ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 121 สามีภรรยาห้ามยุ่งเกี่ยวกัน



บทที่ 121 สามีภรรยาห้ามยุ่งเกี่ยวกัน

หลังจากเข้าประตูแล้ว อันหลิงหยุน ก็ไปพบฮูหยิง แก่ วันนี้ฮูหยิงแก่ดูดีขึ้นมาก เมื่อเห็นหน้าอันหลิงหยุน แล้วก็พยักหน้าให้น้อยๆ

อันหลิงหยุนเข้าไปดูอาการให้นางก่อน

“วันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานมาก หากใช้ยาต่อไป อีกใน หนึ่งเดือนท่านก็จะดีขึ้น ก็ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรักษา ให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถควบคุมเอาไว้ได้” อันหลิง หยุนมองไปที่ลุ่ยหลิ่ว ลุ่ยหลิ่วใส่หน้ากากที่อันหลิงหยุ นเตรียมไว้ และเข้าไปดูแลด้วยตัวเอง

“สิ่งนี้จะช่วยได้กระไร?” ฮูหยิงแก่ไม่ยินยอม กลัว ว่าจะติดต่อไปยังคนอื่น

อันหลิงหยุนเอ่ย “ในเมื่อข้ามาแล้ว ย่อมมิอาจเพิก เฉยได้ ข้าเป็นหมอ ท่านเป็นคนป่วย ดังนั้นท่านต้อง เชื่อฟังข้า”

“ได้”

ฮูหยิ่งแก่เหลือบมองไปที่ซือคงเสี้ยงที่ยืนอยู่กุมมือ ประสานกันอยู่ที่ประตูด้วยความรู้สึกล้ำลึก

ซื้อคงเสี้ยงหันหลังกลับและออกไปข้างนอก เมื่อ วานอันหลิงหยุนไปสอบถามมาแล้ว พวกเขาสามี ภรรยาไม่มีบุตรธิดา ช่างน่าสงสารอย่างยิ่ง ดังนั้นถึงได้ตกต่ำมาถึงจุดนี้

เกิดเรื่องขึ้น แม้กระทั่งความหวังเพียงเล็กน้อยยัง

ไม่มี

ช่วงเช้าใกล้จะผ่านพ้นไป หน้าประตูจวนของซือ คงเสี้ยง มีคนกลุ่มหนึ่งมาเยือน เกิดเป็นเสียงดังวุ่นวาย ขึ้นมา

อันหลิงหยุนกำลังคุยกับฮูหยิงแก่อยู่ หงเถาที่อยู่ ด้านนอกก็วิ่งเข้ามา “พระชายา ท่านอ๋องมาที่นี่แล้ว เพคะ”

“นี่ออกจะไม่ดีอยู่บ้างแล้ว จะจับข้าไม่เห็นจะต้อง มาด้วยตัวเอง” สีหน้าของอันหลิงหยุนอึมครึม นี่มันมาก เกินไปแล้ว

“ไม่ใช่ ท่านอ๋องเสด็จมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ ราวกับว่ากำลังมาหาท่านซือคงเสี้ยง” หงเถาคิดเช่นนี้

อันหลิงหยุนแปลกใจ หรือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน จะมมีส่วนเกี่ยวข้องกับซือคงเลี้ยง?

ซื้อคงเสี้ยงเป็นรองเสนาบดีกรมโยธาธิการแต่เดิม อยู่ภายใต้ความดูแลของกรมโยธาธิการ แต่เขาถูกลด ตำแหน่งเพราะเรื่องเขื่อนตูฟางจู้น หรือว่ามีอะไรเกิด ขึ้น?

หลิงหยุนและฮูหยิ่งแก่พูดคุยสองสามคำและเดิน ไปที่ประตูเพื่อดู แต่นางไม่ได้ออกไป ทำแค่เพียงมองดู จากตรงประตูเท่านั้น
14CT

กงชิงวี่สวมชุดของราชสำนัก ดูออกว่าเขามายังที่ นี่ทันทีหลังจากออกมาจากวัง แม้กระทั่งรองเท้าก็ยังไม่ ได้เปลี่ยน

คนที่อยู่ด้านหลังเขาเหล่านั้น ล้วนอยู่ในชุดราช สำนักเช่นกัน บ่งบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของราชสำนัก

