ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บท175 ทำไมถึงชนได้



บท175 ทำไมถึงชนได้

ขึ้นมองโกรธยืนอยู่หน้าประตู แล้วลุกขึ้น ตกใจตื่นเลยสักร่องรอยลำบากใจฉายไปทั่ว

หน้าตั้งใจจริง

หยุนรู้สึกแปลกประหลาด ท่านยังโกรธหลังจาก พวกเขาแล้ว ทำไมหรือ

ทำไมหรือ

กงชิงขึ้น ถอดเสื้อผ้าไปด้วยแล้วอธิบายเกี่ยวกับที่มาที่ ของเรื่องให้หลิงหยุนมองเขาด้วยสายตาขุ่น เคืองเสวยอิ่มไม่ใดเรื่องระหว่างท่าน ยุ่งได้ เขาเรียกทำอุบายเพี่ยนอุยกาย คน หนึ่งคนเต็มใจให้

เป็นเรื่องเล่าเปรียบเปรยของพวกเจ้าอีกแล้วหรือกงชิง สนใจที่มาที่ไปของประวัติศาตร์ เพียงแต่ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ โลกเดียวกัน หลายอย่างเขาแต่นางไม่และหลาย อย่างนางเขา

อันหลิงหยุนช่วยถอดเสื้อผ้าไปด้วยเล่าเรื่องราวของ จิวอุบายเฆี่ยนอุยกายให้เขาฟัง ทั้งสองคนพูดคุยยิ่งลึก ความ

จนเจ็บทั้งคืน กงชิงหยินรีบเข้าเข้าเฝ้าช่องเต่แต่ เข้าตรู ขอพระราชโองการออกคำสั่งให้ช่วยรักษาจุนฉฉ

ข้องเต้ชิงหยู่รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย อันหลังหยุนได้รับพระ ราชโองการให้เข้าวังเพื่อมาช่วยสองพระราชวังตรวจจับ ชีพจร ปรากฏว่าเมื่อเข้ามาในวังก็เห็นกงชิงหยินอยู่ในพระ ตำหนักจรุงจิต

หลังจากที่อันหลิงหยุนได้ไปตรวจจับชีพจรทั้งสองพระ ราชวังกลับมากงชิงหยินก็ยังไม่กลับ ฮันหลังหยุนรู้เลยว่าต้อง มีเรื่องไม่ดีแน่เลย

แต่ในเวลานี้ฮ่องเต้ชิงหยู่ลืมไปนานแล้วว่าจะทำอันใด กลับ มองไปที่อันหลิงหยุนจนตาค้าง

อันหลิงหยุนรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย ก้มหัวลง : “หม่อมฉัน ขอคำนับฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ”

“ลุกขึ้นได้

อันหลิงหยุนลุกขึ้นยืนแล้ว แต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้น

“ดูเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่? “ฮ่องเต้ชิงหยู่ภาม

กราบทูลฝ่าบาท แม่ลูกปลอดภัยดิทั้งสองวังเลยพ่ะยะ คะ อันหลังหยุนกราบทูล

ข้องเต้ชิงหยู่เดินลงมาจากข้างบน เมื่อเดินไปอยู่ตรงหน้า แล้วตั้งใจสำรวจอันหลิงหยุนรอบหนึ่ง : พระชายาเสียนช่วง นี้เสวยดีมากเลยใช่ไหม? ”

อันหลิงหยุนรู้สึกเศร้าโศกเล็กน้อย แสดงว่านางอ้วน ขึ้นมากจริงๆ

สำหรับท้องนี้ของนางทำให้นางชอบเสวยมาก แต่เสวย แล้วกลับไม่ไปลงที่เด็ก เวลาเสวยของบำรุงเมื่อไรก็จะไป บำรุงที่ตัวนางหมด

“ทูลฮ่องเต้ ช่วงนี้ได้ทำการทดลอง ได้เตรียมยาไว้หลาย อย่าง หม่อมฉันหาคนที่เหมาะสมจะมาทำการทดลองไม่ได้ ก็ เลยฉีดเข้ากับตัวเองไปหลายเข็ม ไม่คิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้ ไม่ ว่าเสวยออันใดก็เพิ่มเนื้อ แถมเพิ่มได้เร็วด้วยอีกต่างหาก

