ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 155 ทั้งสองพระองค์ไม่เป็นอันใด



บทที่ 155 ทั้งสองพระองค์ไม่เป็นอันใด

“พระนาง ถ้าเช่นนั้นเรื่องนี้ …” แม่นมเว่ยพยุงฮั่วไท่เฟยลง นั่ง ฮั่วไท่เฟยโกรธกริ้วจนปวดหัว เอาแต่นวดขมับ

“อาบน้ำแต่งตัว ข้าจะไปพระตำหนักศาลบรรพชน สวด มนต์ให้ทั้งสองพระองค์” ยั่วไทเฟยรับสั่ง

แม่นมเว่ยประหลาดใจ “พระนาง แล้วพระตำหนักอ่องต

วน?”

“ไม่สนแล้ว อ่องตวนกระไรก็เป็นน้องชายฮ่องเต้ เจ้าชาย แห่งประเทศต้าเหลียง เขามิได้ทำอันใดทั้งนั้น ใครจะทำ อันใดเขาได้?

ส่วนจุนฉูฉู หากนางไม่ทราบเป็นทราบตาย ข้าก็ไม่อยาก สนใจแล้ว

หากนางมีส่วนในพระตำหนักอ่องตวน ข้าก็จะบดขยี้ กระดูกนาง ให้อภัยนางมิได้”

ฮั่วไท่เฟยแววตาอาฆาต แม่นมเว่ยเดินถอย “ข้าน้อยจะ อาบน้ำแต่งตัวให้พระนาง”

“เร็วหน่อย”

ฮั่วไท่เฟยออกจากวังฮั่วหยาง ถึงนอกพระตำหนักศาล บรรพชนผู้ส่งสารรายงาน หวางฮองไทเฮาลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วก็บรรทมตาลง

“ให้นางเข้ามา”
ไห่กงกงออกจากประตูไปเชิญฮั่วไท่เฟย ฮั้วไท่เฟยสวม ชุดยาวสีขาวพระจันทร์ ปล่อยผมยาวด้านหลังหลังอาบน้ำ ผูกด้วยโบว์สีขาว

เข้าพระตำหนักศาลบรรพชนก็จุดธูปคารวะก่อน จากนั้น จึงคุกเข่าลงด้านหลังหวานฮงไทเอา บรรทมตาลงสวดมนต์ ให้ทั้งสองวัง

หลังรูปดับ

“พี่หญิง น้องมีเรื่องจะรายงาน” หลังฮั่วไท่เฟยใคร่ครวญ อย่างรอบคอบ ก็ค่อยๆเกริ่นออกมา

หวางฮองไทเฮาบรรทมตาสองมือพนม น้ำเสียงแผ่วเบา “เป็นเรื่องของอองตวนหรือพระชายาตวนล่ะ?”

ฮั่วไท่เฟยยิ้มไม่ออก ไม่มีสิ่งใดปิดบังได้จริงๆ

“พี่หญิงมองทะลุปรุโปร่ง เรื่องนี้น้องหญิงก็คาดว่าระวัง มากแล้ว แต่น้องหญิงอยู่ในวังมาหลายปี อ่องตวนอยู่ด้าน นอกมาสักพักแล้ว พูดได้ว่าเป็นเรื่องที่ช่วยมิได้ น้องหญิงก็ ไม่เข้าใจเสียเท่าไหร่นัก

อยากขอให้พี่หญิงลดโทษ น้องยินดีที่จะรับความผิด”

ฮั่วไท่เฟยจริงจังจริงใจ หวางฮองไทเฮาเอ่ยอย่างไม่ แยแส “เรื่องนี้ยังมิได้ตัดสิน ไม่จำเป็นต้องกังวล แม้อ่อง เสียนจะกำลังตรวจสอบเรื่องราว จะถูกจะผิดก็ตัดสินเอา เอง”

หากแม่ลูกของทั้งสองวังปลอดภัย ต้องเป็นพรจาก บรรพบุรุษอันยิ่งใหญ่แห่งประเทศต้าเหลียนนี้เป็นแน่ เรื่องอื่นเก็บไว้ด้านนอกเถอะ”

“เจ้าค่ะ”