ในเวลานี้ กงชิงวี่กำลังพูดอะไรบางอย่างกับซื้อคง เสี้ยง แต่ใบหน้าของซือคงเสี้ยงนั้นเยือกเย็นอย่างยิ่ง และดูไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้แต่อย่างใด ยากนักที่กงชิงวี่ จะมีความอดทนเช่นนี้ เขาเอ่ยพูดต่อ แต่ซือคงเสี้ยงทำ เพียงแค่ขับไล่ผู้คนออกไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาเช่น เดิม

กงชิงวี่กำลังคิดจะออกไป แต่มองเห็นอาหยูที่ กำลังรอคนอยู่

อาหยูรีบเข้าไปพบเขา กงชิงหันกลับไปมองเจ้า หน้าที่ที่ตามมา และมองไปยังห้องตรงด้านหนึ่ง สีหน้า ของอันหลิงหยุนสลดลง และเดินออกไปอย่างหมด หนทาง

“หม่อมฉันถวายบังคมท่านอ๋อง” อันหลิงหยุนย่อ ตัวคำนับ กงชิงวี่เอามือไพล่หลังและยืนตัวตรง ท่าทาง สง่างาม แต่ความสงสัยในดวงตาของเขานั้นชัดเจน อย่างยิ่ง

“ทำไมพระชายาถึงได้ออกมาอีกแล้ว?” คุมเอาไว้ ไม่อยู่แล้ว?
“ทูลท่านอ๋อง เมื่อวานหม่อมฉันบังเอิญพบกับน้อง ชายผู้หนึ่งด้านนอก เห็นเขากำลังร้องห่มร้องไห้จึงได้ ตามมาดู จากนั้นจึงพบกับฮูหยิงแก่ของจวน ทั้งตัวของ นางกำลังติดเชื้อวัณโรค ดังนั้นจึงได้มาดู” อันหลิงหยุน ตอบตามความเป็นจริง

กงชิงวี่เงยหน้าขึ้นและมองเข้าไปในห้อง “ข้าจะไป ดู”

“เชิญท่านอ๋อง”

อันหลิงหยุนเปิดทางให้เขา ซือคงเสี้ยงยกมือขึ้น คิดที่จะห้าม แต่กงชิงวี่กลับก้าวเข้าไปก่อนแล้ว

ระหว่างทางเขามองดูอันหลังหยุนที่อยู่ข้างกาย แต่อันหลังหยุนไม่ได้เอ่ยพูดอะไร

ถ้านางช่วยเหลือ นั่นแปลว่าช่วยคนอย่างมีเป้า หมาย หากนางไม่ช่วย เขาก็ดูคล้ายจะรับมือลำบาก อย่างยิ่ง

เมื่อเข้าไปในห้อง หงเถาและลุ่ยหลิ่วก็รีบน้อมตัว คำนับ

อันหลิงหยุนนำหน้ากากมาให้กงชิง “ท่านอ๋อง โปรดสวมมันเอาไว้”

“ไม่จำเป็น ข้าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” กงชิงวี่เดิน ไปพบฮูหยิงแก่ และทักทายนาง

“สวัสดีฮูหยิน”
ฮูหยิงแก่มองไปที่กงชิงและกล่าวว่า “ร่างกายคน ชราไม่สะดวก อ๋องเสียนโปรดอภัย”

“ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ข้าแค่ถือโอกาสมาดู คิดซะว่า ข้าเป็นเหมือนคนอื่นๆ ก็พอ”

กงชิงที่นั่งลงทันที และเอ่ยอย่างลำบากใจ “แต่เดิม ข้าไม่ได้สนใจเรื่องนี้ อีกทั้งยังไม่รู้เรื่องบางอย่างของ ราชสำนักเบื้องบน เรื่องของเสนาบดีสำนักตรวจสอบ ราชการนั้นข้าเองก็รู้สึกผิดอย่างยิ่ง ฮูหยินโปรดรักษา ตัวให้ดี ข้าจะคิดหาหนทาง จัดการตำแหน่งให้เสนาบดี สำนักตรวจสอบราชการและฮูหยิน”

“ขอบพระทัยเสียนอ๋อง”

ฮูหยิ่งแก่กล่าวขอบคุณ กงชิงวี่เองก็ไม่ได้พูดอะไร เขาลุกขึ้นและออกไปข้างนอกโดยไม่พูดอะไรอีก

