ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 206 ฉายเดี่ยว



บทที่ 206 ฉายเดี่ยว

อันหลิงหยุนยืนแข็งที่ออยู่ด้านนอกต้าจงเจิ้งย่วน ด้วยแววตาหวาดหวั่น

เหตุใดจึงประหารเขาเร็วเช่นนี้?

เมื่อหวนนึกถึงอ่องชินหรงและกงชิงในวัยเยาว์ ทำให้อันหลิงหยุนรู้สึกเสียใจอยู่พักใหญ่

น่าสงสารเสียจริง!

“พระชายาเสียน!” จู่ๆเว่ยหลิงชวนก็โผล่มา เขารอ อยู่ที่ประตูทางเข้าต้าจงเจิ้งย่วน อันหลิงหยุนรีบเข้าไป ทำความเคารพในทันทีที่เว่ยหลิงชวนปรากฏตัว

อันหลิงหยุนตกใจ เมื่อเห็นเว่ยหลิงชวนมีใบหน้าที่ สะบักสะบอม ทั้งยังเดินได้ไม่สู้ดีนัก

นี่คือเว่ยหลิงชวน ผู้ที่สง่างามและสดใสร่าเริงจริง หรือนี่?

“โจว เจิ้น เกิดสิ่งใดขึ้นแก่ท่าน? เหตุใดจึงดูย่ำแย่ เช่นนี้เล่า?” อันหลิงหยุนแสร้งทำเป็นไม่รู้ ทั้งๆที่รู้อยู่ เต็มอก ว่าจักต้องเป็นกงชิง วี่ ที่สั่งคนมาทำร้าย เพราะ ไม่ค่อยถูกชะตากับเว่ยหลิงชวนเป็นแน่

เว่ยหลิงชวนจักกล่าวสิ่งใดได้ นอกจากยิ้มอย่าง

อับจนหนทาง

อันหลิงหยุนจึงถามว่า: “โจว เจิ้น ท่านเห็นท่าน อ๋องของข้าบ้างหรือไม่?”

“ด้วยเหตุที่อ๋องฉินทรงสิ้นพระชนม์ชีพ อ๋องเสียน จึงถูกคุมตัวไปแล้วขอรับ” เว่ยหลิงชวนตอบกลับ อัน หลิงหยุนพยักหน้ารับ

“เช่นนั้นข้าจักไปดูเขาเสียหน่อย เขาอยู่ที่ใด?”

เว่ยหลิงซวนละอายเล็กน้อย : “เข้าเฝ้ามิได้ขอรับ” อันหลิงหยุนเลิกคิ้ว: “แต่ข้ามีเรื่องสำคัญจำต้อง บอกแก่เขา”

“เช่นนั้นเห็นจะต้องขอองค์หญิงใหญ่”

“เช่นนั้นเจ้าก็ไปรายงานเสีย ข้าจักรออยู่ที่นี่”

เว่ยหลิงชวนส่ายหน้า : “องค์หญิงใหญ่มีคำสั่ง ห้าม มิให้พระชายาเสียนเข้าเฝ้า ด้วยเหตุคืออ่องเสียนจัก ไม่ให้การใดๆแก่ท่านได้”

“เช่นนั้นข้าไปก็ได้” อันหลิงหยุนเหลือบมอง ใบหน้าที่แสนสุดจะทนของเว่ยหลิงชวน ซึ่งเสแสร้งได้ อย่างยอดเยี่ยม

หลังจากที่อันหลิงหยุนมาถึงจวนอ่องเสียน พ่อ บ้านที่กำลังกระสับกระส่ายด้วยความกังวล เห็นอัน หลิงหยุนก็รีบเข้ามาสอบถามว่าเกิดสิ่งใดขึ้น

” “ยังไงจวนอ่องเสียนยังคงเป็นจวนอ่องเสียน พวก เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลข้าจำต้องเข้าไปในวัง รอดูว่าไท เฮาจักพูดสิ่งใด เพลานี้องค์หญิงใหญ่ไม่อนุญาตให้ข้า เข้าเฝ้าท่านอ่อง พวกเราหาทำสิ่งอันใดได้ไม่ อ๋องทั้ง แปดท่านคงไม่ปล่อยผ่านไปเป็นแน่”

