ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 94 ข้ามประตูเยี่ยมเยียน



บทที่ 94 ข้ามประตูเยี่ยมเยียน

เมื่อมาถึงวังจิ่งซิ่ว อันหลิงหยุนมองไปยังกงชิงวี่ที่อยู่ข้าง กาย ใบหน้าคมคายของกงชิงวี่ยังคงนิ่งสงบ ราวกับเรื่อง เข้าวังและต้องมาพบกับเซียวกุ้ยเฟย ไม่ได้อยู่ในใจที่ต้อง คิดอะไรเลย

เป็นอันหลิงหยุนเองที่คิดมาก

อย่างแรกคือเพราะไม่เคยพบกับเซียวกุ้ยเฟยผู้นี้มาก่อน ไม่มีความทรงจำใดๆ กับกุ้ยเฟยผู้นี้มาก่อนเลย อย่างที่สองคือที่ฮ่องเต้เรียกนางมาต้องเป็นเพราะเพื่อ

รักษาอาการป่วยเป็นแน่

อันหลิงหยุนถูกกักบริเวณประมาณกว่าครึ่งเดือนเห็นจะ ได้ ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ไม่นับว่ามีรับสั่งพิเศษอะไร ที่จริงแล้วอัน หลิงหยุนนับว่ารอคอยมาโดยตลอด

รักษาโรคให้กับฮ่องเต้ เหมือนก้าวเข้าสู่อันตราย เพียง ประมาทนิดเดียวแม้ชีวิตก็ไม่อาจรักษาไว้ได้

อันหลิงหยุนอยากจะปาดเหงื่อให้กับตัวเองเสียจริง! เมื่อสวีกงกงเข้าไปรายงาน อันหลิงหยุนจึงเอ่ยถาม

“กุ้ยเฟยเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้แล้วหรือ?

“ข้าจะรู้ได้อย่างไร ตัวข้าก็ไม่ได้อยู่ในวัง เจ้าสงสัยมาก ก็ไปถามฮ่องเต้เองสิ” กงชิงวี่เอ่ยตอบเสียงราบเรียบ

อันหลิงหยุนฟังดูก็รู้สึกแปลกประหลาด แต่ก็ฟังไม่ออก ว่าประหลาดตรงไหน
สวีกงกงกลับมาอย่างรวดเร็ว ประกาศรับสั่งฮ่องเต้ อัน หลิงหยุนและกงชิงวี่จึงเข้าไปในวังจิ๋นซึ่ว

วังจิ่นซิ่วเวลานี้มีแมกไม้มากมาย กลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว อันหลิงหยุนก้มหน้าลงพลางเดินตามไป แล้วจึงมาหยุดอยู่ เบื้องหน้าฮ่องเต้ชิงหยู่

คลายชายเสื้อลง อันหลิงหยุนเตรียมคุกเข่าลง พลันมี เสียงของฮ่องเต้ชิงหยู่เบื้องหน้าลอยมา “ช่างเถอะ ที่นี่ไม่มี คนนอก”

“หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาท” อันหลิงหยุนลุกขึ้นยืนแต่ ก็ยังก้มหน้าลงต่ำ ดูท่าทางครุ่นคิดอะไรอยู่ตลอด

ฮ่องเต้ชิงหยู่เอ่ยขึ้น “นั่งลง”

มีคนยกเก้าอี้มาให้ กงชิงวี่ยังมีท่าทีดังเดิม ดูไม่ได้กริ่งเก รงใดๆ เดินไปพลางนั่งลง อันหลิงหยุนเดินตามไป แล้วจึง ค่อยๆ นั่งลง

“รูปงามของพระชายาอ๋องเสียน ได้พบกันวันนี้ นับว่างาม งดจนทำให้เซียวเซียวข้าตกตะลึง” เสียงของสตรีนางนั้นดู อ้อมค้อม ส้มเสียงงดงาม อันหลิงหยุนใจเต้น นางน่ะหรือ คือจุนเซียวเซียว?

