ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 139 กำพร้าพ่อตั้งแต่อยู่ในท้อง



บทที่ 139 กำพร้าพ่อตั้งแต่อยู่ในท้อง

จากนั้นกงชิงหยินเริ่มดื่มเหล้า ดื่มไปดื่มมาก็เริ่ม เมา กงชิงวี่ประคองกงชิงหยินไปพักผ่อน ให้เขาพักอยู่ ในจวนแม่ทัพ

ส่งคนเสร็จแล้วกงชิงวี่ถึงกลับไปพักผ่อน ถอด

เสื้อผ้าขึ้นเตียง เอามืออันหลิงหยุนไปดู อันหลิงหยุน

ลืมตาขึ้นมามองเขา “ท่านอ๋องจะนอนตั้งแต่หัววันเลย

หรือ?”

“ข้ารู้สึกเหนื่อย ไม่นอนจะให้ทำอันใด?” กอดคน ไว้ในอ้อมแขนจะทำเรื่องอย่างนั้น อันหลิงหยุนดึงรั้ง เอาไว้แต่ก็ต้านไว้ไม่อยู่ มองไปที่ประตูเห็นว่าไม่มีคน จึงยอมเขาแต่โดยดี

ลุกจากเตียงเวลาเลยบ่ายคล้อยไปแล้ว อันหลิง หยุนรู้สึกเศร้าเล็กน้อยมองไปที่ประตูครู่หนึ่ง พ่อบ้าน มาด้อมๆมองๆแล้วก็จากไป

ลุกขึ้นจากเตียง อันหลิงหยุนก็เปลี่ยนเสื้อผ้า

“กลับมาบ้านครั้งหนึ่งท่านก็ยังจะตามมาทำเรื่อง แบบนี้นี้ ยังอันใดก็เป็นถึงท่านอ่อง ไม่กลัวคนหัวเราะ เยาะเอาหรือ?” แต่งตัวเรียบร้อยอันหลิงหยุนมองคนที่ ลุกขึ้นจากเตียงอย่างไม่สบอารมณ์

กงชิงวี่รู้เหตุผลเป็นรอง กลับมาบ้านทำเรื่องอย่างนี้ไม่ดีจริงๆนั่นแหละ ฟังอันหลิงหยุนบ่นอย่างเจียมตัว ตอนแรกอันหลิงหยุนกะจะบ่นอันใดกงชิงวี่ต่อสัก หน่อย เห็นเขาเป็นแบบนี้ก็พูดไม่ออกอีก

จ้องมองกงชิงวี่สักพัก อันหลิงหยุนถึงออกจาก เรือนไป

มองมาแต่ไกลเห็นลุ่ยหลิวมองเข้าไปข้างในเรือน อีกเรือน อันหลิงหยุนแปลกใจเดินไปถาม ทำให้ลุ่ย หลิวสะดุ้งตกใจ

“เจ้ามองอันใดอยู่?”

ลุ่ยหลิวรีบร้อนคำนับ เดินไปข้างกายอันหลิงหยุ นกระซิบข้างหูเบาๆ อ่องตวนไม่ได้เมา นั่งเหม่อลอยอยู่ ในเรือน

อันหลิงหยุนทำหน้ารับรู้ หันกลับไปมองกงชิงวี่ที่ กำลังเดินมา

“ข้าจะไปคุยกับท่านพ่อ พวกท่านคุยกันเถอะ

เรื่องของอ่องตวนอันหลิงหยุนก็ไม่อยากพูดอันใด มาก ที่ตอนนี้อ๋องตวนเป็นแบบนี้ ก็เป็นเพราะการกระ ทำจุนฉูฉู

อ๋องตวนก็เหมือนสัตว์เลี้ยงที่จุนฉูฉูเลี้ยงเอาไว้ เขารู้สึกได้ว่าเจ้าของไม่ได้ดีกับเขาเท่าไหร่ เขาถึงเป็น แบบนี้