ไทเฮา ไท่เฟย ทั้งสองขอพรให้กับฮองเฮาเซียวกุ้ยเฟยที่ พระตำหนักศาลบรรพชน ส่วนอื่นในวังเป็นที่ต้องห้ามและมิ อาจละเลย คุกเข่าลงหน้าประตูวังเพื่อสวดภาวนาให้กับทั้ง สอง ชัดเจนว่าสวดภาวนาให้ทั้งสองวัง แต่แท้จริงแล้วคือ ขอพรให้แก่ชีวิตของทั้งสองพระองค์เอง

อันหลิงหยุนตื่นขึ้นผ่านประตูวังอื่น เห็นผู้คนคุกเข่าสวด ภาวนามากขึ้น

เร็วเสียจริง วี่ตรวจสอบมาถึงพระตำหนัก

แล้ว “ประกาศอองตวน พระชายาตวนเข้าวัง” กวนชิงวี่นั่งลง

บนเก้าอี้ สีหน้าเย็นชา อันหลิงหยุนเห็นแล้วเศร้าใจ สองวันนี้ไม่บรรทมไม่นอนเอาแต่ตรวจสอบเหตุการณ์

หวางฮองไทเฮา ฮ่องเต้ ต่างหลบออกไป เหลือ เพียงพวกเขาสามีภรรยา อันหลิงหยุนจู่ๆก็รู้สึก เรื่องของ พวกที่มีความผิดเป็นหน้าที่พวกเขาสามีภรรยา แต่เรื่อง ของพวกที่ไม่มีความผิด กลับเป็นสิ่งที่เลี้ยวไม่พ้น

กับจุนฉูฉูรถม้ามาถึงนอกพระราชวัง กงชิง หยินเดินลงมาจากรถทันที จุนฉูฉูกลับมิได้ลงมาด้วย นาง นั่งที่ออยู่บนรถม้าเหงื่อออกมือ

กงชิงหยินมองไปในรถม้า “ฉูฉู”
จุนฉูฉูแข็งไปสักครู่ มองไปที่กงชิงหยิน ลุกจากรถม้า แล้วเดินลงมา ส่งมือให้กงชิงหยิน แล้วพากันเดินเข้าวัง ไป .

“ฉูฉู เจ้าเหงื่อออกหรือ?” กงชิงหยินเดินไปพลางเช็ด เหงื่อในมือของ

จุนเอ่ย “อากาศอบอุ่น ข้าใส่เสื้อผ้าเยอะไป น้อยกว่า นี้ก็จะดีขึ้น”

“อืม”

กงชิงหยินเห็นจุนฉูฉูสีหน้าซีดเซียวเล็กน้อย จึงจับมือจุน ฉูฉูไว้แน่น เดินเข้าวิหารบรรทมรองพระตำหนักจรุงจิต

ไปถึงวิหารบรรทมรอง เห็นวี่กงชิงหยินจึงเอ่ยขึ้น “มีธุระก็พูดมาวันนี้ด้านนอกข่าวคราวเลื่องลือ พระตำ หนักทุกคนต่างอยู่ในอันตราย ไม่ต้องปิดบังแล้ว”

จุนฉูจ้องมองไปที่อันหลิงหยุนที่นั่งอยู่ด้านหนึ่ง สายตา ของนางสบเข้ากับเสื้อขนนกบนตัวอันหลิงหยุน ใบหน้าซีด

ลง

ขุนฉูฉูไม่เคยเห็นเสื้อขนนกมาก่อน แต่เคยได้ยินคนพูด ถึงอยู่บ้าง

นางเพียงแค่ไม่เข้าใจ คนไร้ความสามารถอย่างอันหลิง หยุน ทำกระไรถึงเป็นอย่างทุกวันนี้ได้?

ยิ่งคิดในใจยิ่งไม่ยินดี คิดถึงก่อนหน้านี้ ก่อนนางจะ แต่งงานกับเมื่อไหร่กันที่นางถูกทำให้เป็นอย่างนี้ ทั้งหมดนี้ มิใช่เพราะความสามารถของอันหลิงหยุนมีมากมายเป็นแน่ แต่เพราะนางโชคดี

ทั้งยังเป็นเพราะนางแต่งกับกงชิงหยินที่ไร้ประโยชน์ ถึง ได้เป็นเช่นนี้

ถ้าสลับกัน จะเป็นฉากอย่างวันนี้ได้กระไร?

