ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 77 ชี้แนะหมอจวน



บทที่ 77 ชี้แนะหมอจวน

อันหลิงหยุนมองดูสาวใช้ทั้งสองคน อายุน่าจะราวๆสิบ สามสิบสี่ปี หน้าตาสะอาดสะอ้าน ดูละเอียดอ่อนจริงๆ

“พวกเจ้าแค่เพียงทำตามคำสั่ง ทำเสร็จข้าจะทูลกับ ท่านอ่อง ให้ประทานรางวัลให้แก่พวกเจ้า” หากออกชื่อ ตัวนางเอง อันหลิงหยุนก็เกรงว่าพวกนางจะไม่เต็มใจ จึง ต้องอาศัยชื่อของกงชิงวี่

“หม่อมฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อ ถวายงานให้แก่ท่านอ๋องและพระชายาเพคะ” สาวใช้ทั้ง สองเป็นบ่าวที่เกิดในบ้าน รู้จักที่จะเอาใจพระชายา เช่นนี้ ต่อไปก็จะอยู่ได้อย่างสบาย จึงทำตัวดีเป็นพิเศษ

“ถึงแม้พระชายาจะไม่เป็นที่โปรดปรานนัก แต่ยังไง เสียก็เป็นพระชายา อีกทั้งยังมีแม่ทัพคอยหนุนหลังอยู่ ตั้งแต่เล็กพระชายาก็มีชื่อเสียงอื้อฉาว โดยเฉพาะคนใน จวนอ๋องเสียน ต่างรู้สึกเบื่อหน่ายพระชายาเป็นอย่างมาก

แต่พูดไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะการที่สามารถยืน หยัดอยู่ในจวนอ่องเสียนได้นั้น ก็ถือว่าเป็นความสามารถ ของพระชายา

ตอนนี้ แม้แต่ท่านถางและพ่อบ้านต่างก็แอบสรรเสริญ พระชายาอยู่ อาหยู่เองก็คอยตามคุ้มกันพระชายาไปทุกที่ เมื่อก่อนอาหยู่เกลียดชังพระชายา แต่มาวันนี้อาหยู่กลับ ไม่ยอมให้ใครมาว่าร้ายประชายาแม้แต่เพียงคำเดียว พระชายาเช่นนี้ถือว่ามีบุญจริงๆ

หากพวกนางสามารถคอยติดตามใกล้ชิดพระชายาได้ หลังจากนี้พวกนางก็คงจะใช้ชีวิตอย่างสบายขึ้น

ในจวนอ๋อง พวกนางถือเป็นชนชั้นที่ต่ำต้อยที่สุดใน บรรดาปาวไพร่ที่เกิดในบ้าน หากในอนาคตมีปาวรับใช้ที่มี ความสามารถภายในจวนมาถูกใจพวกนาง ก็จะมาสู่ขอ พวกนางอย่างแน่นอน

ท่านอ๋องไม่สนใจเรื่องนี้ จึงต้องฟังพ่อบ้านคนเดียว พวกนางไม่ฟังก็ต้องฟัง แล้วจะมีความสุขได้อย่างไร

แต่ถ้าหากสามารถติดตามพระชายาได้ ถ้าหากพระ ชายาให้พวกนางต้องลำบากสักหน่อย ไม่แน่ว่า อาจจะ สามารถขอรางวัลในสิ่งที่ตนเองปรารถนาได้

อายุที่ถึงวัยจะต้องแต่งงานรออยู่ตรงหน้า ถ้าหากพวก นางไม่มีความมุ่งมั่น กฎเกณฑ์ภายในจวน พวกนางมีใครที่ กล้าไม่ทำตาม

แต่เมื่อก่อน มีพี่น้องของพวกนางคนหนึ่ง เป็นเพราะ พ่อครัวในจวนทำงานสำเร็จ จึงได้ขอให้พ่อบ้านจัดงาน แต่งงานให้ พ่อบ้านจึงได้ยกพี่น้องของพวกนางให้แก่พ่อ ครัว พี่น้องคนนั้นร้องไห้ตลอดทั้งคืน ในที่สุดก็ต้อง แต่งงานกับพ่อครัว อีกทั้งพ่อครัวคนนั้นก็มีอายุสามสิบกว่า ปีแล้ว ถึงแม้จะเป็นคนซื่อสัตย์ แต่ก็ไม่ใช่คนที่พี่น้องของ พวกนางอยากจะแต่งงานด้วย

ถ้าหากเหมือนกับอาหยู่ พวกนางก็คงเต็มใจ แต่น่า เสียดายที่ไม่มีใครมอบของขวัญเช่นนั้นให้ พวกนางจึงทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมในสิ่งที่พ่อบ้านจัดการให้

วันนี้อยู่เรียกพวกนางมา ถือว่าเป็นโอกาสที่หาได้ ยากยิ่ง จึงต้องรักษาเอาไว้ให้ดี!