อันหลิงหยุนอดไม่ได้ที่จะมองแผ่นหลังของเขาที่ จากไปด้วยความแปลกใจ คนๆนี้ช่างที่น่าสนใจจริงๆ

เข้าใจอย่างยิ่ง แต่เมื่อเขายิ่งเข้าใจ เรื่องนี้กลับยิ่ง ยากที่จะจัดการ

หลังทานอาหารเย็นเสร็จอันหลิงหยุนก็ค่อยออก จากจวนซื่อคง

นางออกจากจวนและขึ้นรถม้า จากนั้นจึงตรงกลับ ไปยังจวนอ่องเสียน

ในเวลานี้เองกงชิงวี่กำลังยืนรออยู่ที่ประตู อันหลิง หยุนเมื่อเห็นเขา ก็รีบเข้าไปกุมมือของเขาเอาไว้ และทำการตรวจสอบเขาทันที

เมื่อแน่ใจว่าเขาไม่ได้ติดเชื้อนางก็ยังไม่ค่อย วางใจ นางหยิบยาลูกกลอนสำหรับป้องกันโรคขึ้นมา และป้อนให้กับเขา ถึงค่อยรู้สึกโล่งใจ

“ท่านอ๋อง หรือเรื่องที่ท่านพบจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง น้ำ?” อันหลิงหยุนถามเขา กงชิงวี่จับมือนางเอาไว้

“หากวันนี้ไม่มีความดีของพระชายา ข้าคงต้องใช้ ไม้อ่อนหว่านล้อม วันหนึ่งไปหาเจ็ดแปดครั้ง ภายใน สามวัน ข้าก็จะสามารถบอกซือคงเสี้ยงให้ไปได้ด้วย อารมณ์และเหตุผล แต่วันนี้ คงไม่ดีนักที่ข้าจะไปอีก ครั้ง”

กงชิงกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

“ถ้าอย่างนั้นท่านก็ยังคงไปต่อของท่าน ข้าก็ไป ของข้า พวกเราไม่ยุ่งเกี่ยวกัน” อันหลิงหยุนกอดแขน ของกงชิงที่เอาไว้ และพิงลงบนตัวเขา

กงชิงหยุดนิ่งชั่วครู่ จากนั้นจึงมองไปที่ด้านซ้าย และขวา หงเถาลุ่ยหลิ่วรีบถอนตัวออกไปทันที อาหยู เองก็ไม่กล้าที่จะอยู่ต่อ เขารีบหันหลังและจากไปอย่าง รวดเร็ว

“ช่างไม่ละอาย” จนกระทั่งคนจากไป กงชิงวี่ก็ ประณามนาง

อันหลิงหยุนหดหู “ท่านกอดข้าเอาไว้ท่ามกลางที่ สาธารณะ อีกทั้งยังไม่พูดถึงเรื่องที่ท่านทั้งดึงทั้งหยุดข้าเอาไว้ ข้ากอดท่านข้าก็ไม่อายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นข้า เองก็ไม่ได้กอดตัวท่านเอาไว้ ข้าก็แค่กอดแขนท่าน เท่านั้น ท่านกำลังคิดอะไรอยู่กัน?”

“ข้าเป็นบุรุษ เจ้าเป็นสตรี สตรีเดิมก็ควรสงวน กิริยาไว้บ้าง จะมาจู่โจมกอดผู้อื่นก่อนต่อหน้าคนอื่นได้ กระไร? ” กงชิงที่เอาเหตุผลมาพูด

อันหลิงหยุนได้ยินเพียงไม่กี่คำเท่านั้นคือ ผู้ชาย เป็นใหญ่

“งั้นข้าปล่อยก็จบแล้ว”

หลิงหยุนปล่อยมือและเดินเอามือไขว้หลัง

กงชิงวี่เดินตามไป จากนั้นจึงยื่นมือออกไปจับมือ ของนางเอาไว้ และรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและ ดึงอันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนรู้สึกขบขัน ผู้ชายโบราณนี่ช่างผิด ปกติอยู่บ้างจริงๆ

ใครดึงใครเอาไว้แล้วทำไมกัน?