พูดตามตรงคือผิดหวัง เสียใจ
คนๆหนึ่งก็อยากให้ความรักทั้งชีวิตของตัวเองกับ คนๆเดียว แต่คนนั้นกลับไม่สนใจไยดี ไม่ใช่แค่ไม่ สนใจไยดี ยังเหยียบย่ำอย่างเลือดเย็น เปลี่ยนเป็นผู้ ใด ก็ไม่สามารถจะรับได้

อ๋องตวนเป็นประเภทที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบ ทะนุถนอมอย่างดีตั้งแต่เด็ก มีทุกสิ่งที่ต้องการ มีแต่เขา ที่รังแกคนอื่น คนอื่นไม่อาจรังแกเขาได้

ที่จริงแล้วอันหลิงหยุนกับแม่ทัพอันก็พักอยู่ด้าน ข้าง เพียงแต่ว่าแม่ทัพอันไม่อยู่ที่ลานเรือนนี้ อันหลิง หยุนจะหาเขาต้องไปที่ห้องฝึกยุทธด้านโน้น

ถึงห้องฝึกยุทธอันหลิงหยุนเห็นพ่อบ้านยืนอยู่ตรง นั้น มองไปทางพ่อบ้านแล้วยิ้มให้ พ่อบ้านรีบยิ้มตอบ กลับมาหานาง

เดินไปข้างหน้าแล้วเคาะประตู “ท่านพ่อ ท่านอยู่ หรือไม่?”

“เข้ามาสิ” น้ำเสียงแม่ทัพฟังดูกังวล อันหลิงหยุนรู้

สึกไม่ชอบมาพากล

หันกลับไปมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปของพ่อบ้าน เหมือนจะเจอกับเรื่องยากเข้าแล้ว

อันหลิงหยุนแปลกใจ “เกิดอันใดขึ้น?”

พ่อบ้านกำลังจะเอ่ยปากแต่ก็เงียบไป ประตูด้าน ในได้ยินเสียงแม่ทัพอัน “หยุนหยุน เข้ามาเถอะ”

อันหลิงหยุนก้าวเท้าเดินเข้าไป ตั้งใจฟังว่าเกิดอันใดขึ้น พ่อบ้านไม่บอกก็ต้องมีคนบอกอยู่ดี แม่ทัพอันเช็ดเหงื่อออก เดินไปด้านหนึ่งแล้วนั่งลง

อันหลิงหยุนปิดประตูแล้วเดินเข้าไป ถึงแม้ว่าจะ รู้สึกล้าจากกิจกรรมที่เพิ่งทำไปเมื่อกี้ แต่นางก็อยากจะ ยืดเส้นยืดสายหน่อย ดังนั้นจึงหยิบกระบี่มาเล่มหนึ่ง เดินอยู่ในเรือนหนึ่งรอบ

ปกติแล้วแม่ทัพอันจะต้องคอยให้การชี้แนะ หรือ ไม่ก็คอยยืนส่งเสียงเป็นกำลังใจ แต่เวลานี้แม่ทัพอัน กลับแค่มองลูกสาวด้วยรอยยิ้มที่ยินดี ถือเป็นการให้ กำลังใจนางแล้ว

อันหลิงหยุนวางกระบี่ลงเช็ดเหงื่อออก เดินไปนั่ง ข้างๆแม่ทัพอัน

“ท่านพ่อ มีเรื่องหรือ?”