“พวกเจ้ารอก่อน” อันหลิงหยุนสั่ง แล้วจึงไปดูอาหยู่ “ให้ใช้ผ้าม่านหนาสีขาว แยกสองฝั่งออกจากกัน”

“หม่อมฉันจะไปทำเดี่ยวนี้” อาหยู่หันหลังเดินจากไป อย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เตรียมของกลับมาเรียบร้อย

ไป

อันหลิงหยุนยืนออกคำสั่ง อาหยู่ก็เรียกคนมาแขวนขึ้น

อันหลิงหยุนรูดม่านทั้งสองฝั่งเข้าหากัน แล้วเดิน เข้าไป

เหล่านักบัญชีต่างมองท่านอ๋องที่นั่งดูสมุดบัญชีอย่าง เงียบสงบมาโดยตลอด แล้วจึงก้มหน้าทำงานกันต่อ

เพียงแต่เหล่านักบัญชีต่างรู้สึกลังเลอยู่ในใจเท่านั้น พักนี้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋องและพระชายานับวันจะ ยิ่งดูแน่นแฟ้นขึ้นทุกที

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน พระชายาไม่ต้องถึงขั้นก่อความ วุ่นวายเช่นนี้ แค่ขอเข้ามาพูดคุยเพียงสักหนึ่งประโยค ก็ จะถูกท่านอ๋องโยนออกไปอย่างไม่ใยดี

อันหลิงหยุนเริ่มต้นกระบวนการต่างๆอยู่ด้านใน อาหยู่ เองก็ยืนอยู่ด้านในเพื่อรอรับคำสั่งอยู่ตลอดเวลา

“อาหยู่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าแถวนี้มีหนอนไหมบ้างหรือ เปล่า?” อันหลิงหยุนถามอยู่ด้านใน กงซิงวี่เงยหน้ามองเข้าไปด้านใน ถึงแม้จะมองไม่เห็น แต่ก็ได้ยินเสียงของ นางที่อยู่ด้านใน

“ตอนนี้ไม่มีไหมพ่ะย่ะค่ะ หนอนไหมจะมีในช่วงฤดู ใบไม้ผลิ พระชายาต้องการหนอนไหมไปทำอะไรฟะยะ ค่ะ?”

“ข้าต้องการรังไหม อีกทั้งยังต้องการที่ยังสดอยู่” อัน หลิงหยุนรู้สึกว่าสิ่งนี้ทำให้อาหยู่ลำบากใจไม่น้อย พูดไปก็ เปล่าประโยชน์

แต่นางจะลองถามจากหมอจวนที่อยู่ในจวนสักสอง สามท่านดู ว่ามีคนรู้เรื่องของไหมบ้างหรือไม่

“อาหยู่ เจ้าไปเชิญหมอจวนที่อยู่ในจวนมาให้ข้า บอก ว่าข้ามีเรื่องจะปรึกษา”

“พ่ะย่ะค่ะ”

อาหยู่เองก็ไม่เข้าใจ พระชายานำสมุนไพรบางตัวมา ทำเป็นผงยา ตุ๊บๆตับๆกำลังทำอะไรอยู่ จึงรีบออกไปหา หมอจวนมา

หมอจวนมาถึงทีละคนๆ เมื่อเห็นกงชิงวี่ก็ทำความ เคารพก่อน แล้วจึงตามไปพบอันหลิงหยุน

“หม่อมฉันถวายบังคมพระชายา” เหล่าหมอจวนต่าง ทำความเคารพ อันหลิงหยุนไม่มีพิธีรีตอง ถามขึ้นทันทีว่า= “ขอถามหมอจวน น่าจะมีคนพอรู้ว่าจะหาหนอนไหมได้ จากที่ไหน ข้าต้องการที่ยังมีชีวิตอยู่”

“เรื่องนี้ ? ”
เหล่าหมอจวนต่างส่ายหน้า มีเพียงหนึ่งคนที่ลังเลแล้ว ถามว่า: “ทูลถามพระชายา จะหาหนอนไหมไปทำอะไร หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“ข้าต้องการผ้าไหมเทียม เท่าที่ข้ารู้มา บนโลกนี้มี หนอนไหมอยู่หนึ่งชนิด เรียกว่าหนอนไหมฤดูหนาว สามารถผลิตเส้นไหมได้ในช่วงฤดูหนาว และสร้างรังไหม แต่ข้าไม่รู้ว่าที่นี่มีหรือไม่”

