ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่23แม่สามี



บทที่23แม่สามี

อันหลิงหยุนรีบเอ่ยกับหวางฮองไทเฮาทันที”เขาได้รับ บาดเจ็บสาหัสหวางฮองไทเฮาได้โปรดออกคำสั่งให้ทุก คนหลีกไปก่อนข้าจะช่วยเขา”

หวางฮองไทเฮาราวกับคว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้ นางเอ่ย “พวกเจ้าไปเถอะ”

พูดจบหวางฮองไทเฮาก็แบกจิตใจอันหนักอึ้งไปทาง อื่นด้วยเช่นกัน

อันหลิงหยุนกดลงไปบนร่างของกงชิงวี่จากนั้นจึงช่วย ผายปอดให้แก่เขา

ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง!

อันหลิงหยุนตัดใจจากนั้นจึงกัดลงไปที่ข้อมือและหยด เลือดเข้าไปในปากกงชิงวี่

หลังจากทำไปเป็นเวลานานในที่สุดกงชิงวี่ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆและมีเรี่ยวแรงกลับมาเล็กน้อย

อันหลิงหยุนเห็นกงชิงฟื้นแล้วในใจก็รู้สึกโล่งขึ้นมา จากนั้นจึงนั่งหายใจหอบอยู่ด้านหนึ่ง

หวางฮองไทเฮาที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งก็ถูก ทำให้ตกใจไปด้วยเช่นกันไม่กล้าแม้กระทั่งมองดูบุตร ชายของตนและนั่งรอฟังข่าวสารกับฮองเฮา
ห้องโถงเต็มไปด้วยว่างเปล่าและเงียบสงบอันหลิงหยุน และกงชิงสบตากันนางนำยาห้ามเลือดเม็ดหนึ่งออกมา จากร่างจากนั้นจึงวางลงในปากของกงชิงวี่”กลีนลงไป”

กงชิงที่กลืนลงไปจากนั้นจึงหลับตาช้าๆ

อันหลิงหยุนลุกขึ้นและเอ่ย”ท่านอ๋องเสียนฟื้นแล้วและ จำเป็นต้องพาไปพักผ่อนที่ตำหนักบรรทมรอง”

หวางฮองไทเฮาตะลึงไปจากนั้นจึงลุกขึ้นมาเมื่อเห็นว่า บุตรชายของตนกลับมาหายใจอีกครั้งในใจก็ผ่อนคลาย ขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะเห็นอันหลิงหยุนที่เต็มไปด้วย ความกระวนกระวายจากนั้นจึงตัดสินใจอยู่ชั่วครู่และ เอ่ยขึ้น”เจ้าก็ไปเถอะดูแลเขาให้ดีๆ”

“เพคะ”

อันหลิงหยุนถอนตัวจากไปพร้อมๆกับกงชิงวีจู่ด้าน บนก็มีเสียงของฮ่องเต้ชิงหยู่ดังขึ้นมา”นี่ข้าเป็นอะไร ไป?”

หวางฮองไทเฮาหันไปดูจากนั้นจึงค่อยโล่งใจขึ้นมา

อันหลิงหยุนกลับไปที่ตำหนักบรรทมรองเพื่อดูแลกง ชิงวี่เมื่อมองเห็นบาดแผลของกงชิงวี่ที่ตอนนี้ล้วนปริแตก จึงพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย”ท่านมาทำอะไรที่นี่?”

กงชิงขมวดคิ้ว”เจ้ากล้าตำหนิข้า?”

“หรือมันไม่ควร?ท่านป่วยย่อมต้องทำตัวให้สมกับเป็น

คนป่วยหรือความพยายามอย่างหนักของข้าไม่สมควรได้รับการตอบแทนหรืออย่างไร?”อันหลิงหยุนโกรธ อย่างยิ่งเธอลำบากไปไม่น้อยกว่าจะทำให้กงชิงวี่ไม่เป็น อะไรแต่ตอนนี้กลับมีสภาพเป็นเช่นนี้