หม่อมฉันเริ่มควบคุมพระกระยาหารแล้ว พยายามไม่เสวยพ ระกระยาหาร แต่แค่ดื่มน้ำก็ยังทำให้เพิ่มเนื้ออีก

พระชายารองหยุนบอกกับหม่อมฉันว่า ถ้าอ้วนต่อไปอีก ก็ จะอ้วนเป็นลูกบอลแล้ว

หม่อมฉันเริ่มเสวยไม่ได้นอนไม่หลับแล้วเพคะ” เมื่อพูดเช่นนี้แล้ว ฮ่องแต่ก็ไม่พูดอันใดอีก

หลังจากที่อันหลิงหยุนได้ชี้แจงแล้ว ฮ้องเต้ชิงหยู่ยิ้มออก มา: “ที่พระชายารองหยุนพูดก็มีเหตุผล ข้าก็คิดเช่นนั้น เหมือนกัน

อันหลิงหยุนยิ้มไม่ออก และไม่พูดอันใดต่ออีก

ช่องเต้ชิงหยู่ยิ้ม: “ช่วงนี้ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายเจ้าช่วยเดิน เป็นเพื่อนข้าหน่อยอ๋องตวนเจ้ารออยู่ที่นี่ ข้ายังมีเรื่องจะคุย กับเจ้าอีก ” กระหม่อมน้อมรับบัญชา กองซิงหยินหันมองไปที่อันหลิง หยุน แล้วหันกลับไป

ฮ่องเต้ซิงหยู่เดินนำออกไปข้างนอก และอันหลิงหยุนเดิน

ตามไป

เมื่อออกจากพระตำหนักจรุงจิต อันหลิงหยุนเดินไปที่ลาน สวนกว้างตรงหน้าพระตำหนักจรุงจิต ฤดูใบไม้ผลิ เป็นฤดูที่ดี มีลมมีกลิ่นหอมจาง ๆ ช่องเต้ชิงหยู่โดนกลิ่นหอมจางๆที่โชย มาจากตัวอันหลิงหยุนดึงดูด

ช่องเต้ชิงหยู่หันกลับไปมองอันหลิงหยุนนางไม่ได้ทาผงอัน ใดบนใบหน้า แต่หน้ากลับสดใจจนน่าแปลกใจ

ผู้หญิงจะแต่งตัวเพื่อคนที่ตัวเองชอบ หรือว่าคนที่จะทำให้ นางซอบก็ไม่มีเลยหรือ?

ฮ่องเต้ชิงหยู่ถาม: “กลิ่นหอมอันใดหรือ? ”

อันหลิงหยุนนึกสักครู่ : “หม่อมฉันอยู่กับยาสมุนไพรทุกวัน เป็นกลิ่นยาสมุนไพร ไม่ใช่กลิ่นหอมอันใดเพค่ะ

“ใช้รี? ข้าตมดูแล้วเหมือนกลิ่นจางๆของหญ้าหอม เสียดาย ที่ตำหนักข้าไม่มีหญ้าหอม มีแต่กำแพงที่เยือกเย็น

“ฮ่องเต้ถึงงานที่ต้องทำมากมาย ทำเพื่อประชาชนเป็นหลัก เทพเจ้าเห็น ประชาชนเห็นและรับรู้ถึง”อันหลังหมุนช่วงนี้ กำลังดูหนังสือประวัติศาตร์ เพื่อเอาชีวิตให้รอดไม่ว่าจะให้ นางทำอันใดนางก็จะยอมท่าทุกอย่าง

ฮ่องเต่ชิงหยู่ยิ้ม: ไม่ต้องบอข้าทรอก ข้าไม่ได้เป็นคนบ้า ยอหรอก อยู่กับอ่องเสียนเรียนรู้มาจากฮ่องเสียนล่ะสิ? ”

อันหลิงหยุนก้มหัวลง : “หม่อมฉันมีกล้า”

