ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 55 จิตใจที่คิดร้าย



บทที่ 55 จิตใจที่คิดร้าย

“ท่านอ่องทั้งสองอยู่เป็นเพื่อนฮ่องเต้ ข้าและพระ ชายาทั้งสองจะพูดคุยเรื่องผู้หญิง ฮ่องเต้ หม่อมฉัน ถวายบังคมลาเพคะ”

เสินหยุนลุกขึ้นกล่าว ถอนสายบัวต่อฮ่องเต้ชิงหยู่

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองอย่าอ่อนโยนครู่หนึ่ง พูดกล่าว “คืนนี้ข้าอยากอยู่ในวังเพิ่งหยี ฮองเฮา หากเจ้าปฏิเสธ ข้าคงต้องออกไปรอข้างนอก ข้างนอกอากาศหนาว เย็น หากฮองพ่ะย่ะค่ะฮาทำลงได้ลง ข้า….

“ฮ่องเต้อย่าพูดเช่นนั้น หม่อมฉันไม่ให้ฮ่องเต้ไป เมื่อไหร่กัน ตั้งใจพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเหล่าเสด็จน้อง และ ไม่กลัวเป็นเรื่องขายหน้าหรือเพคะ?” เสินหยุนชูเขิน หน้าแดงก่ำ ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไป แต่ไม่รู้ขายหน้า กลับ กล่าวว่า: “พวกเขาล้วนเป็นสมาชิกครอบครัวทั้งนั้น ก็ ต้องเข้าใจความคิดของข้าอยู่แล้ว”

“หากฮ่องเต้จะพูดต่อ หม่อมฉันถวายบังคมลาแล้ว

เพคะ”

เสินหยุนชูพูลอยู่แล้วมองไปยังจุนฉูฉูและอันหลิง หยุน: “ไปกันเอะ”

“เพคะ”

“เพคะ…
จุนฉูฉเดินตามไปก่อน อันหลิงหยุนกัดริมฝีปากจน เลือดจะไหล ถึงย่างก้าวตามออกไป

กงชิงวี่เงยหน้ามองตามอันหลิงหยุนที่เดินตาม ออกไปอย่างยากเย็น กังวลอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อ ร่างกายผิดปกติไม่สบาย ก็ควรบอกก่อน

“คนก็ไปแล้ว ยังดูอะไร ตอนอยู่จวนอ๋องเสียนของ เจ้า ไม่ดู จำเป็นต้องมาดูถึงพระตำหนักจรุงจิตของข้า เชียวหรือ?”

ฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวพร้อมโบกมือ สวีกงกงรีบเชิญ นั่ง หน้าคนแต่ละคนมีกระถางไฟคนละใบ ก็ถือว่าเป็น พระมหากรุณาแล้ว

“ตอนมาร่างกายหนาวเหน็บเล็กน้อย กลัวนางชน พี่สะใภ้” กงชิงที่นั่งลงกล่าว

“ยากที่เจ้ายังมีจิตใจเช่นนี้ เจ้าทำให้ข้าสับสนไป หมดแล้ว แต่ก่อนไม่เคยเห็น นี่ทำไมจริงจังเสียแล้ว?” ฮ่องเต้ชิงหยู่หยอกเล่น อ่องตวนก็ไม่ได้อยู่เฉย ถูกมือ ไปมา: “ใช่พ่ะย่ะค่ะ”

กงชิงวี่หมดคำพูด ใบหน้าเย็นชา และซีดเซียว

อ๋องตวนไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป ทนไม่ไหวกล่าว “คุณหนูรองแห่งตระกูลเสิน อยู่ที่เมืองหลวงถือเป็น หญิงขึ้นชื่อว่ามากความสามารถแถมยังมีใจให้เจ้าด้วย พวกเจ้าเหมาะสมกันตั้งแต่เด็ก ปลดนางจะเป็นการดี กว่า แต่งตั้งให้คุณหนูรองแห่งตระกูลเสินเข้ามา”
กงชิงวี่ยกคิ้ว: “ข้าเห็นหยุนเอ๋อเป็นน้องสาวมาโดย ตลอด จะทำเช่นนี้ลงต่อน้องสาวได้อย่างไร?”

“ต่อให้ทำไม่ลง อันหลิงหยุนเหมาะสมกับเจ้ารีไง?” ที่พูดมาทั้งหมดก็เพราะกงชิงหยินไม่ชอบอันหลิง หยุน กงชิงวี่ก็เลยไม่พูดเรื่องนี้ต่อ

ไม่ใส่ใจปล่อยให้เขาพูด

ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงกล่าว: “เรื่องคราวก่อนที่แม่ทัพอัน ทำร้ายเจ้า ก็ควรผ่านไปได้แล้ว ยังจำอยู่หรือ?”

