ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่40เข้าสู่วังตอนดึก



บทที่40เข้าสู่วังตอนดึก

บทที่ 40 เข้าสู่วังตอนดึก

เงินเฉิงเสี้ยงกลับมาจากวังก็ตอนเย็นแล้ว อารมณ์ของ ฮ่องเต้ในวันนี้อาจไม่ดีสักเท่าไหร่ ตั้งแต่เช้าสีหน้าดูไม่ดี เลย และฝ่ายท่านอ๋องป่วยหนักพักอยู่ที่บ้าน ในวังไม่มี ใครที่ใช้ได้เลย ในเวลานี้มีคนแนะนำคนของตระกูลจุน เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ทำให้คนของตระกูลจุนได้เป็นคน โปรดปราน

ไม่ใช่มีเรื่องนี้เรื่องเดียว ลูกสาวคนที่สองของตระกูล จุนที่ชื่อว่าจุนเซียวเซียวนางเป็นคนดังในเมืองหลวง ได้ยินมาว่านางได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งในการ แข่งขันกวีนิพนธ์และจิตรกรรมเมื่อสองสามวันก่อน และ ได้รับรางวัลชนะเลิศในด้านคุณธรรมและรูปลักษณ์ใน งานเลี้ยงน้ำชาปีนี้ มันกลายเป็นเรื่องที่มีคนพูดถึงกัน เยอะมากในเมืองหลวง

และไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น มีบางคนพูดถึงเรื่องนี้ในวัง เพื่อเอาใจฮ่องเต้ แม้ว่าราชครูจุนไม่ได้พูดอะไร แต่เรื่อง นี้ดังในวันอย่างครึกโครมแล้ว

ก่อนหน้านี้ จุนซูฉูเดิมที่ตั้งใจที่จะเข้าประกวดการคัด นางดีงามเข้าไปในพระราชวังเพื่อรับใช้ฮ่องเต้ แต่พูดถึง เรื่องนี้ ฮ่องเต้หาข้ออ้างปราบปรามเพราะคิดถึงความ

สัมพันธ์ที่ยาวนานที่มีต่อฮองเฮา แต่คราวนี้มีคนพูดถึงทายาทของฮ่องเต้ เขารู้อยู่ในใจว่า ในเมื่อเป็นเรื่องของ ฮ่องเต้ ก็ได้แต่ให้ตระกูลเสินมารับผิดชอบเพียงเท่านั้น

การสูญเสียครั้งนี้พวกเขายากที่จะพูด! แค่กลัวว่าลูกสาวของตระกูลจุนคนนี้ จักต้องเข้าไปใน วังแน่นๆ

แม้ว่าฮ่องเต้จะรักฮองเฮาด้วยสุดใจ แต่ก็ไม่มีใคร สามารถบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ยิ่งไม่ต้อง พูดถึงว่าตระกูลจุนมีแผนการอันใด

เงินเฉิงเสี้ยงเดินเข้าไปที่ห้องของเสินฮูหยินโดยตรง นางกำลังจะถอดเสื้อผ้า เห็นลูกสาวเสินหยุนเอ๋อ ถึงเดิน ไปนั่งลง

“หยุนเอ๋อกราบเท้าท่านพ่อที่เคารพ” เมื่อเสินหยุนเอ๋อ ได้เห็นเสินเฉิงเสี้ยงนางก็รีบเดินไปน้อมทักทาย

“ท่านพ่อ มีอะไรจะคุยกับท่านแม่เพคะ?” สำหรับลูกสาว เสินเฉิงเสี้ยงยังคงอ่อนโยน

เสินหยุนเอ๋อคิดอยู่พักหนึ่งและตรัสว่า “ลูกสาวยังมีกิจ ที่ต้องไปทำ ลูกขอจากไปก่อน เพื่อไม่รบกวนท่านพ่อ ท่านแม่ทรงปราศรัย พูดจบเสินหยุนเอ๋อจากไปก่อนแล้ว เสินเฉิงเสี้ยงก็

เข้าใจลูกสาวคนนี้อย่างดี

หลังจากลูกสาวออกไปแล้ว เสินเฉิงเสี้ยงถามว่า”เกิดอะไรขึ้น”

