ตอนที่80 ลุ่มหลงกับการฟุ่มเฟือย อวดรวย

ตอนที่80 ลุ่มหลงกับการฟุ่มเฟือย อวดรวย

ตอนบ่ายสองโมง ระหว่างที่ถังรั่วชูและผู้ซือจิ่นได้พลอด รัก เอาอกเอาใจ หนุงหนิงกันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงคนมากด ออดที่ห้อง

ถังรั่วชูไปเปิดประตู พบว่าเสี่ยวอ้ายยืนที่หน้าประตู และ อดที่จะถามอย่างน่าสงสัยไม่ได้ว่า “มีธุระอะไร?”

“ก็ไม่มีอะไร ฉันก็แค่อยากจะมาเตือนเธอว่า ใกล้ถึงเวลา ที่รั่วรั่วจะต้องไปถ่ายงานแล้ว เธอเองก็เตรียมตัวด้วยล่ะ เดี๋ยวออกไปพร้อมกันกับพวกเรา”

น้ำเสียงของเสี่ยวอ้ายดุเย็นชา ผิดกับสายตาที่เป็น ประกาย เหมือนอยากจะมาเห็นกับตาว่าห้องดีลักซ์จะเป็น ยังไง

ถังรั่วชูห้ามเธออยู่ตรงประตู ก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียง เรียบ ๆว่า “รู้แล้วหล่ะ ฉันขอเก็บของก่อน แล้วจะตามไป เธอไปก่อนได้เลย

เสี่ยวอ้ายเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจ แต่ท่าทางที่ไม่อ่อนข้อของถังรั่วชู เธอก็ไม่สามารถว่าอะไรได้ ทำได้แค่ยอม ไปแต่โดยดี

พอเสี่ยวอ้ายออกไป ถังรั่วชูก็กลับเข้าห้องด้วยสีหน้า ใจเย็น ซือจิ่นที่กำลังอ่านเอกสารอยู่บนโซฟา หันมา ถามว่า “จะออกไปแล้วเหรอ?”

“ค่ะ แล้วคุณล่ะ? ทำงานที่นี่?”

การที่ผู้ซือจิ่นเหาะตามมาไกลขนาดนี้ เธอกลับทิ้งเค้าไว้ เฉย ๆที่นี่ ในใจของเธอก็รู้สึกเกรงใจเล็กน้อย

“ไม่ครับ พอดีผมมีบริษัทในเครืออยู่แถวนี้ด้วย ผมก็กะ จะเข้าไปดูหน่อย”

ถังรั่วชูกะพริบตาปริบ ๆ มองไปที่เขาอย่างสงสัย “บริษัท หวางถึงยังมีบริษัทในเครือด้วยเหรอ?”

สู้ซือจิ่นหยุดมือและยิ้มตอบ “ไม่ใช่บริษัทหวางถิง แต่เป็น ธุรกิจครอบครัว”
ถังรั่วซูเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะคิดอะไรออกแล้วหันไป พูดกับเขาว่า “นอกจากคุณเป็นคนที่ดูแลหวางถึงแล้ว ยัง เป็นคนดูแลธุรกิจครอบครัวอีกเหรอ?”

สู้ซือจิ่นพยักหน้าเป็นนัยๆว่า “ใช่”

ถังรั่วก็เงียบไปอีก แต่ครั้งนี้เหมือนกับกำลังวิเคราะห์ อะไรสักอย่าง สายตาของเธอเริ่มแปลกขึ้นทันที “ตระกูล สี่ยักษ์ใหญ่ที่เมืองเป่ยหนิง หลักๆก็มีตระกูล รองลงมาก็ ตระกูลเงิน, ตระกูล, ตระกูลหลิง ถ้าหากฉันเดาไม่ผิด ล่ะก็คุณกับพวกเสิ่นมู่ ก็ต้องเป็นตระกูลสี่ยักษ์ใหญ่น่ะสิ?”

“ข้อมูลแน่นขนาดนี้ คงไม่ต้องเดาแล้วหรอกมั้งเนี่ย?