อันหลิงหยุนแน่ใจว่า หนอนไหมสามารถผลิตเส้นไหม ในฤดูหนาวได้เช่นกัน อีกทั้งนางเองก็เคยเห็นเมื่อนานมา แล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าที่นี่มีหรือไม่

หมอจวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง: “ทูลพระชายา ในบ้านของ หม่อมฉันเลี้ยงหนอนไหมฤดูหนาวไว้จำนวนหนึ่ง เพียงแต่ พวกมันไม่สามารถผลิตรังไหมได้”

“จริงหรือ?”

อันหลิงหยุนรู้สึกตื่นเต้นดีใจ นางไม่คิดว่าจะมีจริงๆ หมอจวนรู้สึกว่าต้องเจอเรื่องลำบากแน่

พระชายาเป็นคนเช่นไร พวกเขาได้ยินมานานแล้ว ไม่รู้ว่าคิดจะทำอะไรอีก

อันหลิงหยุนถามขึ้นทันที: “หมอจวนท่านนี้ ไม่รู้ว่าถ้า หากคืนนี้ข้าจะขอไปยืมใช้หนอนไหมฤดูหนาวของท่าน สักหน่อย ท่านจะเต็มใจหรือไม่?”

กงชิงที่มุมปากกระตุกเล็กน้อย กำลังเปิดสมุดบัญชีดูอยู่
หมอจวนมีสีหน้ากังวล : “พระชายา บ้านของหม่อมฉัน ไม่เป็นระเบียบ อีกทั้งหนอนไหมฤดูหนาวมีนิสัยตาม ธรรมชาติที่ชอบอยู่อย่างสงบ ไม่สามารถดูตามอำเภอใจ ได้”

“เรื่องนี้ข้ารู้ดี หนอนไหมฤดูหนาวของท่านเหล่านั้น ข้า ต้องการใช้จริงๆ ไม่ว่าราคาเท่าไหร่ ท่านก็สามารถบอกข้า ได้ ข้าจะชดเชยให้แก่ท่านเอง”

“พระชายา หม่อมฉันรู้สึกเสียดายจริงๆ ขอพระชายา ทรงถอนรับสั่งคืนด้วยพ่ะยะค่ะ” หมอจวนไม่กลัวอันหลิง หยุน อันหลิงหยุนต้องอยู่ในจวนอ่องเสียนอย่างดิ้นรน กี่ ครั้งแล้วที่ท่านอ๋องคิดจะกำจัดนาง ทุกคนในจวนต่างรู้ดี หมอจวนถึงได้ใจกล้าเช่นนี้ กล้าปฏิเสธอย่างตรงไปตรง มา

อันหลิงหยุนเองก็รู้ว่าคนในจวนอ๋องเสียนก็ไม่ได้ให้ ความสำคัญกับนาง และที่สำคัญนางเองก็ไม่ได้สนใจ

“หมอจวน หนอนไหมฤดูหนาวของท่านซื้อมา หรือ ตนเองเป็นคนหามา?” ไม่ให้ก็ไม่อาจแย่งได้ แต่อันหลิงหย นอยากจะไปหา จะต้องมีวิธีอย่างแน่นอน

หมอจวนเองก็ซื่อสัตย์: “ทูลพระชายา หม่อมฉันจับมา จากบนเขาพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้น จับมาจากบนเขาลูกไหนกัน?”

“ที่ภูเขาสือหลี่พ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นหมายความว่าภูเขาสือหลี่มีหนอนไหมฤดู หนาว?” อันหลิงหยุนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
หมอจวนพยักหน้า: “จริงๆแล้วหนอนไหมฤดูหนาว สามารถใส่ลงไปในยาได้ หม่อมฉันจับหนอนไหมฤดูหนาว เพื่อที่จะนำมาใส่ยา มารดาของหม่อมฉันนอนติดเตียงอยู่ หลายปีแล้ว เป็นเพราะอาการร้อนใน หนอนไหนฤดูหนาว เป็นหนอนที่พบได้ยากชนิดหนึ่ง หากบดเป็นผงแล้วใส่ลง ไปในยา จะมีฤทธิ์แก้ร้อนใน

ดังนั้นคำขอของพระชายา หม่อมฉันจึงยากที่จะทำ ตามได้”

“ไม่เป็นไรหรอก จิตใจที่กตัญญูของท่านข้าเองก็รู้สึก นับถือจากใจจริง ในเมื่อภูเขาสือหลี่มีหนอนไหมฤดูหนาว เช่นนั้นข้าจะไปจับด้วยตนเอง หมอจวน อาการร้อนใน ของแม่ท่าน ได้เคยลองรักษาด้วยชะเอมหรือไม่?”