ไปที่อันหลิงหยุน แล้วหันหลังให้เอามือไว้ด้าน หลังพูดว่า: “เรื่องที่ตูฟางจุ้นกำลังหาเงินบริจาคอยู่นั้นข้า รู้สึกยินดีและพอใจยิ่งนัก ถือว่าเป็นการทำความดีของจวน อ่องเสียนเลย ข้ารู้ว่าควรทำยังกระไรดี องค์หญิงใหญ่ให้ ความสำคัญในตัวเจ้า ส่วนเจ้าก็ทำให้คดีลู่ล่งไปได้ด้วยดี ที่ สำคัญได้ใจคนไปไม่น้อย

“ฮ่องเต้ หม่อมฉันมิกล้า….อันหลินหยุนจับกระโปรงขึ้น เตรียมคุกเข่าลงไป แต่ฮ่องเต้ชิงอยู่รีบห้ามไว้

“ข้าบอกแล้ว ไม่ต้องคุกเข่า ลุกขึ้นเถิด”

อันหลิงหยุนตกตะลึงเล็กน้อยแล้วลุกขึ้น มองไปที่ฮ่องเต้อยู่แล้วชี้แจงว่า: “หม่อมฉันทำงานเพื่อช่องเต้ ไม่ได้ทำ เพื่ออยากได้ใจของใครเลยเพคะ

“ถึงแม้จะไม่ได้คิด แต่ก็ได้ใจไปแล้วจริงๆ

” ทูลฮ่องเต้หม่อมฉันมิกล้า อันหลิงหยุนเริ่มจะหมดแรง พูดคุยกับฮ่องเต้ช่างเหนื่อย

ฮ่องเต้ยืนนิ่งไปสักครู่: “ความจริงข้าก็เป็นคนเหมือนกัน ไม่มีอันใดแตกต่าง พวกเจ้าไม่เข้าใจว่าข้าพูดอันใด”

ในมือ ช่องเต้หันกลับมาแล้วพูดว่า : “เจ้ากำลังตำนีข้าหรือ? “หม่อมฉันมิกล้าเพคะ”

“เวลาที่ข้าไม่มีอันใดทำก็พูดคุยเป็นเพื่อนข้าหน่อย ไม่ต้อง กลัวขนาดนั้น เจ้ายิ่งเป็นเช่นนี้ ข้ายิ่งไม่ชอบ ในทางกลับกัน พูดจาตรงไปตรงมา ข้าจะยิ่งดีต่อเจ้า”

อันหลิงหยุนรู้สึกสับสนเล็กน้อย ฮ่องเต้เสวยยาผิดหรือ

เปล่า

อันหลังหยุนกังวลไปครู่หนึ่ง ฮ่องเต้ชิงอยู่มองไปที่นาง แล้ว หันกลับไป : “เรื่องตูฟางจันข้าพอใจมาก ส่วนเรื่องของพระ ชายารองหยุนข้าก็รู้ แต่ลูกสาวตระกูลจุนไม่ใช่คนธรรมดา ในเมื่อเจ้ากับพระชายาตวนเป็นศัตรูกัน ก็ควรจะรู้ว่านี่เป็นแค่ กันเริ่มต้น

“หม่อมฉันไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับพระชายาตาน เต็มที่เรื่อง ของพระชายารองหยุนหม่อมฉันก็ไม่ได้อยากยุ่ง แต่เรื่องที่ ทำให้คนอื่นไม่พอใจส่งมาถึงมือหม่อมฉัน หรือว่าประเทศต้า เหลียงไม่มีคนจัดการเรื่องนี้ได้เลยหรือ?

พูดตามจริงแล้ว หม่อมฉันโดนหลอกใช้เหมือนคนโง่คนหนึ่ง เท่านั้นเอง

ชื่อเสียงของหม่อมฉันไม่ดีอยู่แล้ว เมื่อเกิดเรื่องผลักมาให้ หม่อมฉันก็เป็นเรื่องปรกติ เสียงหัวเราะเบาะของคนใน ประเทศไม่สามารถทำให้คนจมตายไปได้ ฟอของหม่อมฉันก็ ไม่ปล่อยให้หม่อมฉันอยู่คนเดียวอยู่แล้ว เรื่องจัดการได้ดี พระชายารองหยุนได้กลายเป็นฮูหยิงชั้น เก้ามิ่ง หม่อมฉันก็ยังเป็นหม่อมฉัน”

ฮ่องเต้หันกลับมาอีกครั้ง คิ้วขมวดเข้าหากัน : “ข้าไม่เข้าใจ

พระชายาเสียนไม่ใช่อยากทำเรื่องดีๆหรือ?