อย่าว่าแต่จะได้เจอนาง แม้สุ้มเสียงยังใสสะอาดงดงาม ปานนี้ นางได้ฟังแล้วก็ยังใจเต้น ไม่ต้องพูดถึงบุรุษเพศเลย เสินหยุนซูเอียเสินหยุนชู นับว่าเจ้าโชคร้ายเสียแล้ว

นับแต่โบราณมาฮ่องเต้ล้วนไร้ใจ วังของฮ่องเต้เหล่านี้ไม่ เคยขาดเรื่องการแย่งชิงความรัก
ฮ่องเต้ชิงหยู่แม้จะไม่มีพระชายารองมาหลายปีแล้ว เพียงโปรดปรานเสินหยุนซูผู้เดียว แต่ทว่าในวันนี้นับว่าหวา งฮองไทเฮาราวกับถูกตบหน้า มือที่ตบออกไปนี้ นับเป็น เพียงการเริ่มต้น เรื่องราวยังมีให้ติดตามอีกมาก

หากเป็นครอบครัวธรรมดาสามัญก็ไม่นับอะไร แต่ติดอยู่ ที่จุนเซียวเซียวเป็นบุตรีของราชครูของฮ่องเต้ รวมกับ อำนาจที่ราชครูจุนมีในราชสำนัก หากฮ่องเต้ไม่รับไว้ ก็นับ ว่าเสียมารยาทแล้ว

ตัวคนเองก็งามงดขนาดนี้ ในเวลาอันสั้นอาจมองดูยังไม่ เห็นอะไร แต่หากในระยะยาวเกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องดีนัก

“ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน พระชายาเสียนนับว่างดงามขึ้น มาก คิดว่าอ๋องเสี่ยนอบรมเป็นอย่างดี” ฮ่องเต้ชิงหยู่ยกคิ้ว มองไปยังกงชิงวี่ที่นิ่งไม่ไหวติง

กงชิงวี่มองสบตาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย และก็ยังไม่พูด อะไรต่อไป

ฮ่องเต้ชิงหยู่เห็นเขานั่งนิ่งไม่ไหวติง เหมือนไม่ได้ยิน

อันหลิงหยุนกลับเข้าใจได้ ความสัมพันธ์ของพี่น้องทั้ง สอง ที่แท้แล้วก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีเรื่องของประเทศ มีแต่เรื่อง ครอบครัว

อย่างน้อยที่กงชิงที่เป็นอย่างนี้ เมื่อข้องเกี่ยวกับฮ่องเต้ชิง หยู่ เขามักไม่เต็มใจ แม่ใบหน้าก็ไม่เต็มใจด้วย

“พระชายาเสียน เงยหน้าขึ้น” ฮ่องเต้ซิงหยู่กำชับ อันหลิง หยุนจึงเงยหน้าขึ้น
จุนเซียวเซียวถึงกับตะลึงงันไป ใบหน้าอันงามงดมีร่อง รอยความเขินอายปรากฏอยู่ “พระชายาเสียน ไม่เจอกัน นานเลย! ”

อันหลิงหยุนกลับจำไม่ได้ ภายในความทรงจำตัวเองกลับ จำไม่ได้ว่าเคยพบจุนเซียวมาก่อน

“เซียวกุ้ยเฟยเคยพบข้าแล้ว? ” อันหลิงหยุนเอ่ยถามน้ำ

เสียงราบเรียบ

“เคยพบเมื่อครั้งยังเด็ก สิบปีก่อน ตอนนั้นเรายังเล่นอยู่ ด้วยกัน พระชายาเสียนดูท่าจะจำไม่ได้เสียแล้ว” จุนเซียว เซียวหัวเราะอย่างอ่อนหวาน ยิ่งดูทรงสง่ามากขึ้น

นางยังเด็ก นับว่ามีต้นทุนของความเยาว์วัยอยู่

อันหลิงหยุนจึงเอ่ยอย่างกระอักกระอ่วนใจ “ข้าจำไม่ได้ แล้ว ต้องขอเชียวกุ้ยเฟยอย่าได้โกรธเคือง! ”

“ข้าไม่โทษเจ้าหรอก”

บรรยากาศโดยรอบอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา แต่ใจในอัน

หลิงหยุนเต้นรัวราวกับตีกลอง คนอย่างจุนฉูฉแบบนั้น หรือ ว่าน้องสาวนางจะเป็นคนสัตย์ซื่อไปได้? ฮ่องเต้ชิงหยู่เอ่ยถาม “ช่วงนี้ข้ารู้สึกเหนื่อยอ่อเหลือเกิน

ได้ยินมาว่าฝีมือปรุงยาของพระชายาเสียนเก่งกาจนัก ลอง ตรวจให้ข้าซิ?