ฟอบ้านพยักหน้าหงึกๆ เพราะอันหลิงหยุนพูดอย่ างชัดเจนว่าจะต้องเข้าไปในวัง

มีคนรออยู่ที่ประตูทางเข้าวัง อันหลิงหยุนสังเกต เห็นคนคนหนึ่ง ก็รู้สึกแปลกๆจึงคิดที่จะทำความ เคารพ: “อันกั๋วจิ๋ว”

“อืม”

อันกั๋วจิ๋วมุ่งหน้าเข้าวัง และอันหลิงหยุนก็เดินตาม หลังเข้ามา

ไห่กงกงรออยู่ ณ ประตูทางเข้าวัง ก็รู้สึกโล่งใจที่ ได้เห็นทั้งสองเดินเข้าประตูมาด้วยกัน

“อันกั่วจิ๋ว พระชายาเสียน”

ไห่กงกงทำความเคารพ

อันหลิงหยุนพยักหน้ารับ อันกั๋วจิ๋วเดินนำหน้าเพื่อ ที่จะไปยังวังเฉาเฟิ่ง ขณะที่กำลังเดินอยู่ก็กล่าวว่า: “อ๋องเสียนได้สืบสวนในคดีของอ่องทั้งแปดท่าน การ

พิจารณาคดีเป็นเช่นไรบ้าง?” อันหลิงหยุนกล่าวต่อ: “การพิจารณาคดีกำลังเป็น

ไปด้วยดี หากแต่ข้าไม่คาดคิดว่าจักเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น” อันกั่วจิ๋วมองไปยังอันหลิงหยุน: “เจ้าหมายถึงมีคน

จัดฉากแก่อ่องเสียนเช่นนั้นรี?” ” “เป็นไปได้เจ้าค่ะ ท่านอ๋องของข้านั้นเป็นผู้ที่เที่ยง ธรรมและซื่อสัตย์มาตลอด ทั้งยังปฏิบัติตัวอย่างเหมาะ สม การกระทำอันเลือดเย็นเช่นนี้ จักต้องมีผู้อยู่เบื้อง หลังเป็นแน่เจ้าค่ะ”

อันหลิงหยุนพูดปฏิญาณออกมาอย่างจริงใจ ไห่ กงกงรู้สึกละอายใจต่อนาง

หากอ๋องเสียนนั้นเป็นผู้ปฏิบัติเหมาะสม เช่นนั้นจัก มีผู้ใดที่ไม่เหมาะสมอีกเล่า

อันกั่วจิ้วมองไปที่อันหลิงหยุน: “เช่นนั้นผู้ใดอยู่ เบื้องหลังอย่างนั้นรี?”

“จักเป็นผู้ใด? ยังต้องกล่าวอีกหรือเจ้าคะ? แน่นอนว่าจักต้องเป็นอ๋องชินหรงกับชิงซวนที่ตายไป แล้ว” อันหลิงหยุนดูมุ่งมั่น

ไห่กงกงตกตะลึงไปชั่วขณะส่วนอันกั๋วจิ๋วนั้น

ประหลาดใจไม่น้อย

เขายังคงมองไปที่อันหลิงหยุนอย่างจดจ่อ รูปคิ้วที่ แฝงด้วยความลังเลของเขาเหยียดออก และรอยยิ้ม กว้างก็ปรากฏขึ้น: “หากนี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างนั้นข้า จักพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบด้วยเหตุและผล”

อันหลิงหยุนเดินไปพร้อมกันทั่วจิ๋ว และผลักเรื่อง ทั้งหมดให้เป็นการกระทำของอ่องชินหรง

“เมื่อเขาเห็นว่าเรื่องถูกเปิดเผย จำต้องเกรงกลัว

เป็นแน่ จากนั้นก็ฆ่าตัวตาย เพื่อใช้เรื่องนี้จัดฉากแก่ ท่านอ๋อง อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นข้ออ้างเพื่อปกป้อง คนในตระกูล และจัดฉากแก่ท่านอ่องได้ในครา เดียวกัน”

