ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 71 อยู่ร่วมกัน



บทที่ 71 อยู่ร่วมกัน

อันหลิงหยุนมองเขาสักพัก รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “ท่านโกรธหรือ?” :

กงชิงวี่สีหน้าไม่ค่อยดี แววตายิ่งดูเย็นชา: “คนของ ข้ามีคนมาสนใจ แล้วจะไม่ให้ข้าโกรธได้อย่างไร?”

แล้วจึงเดินไปนั่งข้างๆอันหลิงหยุน มือของกงซิงวี่ กดขาทั้งสองข้างไว้แน่ แววจาเย็นชา: “ในรถม้าคือ ใคร?”

อันหลิงหยุนคิดไม่ถึงว่ากงซิงว่าจะถามเรื่องที่เกิด ขึ้นในรถม้าเร็วขนาดนี้ จึงปรับอารมณ์ แล้วเล่าเกี่ยว กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรถม้าอย่างคร่าวๆ

ยิ่งได้ฟัง สีหน้าของกงชิงวี่ก็ยิ่งแย่ลง เมื่อฟังถึง ตอนจบ ก็ตบมือลงบนเตียงหนึ่งฉาด แล้วพูดด้วยความ โมโหว่า: “เด็กชายฉ่าวฉัว?”

อันหลิงหยุนตกตะลึง”พวกท่านรู้จักกันหรือ?”

“ยิ่งกว่ารู้จักเสียอีก ข้าอยากจะจับเขามาตั้งนาน แล้ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะใจกล้าขนาดนี้ ที่กล้ามาสนใจ คนของข้า”

กงชิงลุกยืนขึ้น แล้วกัดฟัน

นึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง จึงหันกลับไปสำรวจดูอันหลิงหยุน

ตอนนี้เอง กงชิงวี่เพิ่งจะสังเกตเห็นว่า อันหลิงหยุ นมีที่ท่ากระอักกระอ่วน ไม่เพียงแค่เสื้อผ้าที่ฉีกขาด ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง ถึงแม้ตรงส่วนอื่นจะไม่เป็นอะไร แต่ บริเวณหน้าอกของนางก็มือรอยฝ่ามือที่สกปรกประทับ อยู่

มือที่โอบอยู่ทางด้านหลัง เหมือนมีกำลังภายในแผ่ ซ่านออกมา อันหลิงหยุนถึงขั้นว่ารู้สึกได้ถึงพลังที่แผ่ ออกมาจากตัวของกงชิง วี่ จนทำให้เส้นผมของนาง ขยับ

“เขาแตะต้องตัวเจ้าแล้วอย่างนั้นหรือ?” ใบหน้าที่ ไม่สบายใจของกงชิงวี่ดูไม่ได้เลยจริงๆ

อันหลิงหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงส่ายหน้า: “ตอน ที่เราทะเลาะกัน เขาจับข้าล้มคว่ำลง แล้วพยายามจะ จูบข้า แต่ข้าไม่ได้เปิดโอกาสให้แก่เขา บนตัวของข้า พกคางคกเย็นเอาไว้ คางคกเย็นมีพิษร้ายแรง หากไม่ ระวังเป็นอย่างยิ่ง เมื่อสัมผัสโดนก็จะเป็นหนองไปทั้ง ตัว อีกทั้งเมื่อถูกคางคกเย็นเข้ามาสัมผัส พิษบนตัวของ คางคกเย็นก็จะทำให้คนคนนั้นต้องรู้สึกหนาวเหน็บ และเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

“ในตอนนั้น ข้าปล่อยคางคกเย็นออกมา พวกเขา จึงทำไม่สำเร็จ”

กงชิงวี่คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ก็รู้สึก โกรธแค้นเป็นอย่างมาก
“พวกเศษสวะ ข้าจะไม่ยอมทนแน่นอน”

กงชิงวี่พูดพลางก็มองไปที่อันหลิงหยุน: “รีบไป อาบน้ำซะ ตั้งแต่วันนีนี้เป็นต้นไป ไปพักผ่อนที่ห้องของ ข้า ให้อยู่ข้างกายข้าตลอดเวลา ข้าจะดูซชิว่า พวกมันจะ กล้าสักแค่ไหน ที่จะกล้าลงมือต่อหน้าข้า”

อันหลิงหยุนรู้สึกซาบซึ้ง แล้วถามว่า: “จริงหรือ เปล่า ท่านเต็มใจที่จะปกป้องข้าอย่างนั้นหรือ?”

