเคยคิดที่จะเอาข่าวนี้ปล่อยออกมาก็ตาม แต่ เธอจำเป็นต้องพึ่งพาจุดอ่อนนี้มาบังคับฉินมั้นนี

ขอเพียงแค่ผู้หญิงคนนั้นกล้าที่จะรับมือตัวเอง อย่างนั้นเมื่อ ถึงเวลาตัวเองก็จะไม่ถึงกับกลัวเธอแล้ว

แต่ว่าตอนนี้ข่าวถูกปล่อยออกมา อย่างนั้นภาพเหล่านั้นที่อยู่ ในมือ ก็ไม่มีค่าไปโดยปริยาย

แต่ด้วยสาเหตุนี้ เธออยู่เฉยๆก็พอซวยไปด้วยโดยไม่มี

เหตุผล

แน่นอนว่า ถังรั่วชูในตอนนี้ก็ไม่มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะข่าวของฉันมันนีที่เกิดความโกลาหลของเช้าวันทรงขน นั้น พ่อแม่ของสงอานหยี ก็โดนตำรวจจับไปแล้ว