“ทำร้ายน้องชายหม่อมฉันเกือบตาย จะลืมได้ อย่างไร?”

“หากเจ้าไม่ทำอะไรผิด เจ้าจะถูกลงโทษได้ อย่างไร?” ฮ่องเต้ชิงหยู่ใบหน้าหงุดหงิด กงชิงหยินจึง

หยุดพูด

สามคนตรงหน้า กลับมีจิตใจเหม่อลอย คิดถึงเรื่อง ภายในอยู่

ทั้งสองถอนสายบัวแล้ว จึงกล้านั่งลง

เสินหยุนชูเตรียมขนมและน้ำชาไว้ เชิญทั้งสองชิม

“นี่เป็นของจากบรรณาการ ในวังมีไม่มาก โดย ปกติแล้วมีให้สำหรับกับไทเฮาและนางสนมก่อน วันนี้ ฮ่องเต้ตั้งใจนำมาให้บ้าง ให้ข้าชิม ข้าทราบ ฮ่องเต้เป็น คนที่มีความใส่ใจ แต่ข้าก็กินไม่หมด พวกเจ้ามาแล้ว คนละชิ้น อย่างให้เสียของเลย”
เสินหยุนซูให้จุนฉูฉูก่อนชิ้นหนึ่ง แล้วให้อันหลิง หยุดชิ้นหนึ่ง นางเองก็จับมาชิ้นหนึ่ง

“ข้าลองชิมก่อนอร่อยหรือไม่ รสชาติเป็นอย่างไร” พูดจบเสินหยุนซูชิมก่อนหนึ่งคำ จุนฉูฉูแสดงขอบคุณ ฮองเฮาก่อน ใช้แขนเสื้อกว้างบดบังใบหน้าไว้ กัดไปคำ หนึ่ง ค่อยๆ ชิมเคี้ยวอย่างละเอียด

อันหลิงหยุนเคยฝึกกินเช่นนี้แล้วบ้าง นางเหลืออยู่ เล็กน้อย

“ชานี้ก็เพิ่งให้มาใหม่ ว่ากันว่าอยู่ในภูเขาหิมะ มีต้น ชาชนิดหนึ่งที่สามารถเติบโตฤดูหนาวด้วย แต่ละปีมี เพียงน้อยนิด ในวังก็มีไม่มาก วันนี้ฮ่องเต้ก็นำมาด้วย พวกเจ้าลองชิม”

“ของพระทัยฮองเฮา”

ขุนฉูฉูลองชิมคำหนึ่งก่อน อันหลิงหยุนตามหลัง

ติดๆ

ดื่มชาแล้ว เสินหยุนชูจึงถาม: “การแต่งงานเป็น เรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิง ตอนข้าเข้าวังฮ่องเต้เป็นคน แต่งตั้ง คราวนี้ฮ่องเต้ทูลกับข้า ให้ข้าดำเนินการ ข้า ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เชิญพวกเจ้ามาก็เพื่อเรื่องนี้ พวก เจ้าช่วยข้าคิด ดีกว่าข้าคิดคนเดียว”

“การแต่งตั้งจากฮองเฮา เป็นพระมหากรุณาธิคุณ ยิ่งแล้ว คิดว่าสนมคนใหม่ต้องชอบเพคะ” จุนฉูฉูพูด ก่อน วันนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา แต่ก่อนที่เคยพูดตอนนี้ก็ไม่สามารถพูดได้แล้ว ตอนนี้สิ่งพูดได้ก็ต้องคิด ไตร่ตรองให้ดี

แต่วันนี้เสินหยุนชูเรียกพวกนางมาถ้าหากเป็น เพียงแค่เรื่องแต่งตั้ง ค่อนข้างแปลก ตามเหตุผล ฝ่าย พิธีจะประกาศให้จัดพิธี ฮ่องเต้ฮองเฮาดูแล้ว ขาดก็ เพิ่ม มากไปก็ตัดออก ก็เสร็จแล้ว

แต่เข้าวังดึกดื่นเพียงเพราะแค่เรื่องนี้ ยิ่งแปลกไป

ใหญ่

อันหลิงหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง: “หม่อมฉันก็ไม่ถนัด เรื่องนี้ ตั้งแต่หม่อมแต่งงานจนถึงตอนนี้ ยังอยู่ระหว่าง ฝึกฝน สำหรับการเตรียมอะไรต่างๆ หม่อมฉันยิ่งไม่รู้