แต่ไหนแต่ไรมา มีแค่เพียงซูมู่หรงที่ปกป้องนาง ถึง ขั้นว่าต่อให้มาที่นี่แล้ว นางก็ยังไม่สามารถลืมซูมู่หรง ได้ลง

มาถึงที่นี่ได้พบกับท่านพ่อแม่ทัพ ท่านพ่อแม่ทัพทำ ดีต่อนางด้วยใจจริง

ส่วนคนอื่นๆนางไม่กล้าคิด

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ท่านพ่อแม่ทัพเองก็ไม่มี กำลังพอที่จะช่วยเหลืออะไรได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า นางหัวเดียวกระเทียมลีบ ต้องเผชิญหน้ากับโลกทั้งใบ นางเองก็ไม่กล้าคิดว่าปลายทางจะเป็นเช่นไร

แต่การที่สามารถได้รับการช่วยเหลือจากกงชิงวี่ นางจะไม่รู้สึกซาบซึ้งได้อย่างไร

กงชิงก้มหน้ามองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ที่หางตา ของนางยังมีหยดน้ำตาเปื้อนอยู่ คิดถึงท่าทางการนั่ง คัดลอกหนังสืออย่างสบายๆในทุกๆวัน ก็รู้สึกใจอ่อน ขึ้นมา: “คนของข้า ข้าก็ต้องเป็นคนปกป้องเองอยู่แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ สกปรกแบบนี้ข้าเห็นแล้วรู้สึกอารมณ์ เสีย”

พูดจบ กงชิงวี่ก็เรียกคนเข้ามาคอยปรนนิบัติรับใช้ พ่อบ้านเองก็ไม่เข้าใจเหตุผลที่แน่ชัด แค่รู้สึกว่าวันนี้มี อะไรผิดปกตินิดหน่อย

เมื่อท่านอ๋องได้ยินว่าพระชายาถูกทำร้าย ก็รีบมา หาในทันที

ขณะที่ได้รับการปรนนิบัติอยู่ เขาเองก็ไม่ได้จาก ไปไหน ยังคงนั่งอยู่ภายในห้อง

อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกเขินอาย มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ตรงหน้า แล้วนางจะถอดเสื้อผ้าออกอย่างโจ่งแจ้งได้ อย่างไรกัน

“ท่านช่วยหันหน้าไปสักหน่อย เมื่อข้าลงไปแล้ว ท่านค่อยหันกลับมาหาข้าก็ได้” เมื่อลงไปในน้ำก็ไม่ เป็นไรแล้ว อันหลิงหยุนที่มาจากยุคปัจจุบัน จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอะไรนัก เวลาที่นาง ไปว่ายน้ำ ก็ใส่ชุดว่ายน้ำที่วับๆแวมๆ แต่จะให้ถอดเช่น นี้ นางทำไม่ได้จริงๆ

กงชิงหันหลังมองไปทางอื่น: “ข้าเคยเห็นแล้ว”

อันหลิงหยุนพูดไม่ออก แล้วนั่นมันเหมือน กันซะที่ไหน?