แววตาเจ็บปวดของจุนฉูฉูมองไปที่กงชิง วี่ พวกเขาต่าง หากที่เป็นคู่แห่งลิขิตสวรรค์

ถ้าหากเป็นเขา นางมิได้เป็นฮองเฮาแล้วกระไร พระชายาอ่องซื่อเจิ้น นางยังพึงพอใจยิ่งกว่า

อ่องชิงที่มองไม่เห็นสายตาของจุนฉูฉู แต่มองไปที่อ่องต วน “ในเมื่อพี่รองทราบเรื่องแล้ว เช่นนั้นก็ชี้แจงอย่างตรงไป ตรงมาเถิด อย่าให้ข้าต้องลำบากเลย”

“ฮี!”

อ่องตวนไม่แยแส “เจ้าค้นเจอสิ่งใด พูดออกมาเลย”

“เมื่อวานพวกท่านสามีภรรยาเข้าวัง ใช่หรือไม่?” กงชิงวี่ก็

มิได้เกรงใจ

“ใช่” อ่องตวนตอบ

กงซิงวี่ถาม “เข้าวังแต่มิได้เข้าเฝ้าฮั่วไท่เฟย ใช่หรือไม่?”

“ใช่” อ่องตวนยังคงตอบ

“พี่รองไม่อธิบายให้ข้าฟังหน่อยหรือ?”

อ๋องตวนเอ่ย “พระชายาทำรังนกอยู่ที่บ้าน เป็นการทำ แบบใหม่ ข้าเห็นว่าไม่เลว จึงอยากให้เสด็จแม่ได้ลองชิม
เข้าวังมาถึงนึกได้ การควบคุมพระกระยาหารในวัง เคร่งครัด จึงล้มเลิกความคิด คิดได้เรื่องหนึ่งกลับลืมไป เรื่องหนึ่ง เช่นนั้นจึงมิได้ไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่ กลับตำหนัก อ่อง เรื่องก็เป็นเช่นนี้”

อ่องตวนพึ่งเข้าใจ ฉูฉแต่ไหนแต่ไรไม่ชอบการปลงพระ กระยาหาร แต่สิ่งที่ตรากตรำทำเมื่อวาน เขาพูดเพียงแค่ว่า ใช้ได้ ก็ยืนกรานว่าจะเอาเข้าวัง

หากบอกว่าไม่น่าสงสัย เขาก็ไม่เชื่อเช่นกัน

“เช่นนั้นพระชายาตัวล่ะ ในช่วงเวลานี้ได้ไปที่ใดมาหรือ ไม่?” อ่องชิงวี่ในตอนนี้พึ่งหันไปถามจุนฉูฉู

จุนฉูฉสีหน้าซีดขาว นางเครียดมาก สุดท้ายนี่ก็คือข้อหาในการตัดหัว

จุนฉูฉเม้มริมฝีปากอยู่นาน “อยู่ด้วยกันกับอ่องตลอด”

กงชิงขี่มองตาของกงชิงหยิน “พี่รอง ใช่หรือ?”

กงชิงหยินพยักหน้า

แต่ไม่อาจหันไปมองจุนฉูฉู

ถึงแม้ระหว่างทางมาไม่มีการสารภาพ แต่นางพูดเช่นนี้ เขายิ่งไม่อาจเชื่อไปมากกว่านี้

อันหลิงหยุนเศร้าใจ อ่องตวนปกป้องเมียเสียสติอยู่เป็น แน่ คนโง่ยังมองออก เขากำลังช่วยโกหก

“เข้ามา ขุนนางวังหลวงที่ทำหน้าที่ในวันนั้นออกมาด้าน

หน้า”
อ่องตวนปิดตา อันหลิงหยุนมองจุนเนรคุณเสียจริง อ่องตวนหมดหวังไปเพราะนางยอมตายดีกว่าพูด นางกลับ ทำที ลากอ่องตวนไปตายด้วย

แต่กระนั้น เรื่องราวความรู้สึกเป็นเช่นนี้ ตายไปก็นับว่า เป็นโชคดีเหมือนกัน

แต่ไม่ควรเป็นเพราะคนอย่างอ่องตวนไม่คู่ควร ขณะที่อันหลิงหยุนเห็นใจอ่องตวน อาหยู่ก็เดินเข้ามา

“หม่อมฉันได้เสาะหาผู้ปฏิบัติหน้าที่ในวังในวันนั้น ไท่เฮา รับสั่งตัดสิน ได้ประหารชีวิตทั้งหมดแล้ว” อาหยู่รายงาน

กงชิงวี่สีหน้าไม่เปลี่ยน สายตาเย็นชา “พูดแบบนี้ ตายไป

ไร้หลักฐานหรือ?”