อันหลิงหยุนเหมือนจะนึกอะไรออกจึงค่อยๆถามดู จะ ว่าไปแล้วคนที่มีฐานะก็สามารถทำผิดพลาดได้เช่นกัน เป็นเพราะกินแต่ของดีๆ และกินแต่ของบำรุงร่างกายอยู่ ตลอด

แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่า ของบำรุงบางอย่างก็ให้โทษ ได้เช่นกัน

หมอจวนตะลึงอยู่นานสองนาน: “พระชายาทรงชี้แนะ

ด้วย”

“อืม..ชะเอมมีฤทธิ์อุ่น อีกทั้งปกติแล้วหมอจวนเป็น คนที่มีความกตัญญู การเตรียมอาหารให้แม่ในแต่ละวัน นั้นจึงพิถีพิถัน หากเป็นตามที่ว่า โสม เก๋ากี้ ลำไย สิ่งเหล่า นี้ที่มีฤทธิ์บำรุงก็น่าจะมากพอสมควร หากกินปีละสองครั้งในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากกินใน ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ของบำรุงเหล่านี้ก็จะยิ่ง ทำให้ร้อนในยิ่งขึ้น

ร้อนในมีหลายแบบ แต่หากมีสาเหตุมาจากยาบำรุง ก็ จะมีอาการไอเกิดขึ้น อีกทั้งการไอลักษณะนี้จะไม่เหมือน กับการไอเพราะสัมผัสกับอากาศเย็น ภายในจะมีเสมหะ อุดตัน หายในเหนื่อยหอบ เหมือนกับแสร้งทำออกมา ทุก ครั้งที่ไอก็จะเจ็บหน้าอก อีกทั้งในตอนกลางคืน ก็จะ คอแห้งเป็นพิเศษ ไม่ทราบว่ามีอาการเช่นนี้ใช่หรือไม่ ?”

“พระชายา ทรงพระปรีชานัก” หมอจวนมองอ้าปาก ค้าง รักษาโรคมาก็หลายปี แต่การรักษาแม่ตัวเองกลับ ยากเกินความสามารถ

หาหมอมามากมายก็ไม่เป็นผล เขาถึงคิดที่จะใช้ หนอนไหมฤดูหนาว

แต่วันนี้ได้รับการคลี่คลายจากพระชายา ทันใดนั้นจึง เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง

เป็นเช่นนั้นเอง

อันหลิงหยุนพูดต่อ “คนอายุมาก ถึงแม้จะร้อนใน ก็ไม่ ควรใช้หนอนไหมฤดูหนาวในการดับร้อน ความเย็นของ หนอนไหมฤดูหนาว ชายวัยหนุ่มบางคนรับได้ แต่ถ้าหาก ใช้กับแม่ของท่านล่ะก็ เกรงว่าจะยิ่งเป็นการทำร้าย”

“พระชายา เช่นนั้นสามารถใช้ชะเอมได้ไหมพ่ะย่ะ ค่ะ?” ตอนนี้หมอจวนรู้สึกเป็นห่วงว่าจะรักษาแม่ของตนเอง ให้หายได้อย่างไร
อันหลิงหยุนส่ายหน้า: “ชะเอมเหมาะที่จะใช้อย่างค่อย เป็นค่อยไป แต่หากยาชนิดนี้ กินมากเกินไปก็จะทำให้ติด นานวันไป ไม่กินก็จะทำให้ไอได้”

“พระชายา เช่นนั้นทำอย่างไรดีพะย่ะค่ะ?” หมอจวน ร้อนใจ

อันหลิงหยุนคิดชั่วครู่: “ชะเอมสามารถใช้ได้ใน ปริมาณน้อย อาการร้อนในของแม่ท่าน ต้องกำจัดตัวยา บำรุงออกจากร่างกายให้หมดเสียก่อน ทุกวันให้เอาแพร์ หิมะต้มน้ำ กินวันละสามครั้ง ถ้าหากรู้สึกว่าไม่มีรสชาติ ให้ ใส่น้ำผึ้งลงไปเล็กน้อยเพื่อแต่งรส ทุกมื้ออาหารให้เตรียม แตงโมให้แก่แม่ของท่าน หนึ่งชิ้นใหญ่ๆใส่ในถ้วยใบเล็กๆ ก่อนนอน ให้เตรียมแก้วมังกรให้ กินเสร็จแล้วก็พักผ่อน

ลองทำติดต่อกันหนึ่งเดือน

“พระชายา แค่นี้เองหรือพ่ะยะค่ะ?”