แม่ทัพอันรู้สึกเศร้าหมองเล็กน้อย “ก็ไม่ได้เป็น เรื่องคอขาดบาดตายอันใด แต่พ่อไม่มีปัญญา ช่วยอัน ใดไม่ได้ ในใจพ่อรู้สึกผิด”

“ท่านพ่อ มีเรื่องอันใดที่ทำให้ท่านลำบากใจขนาด นี้ ข้าช่วยท่านพ่อวิเคราะห์ดู” อันหลิงหยุนใช้ความ เข้าใจและเหตุผลในคำพูด

แม่ทัพอันจึงกล่าวว่า “พูดถึงเรื่องนี้มันเกี่ยวกับ

แม่ทัพรองฉาว เดิมทีตอนที่แม่ทัพรองฉาวอายุยังน้อย

เขามีน้องสาวอยู่ทางนี้คนหนึ่ง น้องสาวเขาอายุน้อย

กว่าเขาอยู่มาก
ตอนที่เขาตามพ่อไปออกรบพ่อเคยเห็นน้องสาว เขา ยังดื่มนมอยู่ในอ้อมแขนอยู่เลย

แม่ทัพรองฉาวไม่มีพี่น้องคนอื่นอีก แม่ของเขาเสีย ไปนานแล้ว ตอนแม่เสียแม่ทัพรองฉาวเพิ่งจะหกขวบ เอง พ่อของเขาเลี้ยงดูเขาจนโตไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขา ติดตามพ่อตั้งแต่อายุสิบเจ็ด ตอนนี้เขาอายุสามสิบเจ็ด แล้ว เขาดีทุกอย่าง เพียงแต่อาจจะดูเป็นคนหยาบไป บ้าง พูดไม่เก่งไปบ้าง บวกกับต้องขึ้นเหนือลงใต้ออก รบกับพ่อ เรื่องแต่งเมียเลยล่าช้ามาจนถึงทุกวันนี้

เขาไม่มีเมีย มีเพียงน้องสาวคนเดียว ความสัมพันธ์ พี่น้องดีมาก รู้หนาวรู้อุ่น

ตอนแรกพ่อของรองแม่ทัพฉาว ตอนเขายังเด็ก เคยคบหาดูใจอยู่กับแม่ม่ายคนหนึ่ง แม่ม่ายคนนั้นก็ เป็นคนจิตใจดี เห็นพวกเขาพ่อลูกน่าสงสาร นางตัวคน เดียวบางครั้งก็ถูกรังแก ไปๆมาๆก็ดูแลพวกเขาพ่อลูก ดีกับรองแม่ทัพฉาวเหมือนลูกตัวเอง

แต่พ่อเขากลัวว่ารองแม่ทัพฉาวจะโดนแม่เลี้ยง รังแก เลยไม่ได้อยู่กับแม่ม่ายคนนั้น แม่ม่ายคนนั้นก็ไม่ ได้แต่งงานอีก

พอรองแม่ทัพฉาวโตจนอายุสิบหก แม่ม่ายคนนั้น ถามรองแม่ทัพฉาว ให้นางเป็นแม่เลี้ยงเขาได้หรือไม่ รองแม่ทัพฉาวยินดีอยู่แล้ว ต่อมาเลยกลายเป็น ครอบครัวเดียวกัน

ตอนนั้นพ่อต้องพารองแม่ทัพฉาวไปด้วย เพราะเห็นว่าเขากล้าหาญเก่งการต่อสู้ เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี หากไม่เข้าร่วมกองทัพถือว่าน่าเสียดาย

ตอยที่เขาไปกับข้า แม่เลี้ยงเขาคลอดน้องสาวให้ เขาคนหนึ่ง ตอนที่รองแม่ทัพฉาวไปกับพ่อน้องสาวคน นั้นยังต้องอุ้มอยู่เลย ยังเด็กมากจริงๆ

พวกเราออกรบอยู่อย่างนั้นยี่สิบปี ไม่ค่อยได้กลับ มา ฤดูใบไม้ผลิใบไม้ร่วงร้อนหนาวผ่านไป ก็ผ่านไป ยี่สิบปีแล้ว

น้องสาวคนนี้ของเขาก็ช่างอาภัพ แต่งงานตอน อายุสิบหก คนๆนั้นเป็นซึ่งหลัง แต่ซึ่งหลังคนนี้สุขภาพ ไม่แข็งแรง เสียชีวิตแล้ว