แต่นั่นทำให้เขาภูมิใจ

เมื่อกลับเข้ามาในห้อง อันหลิงหยุนก็พูดเรื่องเก่า อีกครั้ง “พรุ่งนี้ท่านจะไปจวนซือคงหรือไม่?”

“ข้าไม่อยากไป” กงชิงวี่ต้องการหาวิธีอื่น

“ท่านไปยังคงดีกว่า ถ้าหากท่านไม่ไป ข้าก็จะยิ่ง ถูกระแวงมากขึ้น ท่านไปของท่าน ข้าไปช่วยของข้าหากซื้อคงเสี้ยงบอกว่าตกลงก็แปลว่าเขาตกลง หากไม่ ตกลงก็คือไม่ตกลง

ไม่ว่าจะกระไรข้าล้วนไม่เข้าไปแทรกแซง มีเพียง วิธีนี้ ถึงพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้าได้ มิเช่นนั้นข้าคง ได้กลายเป็นคนร้ายที่วางแผนไป

อันหลิงหยุนกล่าวขณะที่เอื้อมมือไปปลดคอเสื้อ ของกงชิงวี่ และช่วยเขาปลดเสื้อผ้าลงมา

“วันนี้กลับช่างฉลาดนัก” กงชิงวี่เอ่ยอย่างอารมณ์

เสีย

“เมื่อคืนท่านอ่องยังไม่ได้ส่งน้ำอสุจิ วันนี้คิดจะส่ง แล้ว” อันหลิงหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เจ้าพูดได้ดี”

กงชิงอุ้มอันหลิงหยุนไปบนเตียง ค่ำคืนแห่งฤดู ใบไม้ผลิล้ำค่าเฉกเช่นพันตำลึงทอง ดังนั้นเมื่อขึ้นไป บนเตียงแล้วอันหลิงหยุนก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อ ไป”

เมื่อถึงยามเช้าอันหลิงหยุนรู้สึกปวดเอว นางลง จากเตียงและนวดไปบนตัว จากนี้ไปอย่าได้ไปยั่วโมโห เขาอีกเลยจะดีกว่า

หลังออกจากจวนนางก็ตรงไปยังจวนซือคง เมื่อ ถึงประตูอันหลิงหยุนก็ลงจากรถม้าและเห็นว่ากงชิงวี่ กำลังยืนรออยู่ที่ประตูพร้อมกับผู้คน ประตูใหญ่ถูกปิด สนิท ไม่ยอมให้เขาเข้าไป
สองคนสบตากัน อันหลิงหยุนคำนับกงชิง “ท่าน อ๋อง”

“พระชายาไม่ต้องสนใจข้า วันนี้ที่ข้ามาเป็นเรื่อง ของทางการ” คำพูดนี้เอ่ยเพื่อบอกคนด้านหลัง

“เช่นนี้หม่อมฉันขอตัวก่อนเพคะ” อันหลิงหยุนเดิน ไปที่ประตู อาหยูเข้าไปเคาะประตูจวน

หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนรับใช้มาเปิดประตู เมื่อ เห็นเป็นอันหลิงหยุนก็รีบเชิญเข้าไป

จากนั้นประตูก็ปิดลง

อันหลิงหยุนจัดการเรื่องเสร็จ เป็นเวลาเที่ยวก็ ฮูหยิงแก่เรียกนางเอาไว้ “พระชายาโปรดรอก่อน”

ขอตัว

อันหลิงหยุนหันไปมองฮูหยิงแก่ และน้อมตัวคำนับ

“ฮูหยิ่งแก่”

“พระชายาเกรงใจแล้ว พระชายา ท่านจะไม่เอ่ย อะไรกับข้าหน่อยหรือ?” ฮูหยิงแก่มีเรื่องบางอย่างอยู่ ในใจและรอให้อันหลิงหยุนพูดเอง แต่นางกลับไม่ได้ พูดมันออกมา อีกทั้งยังจะจากไปอีกด้วย

“ข้าไม่มีอะไรอยากจะพูด ฮูหยิงแก่โปรดวางใจ ดูแลรักษาตัว ขาของท่านอีกไม่กี่วันก็จะสามารถ เคลื่อนไหวได้แล้ว” อันหลิงหยุนพูดจบก็หันหลังจากไป

เมื่อออกมาจากประตูก็เห็นซื้อคงเสี้ยงกำลังเหม่อลอยอยู่ในสวน ท่าทางดูแตกต่างออกไป

“นายท่าน”