“ท่านนาย เรื่องเป็นอย่างนี้”

หลังจากที่เสินฮูหยินพูดจบแล้ว เสินเฉิงเสี้ยงส่ายหัวว่า “อ๋องเสียนหมดอำนาจเพราะข้าเอง แม้ว่าฮ่องเต้ไม่ได้พูด แต่ข้าก็รู้ผลดีและผลเสียของเรื่องนี้ วันนี้ในวังมีคนพูด ถึงลูกสาวคนที่สองของตระกูลจุน ถึงแม้อายุยังน้อย แต่ มีชื่อเสียงดังทั่วโลกแล้ว เกรงว่าสถานการณ์จะดีกว่า สถานการณ์ชูเอ่อ เรื่องนี้เนี่ย… 131

เสินฮูหยินได้ยินก็เข้าใจแล้วและนางก็ถามทันทีว่า “ท่านนาย ตามความหมายของท่านคือว่าเราควรส่งหยุน เอ่อเข้าไปในวังเหรอ?”

เลอะเลือนไปแล้ว น้องยังไม่เข้าใจนิสัยของชูเอ๋ออีก ตอนนั้นนางไม่ยอมที่ส่งนางเข้าไปในวัง นั่นเป็นเพราะ กำจัดคนนั้นไปทำให้นางเสียใจท้อแท้ ตอนนี้ถ้าน้อง ปล่อยให้หยุนเอ๋อเข้าไปในวังให้ไปดูแลสามีคนเดียว มัน ไม่ใช่เป็นการจะฆ่านางทั้งเป็นเชียวรึ? %3D

หลังจากเสินเฉิงเสี้ยงด่าว่าไปชุดใหญ่ เสินฮูหยินก็ตัว สั่นแล้วถามทันทีว่า “ถ้าอย่างนั้นท่านนายหมายความ ว่ากระไรรีรึเพคะ?”

ตอนนี้ ได้แต่ต้องรออย่างเดียว ถ้าตระกูลจุนส่งจุน

เซียวเซียวเข้าไปในวัง ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องดูอยู่ข้างๆ

ทำเหมือนไม่เห็นและไม่สนใจ แต่ขั้นตอนนี้จะต้อง

วางแผนระยะยาว ลูกสาวสองคนของตระกูลจุน คนหนึ่งมอบให้แก่อ่องตวน นี้คือขั้นตอนในการรักษาอำนาจ

กษัตริย์ให้มั่นคง ถ้าหากส่งจุนเซียวเซียวไปที่วังอีก นั่นก็ จะเห็นความคิดของตระกูลจุนอย่างชัดเจนมากขึ้น พวกเราไม่สนใจ ก็จะมีคนสนใจ ฮองไทเฮาอาจจะเป็น คนจัดการเอง

ก็ได้แต่รอดูการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น

สำหรับหยุนเอ๋อ อย่าปล่อยให้นางออกไปข้างนอก เกรงว่านางจะก่อเรื่อง

ตอนนี้ ท่านอ๋องเสียนยังไม่รู้ชัดเจนว่าฮ่องเต้มีแผนการ กระทำต่อนางเช่นไร นางไปที่นั่นบ่อยๆกลับไม่ดีต่อ ตัวนาง ในเมื่อวันนี้นางไปที่นั่นมาแล้ว ก็แสดงออกถึง ความรู้สึกผิดของข้า ดังนั้นโปรดอย่าไปอีก”

เข้าใจแล้ว ท่านนายวางใจได้ หม่อมฉันจะดูแลหยุนเอ๋ อให้ดีและไม่ให้นางออกไม่ก่อเรื่อง ”

“อืม”

เสินหยุนเอ๋อได้ยินบางเรื่องจากข้างนอก และรู้ว่ามัน เป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่านางจะบอกว่านางอยากแต่งงาน กับท่านอ๋องเสียน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะไม่ทำตามกร อบ นางหันกลับไปที่ห้องอื่นและไม่ได้ออกไปไหนอีก