น้องสาวรองแม่ทัพฉาวไม่มีลูก อยู่บ้านสามีก็โดน

รังแกตลอด น้องสามีทั้งสองก็ทุบตีทำร้ายนางอยู่บ่อยๆ

นางได้รับความทุกข์ทรมานอยู่ไม่น้อย แต่นางไม่กล้า

กลับมาบอกรองแม่ทัพฉาว

นี่ยังไม่เท่าไหร่ ช่วงก่อนน้องสาวรองแม่ทัพฉาวคน นี้กลับตั้งครรภ์ขึ้นมา ในประเทศต้าเหลียงถือเป็นความ ผิดใหญ่หลวง

หญิงที่เป็นม่ายและไม่ได้แต่งงานอีก หากว่าตั้ง ครรภ์ ต้องถูกจับใส่กรงหมูถ่วงน้ำ

พ่อเห็นท้องนางแล้ว ใหญ่เท่าแตงโมเลย

เพราะเรื่องนี้บ้านสามีน้องสาวรองแม่ทัพฉาว ทุบตี น้องสาวรองแม่ทัพฉาว เรียกให้รองแม่ทัพฉาวไปพบรองแม่ทัพฉาวเห็นน้องสาวถูกทุบตี ด้วยความโมโห เลยเตะน้องสามีคนหนึ่งในบ้านนั้นจนตาย ตอนนี้ รอง แม่ทัพฉาวถูกขังอยู่ในคุก ส่วนน้องสาวรองแม่ทัพอัน ถูกมัดอยู่ตรงประตูหน้าลานบ้านสามีนาง เสื้อผ้าไม่ เรียบร้อยคุกเข่าอยู่ พ่อไปเยี่ยมรองแม่ทัพฉาวแล้ว เขา ร้องไห้ขอร้องพ่อให้ช่วยเขา

แต่ว่าพ่อเป็นแค่ทหารคนหนึ่ง มีเหตุผลก็พูดไม่ ชัดเจน

ไม่ต้องถึงเรื่องที่ผู้หญิงแอบคบชู้ พ่อจะไปช่วยเขา ได้กระไร?”

แม่ทัพอันพูดจบอันหลิงหยุนพอเข้าใจแล้ว พ่อนาง ลำบากใจเพราะเรื่องรองแม่ทัพฉาว

รองแม่ทัพฉาวอันหลิงหยุนก็เคยพบ เป็นคนที่ใจ กล้าและหยาบ แต่เขาเป็นคนดี

เพียงแต่หน้าแก่เกินวัยไปหน่อยนางยังนึกว่าน่าจะ เลยสี่สิบไปเยอะแล้ว คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะสามสิบกว่า

“ท่านพ่อ ในเมื่อบอกว่าผู้หญิงคบชู้ ตกลงแล้วคบ หรือไม่คบชู้กันแน่?” อันหลิงหยุนต้องตรวจสอบให้ ชัดเจนก่อน เสียดายตอนนี้กงชิงวีไม่ได้เป็นคนทำคดี แล้ว ถ้าหากว่ายังเป็นเขา ก็สามารถให้กงชิงวี่ซ่วย เหลือได้

เวลานี้เขาเป็นอุปราชแล้ว ยังจะลงมาจัดการคดี ได้หรือ?
แม่ทัพอันกล่าวว่า “ที่แปลกก็แปลกตรงนี้แหละ รองแม่ทัพฉาวถามหลายต่อหลายครั้ง น้องสาวก็บอก ไม่ได้คบชู้ แต่ถ้าไม่ได้คบชู้ แล้วท้องมาได้ยังอันใด?