อาศัยจังหวะที่กงชิงวี่หันหลังไป อันหลิงหยุนถอด เสื้อผ้าแล้วลงไปในถังอาบน้ำ ชิดเข้าไปอยู่ด้านในแล้วอันหลิงหยุนจึงพูดว่า: “เรียบร้อยแล้ว”

กงชิงวี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงค่อยๆหันหน้ากลับ ไปมอง

ไอน้ำที่ลอยขึ้นเป็นหมอกอยู่ในถังน้ำ บดบัง ใบหน้าที่ปกติจะดูสบายๆของอันหลิงหยุน แต่กลับมี ความพร่าเลือนขึ้นมาแทนที่

เดิมที่กงชิงวี่เองก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเท่าไหร่ นัก แต่เมื่อเห็นไหล่ที่เปลือยเปล่าของอันหลิงหยุนที่ โผล่อยู่เหนือน้ำ

ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา และรู้สึกร้อนวูบวาบ กำมือไว้แน่น แล้วกงชิงวี่ก็ลุกขึ้นมา

“ข้าขอตัวชั่วครู่”

กงชิงวี่พูดจบ ก็เดินออกจากข้างตัวอันหลิงหยุน แล้วเปิดประตูเดินออกไป

อันหลิงหยุนหันตัวกลับในน้ำ แล้วมองไปยังกงชิงวี่ ที่เดินออกจากประตูไป: “ท่านคงไม่ทิ้งข้าหรอกใช่ ไหม?”

“มีเรื่องไหนที่ข้ารับปากแล้วทำไม่ได้บ้าง?” กงชิงวี่ ปิดประตูแล้วเดินออกไปด้านนอก อันหลิงหยุนหันกลับ มาอาบน้ำ แล้วใส่เสื้อผ้า

ภายในห้องไม่มีคน อันหลิงหยุนรู้สึกไม่วางใจ ถ้า หากมีคนมาหานางจริงๆ ร่างกายของนางในตอนนี้ ก็เท่ากับรอให้คนมาทำร้าย

พึ่งคนอื่นก็ไม่เท่ากับพึ่งตนเอง ผู้ชายไว้ใจไม่ได้

สักคน

เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ อันหลิงหยุนก็หันมอง ภายในห้อง คนเมื่อถึงเวลาที่จนตรอกจึงจะสามารถ ปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ออกมาได้

แต่สิ่งที่นางจะสามารถปลดปล่อยออกมาได้นั้น ไม่รู้จริงๆว่ายังมีอะไรอีกบ้าง

เมื่อเก็บกล่องยาของตนเองเรียบร้อยแล้ว อันหลิง หยุนก็ตัดสินใจที่จะไปหากงชิงวี่

นอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีใครที่จะสามารถช่วยเหลือ นางได้

เมื่อเปิดประตูออก ก็มีลมเย็นพัดมาปะทะกับ ใบหน้า อันหลิงหยุนรู้สึกเหมือนแทบจะสำลักลมตาย จึงยกมือขึ้นป้อง ถึงจะหายใจได้

เมื่อวางมือลง จึงเห็นว่ามีคนคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า อันหลิงหยุนรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก จึงถอยหลังไป สองก้าว คิดว่าเป็นคนที่จะมาจับนาง แต่สุดท้ายเมื่อ เห็นคนที่ยืนอยู่ในห้องอย่างชัดเจนแล้ว อันหลิงหยุนก็ ถอนหายใจออกมา

ไม่ใช่กงชิงพี่แล้วจะเป็นใคร?

ตอนนี้เอง กงชิงวี่กำลังมองนางอยู่จากในลาน

หิมะหล่นโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน ผู้ชายในชุดสีดำ ในเวลานี้สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา ไม่ หลงเหลือความอบอุ่นแม้เพียงเล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าเป็น เพราะอะไร อันหลิงหยุนถึงได้รู้สึกว่าเขาอบอุ่น

พอจะอธิบายได้ว่าเขากำลังปกป้องนางอยู่ เขาจึง อบอุ่น

“ท่านกำลังรอข้าหรือ? ”