บนใบหน้าที่หล่อเหลาของผู้ซือจิ่น ก็ได้เผยรอยยิ้มที่ แปลกออกมา เหมือนมีความหมายอะไรมากมายกว่านั้น

ถังรั่วชอดที่จะสูดลมหายใจเข้าไปอย่างลึก ๆ ไม่ได้ รู้สึก ว่าเวียนหัวเล็กน้อย
ทีแรกตอนที่ปาร์ตี้กันวันนั้น เธอก็เหมือนพอจะเดาออกได้ นิด ๆ แต่ก็ติดอยู่ที่ปาก แต่การที่ผู้ซือจิ่นออกมายืนยันเอง นั่นทำให้เธอช็อคไปใหญ่

ตระกูลสี่ยักษ์ใหญ่เลยนะเนี่ย!

เพราะนั่นเป็นบริษัทที่ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงในอันดับต้น ๆของประเทศเชียวนะ ธุรกิจครอบครัวมีอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะ เป็นในหรือนอกประเทศ ต่อให้เอาสิบบริษัท ซื่อมารวมกัน ก็ยังเทียบไม่ติด

ถังรั่วชูพยายามที่จะผ่อนลมหายใจ ทำให้ปกติที่สุด จาก นั้นก็พูดขึ้นอย่างตะกุกตะกักว่า

“มะ..ไม่…คิดเลยนะว่า ทำไมฉันถึงได้โชคดีขนาดนี้ สามี ที่เก็บได้จากข้างทาง จะมีเบื้องหลังที่ทำให้อึ้งได้ขนาดนี้

เมื่อกู้ซือจิ่นเห็นภรรยาส่ายหน้าอย่างนั้น จึงอดขำไม่ได้

ท่าทีของเธอดูน่าตลกเสียจริง ๆ
และถังรั่ว ได้เตรียมกล้องพกพาไป แล้วไปเจอพวกกู้รั่ว รั่วที่ทางออกโรงแรม

หลังจากที่ขึ้นรถกันเสร็จแล้ว ก็รีบออกเดินทางไปยังกอง

ถ่าย

ระหว่างทาง กู้รั่วรั่วก็มองเธอด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ อย่างเป็นที่สุด ส่วนจี้หยินเฟิงก็ยังคงมองเธอด้วยสายตาที่ สับสน ท่าทางเหมือนจะพูดอะไรแล้วก็ไม่พูด

ส่วนเสี่ยวอ้ายกับเสี่ยวเหม่ย แม้แต่อับอายก็ยังไม่กล้า เหลือไว้แค่ความริษยาที่มี

เพราะ ไม่ใช่ใครหน้าไหนที่จะเหมาชั้นเฟิร์สคลาสนั่งส่วน ตัว หรือจองห้องพักแบบห้องดีลักซ์ได้

ถังรั่วชูไม่ได้ใส่ใจพวกเขา และได้ถ่ายรูปวิวข้างทางไป อย่างมีความสุข

ผ่านไปยี่สิบกว่านาที ทั้งห้าคนก็ได้มาถึงกองถ่ายทำโฆษณา

งานที่กู้รั่วรั่วรับคืองานโฆษณาชุดกีฬาแบรนด์หนึ่ง ถึง ไม่ใช่แบรนด์ชั้นหนึ่ง แต่ก็มียอดขายในประเทศที่ดีอยู่ ซึ่ง หัวข้อของการถ่ายก็ง่ายมาก ก็แค่แสดงออกถึงการออก กําลังกายที่มีชีวิตชีวาออกมา

เมื่อลงรถ ทางฝั่งกู้รั่วรั่วไปแต่งหน้าและโบรกเกอร์กับผู้ ช่วยก็ตรงไปยังห้องแต่งหน้าทันที ตอนนี้เหลือแค่ถังรั่วชู กับ หยินเฟิงสองคน

ซึ่งถังรั่วชูก็ไม่อยากจะเสวนากับจี้หยินเฟิง เลยรีบไปจัด เตรียมกล้อง

จี้หยินเฟิงทนไม่ได้ที่ถูกถังรั่วซูเมินใส่ ภายในแววตามี ความแค้นเล็ก ๆอยู่ “ผู้ชายคนนั้นใช่ไหม? ที่จองชั้นเฟิร์ส คลาส และจองห้องดีลักซ์ให้คุณ?