อะไรเลยเพคะ”

“นี่ก็ใช่ ข้าลืมเรื่องนี้ไปเลย พวกเจ้าล้วนเพิ่งแต่ง

งานใหม่ๆ”

เสินหยุนชูพูดอยู่ ลุกยืนขึ้น: “พอแล้ว กลับกันไป ก่อนเถิด ข้าก็เหนื่อยแล้ว”

“เพคะ”

“เพคะ”

จุนฉูฉูและอันหลิงหยุนถอนสายบัว ออกไปพร้อม กัน เสินหยุนชูมองพวกนางจากไปจากด้านหลัง แสดงออกสีหน้าโศกเศร้า พวกเจ้าบังคับข้าเอง

เสินหยุนชูดูอยู่ครู่หนึ่ง เก็บอาการโศกเศร้าบน ใบหน้า ค่อยหันหลังแล้วออกไปจากประตูด้านหลัง ไปวังเพิ่งหยของนาง

อันหลิงหยุนและจุนฉูฉูออกมา เดินไปข้างล่าง ถอนสายบัวต่อฮ่องเต้ชิงหยู่ ไม่รอทั้งสองพูดอะไร ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ลุกขึ้น: “กลับไปเถอะ ข้าก็เหนื่อยแล้ว”

ฮ่องเต้ชิงหยู่หันเดินออกไปก่อน อันหลิงหยุน เกือบล้ม

อันหลิงหยุนกำหมัดแน่น ฝืนให้ยืนนิ่ง ให้ตายก็ไม่ ปล่อยให้ตนเองล้มลง

ตามด้วยเสียงแต่คนละถวายบังคมลา อันหลิงหยุ นจึงตามกงชิงวี่ออกมาจากข้างใน

จากขั้นบันไดด้านบนลงล่าง อันหลิงหยุนเดินฝั่ง หนึ่ง มือจับราวจึงลงมาได้

“น้องสาม พระชายาเสียนดูเหมือนไม่ค่อยมีแรง นะ? เจ้าไม่พยุงหน่อยเหรอ?”

กงชิงหยินไม่ชอบขี้หน้าอันหลิงหยุน พูดจาก็มีลับ ลมคมในแปลกๆ

จุนฉูฉูดึงกงชิงหยิน: “ท่านอ๋องพูดไร้สาระอีกแล้ว”

“ข้าพูดไร้สาระ? แกล้งทำออกมาชัดๆ แค่ระยะ ทางไม่กี่ก้าวก็เดินไม่ไหวแล้ว?” กงชิงหยินยิ่งพูดยิ่ง โมโห

ตอนแรกกงชิงวี่ยังอยากนำหน้า ตอนนี้เดินเร็วกว่า ใคร สะบัดแขนเสื้อเดินไปแล้ว
“ท่านอ๋อง ท่านไปดูอ๋องเสียนก่อน ข้าไม่วางใจ พระชายาเสียน อยู่ดูก่อน”

“ไม่จำเป็น นางตายแล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า อย่าไป สนใจ”

ดึงจุนฉูฉอยู่กงชิงหยินกำลังจะเดิน แต่จุนฉูฉู ปฏิเสธ: “ท่านอ๋อง ทำไมท่านเป็นเช่นนี้ พระชายาเสีย นก็เป็นน้องสะใภ้ของท่านนะเพคะ!”

“ห์ ข้าไม่มีน้องสะใภ้ที่ความประพฤติเหลือทนเช่น

นี้

“ท่านอ๋อง ท่านไปก่อน เดี๋ยวข้าตามไป”

จุนฉูฉุผลักไส กงชิงหยินจึงพูด: “งั้นเจ้าระวังตัว อย่าสนใจนางมาก อากาศหนาว รีบตามมา ถ้าทนรอไม่ ไหวจะมาหาเจ้า”

“หม่อมฉันรับทราบเพคะ” ขุนฉูฉูมองกงชิงหยิน อยากเขินอาย กงชิงหยินพึงพอใจมากอย่างยิ่ง จึงเดิน หันหลังไปหากงชิงวี่

ขุนฉูฉุมองคนเดินไปไกล หันหลังมองไปยังอัน หลิงหยุนที่เดินลงมา ดึงมีดออกมาจากด้านหลัง เวลานี้ไม่มีคน นางจะปล่อยอันหลิงหยุนได้ อย่างไร!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