อันกั่วจิ๋วไม่แสดงจุดยืนอันใด และแล้วทั้งสองก็มา ถึงวังเฉาเฟิง

ในเพลานี้ ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็อยู่ที่นั่นแล้ว อันหลิงหยุ นก้าวไปข้างหน้าเพื่อแสดงความเคารพ หลังจากลุกขึ้น ก็รอฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวถึงเรื่องนี้

หวางฮองไทเฮานั่งอยู่บนเก้าอี้นอนตัวสูง ดวงตา เรียบนิ่งเหมือนไม่ใส่ใจในเรื่องของกงชิงวี่มากนัก

อันหลิงหยุนไม่เข้าใจ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับอ๋องตวน หวางฮองไทเฮาเป็นกังวลอย่างมาก แต่ในครานี้

ถึงแม้จักดูเป็นลางไม่ดี แต่ก็ให้ความรู้สึกที่แตก ต่างอย่างชัดเจน

“กั่วจิ๋ว เจ้าคิดว่าจักทำเช่นไรกับเรื่องนี้?”

อันกั่วจิ๋วครุ่นคิด: “หากไม่มีคำอธิบายใด เกรงว่า จักไม่สามารถพิสูจน์สิ่งใดได้พระพุทธเจ้าข้า”

หวางฮองไทเฮาเหมือนจะเห็นด้วย พระองค์จึง สงบเงียบ ไม่กล่าวสิ่งใด

อันหลิงหยุนเริ่มเป็นกังวล นี่มันหมายถึงสิ่งใด จัก ต้องโยงกงชิงที่เข้ามาด้วยรี? “หากเป็นเช่นนั้น กั๋วจิ้วจงไปเสียเถิด เห็นต้องให้ คดีนี้แก่กั่วจิ้วเสียแล้ว” ฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวในขณะที่สวี กงกงยื่นคำสั่งฮ่องเต้ให้

หวางกั๋วจิ๋วรับคำสั่งฮ่องเต้มาและออกไป

อันหลังหยุนมองตามหวางกั๋วจิ๋วที่กำลังออกไป แล้วหันกลับมามองผู้นั่งอยู่เหนือหัวอย่างฮ่องเต้ชิงหยู่ และหวางฮองไทเฮา

สวีกงกงและไห่กงกงก็ถอนตัวออกไป เหลือเพียง สามพระองค์ในโถงแห่งนี้

อันหลิงหยุนงุนงง

“เสด็จแม่ ฮ่องเต้”

หวางฮองไทเฮาลุกขึ้น: “ข้ารู้สึกเหนื่อยล้า ต้องการพักผ่อนเสียหน่อย”

หวางฮองไทเฮาไปจากอันหลิงหยุน พลางหันไป หาฮ่องเต้ชิงหยู่: “ฮ่องเต้”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ลุกขึ้น และก้าวลงมาจากบันไดสูงง เดินมาหยุดที่ด้านหน้าอันหลิงหยุน: “การประหารและ การถูกขังจนสิ้นใจนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ข้าไม่ สามารถช่วยอันใดได้!”

อันหลิงหยุนมิเอ่ยสิ่งใด ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงหันหน้า หนี: “เจ้าจงอยู่ในวังนี้เป็นการชั่วคราว ห้ามออกไปแห่ง หนใด ไม่ว่าจักมีสิ่งใดเกิดขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างจำต้อง ดำเนินต่อไป” ฮ่องเต้ชิงหยู่ออกจากวังเฉาเพิ่งไป อันหลิงหยุนรู้ สึกหวั่นใจเล็กน้อยขณะยืนอยู่ในวังเฉาเพิ่ง

คนเหล่านี้มักได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย ในเพลานี้ กงชิงวี่ตกที่นั่งลำบาก แต่เมื่อพวกเขาพูดจบก็จากไป โดยไม่คำนึงถึงกงชิงวี่เลยแม้แต่น้อย!