อันหลิงหยุนรออยู่พอดี และก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป เมื่อทำ เสร็จจะได้กลับ
หากไม่สามารถจริงๆ จะได้ไม่ต้องยุ่งกับตระกูลนี้มาก จึงลุกขึ้นพลางโค้งนับเป็นบารมีของหม่อมฉันยิ่ง

นัก”

ฮ่องเต้ชิงหยู่คลายเสื้อออก และวางมือลง

อันหลิงหยุนเดินขึ้นไปนั่งข้างหน้า จับชีพจรให้กับฮ่องเต้

ชิงหยู่

เมื่อสำรวจทั่วร่างแล้ว อันหลิงหยุนจึงถอนมือกลับ ลุกตัว ขึ้นยืนแล้วโค้งคำนับ “ฝ้าบาท เพียงพักผ่อนดึกเล็กน้อย เพียงพักผ่อนให้เร็วขึ้นก็เพียงพอแล้ว”

อิม”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ มองไปยังจุน”วันนี้กุ้ยเฟยต้อง น้อมทักทายฮองเฮา พวกเจ้ากลับไปก่อนเถิด”

“ข้าขอตัว”

“หม่อมฉันขอตัว”

กงชิงดีใจเป็นที่สุด รีบลุกกายออกไป

อันหลิงหยุนตามติดไป เมื่อออกจากวังจิ่งซิ่วแล้วกงชิง เดินนำหน้าอันหลิงหยุนตามติดไป ออกจากวังหลวงไปใจ ตุ้มๆ ต่อมๆ

กลัวว่าฮองเฮาจะออกมาจับนาง!

รับของสำคัญของฮองไทเฮาแล้ว ยังไปวังซิ่วอีก

ฮองเฮารู้เข้าจะคิดอย่างไร?
เมื่ออันหลิงหยุนกลับเข้ารถม้าได้สำเร็จก็ถอนหายใจ เฮือกใหม่ พลางพิงศีรษะเข้ากับผนังรถก็หลับไปเลย

กงชิงวี่กลับมองดูสตรีที่อยู่ด้านล่างอย่างเบื่อหน่าย แม้ จะนอนท่าที่น่าเกลียด แต่เขากลับไม่เคยรังเกียจเลย

ระยะหลังมานี้เขาก็มักจะจดจ้องไปที่นาง ในตอนค่ำคืนที่ นางทำลายขวด เขาไม่ได้ใส่ใจเงินที่เสียไปกับการทำเตา เผา แต่กลับเกรงว่าเครื่องดินเผาจะบาดมือนาง

เขาขยี้ที่หว่างคิ้ว กงชิงวี่พริ้มตาลงพักสายตา

รู้สึกได้ว่านางพลิกตัวแล้วกอดที่ขาเขา กงชิงวี่ลืมตาขึ้น มอง และไม่ลังเลอีก อุ้มนางขึ้นไว้ในอ้อมกอด เพียงครู่ เดียวอันหลิงหยุนก็ลืมตาขึ้น

ในขณะที่สะลึมสะลืออยู่ อันหลิงหยุนจ้องมองไปยังกง

ชิงวี่

เมืองสองสายตาประสานกัน กงชิงวี่บีบคางอันหลิงหยุน เบาๆ “ข้าจะยังไม่แต่งพระชายารองในตอนนี้”

เมื่อพูดจบก็จูบนาง อันหลิงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็

ดื่มไปกับจุมพิตนั้น ทั้งสองคนกอดรัดกันภายในรถม้า ภายในร่างอันหลิงหยุนเริ่มคุกรุ่นขึ้น ราวกับมีอะไรจะ ปะทุขึ้นอย่างไรอย่างนั้น

กงชิงวี่รู้สึกมีอะไรผิดแปลกไป อันหลิงหยุดกอดรัดกาย เขาไว้ ดูแล้วเร่งรีบยิ่งกว่าเขาเสียอีก

“ไม่อายเลยนะ! ”
เมื่อผลักใบหน้าของอันหลิงหยุนออกได้ กงชิงวี่จึงลอบ ถอนหายใจ

อันหลิงหยุนพริ้มตาลง ภายในใจว่างเปล่า อดไม่ได้ต้อง ลืมตาขึ้นมอง ใบหน้าแดงระเรื่อ เมื่อรวมกับความรู้สึกเจ็บ ปวดภายในกาย ทำให้นางน้ำตาไหลริน