“หม่อมฉันแค่ไม่อยากทำเรื่องไม่ดี ส่วนเรื่องดี ข้าไม่เคยคิด แต่ว่าถ้าฮ่องเต้อยากให้ข้าตายข้าก็ต้องตาย หม่อมฉันคือ หม่อมฉัน ฮ่องเต้พูดอันใด หม่อมฉันก็ต้องทำตามเช่นนั้นอยู่ แล้ว”

ในเมื่อทำไปแล้วก็ถือว่าได้ทำไปแล้วก็ไม่ต้องบ่นอันใด มากมาย ข้าอยากอยู่ที่นี่รับลมเป็นๆสักพัก และพูดเรื่องอื่นต่อ ด้วย

อันหลิงหยุนไม่พูดอันใดอีก ตั้งใจรับฟังคำสั่งของฮ่องเต้ชิง หยู่

ฮ่องเต้ชิงอยู่ถาม : “อ่องตวนกับพระชายาตวนได้เคยไปที่ จวนอ่องเสียนแล้ว อ่องตวนบอกกับข้าว่า เจ้าไม่ช่วยรักษา มี เรื่องเช่นนี้จริงหรือไม่?

“กราบทูลช่องเต้ หม่อมฉันบอกว่าจะช่วยพระชายาตวน ฉีดยา แต่นางจะให้หม่อมฉันดูกันนางให้ได้ ถามหน่อย กัน ของนาง หม่อมฉันทำไมต้องดูด้วย? “อันหลังหยุนพูดด้วยน้ำ เสียงไม่พอใจ ช่องเต้ชิงอยู่เพิ่งพูดไปเมื่อไม่ต้องเกรงใจมาก นางลองดูก่อนดีกว่า

ทำให้ฮ่องเต้ชิงอยู่จำเป็นต้องหันกลับมามองอันหลิง หยุน ทั้งสองเผชิญหน้ากัน มีโอกาสน้อยมากที่ช่องเต้จะได้ หัวเราะชอบใจขนาดนี้

“เจ้านิ่จริงๆเลย” ฮ่องเต้ยิ้มแล้วส่ายหัว อันหลิงหยุนลง ทำเหมือนโกรธ

“ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็จะปล่อยไว้อย่างนั้นไม่ได้ ก็เหมือนที่ พูด หมอในจวนมีแต่ผู้ชาย แผลของพระชายาตวน จะให้พวกเขาดูก็ไม่เหมาะสม

“ทูลฮ่องเต้ ถ้าท่านเป็นอันใด มีแต่หม่อมฉันที่รักษาได้ แต่ เพียงเพราะหม่อมฉันเป็นผู้หญิง ยอมตายดีกว่าที่จะให้หม่อม ฉันรักษาเช่นนั้นหรือ” อันหลิงหยุนพูดอย่างใจกล้า

ฮ่องเต้หัวเราะออกมาเสียงดัง : “ข้าไม่เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงไม่เหมือนกัน ข้าเป็นผู้ชาย ไม่ได้กลัวเรื่องแบบนั้น แต่พวกเจ้าเป็นผู้หญิง ยังกระไรก็ต้องรักนวลสงวนตัวหน่อย

“ถ้าเป็นเช่นนั้นหม่อมฉันไม่ขอยุ่งด้วยแล้ว หม่อมฉันก็ ไม่ชอบหน้าพระชายาตวนอยู่แล้ว นางคิดว่าตัวเองฉลาด หลากแหลม รังแกหม่อมฉันไปทั่ว

เดิมชอบอ่องเสียน หม่อมฉันก็ทน

หลังจากที่แต่งงานกับอ่องตวนแล้วไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ชอบเรียกเสด็จพี่ๆอยู่นั่นแหละ หม่อมฉันก็ทน

ตอนเข้าหม่อมฉัน ที่ตำหนักจรุงจิตท่ามกลางหิมะตกหนักจะทำให้หม่อมฉัน เสียโฉม เกือบทำให้หม่อมฉันเสียชีวิตที่ตำหนักอรุงจิตแล้ว หม่อมฉันก็ทน