อันหลิงหยุนเดินเข้าไปใกล้ กงชิงวี่ไม่ได้ตอบนาง แล้วจึงหันหลังเดินไปยังห้องของตนเอง อันหลิงหยุนก ลัวว่าจะมีคนมาลอบทำร้าย จึงรีบเดินตามไปติดๆ

ดังนั้น คนในจวนต่างเห็นกันหมดแล้วว่า ในคืนนี้ พระชายาถูกท่านอ๋องมารับตัวไปแล้ว

ในตอนกลางคืน อันหลิงหยุนนอนหลับไม่สนิท นอนอยู่ข้างในก็รู้สึกไม่ปลอดภัย หากลุกขึ้นก็กลัวว่า จะปลุกให้กงชิงวี่ตื่น หากไม่ลุกขึ้นนางก็รู้สึกว่าจะมีคน เข้ามาจากด้านนอกอยู่ตลอดเวลา

ไม่เคยเป็นกังวลเช่นนี้มาก่อนเลย รู้สึกใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ

ตอนเช้าอันหลิงหยุนถึงจะนอนหลับ กงชิงวี่รู้สึกว่า คนที่อยู่ข้างๆ ไม่ขยับเขยื้อนแล้ว จึงลืมตาขึ้นมาดู

หลับไม่สนิทมาตลอดทั้งคืน ตอนนี้ได้มองหน้าอัน หลิงหยุน จึงรู้สึกค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย

ตอนเช้าอากาศหนาวเล็กน้อย อันหลิงหยุนขดตัว เข้าหาพื้นที่ที่อบอุ่นโดยอัตโนมัติ ขดไปขดมาก็เข้าไปอยู่ในอ้อมอกของกงชิงวี่

มือของกงซิงที่ถูกกอดไว้ ร่างกายที่อ่อนนุ่มเขยิบ ชิดเข้ามา รู้สึกมีความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัวอย่าง รวดเร็ว กงชิงขมวดคิ้วแน่น อยากที่จะผลักอันหลิงหยุ นออกไป แต่กลับถูกกอดแน่นขึ้นไปอีก

ยื่นมือออกไปดึงผ้าห่มมาห่มให้แก่อันหลิงหยุน แล้วหันหน้าไปมองที่ประตู

เรื่องที่ใช้เลือดรักษาอาการบาดเจ็บให้แก่เขา ภายในจวนมีคนรู้อยู่เพียงไม่กี่คน ภายในวังก็มีเขา เพียงคนเดียวที่เห็น นอกเสียจากว่านางจะใช้เลือด รักษาอาการบาดเจ็บของคนอื่นที่ด้านนอก จนถูกคน พบเห็นเข้า มิเช่นนั้นก็คงจะไม่มีทางเกิดเรื่องทำนองนี้ ขึ้น

แต่เด็กชายฉ่ายฮัวเป็นคนเป็นคนเจียงหู การที่คน เจียงหูจะรับรู้ข่าวนี้จะต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ใครกัน แน่ที่เป็นมือมืดแอบลงมืออยู่เบื้องหลัง?

“มู่หรง!”

อันหลิงหยุนฝันถึงการปฏิบัติภารกิจ เพื่อที่จะช่วย นาง ทำให้ซูมู่หรงได้รับบาดเจ็บจนแขนขาดไปข้าง หนึ่ง นางไปไม่ได้ นางอยากที่จะอยู่ต่อ แต่ซูมู่หรง ตะโกนใส่นาง ให้นางรีบไป

จิตใจไม่สงบ ทำให้ฝันกลางคืนบ่อยๆ เวลานี้ อันหลิงหยุนเห็นซูมู่หรงมีคราบเลือดติดอยู่ทั่วทั้งตัว นางรู้สึกกลัว จึงรีบตะโกนเรียกซูมู่หรง กงชิงวี่สีหน้าเย็นชา มู่หรง?

ใครคือมู่หรง ทำไมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าใน เมืองหลวงมีคนผู้นี้อยู่ด้วย !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