ในตอนประชุมตอนเช้าวันต่อมา

หมอเว่ยเป็นคนแรกที่รายงานว่าฮองไทเฮาต้องการคน ปรนนิบัติรับใช้ ฮ่องเต้ชิงหยู่หลายปีมาแล้วไม่เคยเลือกคนที่จะเข้าไปในวัง เรื่องนี้ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศต้า เหลียง

ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทุกคนก็ต่างคุกเข่าลงกราบขอฮ่องเต้ ชิงหยู่ หวังที่จะให้ฮ่องเต้ชิงหยู่พิจารณาถึงอาณาจักร พื้นดินทำกินของประเทศสามารถที่จะตั้งระบบการคัด นางดีงาม

ฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่ได้โกรธ เขาแค่บอกว่าข้าในวัยขนาดนี้ แล้ว ยังจะจัดงานการคัดนางดีงาม พวกเขาคิดได้กระไร และเดินจากไป

เรื่องในวังอันหลิงหยุนไม่รู้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมีคนพูด ออกไป

แม่ทัพอันคิดถึงลูกสาวอยู่ตลอด ห่วงว่าอันหลิงหยุนจะ ถูกกลั่นแกล้งในจวนอ่องเสียน อดไม่ได้ที่จะเข้าไปหา อันหลิงหยุนที่จวนอ่องเสียนด้วยตนเอง ตอนมาได้เอา เสื้อขนสัตว์ที่ได้รับจากฮ่องเต้ไปด้วย ซึ่งเป็นเสื้อสีขาวที่ เขาชอบมาก เพื่อเอาไปให้ลูกสาวสวมใส่ เวลาออกไป ข้างนอกในฤดูหนาวก็จะได้ไม่หนาวและยังสวยงามอีก ด้วย

อันหลิงหยุนมีความสุขที่ได้เห็นแม่ทัพอันมา ท่านพ่อ ของนางก็เป็นอย่างนี้ เขาสามารถไปที่พระตำหนักจิน หลวงของฮ่องเต้ได้ และเขายังสามารถมาที่บ้านของ จวนอ๋องเสียนได้อีกด้วย

เมื่อพ่อและลูกสาวได้พบเจอกัน แม่ทัพอันรีบเอาเสื้อขนสัตว์ตัวนั้นมาใส่ให้อันหลิงหยุนทันที อันหลิงหยุนเห็น แล้วถามว่ามันมาจากไหน แม่ทัพอันพูดถึงเรื่องดังกล่าว ห้องประชุมบนวัง อันหลิงหยุนถึงได้รู้ว่าจะมีคนคิดจะทำ อะไรในเรื่องการคัดนางดีงาม

” โชคดีที่หยุนหยุนได้แต่งงานกับท่านอ๋องเสียน ไม่ เช่นนั้นพ่อก็ไม่ยอม” แม่ทัพอันลังเลสักพักและความ หมายนั้นชัดเจน ทำให้อันหลิงหยุนก็รู้สึกตลกดี

“ถึงแม้ว่าลูกจะไม่ได้แต่งงานกับท่านอ๋องเสียน ฮ่องเต้ ก็ไม่ชอบลูกหรอก ในแง่ของความอาวุโสฮ่องเต้กับท่าน พ่อเป็นเพื่อนกันที่ดีและลูกเป็นผู้เยาว์ นับประสาอะไรกับ คุณสมบัติของลูก จะเหมาะสมกับฮ่องเต้ได้กระไรเพคะ”

พ่อบ้านรู้สึกที่งหน่อย ไม่คิดว่าท่านพระชายายังจะมี ตอนที่เข้าใจทุกอย่างอย่างปราดเปรื่อง

แม่ทัพอันกล่าวว่า “ถึงฮ่องเต้จะไม่จัดงาน แต่ขุนนางที่ อยู่ชั้นล่างก็อยากจะให้มีจัดงานนี้ใจจะขาด แต่ละคน อยากจะจัดงานประกวดการคัดนางดีงาม จะได้ให้ ลูกสาวเปลี่ยนจากฐานะที่ต่ำด้อย ยกระดับขึ้นมาเป็นคน ที่มีฐานะทันทีทันใด”