ท้องใหญ่ขนาดนั้น ก็เห็นกันอยู่ แม่ทัพอันรู้สึกหมดหนทาง

อันหลิงหยุนลุกขึ้นมากล่าว “ถ้าอย่างนั้น หาก ไม่ใช่บ้านสามีนางโกหก ก็เป็นน้องสาวรองแม่ทัพฉาวที่ โกหก แต่ไม่ว่าใครจะโกหก รองแม่ทัพฉาวก็เข้าไปยุ่ง เกี่ยวด้วยแล้ว เขาเป็นรองแม่ทัพ เตะคนตายข้างนอก ยังอันใดก็ฟังดูไม่สมเหตุสมผล”

“แม่ทัพฉาวเคยช่วยพ่อไว้ พ่อกลับช่วยอันใดเขา ได้ เขาบอกกับพ่อว่า น้องสาวเขาถูกคนพวกนั้นถอด เสื้อออกหมดแล้วตี เขาโกรธจนตาแดงไปหมด”

แม่ทัพอันเจ็บใจอย่างมาก ไม่สามารถช่วยแม่ทัพ รองได้รู้สึกไม่สบายใจ อันหลิงหยุนอยากจะไปดู “ท่านพ่อ ข้าอยากไปดู

น้องสาวแม่ทัพรองฉาว” แม่ทัพอันลุกขึ้น “จะไปดูก็ดูได้อยู่ แต่ก็ได้แค่ดู”

แม่ทัพอันรู้สึกทำอันใดไม่ได้หมดหนทาง อันหลิง หยุนแปลกใจ “ท่านพ่อ ท่านหมายความว่ากระไร? ดู ท่าทางท่าน เรื่องนี้ตัดสินไปแล้วเปลี่ยนแปลงอันใดไม่ ได้เลย?”

แม่ทัพอันกล่าวว่า “แม้ว่าจะยังไม่มีการตัดสิน มันก็ไม่มีหนทางที่จะเปลี่ยนอันใดแล้ว ตอนแรกฟอคิดจะ ไปขอร้องฝ่าบาท แต่วันที่พ่อไป ซ่างซูหลี่ก็อยู่ด้วย ที่ แท้ซึ่งหลังที่เสียชีวิตนั้น เป็นลูกชายคนโตของซ่างซู หลี่ ส่วนคนที่แม่ทัพรองเตะจนเสียชีวิตนั้นเป็นลูกชาย คนเล็กของช่างซูหลี่

ตอนที่พ่อจะไปขอร้องฝ่าบาท ซ่างซูหลี่กำลัง ร้องไห้และกล่าวว่าเขาช่างอาภัพ เดิมทีพ่อก็สามารถจะพูดอันใดได้อยู่บ้าง แต่ซ่างซู

หลี่คนนี้เป็นเพื่อนเรียนฝ่าบาท พ่อกับเขาก็ถือเป็น เพื่อนร่วมชั้น ถึงแม้ว่าพ่อจะเรียนหนังสือไม่เยอะ แต่ก็ ถือว่าเคยอยู่กับฝ่าบาท

และภรรยาของช่างซูหลี่คนนี้ ก็เป็นน้องสาวลูกพี่ ลูกน้องของราชครูจุน เขาเป็นคนสนิทของราชครูจุน พ่อมีใจอยากจะช่วย แต่กลับทำอันใดไม่ได้เลย ถ้าให้ ไปสู้รบ พ่อถนัด แต่ให้ไปสู้ขุนางใหญ่พวกนี้ สู้พวกเขา ไม่ไหว

เรื่องนี้จะมาไม้แข็งไม่ได้ พ่อรู้สึกไม่สบายใจเลย”

อันหลิงหยุนมองพ่อนาง ถาม “ท่านพ่อ ท่านเคยสู้ กับพวกเขา?”