กงชิงส่งเสียงฮืออกมาอย่างเย็นชาจากนั้นจึงปิดตา

ลงและเพิกเฉย

ในขณะที่อันหลิงหยุนก็เริ่มทำความสะอาดให้กับกงชิง วี่เช่นกัน

“เตรียมเสื้อผ้าทั้งด้านในและด้านนอกมาให้ข้าสอง ชุด”อันหลิงหยุนเอ่ยกับนางกำนัลในวังนางกำลังรับคำ สั่งจากนั้นจึงไปเตรียมการ

“เตรียมน้ำร้อนที่สะอาดข้าจะเช็ดตัวให้แก่ท่านอ่อง เสียน”

“เพคะ”

อันหลิงหยุนพักไปครู่หนึ่งและมองดูกงชิงวี่ที่อยู่ใน ความสงบเทียบกับบาดแผลบนร่างกายของเขานี่ออกจะ ดูน่าขำอยู่บ้าง

เป็นขนาดนี้แล้วเขายังคงหล่อเหลาและเหนือกว่าผู้ใด ไม่น่าล่ะเจ้าของร่างเดิมถึงตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น อย่างไรก็ตามอันหลิงหยุนยังคงแปลกใจนี่เขามาทำ อะไรที่นี่?

ขันที่นำน้ำมาส่งอันหลิงหยุนลุกขึ้นและเริ่มทำความ สะอาดร่างกายให้แก่กงชิงวี่และหลังจากถอดเสื้อผ้าของเขาออกขั้นที่ก็ก้าวถอยหลังหลบฉากไปในขณะที่ นางกำลังนั้นหมุนตัวหลีกฉาก

ตามกฎของวังหลวงร่างกายของเชื้อพระวงศ์ไม่ สามารถมองมองดูได้ตามใจ

อันหลิงหยุนหยิบผงยาขึ้นมาจากนั้นจึงทามันลงไป แล้วพันผ้าพันแผลเอาไว้และสวมเสื้อผ้าให้แก่กงชิงวี่ ระหว่างนี้กงชิงวี่ยังคงสงบอย่างยิ่งอันหลิงหยุนยังนึกว่า เขาหลับไปแล้วแต่ดวงตาของเขายังคงมองเธออยู่ตลอด เวลา

ในใจรู้สึกแปลกประหลาดก่อนหน้านี้นางสัมผัสถูกแค่ นิดหน่อยก็เป็นเรื่องขึ้นมามาตอนนี้เหตุใดถึงเชื่อฟังว่า ง่ายขึ้น

อันหลิงหยุนบังเอิญสัมผัสเข้าที่ด้านในต้นขาของกง ชิงวี่ผลคือกงชิงวี่เบิกตาขึ้นมาด้วยความโกรธก็”เอาออก ไป!”

อันหลิงหยุนกระวนกระวายขึ้นมาและรีบนำมือออก

จากนั้นจึงแต่งตัวให้เขาเรียบร้อย

หลังจากเก็บเสื้อผ้าที่ไม่สะอาดแล้วอันหลิงหยุนก็เรียก คนที่อยู่มุมหนึ่งให้นำมันไปเผา

ขันทีไม่กล้าที่จะเพิกเฉยและรีบนำไปเผาในทันที เมื่อกลับมาอันหลิงหยุนรู้สึกเหนื่อยเป็นอย่างยิ่งนาง เห็นว่าบนเตียงยังมีที่อยู่จึงเดินไปด้านหลังฉากบังลมและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสะอาดจากนั้นจึงปืนข้ามกงชิงวี่ เข้าไปด้านในน้ำหมอนมาวางและหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุม จากนั้นจึงหลับไป กงชิงวี่มองดูนางด้วยสีหน้าดำคล้ำจากนั้นจึงพลิกตัว

และหลับตาลงพักผ่อนในตำหนักบรรทมรอง

นางกำนัลและขันทีทั้งหลายที่อยู่ด้านล่างจึงไม่กล้า รบกวนและถอยฉากออกไปเงียบๆ

ในเวลานี้หวางฮองไปเฮากลับยังนั่งอยู่

ฮ่องเต้ชิงหยู่ลุกขึ้นและถวายบังคมแก่หวางฮองไท เฮา:”ทำให้เสด็จแม่ต้องเป็นกังวลเสียแล้ว”

หวางฮองไทเฮาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง”รู้ตัวก็ดีแม่ เองก็เหนื่อยแล้วแม่กลับไปก่อนอ้อใช่อันหลิงหยุนผู้นั้น

อีกประเดี๋ยวให้นางมาที่วังเฉาเพิ่งข้าอยากเจอนาง”

“ข้าจะบอกให้”ฮ่องเต้ชิงหยู่เข้าใจสาเหตุและผลลัพธ์ แต่กลับมีความสงสัยอยากรู้อยากเห็นต่ออันหลิงหยุน เพิ่มยิ่งขึ้น

เมื่อหวางฮองไทเฮาจากไปฮองเฮาก็ลุกขึ้น”หม่อมฉัน ไปส่งเสด็จแม่” “ไม่ต้องแล้วเจ้าอยู่ดูแลที่นี่เถอะข้าจะตรวจสอบเรื่อง

วางยาพิษฝ่าบาทให้แน่ชัดให้ดีที่สุดคือไม่เกี่ยวข้องอะไร

กับเจ้า”

หวางฮองไทเฮามีสีหน้ามืดคล้ำลงไปและเอ่ยประโยคออกมาอย่างไร้ความปรานีก่อนจะเดินจากไป

ฮองเฮาคุกเข่าลงในทันที”หม่อมฉันน้อมส่งเสด็จแม่” หลังจากหวางฮองไทเฮาออกไปองค์ฮองเฮาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นจากนั้นจึงเช็ดน้ำตาและมองดูฮ่องเต้ชิงหยู่ด้วย ความน้อยใจ

ฮ่องเต้ชิงหยู่จับมือนาง”ข้าเชื่อว่าเจ้าบริสุทธิ์”

“ฝ่าบาท-”

ฮองเฮาหลั่งน้ำตาโดยไม่ต้องเอ่ยอะไรสักคำ

ฮ่องเต้ชิงหยู่ดึงคนเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและถอน หายใจอย่างนุ่มนวล”ในวังหลวงอันใหญ่โตแห่งนี้หากแม้ กระทั่งฮองเฮายังไม่สามารถไว้ใจได้ข้าจะเชื่อใจใครได้ อีกกัน?

ดวงตาของฮองเฮาที่พิงอยู่ในอ้อมแขนของฮ่องเต้ชิงห ยู่เปล่งประกายสงสัยขึ้นมานี่มันเรื่องอะไรกันแน่?เป็น ใครกันที่วางยาพิษ?

อันหลิงหยุนยังไม่ทันได้ตื่นดีนางก็ได้รับพระบัญชา เป็นที่เรียบร้อยสั่งให้นางไปเข้าพบหวางฮองไทเฮาที่ตำ หนักเฉาเพิ่ง

อันหลิงหยุนรับบัญชาจากนั้นจึงลุกขึ้นยืน กงกงยิ้ม”พระชายาเสียนโปรดตามข้าน้อยไป” อันหลิงหยุนพยักหน้า”กงกงโปรดรอสักครู่ข้าขอไปดูท่านอ๋องเสียนก่อน”

“เชิญพระชายาเสียนข้าน้อยจะรออยู่ที่นี่”

เมื่อได้รับความเห็นด้วยจากกงกงอันหลิงหยุนก็หมุน ตัวไปดูกงชิงวี่หลังจากตรวจสอบดูแล้วเรียบร้อยจึงนำ ยามาให้กงชิงที่กินเข้าไป”ข้าจะรีบกลับมา”

กงชิงกล่าว”ถึงแม้ว่าอันหลิงหยุนจะไม่ได้รับความรัก จากข้าแต่ในเมื่อเป็นพระชายาของข้ายังคงต้องรบกวน กงกงช่วยชี้แนะแก่นางด้วยวันนี้ข้าเข้าวังอย่างฉุกละหุก ไม่ได้พกเงินติดตัวมาภายหลังจะทำการชดเชยให้ท่าน”

ไห่กงกงพูดขึ้นทันที”ข้าน้อยได้ยินคำพูดเช่นนี้ของ ท่านอ๋องเสียนก็นับว่าได้รับคำอวยพรที่ยิ่งใหญ่ท่านอ่อง เสียนโปรดวางใจข้าน้อยจะดูแลเป็นอย่างดีแน่นอน”

“ขอบคุณกงกงอย่างยิ่ง”

อันหลิงหยุนมองดูกงชิงวี่ที่อยู่บนเตียงด้วยสีหน้า ประหลาดเขาดีขนาดนี้เชียวถึงกับฝากให้คนมาดูแลนาง เพิ่งค้นพบความรู้สึกเมตตาขึ้นมาหรือไง?