ใบหน้ากงชิงวี่แดงฉาน สายตาสะท้าน รีบเอ่ยอย่าง ร้อนรน “ข้ากับเจ้าทำวามเคารพฟ้าดินแล้ว หรือข้าเอา เปรียบเจ้า? ”

สตรีนางนี้รังเกียจเขากงชิงที่รับรู้อยู่เสมอมา เมื่อเห็นนาง ทำที่จะร้องไห้ จึงเกิดอารมณ์โกรธขึ้น เมื่อสายตาประสานกันอันหลิงหยุนลามเลียริมฝีปาก “ข้า

รู้สึกไม่ใคร่สบายตัว! ”

เป็นอาการที่บอกไม่ถูก ราวกับร่างกายมิใช่ของนาง

ตอนแรกนางอยากอธิบายความจริงให้ฟัง แต่เสียงที่ออก มาราวกับกำลังเว้าวอน

กงชิงวี่ก้มหน้าลงจุมพิตนาง อันหลิงหยุนพลันรู้สึกสบาย

ตัวขึ้น ไม่ลืมที่จะรุกกลับไป เมื่อกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่นั่นเอง รถม้าก็พลันหยุดลง

กงชิงวี่พลันขมวดคิ้วเข้ม “อาหยู่

“นายท่าน มาถึงแล้ว” อาหยู่ก็ไม่อยากให้ถึง แต่ระยะมัน

ก็เท่านี้

“วนรอบหนึ่ง”
กงชิง ที่สั่ง อาหยู่ไม่ขยับ

“นายท่าน มีแขกขอรับ”

อันหลิงหยุนจึงสงบกายสงบใจลง รีบสวมใส่เสื้อผ้าให้ เรียบร้อย รีบลุกจากใต้ร่างกงชิงวี่ออกไป รีบลงจากรถม้า ไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อนางลงมาจากรถม้าแล้ว จึงได้เห็นชัดแขกที่มาเยือน หากไม่ใช่จุนฉูฉูและอ่องตวนแล้วจะเป็นใครไปได้?

อ่องตวนหยุดรถม้าหน้าประตูจวนอ่องเสียน อ่องตวน สวมอาภรณ์สีน้ำเงิน คลุมตัวด้วยขนหมาจิ้งจอก ด้านข้างมี จุนฉูฉูยืนอยู่สวมอาภรณ์สีเดียวกัน

ดูแล้วจุนฉูฉูก็นับว่าไม่มีเรื่องอะไร ยืนอยู่ตรงประตูด้วย ท่าทีสงบเสงี่ยม

อันหลิงหยุนลงจากรถม้าก็ยังไม่ได้เดินไปไหน เมื่อยืน

สงบอยู่ครู่หนึ่ง กงชิงวี่ก็ตามลงมา

เดิมที่ต้องการคิดบัญชีกับอันหลิงหยุน แต่เมื่อลงจากรถ พลันเห็นจุนฉูฉูและกงชิงหยิน จึงกดเก็บเรื่องของอันหลิง หยุนไปก่อน

“พี่สองทำไมถึงมีเวลามา? ” กงชิงที่พูดไปก็จัดเสื้อผ้า อาภรณ์ให้เรียบร้อย

ใจของจุนฉูฉูราวถูกมีดกรีดปัก จะอย่างไรก็ไม่เข้าใจนัก คนอย่างอันหลิงหยุน ทำไมถึงล่อลวงกงชิงวี่ไว้ได้

“ที่มาวันนี้ตั้งใจมาคุยต่อเรื่องที่คุยที่ไว้คราวที่แล้ว ข้าและก็อยากจะสานสัมพันธ์ระหว่างพวกเรา ให้สองบ้าน รักสามัคคีกัน” จูงมือจุนฉูฉูไปเบื้องหน้าอันหลิงหยุ นและวี่พลางเอ่ยคำ

ไม่ได้รู้สึกอะไร เอ่ยเสียงราบเรียบ “เดิมทีก็ไม่ได้มี เรื่องอะไร หากมีอะไรก็บอกกล่าวได้ ท่านพี่คิดมากไปแล้ว”

อันหลิงหยุนยิ้มราบเรียบ นี่กำลังเล่มบทอะไรกันอยู่?

“ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรอย่างนั้นต้องขอให้พระชายาเสียน ตรวจดูร่างกายฉูฉูได้ไหม” อ๋องตวนก็ไม่เกรงใจอะไร เมื่อ ไม่มีเรื่องอะไร เขาก็ขอเอ่ยปัก

อันหลิงหยุนก่นด่าในใจ สุดท้ายก็มีเป้าหมายจริงๆ “ร่างกายพระชายาตวนมีอะไรผิดแปลกงั้นหรือ? ” กงชิง

“อืม น่าจะเกี่ยวกับเรื่องมีบุตร” กับเรื่องนี้แล้วอ่องตวนถึง กับลังเล แต่งงานกันมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีท่าทีใดๆ

แต่จะอย่างไรก็ไม่รีบนัก เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเสด็จ แม่เอ่ยถามเรื่องนี้ขึ้น เมื่อดูแล้ว คิดว่าเขาเองไม่นับว่ามี ปัญหาใด หมอหลวงตรวจดูแล้วเอ่ยว่ามดลูกของฉูฉูมี ความชื้นเย็น ในเวลานี้ยังไม่มีวิธีรักษาที่เร็วที่สุด

เสด็จแม่คิดจะให้เขาแต่งพระชายารอง จึงเร่งมาที่นี่

ในเมืองหลวงต่างมีแต่คนเอ่ยถึงวิธีการรักษาของอันหลิง หยุน สามารถรักษาลูกชายหมอประจำจวนให้หายได้ พวก เขาเองก็ไม่มีหนทางใดๆ แล้วเช่นกัน
วี่หัวเราะขึ้น ร่างกายของนางเองยังดูแลได้ไม่ดี ไข่ตกผิดปกติ พี่สองยังเชื่ออีกหรือ? ”

“อะไรนะ? ”

อ่องตวนพลันตะลึงไป!

พลางมองไปที่อันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนเองก็กำลังปวดหัวหาวิธีปฏิเสธอ่องตวนอยู่ ยิ่งเขาเองก็เป็นถึงท่านอ่อง หากนางปฏิเสธแล้ว ได้ยินไป ถึงวังหลวง อย่าว่าแต่ฮ่องเต้เลย แม้ฮั่วไท่เฟยก็จะพาล เกลียดนางเอา จะพากันมาเอาเรื่องนางล่ะไม่ว่า ยิ่งไปกว่า นั้นนางและจุนฉูฉูเองก็เป็นพี่น้องสะใภ้กัน แม้พี่น้องสะใภ้ ไม่ถูกกัน แต่เบื้องหน้าอย่างไรก็ต้องเล่นละครเสแสร้งไป

แต่หากเป็นกงชิงเป็นผู้ปฏิเสธ นั่นก็จะนับเป็นเรื่องของ สองพี่น้องแล้ว ยิ่งเมื่อพูดถึงเรื่องที่นางไม่ตกไข่แล้วด้วย

นับเป็นเรื่องธรรมดาสามัญมากทีเดียว

อันหลิงหยุนพอใจเป็นอย่างมาก พลันเอ่ยขึ้น “เป็นเรื่อง จริงไม่ปิดบัง ข้าร่างกายอ่อนแอ เรื่องนี้ไม่เคยเอ่ยออกไป แต่นับว่าเป็นเรื่องจริง ตัวข้าแม้จะเป็นหมอ แต่ข้าก็ไม่นับว่า จะสามารถรักษาได้ทุกสิ่ง หากข้ามีวิธี ก็คงต้องรักษาตัว เองเสียก่อน!

อ่องตวนสีหน้าเปลี่ยนไป มองไปยังจุนที่ยืนอยู่ข้างๆ ภายในใจจุนกำลังยิ้มเยาะ

ดูไปแล้วสวรรค์ยังนับว่าเป็นธรรมกับนาง นางคลอดไม่ ได้ อันหลิงหยุนจะดีไปกว่าสักเพียงไหนเชียว?
“อ่องตวน พระชายาข้าวันนี้เหนื่อยมากแล้ว ต้องขอตัว ก่อน” อันหลิงหยุนดูอ่อนแรงยิ่งนัก พลันหันหลังกลับเข้า จวนเสียนไป

กงชิงวี่พริ้มตาลง มองไปทางคู่สามีภรรยาอ่องตวน “กลับ

ไปเถอะ”

กงชิงวี่พลันหันหลังเดินกลับมา

อ่องตวนยืนอยู่หน้าประตูพยายามมองเข้าไป พลันรู้สึก สงสารคนร่วมชะตากรรมเดียวกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