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ?

ถังรั่วชูตอบอย่างเย็นชาและไร้เยื่อใย เพราะว่าตอนนี้เธอ กับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว
“รั่วช คุณเปลี่ยนไปแล้ว คุณเองในเมื่อก่อนไม่ได้ ฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อแบบนี้”

นําเสียงของจี้หยินเฟิงก็เย็นชาไม่แพ้กัน

เพราะตอนนี้ในสายตาของเขา ถังรั่วชูกลายเป็นผู้หญิงที่ มหลงการกับฟุ้งเฟ้อ มเฟือย

เพราะเมื่อก่อน ไม่ว่าเธอจะถูกเลี้ยงแบบถูกโอ๋ ประคบประหงมยังไง เธอก็ไม่เคยสนของนอกกายแบบนี้ และไม่น่าจะเลือกใช้วิธีนี้ทำให้ใครต้องอับอาย

แต่ทว่าการกระทำของเธอทุกอย่างในครั้งนี้ ทำให้เขาผิด หวังเป็นอย่างมาก

“หลงกับการฟมเฟือย?”

ถังรั่วชูถึงกับอึ้งไป มองไปยังเขาด้วยสายตาที่ไม่คิดว่า เขาจะพูดแบบนี้ออกมา

“ฉันชอบฟุ่มเฟือย? ฮ่า ๆ หยินเฟิง คุณไม่คิดว่าคำนี้คุณ ควรจะเอาไปพูดกับกู้รั่วรั่วจะเหมาะกว่าเหรอ? ถ้าฉันเป็น คนโอ้อวดฟุ่มเฟือย เธอไม่ใช่เหรอที่ฟุ่มเฟือยยิ่งกว่า? เธอหลอกใช้คุณเป็นเครื่องมือ เพื่อเอามากดขี่ข่มเหง ฉันไง การที่คุณมาว่าฉันเรื่องนี้ มันไม่น่าขำไปหน่อยเห รอ?”

จี้หยินเฟิงตกตะลึงเล็กน้อย อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ เหมือนคุณในวันนี้”

“วันนี้ฉันเป็นแบบไหนเหรอ? ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินกู้รั่วรั่ว เองมาอวดฉันว่าได้เปลี่ยนตัวเป็นชั้นธุรกิจแล้ว คุณทำไม ไม่ว่าเธออวดรวย ฟุ่มเฟือย? หรือคุณคิดว่า การที่พวกคุณ ไม่ได้นั่ง นั่นหมายความว่าฉันเองก็ไม่มีสิทธิ์? ”

ถังรั่วชูยิ้มอ่อน แววตาเต็มไปด้วยการเหน็บแนมประชด ประชัน

จี้หยินเฟิงไม่ได้พูดอะไร แต่จ้องเธอด้วยแววตาที่เย็นชา

อันที่จริงถังรั่วชูนั้นก็พูดถูกแล้ว คนที่ถูกเลี้ยงดู ประคบประหงมเหมือนเจ้าชายอย่างจี้หยินเฟิง อยากได้ อะไรก็ต้องได้ ไปที่ไหนก็มีแต่คนเคารพให้เกียรติ มีหน้ามี ตา
แต่ในวันนี้ ในสายตาของถังรั่วซูนั้น เขาได้ประสบความ พ่ายแพ้

ทั้งหมดเป็นเพราะแฟนหนุ่มลึกลับของเธอ

เพราะว่าผู้ชายนิรนามคนนั้น ทำให้ความเป็นศักดิ์ศรีของ เขา ความภูมิใจของเขา ถูกทำลายลง บวกกับการที่ถูกถัง รั่วซูละเว้น ยิ่งทำให้เขารับไม่ได้ที่จะพูดจาประชดเธอ