“อืม ขะเอมก็อย่าหยุดกิน ให้ต้มกับน้ำกินแทนน้ำชาใน ทุกๆวัน”

“หม่อมฉันจะกลับไปลองดูเดี่ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”

หมอจวนลุกขึ้นเดินจากไป หมอจวนคนอื่นๆต่างก็หัน มองหน้ากัน ถึงแม่ทุกคนจะเป็นหมอ แต่ก็ต่างมีโรคที่ รักษาไม่ได้ ดังคำกล่าวที่ว่าหมอไม่สามารถรักษาตัวเอง ได้ เป็นเพราะเหตุผลเช่นนี้เอง

ความเจ็บป่วยตลอดหลายปีของแม่หมอจวนในที่สุด ก็ได้รับการยืนยันแล้ว แต่ทักษะทางการแพทย์ของพระ ชายา พวกเขาได้ยินมานานแล้ว แต่เพิ่งจะได้มาเห็นด้วยตาตนเอง

แล้วพวกเขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร

อันหลิงหยุนโบกมือ: “หมดเรื่องแล้ว เชิญหมอจวนทุก ท่านกลับได้ วันนี้รบกวนพวกท่านมาก ข้าจะตอบแทนให้ อย่างงาม”

อันหลิงหยุนอยากจะส่งหมอจวนทุกคนกลับด้วยความ เกรงใจ แต่เหล่าหมอจวนกลับไม่มีใครลุกขึ้น

อาหยู่พูดขึ้นว่า: “พระชายาเชิญทุกท่านกลับไป ทุก ท่านเชิญกลับเถอะ”

หมอจวนต่างมองหน้ากัน แล้วโค้งตัวก้มหน้าลง ไม่ไป

ไหน

อันหลิงหยุนถาม: “ทุกท่านยังมีเรื่องอะไรอีกหรือ?”

“พระชายา ลูกชายของหม่อมฉัน ตอนยังเป็นเด็กได้ รับความตกใจ จนบัดนี้กลายเป็นคนเหม่อลอยอยู่ที่บ้าน ทุกวันมีแต่เพียงการกินข้าว นอนหลับที่เขารู้เรื่อง ส่วนเรื่อ งอื่นๆเขาไม่รู้เรื่องเลย ไม่ทราบว่าพระชายาทรงพอจะมีวิธี หรือไม่ หรือบางทีอาจจะเป็นสูตรยาก็ได้พ่ะย่ะค่ะ พระ ชายาทรงฉลาดเหนือคน ทักษะทางการแพทย์ก็หาที่ เปรียบมิได้ หากสามารถชี้ทางสว่างให้ได้ หม่อมฉันจะ ซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง” หนึ่งในบรรดาหมอจวน มีคนหนึ่ง ที่ดูอยู่ในวัยกลางคนไม่หนุ่มไม่แก่ อายุน่าจะไม่เกินสี่ห้า สิบปี ก้มหน้าก้มตาพูดกับอันหลิงหยุนด้วยสีหน้าจริงจัง

อันหลิงหยุนรู้สึกเศร้าใจ จริงอยู่ที่นางเป็นหมอ แต่นาง ไม่สามารถรักษาคนปัญญาอ่อนได้ และสิ่งที่หมอจวนพูดมานี้ หากคนหนึ่งคนได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจอย่าง รุนแรง จึงไม่พูดไม่จา เช่นนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าตกใจจนกลาย เป็นออทิสติก

“ท่านหมอจวนท่านนี้ ที่ท่านพูดมาคงจะเป็นออทิสติก ข้าเป็นหมอก็จริง แต่ข้าไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคออทิสติก” อันหลิงหยุนตอบตามความจริง ไม่อยากให้ความหวัง ลูกชายของหมอจวน

“ออทิสติก?” หมอจวนไม่เคยได้ยินโรคนี้มาก่อน จึง รู้สึกฉงนเกี่ยวกับโรคนี้ อีกทั้งยังหันไปมองเพื่อนร่วมงาน คนอื่นๆด้วย

อันหลิงหยุนเองก็รู้ว่าคนสมัยโบราณไม่เข้าใจเรื่อง พวกนี้ นางได้แต่อธิบายให้เหล่าบรรดาหมอจวนฟังอย่าง อดทน ว่าอะไรคือออทิสติก คร่าวๆคือคนที่ได้รับความ กระทบกระเทือนทางจิตใจจนปิดตัวเองจากโลกภายนอก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