“ท่านพ่อทำไมพ่อไม่อยากให้ลูกสาวกลายเป็นผู้มี ฐานะที่สูงส่งอย่างนี้กระไร? ” อันหลิงหยุนเกิดความ อย่างรู้อยากเห็น

แม่ทัพอันเย้ยหยัน ตรัสว่า “พ่อไม่ต้องการอะไรอีกและ สามารถเลี้ยงดูแลนางได้ ทำไมถึงต้องให้ลูกไปใช้ชีวิตเป็นทุกข์ที่วัง จวนอ๋องเสียนพ่อยังไม่ชอบเลย ถ้าหากหา องครักษ์ติดตามตัว นางอยากจะทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่มี ใครจะสามารถห้ามได้

ทันใดนั้น อันหลิงหยุนก็ได้เห็นว่า ที่จริงแล้วพ่อคนที่ เป็นแม่ทัพคนนี้ก็วางแผนอย่างรอบคอบและคิดการณ์ ไกล แต่คนนอกไม่เคยเข้าใจเลย

“ท่านพ่อ ทำไมพ่อถึงได้รับเสื้อขนสัตว์ นั่นเป็นเพราะ ต้องการจัดงานการคัดนางดีงามใหม่เหรอ” นี่ไม่ถูกกฏ ระเบียบ การจัดงานการคัดนางดีงามใหม่มันเกี่ยวข้อง อะไรกับแม่ทัพ

แม่ทัพอันยิ้ม “ทุกคนคุกเข่าลงเพื่อขอเรื่องจัดงานการ คัดนางดีงามใหม่ รวมถึงเสินเฉิงเสี้ยงก็ด้วย แต่พ่อคิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของฮ่องเต้เอง คนอื่นอย่างเราไม่จำเป็น พ่อคนเดียวที่ไม่คุกเข่าขอ

หลังจากนั้นฮ่องเต้ก็เรียกพ่อไปคุยที่พระตำหนักจรุง จิต ถามพ่อว่าอยากจะได้อะไร พ่อบอกว่าพ่ออยากได้ เสื้อขนสัตว์จากฮ่องเต้

อันหลิงหยุนนับถือชื่นชมอย่างมาก ทำแบบนี้ก็ได้ กระไร! แต่เรื่องการจัดงานการคัดนางดีงามใหม่จะมีความ

จำเป็นและฮ่องเต้ก็ไม่มีทางเลี่ยง อยากเสมอต้นเสมอ

ปลายก็ไม่ได้
เมื่อแม่ทัพอันมาถึงจวนอ๋องเสียนจัดงานต้อนรับอย่าง ดี ได้เจอทุกคนยกเว้นนกงชิงผู้ที่รักษาตัวอยู่ แม่ทัพอัน ดีใจ หลังจากที่เสวยพระกระยาหารเสร็จแล้วถึงกลับไป ที่จวนแม่ทัพ

อันหลิงหยุนไปส่งพ่อก่อนแล้วถึงจะกลับมา ตอนนี้ ท้องฟ้าก็มืดแล้ว ถึงเวลาพักผ่อนแต่อันหลิงหยุนก็ได้ รับคำสั่งของ ฮองไทเฮา ให้นางเข้าไปในวังอย่างรวดเร็ว

อันหลิงหยุนไม่รู้สาเหตุ แต่นางรู้สึกราง ๆ ว่าอาจ เกี่ยวข้องการคัดนางดีงาม

อันหลิงหยุนเข้ามาในพระราชวังตอนดึกๆ ไห่กงกงรอ อยู่หน้าประตูพระราชวังตั้งแต่นานแล้ว คราวที่แล้วเขา ได้รับประโยชน์จากอันหลิงหยุนไป คราวนี้เขาถึงมาที่นี่ เพื่อแจ้งให้อันหลิงหยุนทราบก่อน

สองคนนี้คนหนึ่งอยู่ข้างหน้าอีกคนหนึ่งอยู่ข้างหลัง ไห่ กงกงบอกบางเรื่องให้อันหลิงหยุน และอันหลิงหยุน เข้าใจแล้วว่า แผนการในวังมันลึกลับ ซับซ้อน นี่มันก็ เป็นหลุมพรางจริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