“เสด็จแม่แค่ดูเข้มงวดไปบ้างอย่าได้เสียมารยาททำให้ ข้าต้องขายหน้า”กงชิงวี่กล่าว อันหลิงหยุนได้ยินคำพูดที่แฝงด้วยความหมายเช่นนี้ก็

คิดเขากลัวว่าเธอจะไปแล้วไม่ได้กลับมา?

แต่อันหลิงหยุนก็น้อมรับมาด้วยความยินดีหากนางไม่ ดีกงชิงวี่ก็พลอยไม่ดีไปด้วยเช่นกัน
พริบตาอันหลิงหยุนก็ตามไห่กงกงมาถึงวังเฉาเฟิงและ เดินผ่านประตูวังอันมากมานเข้าไปสิ่งเดียวที่อันหลิงหยุ นเห็นก็คือความยิ่งใหญ่ของวังเฉาเฟิง

อันหลิงหยุนมาหยุดลงที่พระตำหนักเฉาเฟิ่งไห่กงกง

เข้าไปรายงานไม่นานนักไห่กงกงก็ออกมาเชิญนาง

เข้าไป

อันหลิงหยุนเดินตามไห่กงกงเข้าไปด้วยความ ระมัดระวังเมื่อถึงด้านในก็นั่งรอ

พระตำหนักนั้นเงียบสนิททำให้อันหลิงอยู่รู้สึกไม่ สบายใจอยู่แม้ว่าพระตำหนักแห่งนี้จำเป็นที่บรรทมของฮ องไทเฮาผู้สูงส่งแต่สิ่งที่อันหลิงหยุนรู้สึกได้คือความไม่ ปกติจนกล่าวได้ว่าถึงขั้นน่าขนลุกอย่างยิ่ง

เรื่องน่าเสียดายที่เจ้าของร่างเดิมกลัวหวางฮองไทเฮา ผู้นี้มิเช่นนั้นนางอาจจะมีข้อมูลเพิ่มเติมบ้าง

หลังจากไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนในที่สุดนางก็ได้ยิน เสียงฝีเท้าดังขึ้นมา

“ฮองไทเฮาเสด็จ”

ไห่กงกงตะโกนเอ่ยเสียงดังอันหลิงหยุนรีบคุกเข่าลง บนพื้นทันทีสำหรับหวางฮองไทเฮาผู้นี้นางยังหวาดเกรง อยู่บ้างต้องรู้ก่อนว่าในวังหลวงที่กลืนกินผู้คนเข้าไปได้ ทั้งกระดูกแห่งนี้นอกเสียจากฝ่าบาทแล้วคนผู้นี้คือผู้ที่มี อำนาจมากที่สุดแล้ว
หวางฮองไทเฮาเดินออกมาจากตำหนักบรรทมด้าน หลังด้านหลังตามด้วยนางกำนัลกลุ่มใหญ่แต่ละคนล้วน เป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น

แม้ว่าพวกนางจะดูไม่ต่างจากนางกำนัลคนอื่นๆ ในวัง

แต่พวกเขานางล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดทุกคน

หวางฮองไทเฮาเดินไปนั่งที่หน้าพระที่นั่งเฟิงจากนั้น เอ่ย”ลุกขึ้นมาพูดคุยเถอะนี่เป็นการพูดคุยระหว่างแม่ สามีลูกสะใภ้เท่านั้น”

“หม่อมฉันขอบพระทัยเสด็จแม่”

ในเมื่อหวางฮองไทเฮาเอ่ยเช่นนี้แล้วนางจึงไม่จำเป็น ต้องคุกเข่าอีกต่อไป

ดังนั้นนางจึงลุกขึ้นยืน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