“พ่อไม่จำเป็นต้องสู้ ถึงแม้ตอนอยู่ราชสำนัก ราชครูจุนจะโอหังไปบ้าง แต่ราชครูจุนก็ดีต่อพ่อไม่ น้อย พ่อเป็นคนโง่ แต่ว่าเขาก็เป็นอาจารย์ของพ่อ

ตัวอักษรของพ่อเขาก็เป็นคนสอน เดิมที่พ่อก็เป็นเพื่อนเรียนฝ่าบาท เพียงแต่พ่อไม่ชอบเรียนหนังสือ เลยยืนฟังอยู่ด้านนอก

เดิมทีตอนที่พ่อยังเป็นหนุ่ม ราชครูจุนดีกับพ่อไม่ น้อย ยังคิดจะให้น้องสาวลูกพี่ลูกน้องของเขาแต่งงาน กับพ่อ แต่พ่อไม่ชอบน้องสาวลูกพี่ลูกน้องของเขา เลย ปล่อยผ่านไป”

อันหลิงหยุนฟังแม่ทัพอันพูดด้วยความหดหู่ นาน พักใหญ่จึงกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านเลอะเลือนจริงๆ อย่างนั้นคือเขาอยากจะเอาใจท่าน ให้ท่านกลายเป็น คนของเขา ไม่งั้นซ่างซูหลี่จะกลายเป็นน้องเขยเขาได้ กระไร ลูกศิษย์บวกกับน้องเขย ความสัมพันธ์ก็จะยิ่ง แน่นแฟ้น ดีที่ท่านไม่ได้ตอบตกลง ถ้าท่านตอบตกลง

ไป ท่านก็ผิดต่อท่านแม่ของข้าจริงๆ”

พูดถึงแม่ของอันหลิงหยุน แม่ทัพอันก็ยิ้ม “พ่อจะ ไม่ทำผิดต่อแม่เจ้าหรอก นอกจากแม่เจ้าแล้ว พ่อไม่ ชอบใครทั้งนั้น”

อันหลิงหยุนนึกแปลกใจ ตกลงนางมีแม่แบบไหน กันนะ ทำให้พ่อนางรักได้อย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

เวลาที่พูดถึงแม่ของนาง สายตาพ่อของนางดูอ่อน โยนขนาดนั้น

ท่านแม่ทัพพ่อของนาง ช่างเป็นคนรักเดียวใจ

เดียว หากว่ากงชิงวี่ก็เป็นแบบนี้ ก็ไม่เลวเหมือนกัน
“ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว ท่านพ่อ ตอนนี้เราไปดูน้อง สาวแม่ทัพรองฉาวกันเถอะ ใช่แล้ว น้องสาวแม่ทัพฉาว ชื่ออันใด?” อันหลิงหยุนสอบถาม

แม่ทัพอันกล่าว “ชื่อฉาวเหม่ยเหริน”

” อันหลิงหยุนตะลึงไป “นี่เป็นชื่อหรือ?”

“ก็เป็นชื่อนั่นแหละ แม่ทัพรองฉาวบอกกับพ่อเอง เขาเรียกว่าเหม่ยเหรินเหม่ยเหริน พ่อยังตั้งใจถามเขา ซ้ำ” แม่ทัพอันอธิบาย

อันหลิงหยุนแปลกใจ “ข้าก็นึกว่าฉาวเหม่ยเหริน เป็นชื่อตำแหน่งซะอีก”

แม่ทัพอันส่ายหน้า “ต้องไม่ใช่อยู่แล้ว แต่พวกนี้ เป็นของชาวบ้าน ถ้าเป็นภรรยาซึ่งหลังน้อยคนที่จะพูด

ถึงนามสกุล ก็เรียกว่าซึ่งหลังฮูหยิง ต่อไปหากสามีแต่ง ภรรยาอีก ก็จะเป็นอี้เหนียง(เมียน้อยของขุนนาง)ฮู หยินรองอันใดแบบนี้

พ่อก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไมถึงยุ่งยากขนาด

นั้น”

แม่ทัพอันพูดแบบนี้อันหลิงหยุนกลับยิ้มออกมา ก็ ไม่มีอันใดที่อยากพูด พ่อของนางคนนี้ช่างเหมือนต้า เป่าเป้ย(เด็กทารกตัวใหญ่)


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