กี่ครั้งต่อกี่ครั้งหม่อมฉันก็ทนมาตลอด แต่หม่อมฉันทนไม่ ได้กับการกระทำของนางที่ใช้อำนาจของตัวเองมารังแกคน อื่น

เมื่อวันตอนที่อองตวนกับพระชายาตวนไปหาหม่อมฉันนั้น หม่อมฉันได้ตัดสินใจที่ช่วยเหลือพวกเขาแล้ว ปรากฏว่าพระ ชายาตวนมาวางอำนาจใส่แถมยังให้ท่าอ่องเสียนด้วย แถม ยังพูดว่าถ้านางหายดีแล้วถึงจะรับพราะชายารองหยุนกลับ ไปได้ เอาเรื่องนี้มาเป็นเครื่องมืออีก

ความเป็นจริงแล้วหม่อมฉันก็ทนจนไม่อยากทนแล้ว ก็บอก นางไปว่าหม่อมฉันจะช่วยรักษา เพื่อไม่อยากให้นางสร้าง ปัญหาขึ้นมาอีก แค่พูดว่าหม่อมฉันช่วยนางรักษาก็พอแล้ว ใครจะไปรู้ นางไม่ยอมก็แล้วไป ยังจะเอาเรื่องของพระชายา รองหยุนมาขู่หม่อมฉันอีก

สิ่งที่น่าโกรธที่สุดคือสมองของอ้องเสียนเหมือนมีปัญหา ให้ หม่อมฉันช่วยพวกเขารักษา หม่อมฉันกลัวอองเสียน ก็พูดไป ว่าให้พระชายาฉีดยา ก็จะดีขึ้นเอง

ไม่รู้ว่าพวกเขาไปทำอันใด ทำให้อ๋องเสียนโมโหโกรธมาก หลังจากที่อ่องเสียนกลับมาได้ต่อว่าสั่งสอนหม่อมฉัน แถมไม่ ให้หม่อมฉันเสวยข้าวด้วย

ทูลฮ่องเต้ เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดกับใครจะมีใครทนได้ วันนี้ อ่องตวนมาหาช่องแต่ จะให้ฮ่องเต้ออกพระราชโองการ สั่งให้ไปรักษาไม่ใช่หรือ? คนผิดมาฟ้องก่อนไม่ใช่หรือ?ๆ

ซ่องเต้ชิงอยู่ตกใจ: “ทายถูกต้องจริงๆด้วย อ่องตวนมาหา ข้าเพื่อจะให้ข้ามีพระราชโองการออกคำสั่งให้ไปรักษาโรค ฟังจากที่หยุนหยุนพูด มันก็เหมือนคนผิดมาฟ้องก่อนจริงๆ “ฮ่องเต้ ตัดหัวหม่อมฉันเถิด หม่อมฉันไม่อยากไปดูกันของ

พราะชายาตวนจริงๆ”

“” ฮ่องเต้ชิงหยู่ เงียบไปทันที

อันหลิงหยุนเตรียมตัวทำท่าจะคุกเข่าลงไป ฮ่องเต้ชิงหยู่รีบ ก้มลงจับมืออันหลิงหยุนไว้ แต่อันหลิงหยุนรีบดั้งมือกลับไป

ส่วนฮ่องเต้ชิงหยู่ก็เอามือไปกุมไว้ด้านหลังเหมือนเดิม มองดูอันหลิงหยุนที่คุกเข่าอยู่ ฮ่องเต้ชิงหยู่พูดขึ้นว่า: ” ลุก ขึ้น”

“ทูลฮ่องเต้ หม่อมฉันไม่อยากดูกัน ข้าไม่ได้จะให้เจ้าดู”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท” อันหลิงหยุนลุกขึ้นมา เงยหน้าขึ้น มองไปที่ฮ่องเต้ชิงหยู่ ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปที่อื่น: “ยังกระไรข้าก็ต้องให้เกียรติ

อ๋องตวน พระชายาตวนเป็นน้องสะใภ้ข้า เจ้าจะให้ข้าปล่อย

ให้น้องสะใภ้ตายอย่างงั้นหรือ? ”