อันหลิงหยุนออกมาจากวังเฉาเฟิง ไห่กงกงได้รอ อยู่ที่ประตูทางเข้า เมื่อเห็นอันหลิงหยุนก็รีบก้าวออก มา: “พระชายา ในเพลานี้ท่านจำต้องดูแลรักษาตัวให้ ดี”

อันหลิงหยุนพยักหน้าตอบรับ: “รู้แล้ว”

อันหลิงหยุนจากมา พร้อมมุ่งไปยังวังสวยหัว พลางพูดพึมพำด้วยความสงสัย นางอยากจะไปดูจุน

เซียวเซียวเสียหน่อย เมื่อมาถึงด้านนอกวังสวยหัว ก็ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง

ก่อนจะเดินกลับไปดูอ่องตวน ฮั่วไท่เฟยไม่แปลกใจที่ได้เห็นอันหลิงหยุน จึงได้ ถามถึงเรื่องของกงชิง วี่ และเรื่องที่นางได้ประสบพบ เจอมา

อันหลิงหยุนเยี่ยมอ่องตวนเสร็จ ทุกคนนั้นสบายดี อันหลิงหยุนก็หวังเพียงให้อ๋องตวนดีขึ้นในเร็ววัน

อันหลังหยุนฉีดยาให้แก่อ่องตวนไปหนึ่งเข็ม

“เสด็จพี่พระชายาเสียน ท่านไม่ต้องเป็นกังวล อ่องเสียนจักต้องไม่เป็นอันใด” หยุนโล่ชวนเป็นห่วงอัน หลิงหยุนมาก จึงปลอบโยนนาง

“อ็ม” อันหลิงหยุนไม่เคยคิดมาก่อนว่า ในวังแห่งนี้ ยังหลงเหลือผู้ที่มีมนุษยธรรมอยู่ด้วย

อันหลิงหยุนอารมณ์ไม่ดีนัก แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะ ให้ร้ายผู้ใด

นางต้องการตรวจสอบยาพิษในตัวฮ่องเต้อยู่ เช่น นั้น จึงไม่ควรที่จะฝากความหวังไว้ที่กงชิงวี่แต่เพียงผู้ เดียว

แค่กำลังรอเวลาอันสมควร ที่ความจริงจักเผยออก มาเพียงเท่านั้น

“พวกเขาจงใจใส่ความอ่องเสียนอย่างนั้นรึ?”

กงซิงหยินหัวเราะ อันหลิงหยุนที่นั่งอยู่ข้างๆจึง มองไปยังอ่องตวน คิดไม่ถึงเลยว่าทุกคนจักเหยียบย่ำ กงชิงวี่ในยามลำบาก กงชิงหยินบ้าไปแล้วจริงๆ

“อย่ามองข้าด้วยแววตาเช่นนั้นเลย อ่องเสียนทำ เพื่อข้า จึงต้องตกที่นั่งลำบาก”

“ข้ารีบมาในทันทีที่ทราบเรื่อง แต่เขาก็ไม่อยู่แล้ว ข้าคิดว่าพวกเขาคงถือไพ่เหนือกว่าแล้วล่ะ ใช้เพียง หนึ่งชีวิต ก็สามารถบั่นทอนอำนาจของอ่องเสียนเสีย สิ้น การเล่นละครตบตาของพวกเขานั้นยอดเยี่ยมเสีย นี่กระไร!”

อ๋องตวนไม่ตอบกลับ เพียงแค่กุมมือเอาไว้ ตกดึก อันหลิงหยุนเพิ่งออกจากวังฮั่วหยาง หยุ นโล่ชวนไม่สบายใจ จึงเดินมาส่งเธอจนถึงวังเพิ่งหยี อันหลิงหยุนเฝ้ามองหยุนโล่ชวนที่กำลังเดินกลับไป และนางก็หันหลังกลับเข้าวัง

ในเพลานี้ ทั้งวังเพิ่งหยี่กำลังจมอยู่กับความอัปยศ อดสูที่กงชิงวี้ได้ก่อขึ้น ทุกคนต่างมิพอใจในตัวอันหลิง หยุนนักเว้นก็แต่แม่นมซี

ทุกคนกำลังเหยียบย่ำผู้ที่กำลังล้ม ทุกคนในวังรู้ เรื่องที่กงชิงวี่กระทำลงไปกันหมดแล้ว

สถานที่ที่ไม่ควรมามากที่สุดในตอนนี้สำหรับพระ ชายาเสียนก็คือที่นี่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