อันหลิงหยุนเริ่มทักท่านก่อน ซือคงเสี้ยงหันมา มองนางอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าสมควรขอบคุณท่าน เป็นท่านที่ ทำให้ภรรยาของข้าไม่ต้องทนลำบากขนาดนั้นอีก แล้ว”

“ข้าเป็นหมอ นี่เป็นเพียงหน้าที่เท่านั้น นายท่านไม่ จำเป็นต้องใส่ใจ” อันหลิงหยุนเอ่ยเสียงเรียบ

ซือคงเสี้ยงหัวเราะ “แต่ในปีที่ผ่านมานี้ กลับไม่มี หมอสักคนที่เข้ามา”

อันหลิงหยุนฟังเข้าใจอย่างชัดเจน เขาคิดว่าการ ปรากฏตัวของนางมีจุดมุ่งหมายบางอย่าง

“นั่นเป็นเพราะพวกเขาโชคไม่ดี ข้าเชื่อว่า การกระ ทำในวันนี้ คือพรที่จะส่งไปยังท่านพ่อในอนาคต สวรรค์มีเมตตาต่อทุกสรรพสัตว์ และจะต้องอวยพรให้ แก่ตัวข้าด้วยอย่างแน่นอน อีกทั้งตัวข้าเองก็เพียงแค่ หวังอยากให้ท่านพ่อของข้ามีอายุยืนยาวไร้ความ กังวล”

ซือคงเสี้ยงไม่ได้ตอบ อันหลิงหยุนรู้ว่าเขาไม่เชื่อ นางเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก จากนั้นจึงหันหลังหลับ และเดินไปที่ประตู

ออกจากประตูไปอันหลิงหยุนก็ทันไปคำนับให้แก่ กงชิง จากนั้นจึงตรงไปขึ้นรถม้าและจากไปทันที
คนที่ตามมารู้สึกค่อนข้างแปลกใจ สามีภรรยาคู่นี้ ผลัดกันมา

พระชายาอยู่ในนั้นตั้งนาน เหตุใดจึงไม่มีข่าว อะไร?

กงชิงวี่ยังคงรอต่อไป ซือคงเลี้ยงเดินไปที่ประตู และมองออกไปข้างนอก

ช่วย เขาเคยเอ่ยไปแล้วว่าจะไม่เข้าไปลำบากแรง ใจกับเรื่องของราชสำนักอีก ไม่ช่วย เขาก็จะได้เห็น ภรรยาของเขาดีขึ้นมาด้วยตัวเอง

ซือคงเสี้ยงกลับไป ฮูหยินซือคงเอ่ย “นายท่าน ท่านดูขาของข้าสิ”

ฮูหยิ่งซื้อคงขยับขา จากนั้นจึงเคลื่อนตัวไปข้าง หน้า นางลุกจากเตียงและลงมายืน แม้ว่ามือทั้งสอง

ของนางจะยังจับขอบเตียงเอาไว้ แต่นางก็ยืนได้แล้ว

สีหน้าของซือคงเสี้ยงตกตะลึง “ฮูหยิน! เจ้า สามารถลงมาได้แล้วหรือ?”

“ใช่!” ฮูหยินซือกงน้ำตาซึม เป็นเวลาสามปีแล้ว ใน ที่สุดนางก็ลงมาได้ นางเคยคิดว่าทั้งชีวิตนี้นางจะต้อง เป็นเช่นนั้นไปตลอดเสียแล้ว

ซือคงเสี้ยงรีบเดินไปตรงหน้าฮูหยินของตน จาก นั้นจึงประคองฮูหยิงซือคงเอาไว้และเช็ดน้ำตาให้นาง

“นายท่าน ข้ารู้ว่าท่านไม่อยากทำงานให้กับราช สำนักอีกต่อไป เป็นพวกเขาที่รังแกท่าน แต่พระชายาvมานั้น นางกลับยังไม่พบ

ที่ริมน้ำ อันหลิงหยุนหยุดลง นางรู้สึกได้ถึงคนที่ อยู่ด้านหลัง ทันใดนั้นอันหลิงหยุนก็หันกลับมาและ มองไปไม่ไกล มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น อีกทั้งนางก็ รู้จักเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