เป็นเช่นนั้น”

ก็อันใดไม่ถูก

เรื่องนี้มีเหตุบังเอิญมากมาย มีแต่เรื่องแปลกประหลาด

อันหลิงหยุนมองไกลออกไป ตายหมดแล้ว? ไทเฮาเป็น

คนรับสั่งตัดสิน?

บังเอิญแสวยไปแล้ว!

แววตาจุนฉูฉูเป็นประกาย ราวกับมองเห็นความหวังของ

ชีวิต

กงชิงหยินมองไปที่แล้วหัวเราะ ที่แท้ก็ไม่มีอันใด

ข้าไปล่ะ”
กงชิงหยินที่กำลังจะไปถูกกงชิงที่เรียกไว้ “ท่านไปที่นั่น ข้ามีหน้าที่ต้องตรวจสอบ วันนี้ทั้งไทเฮาไท่เฟยต่างก็อยู่ใน พระตำหนักศาลบรรพชนสวดมนต์ให้ทั้งสองวัง ในฐานะ สายเลือดราชวงศ์ไม่ไปสวดภาวนา ปล่อยให้เป็นอดีตไป หรือ?”

กงชิงหยินหันมอง “ข้าทราบแล้ว”

กงชิงหยินกลับหลังเดินออกตำหนักไป จุนฉูฉูก็เดินตาม ออกไป

ทั้งสองจากไป อันหลิงหยุนเดินไปหากงชิง วี่ ถามเขา “ท่านไม่ทราบจริงๆหรือว่าเป็นพวกเขา?”

“เรื่องที่ข้าไม่ทราบมีมากมายนัก แต่เรื่องที่ข้าทราบมี เรื่องหนึ่งมิอาจลืม” กงชิงวี่บีบใบหน้าของอันหลิงหยุน ให้ นางยิ้มเสียหน่อย

อันหลิงหยุนมองออกไป “ท่านพูดเสียฉลาด หม่อมฉันดู โง่เขลาไปเลย”

“เขาคือพี่น้องของข้า เขาไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้น พระ ชายาพูดผิดแล้ว ไม่ใช่พวกเขา”

“แต่เขาช่วยปิดบัง นี่เป็นการบอกเป็นนัยถึงเรื่องนี้ กำแพงสูงของวังจะทนต่อพวกกบฏได้กระไร?” อันหลิงหยุ นิพูด

กงชิงวี่หัวเราะ “กุ้งตัวเดียว ไม่อาจสร้างคลื่นใหญ่ได้”

“ให้เป็นเช่นนี้ แต่เรื่องในครั้งนี้ จากที่ฟังเสด็จแม่ตรัส มี คนจงใจให้ร้ายจวนอ่องเสียน ถ้าหากเป็นพระชายาตวงจริง เช่นนั้นเป่าหมายของนางก็ชัดเจน นางต้องการให้ทั้ง สองพระองค์เกิดเรื่อง ฮ่องเต้ไร้รัชทายาท จวนอ่องเสียนข องเราก็ถูกทิ้งลงหม้อดำ จากของเสด็จแม่ ท่านใช้คนใน และนอกวัง นี่คือข้อห้าม

ฮ่องเต้ยังคงจริงจังกับเรื่องนี้ ข้ากับท่านเป็นผู้กระทำผิด ใหญ่หลวง

ถึงท้ายที่สุด อ่องตวนก็ได้กำไร”

“เรื่องที่ยังไม่เกิดอย่าได้ไปใส่ใจ ข้าเองก็ไม่สน ถึงแม้จะ เกิดเรื่องเช่นนี้ ไร้หลักฐานร่องรอย ใครกล้ามาทำอันใดข้า ข้ามิใช่อยากเป็นอ๋องชื่อเจิ้น ใครอยากทำ คนนั้นก็ทำไป”