“” อันหลิงหยุนเงียบไม่พูดอันใด “ข้าออกพระราชโองการสั่งให้เจ้ารักษาพระชายาตวน ส่วน จะรักษายังกระไร ก็เป็นเรื่องของเจ้า ขอแค่พระชายาตวน หายดี ก็ใช้ได้แล้ว

“หม่อมฉันน้อมรับบัญชา” เพิ่งสิ้นคำพูดของฮ่องเต้ชิงหยู่ อันหลิงหยุนรับราชโองการทันที

ฮ่องเต้ซิงอยู่พูดอันใดไม่ออกสักพัก: “ข้านิ่ทำอันใดเจ้าไม่

ได้จริงๆ

เดินอ้อมด้านหลังของอันหลิงหยุนไป ฮ่องเต้ชิงอยู่เตรียมตัว จะเดินออกไป ส่วนอันหลิงหยุนก็เดินตามไปด้านหลัง แต่เดิน ไปได้สักพักฮ่องเต้ชิงอยู่ก็หยุดแล้วหันหลังมา ทำให้อันหลิง หยุนชนเข้าอย่างจัง

หน้ามืดขึ้นมาทันที ทำให้อันหลิงหยุนเข้าไปในอ้อมกอด ของฮ่องเต้ชิงอยู่ ทำให้อันหลิงหยุนตกใจถอยห่างแล้วรีบ คุกเข่าลงไป”ทูลฮ่องเต้ หม่อมฉันซุ่มซ่ามไปเองเพคะ”

“ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ลุกขึ้นเถิด ดูเจ้าแล้วก็ไม่ใช่คนชอบ คุกเข่า อีกหน่อยเวลาที่ไม่มีคนอยู่ก็ไม่ต้องคุกเข่าหรอกนะ ลุกขึ้น” ฮ่องเต้กัมลงพยุงอันหลิงหยุนให้ลุกขึ้น เมื่ออันหลิงหยุ นลุกขึ้นแล้วรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย

ทำไมถึงขนเข้าได้ หันกลับมาท่าไมหรือ?

ช่องเต้ชิงหยู่มองไปที่อันหลิงหยุนที่ลมหายใจลอยๆ รู้สึก ตลกแล้วยื่นมือออกไป

อันหลิงหยุนมองดูมือที่ยื่นมาอยู่ตรงหน้า เงยหน้าขึ้น : “ช่องเดี?

ช่วงนี้ใจข้ากระสับกระส่าย ลองช่วยข้าดูหน่อยสิ เป็น เพราะอายุเยอะแล้วหรือเปล่า แก่แล้ว!

อันหลิงหยุนจึงได้ยกมือขึ้นช่วยฮ่องเต้ชิงหยู่ดูอาการ อัน หลังหยุนเริ่มตรวจช่วยดูอาการ จากนั้นคลายมือออกแล้ว ตอบว่า: “ทูลฮ่องเต้ ฝ่าบาทใจกระสับกระส่ายจริง อีกทั้ง ตอนกลางคืนก็ยังชอบฝัน

“เจ้านี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เรื่องนี้ข้าไม่เคยเล่าให้โครฟัง บรรดาหมอหลวงดูแล้ว ก็หาสาเหตุไม่เจอ”ฮ่องเต้ซิงหยู่ไม่ เชื่อใจหมอไม่ได้เรื่องพวกนั้นจริงๆ เรื่องที่ฮองเฮาท้องเป็น เรื่องปลอมยังดูไม่ออกเลย แล้วจะช่วยดูอันใดได้อีก?

อันหลิงหยุนตั้งใจพูด: “ทูลฮ่องเต้ให้หม่อมฉันลองดู”

ช่องเย่ชิงหยู่ส่งมีอีกข้างให้อันหลังอยู่ตรวจครั้งนี้อันหลัง หยุนตั้งใจตรวจเป็นพิเศษ แขนข้างหนึ่งจับแขนข้างหนึ่งของ ช่องเต้ชิงหยู่ไว้ และอีกข้างหนึ่งก็จับข้อมือของช่องเต้ชิงอยู่ ไว้ หันหน้าไปเพื่อเปิดเครื่องตรวจ ทำการตรวจร่างกายของ ฮ่องเต้ชิงอยู่

“ไม่ใช่แล้ว”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