กงชิงพี่ไม่สนแม้แต่น้อย อันหลิงหยินยังจะพูดอันใดได้

อีก

เขาไม่อยากเป็นจริงๆ ช่วงนี้เอาแต่บ่นทุกวัน กลางคืน นอนดึกแสวย ตอนเช้าตื่นเช้าไป เขายังหนุ่มแน่น ราวกับว่า ยังไม่ถึงความต้องการ

ดังนั้นจึงไม่อยากเป็นอยากเป็นท่าที่ไม่ โดนใช้งาน ตอนเช้าได้นอนเสวยบ้านเสวยเมือง กลางคืน อยากกลิ้งไปมาแค่ไหนก็ทำได้ ดีที่สุดคือนำพระ กระยาหารทั้งหมดมาให้

ถึงแม้คำพวกนี้ดูน่าอาย แต่คิดอย่างถี่ถ้วนก็เป็นเช่นนี้

จริงๆ

เขายังหนุ่มแน่นกำยำ ไม่อาจเดินเข้าราชสำนักไปมั่วๆ แล้วต่อสู้กับเหล่าชายชราหัวหงอกได้ตลอดทั้งวัน
“ตามใจท่านเถอะ ในเมื่อทั้งสองวังไม่มีเรื่องอันใดแล้ว หม่อมฉันไปเตรียมข้าวของก่อน เพื่อทารกในครรภ์ของทั้ง สอง หน้าที่ตรวจสอบก็เป็นของท่านอ่องแล้ว”

“อาหยู่ ตามพระชายาไป” กงชิงวี่รับสั่ง แล้วทำการตรวจ สอบต่อไป

อันหลิงหยุนเตรียมถุงหอมสำหรับทารกในครรภ์พร้อม ส่งให้จุนเซียวเซียว จุนเซียวเซียวรับถุงหอมไปแล้วไม่มี เรื่องอันใด นางนึกได้ว่าอยากขอบคุณอันหลิงหยุน อันหลิง หยุนบอกนางว่าช่วงนี้อย่าพึ่งลุกขึ้นมา หลีกเลี่ยงการสูญ เสียอากาศภายในครรภ์

“ขอบคุณท่านมากพระชายาเสียนที่มาช่วยไว้ ข้าไม่เป็น อันใดจริงๆ ต้องประกาศรายงาน” จุนเซียวเซียวเอ่ย

อันหลิงหยุนยิ้มพร้อมเอ่ย “พระนางกุ้ยเฟยเกรงใจแล้ว นี่ เป็นธุระในส่วนของหม่อมฉัน ร่างกายกุ้ยเฟยนั้นสำคัญ ดื่ม 2 ยาเยอะๆร่างกายจะได้ฟื้นฟู หม่อมฉันยังต้องไปดูทางด้าน พระนางฮองเฮา”

อันหลิงหยุนทูลลาจุนเซียวเซียว ไปเข้าเฝ้าฮองเฮาเสิน หยุนชู

เสินหยุนชูพระกระยาหารดีขึ้นเร็วกว่าจุนเซี่ยวเซียวเล็ก น้อย ทั้งยังดูเหมือนจะไม่เป็นอันใดแล้ว

เพียงแต่เสินหยุนเจ๋ดูเข้มงวด ไม่ยอมให้เสินหยุนชูลง จากเตียงแม้สักครั้ง

อันหลิงหยุนดูอาการ สรุปได้ชัดเจน เดินออกจากวังเฟิ่งหยืมา

เสินหยุนเจ๊มองด้านหลังของอันหลิงหยุนที่เดินจากไป จมไปกับความคิด

เสินหยุนซูเข้าใจความคิดของน้องชายเป็นธรรมดา ได้ แต่ย้ำเตือน “ข้าเองก็เสียใจ มิได้รับปากคำขอร้องของเจ๋เอ๋ อ นี่เป็นการแต่งงานที่ผิดพลาด

แต่ตอนนี้นางเป็นพระชายาเสียน เจ้าเองควรทราบ นี่คือ

ข้อห้าม!”

การสร้างความวุ่นวายในเขตวังมีโทษถึงตาย การไป วุ่นวายกับพระชายาอาจไม่มีโทษถึงตาย กับคนอย่างกงซิง วี่จะยอมแพ้ได้กระไร!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