ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

ตอนที่182ความอดทนของอ๋องตวน



ตอนที่182ความอดทนของอ๋องตวน

ฮัวไท่เฟยอยากจะร้องไห้ หวางฮองไท เฮารู้สึกไม่ชอบใจ “เจ้าคิดอันใดดีๆ ไม่ เป็นบ้างหรือกระไร?”

ฮัวไทเฟยเช็ดน้ำตาแล้วก็อยู่เงียบๆ มองดูลูกชายที่กำลังอาการหนัก

อันหลิงหยุนพยายามฝืนไปชั่วยามหนึ่ง หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยามก็ได้ สะลึมสะลือแล้วหลับไป

กั๋วไท่เฟยไม่สบายใจ อยากจะไปปลุก อันหลิงหยุน แต่ก็ถูก สายตาของหวางฮองไทเฮาห้ามเอาไว้ อันหลิงหยุนเพิ่งพักไปแค่ชั่วยามเดียว

พอเห็นว่าฟ้าสว่างแล้ว ฮัวไท่เฟยถึง ได้ปลุกอันหลิงหยุนขึ้นมา

อันหลิงหยุนลืมตาขึ้นมาแล้วมองไป รอบๆ แล้วลุกขึ้นมาดูเวลา ฟ้าสว่างแล้ว อันหลิงหยุนรู้สึกกลุ่มใจ

พอเห็นอ๋องตวนยังไม่ตื่น อันหลินหยุน จึงได้เดินเข้าไปดู

“ทำไมยังไม่รู้สึกตัวอีก?” ฮัวไท่เฟย พอพูดก็เริ่มร้องไห้ ออกมา

อันหลิงหยุนตรวจดูอาการ ชีพจรอ่อน มาก ถ้ายังไม่พื้นก็คงไม่ฟื้นอีกแล้ว

แต่ว่าถ้าเขาหลับไปทั้งอย่างนี้ ไม่ว่า ใครก็ทำอันใดไม่ได้แล้ว

ในตอนที่อันหลิงหยุนกำลังกลุ้มใจอยู่ นั้นเอง ดวงตาของอ๋องตวนก็ค่อยๆ เปิด ขึ้น พอหยุน โล้ชวนเห็นอ๋องตวนลืมตาขึ้น มานางก็รีบเข้าไปจับมือของเขาเอาไว้ “ท่านตื่นแล้ว?”

ดวงตาของอ๋องตวนมองไปรอบๆ พอ มองไปเจออันหลิงหยุนเขาก็มองผ่านนาง ไปอย่างไม่ชอบใจอันหลิงหยุนรู้สึกผิด หวัง ผ่านมาขนาดนี้แล้วยังจะเป็นแบบนี้ อีก?

ฮัวไท่เฟยรีบเดินเข้ามา” หยินเอ๋อ”

“เสด็จแม่”

อันหลิงหยุนหยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่ง ออกมา เปิดปากของอ๋องตวนออกแล้วยัด

มันเข้าไป

อ๋องตวนมองหน้านางแล้วก็กลืนมันลง

ไป

หลังจากมองหาอยู่นาน พอหันไปเจอ หวางฮองไทเฮาอ๋องตวนก็ได้ ยิ้มออกมา

“เสด็จแม่…

หวางฮองไทเฮาลุกขึ้นแล้วเดินไปหา อ๋องตวน “ข้าภูมิใจในตัวเจ้า เจ้าตื่นมาได้ ข้าช่างดีใจจริงๆ”

“ขอบพระทัยเสด็จแม่”

ฮัวไท่เฟยที่ยืนอยู่ข้างรู้สึกทำตัวไม่ถูก ะ ทั้งที่ลูกชายเป็นของนางแท้ๆ

“แม่จะรอเจ้าอยู่ที่จวน ถ้าเจ้าหายดีแล้ว ค่อยไปหาข้าก็ได้ ข้าจะให้โล่ชวนอยู่ดูแล เจ้าที่นี่”

ความสง่างามของหวางฮองไทเฮา นั้นไม่มีใครเปรียบอ๋องตวนตอบไปด้วย เสียงที่แผ่วเบา “ครับท่านแม่”

“อืม ไท่เฟย เจ้าก็กลับจวนไปพร้อมกับ ข้าเลย ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ตรงนี้มันจะ รบกวนการพักผ่อนของอ๋องตวนเอาได้”

หวางฮองไทเฮาหันหลังพร้อมสะบัด แขนเสื้อแล้วก็เดินจากไป ส่วนฮัวไท่เฟย ใจยังอยากอยู่ต่อแต่นางก็ไม่อาจขัดคำ สั่งของหวางฮองไทเฮาได้

อันหลิงหยุนรีบจัดแจงเสื้อผ้า “หม่อม ฉันส่งเสด็จ เสด็จแม่ไท่เฟยเพคะ” “หม่อมฉันส่งเสด็จเสด็จแม่ เสด็จแม่

เพคะ”

หยุนโล่ชวนรีบลุกขึ้น

หลังจากส่งทั้งคู่ออกไปแล้ว อันหลิงหยุ นก็เดินไปดูที่หน้าประตู อาหยู่เฝ้าอยู่หน้า ประตู

อันหลิงหยุนถามเขา ท่านอ๋องยังไม่

กลับมาหรือ?”

“ยังครับ “อาหยู่เองก็เป็นห่วงเหมือน กัน ท่านอ๋องออกไปตั้งแต่เมื่อคืนจนป่าน นี้แล้วยังไม่กลับอีก ไม่รู้ว่าไม่หาข้อมูลที่ ใครกัน

อันหลิงหยุนหันไปมองอ๋องตวน ที่ได้สติมาแล้ว เขายังไม่ได้ปลอดภัยโดย สิ้นเชิง แต่ว่ายาที่จะใช้ฉีดให้เขาก็หมด แล้วตอนนี้ได้แต่พึ่งยากินเท่านั้น นางอยู่ ต่อก็ไม่ได้ช่วยอันใดมาก

“ชายารองหยุน ท่านดูแลท่านอ๋องตวน ไปเถอะ ข้าจะไปดูเอง”

อันหลิงหยุนเป็นห่วงกงชิง วี่ จนตอนนี้ เขายังไม่ยอมกลับมา

“เจ้าไปเถอะ” หยุนโล่ชวนรับปากแล้ว อันหลิงหยุนก็เดินไปยังประตูห้องของพระ ชายาเสียน

พอออกนอกประตูมาอันหลิงหยุนก็ยืน รออยู่ตรงนั้น ในเมือง หลวงวุ่นวายไปทั้งคืน แต่เหล่าประชาชน กลับไม่รู้เรื่องเลย

ตอนนี้คนยังออกมาไม่เยอะ พ่อบ้านยืน รออยู่หน้าประตูแล้ว

พอเห็นอันหลิงหยุนพ่อบ้านก็รีบพานาง เข้าไปในประตู

“พระชายา เลือดเลอะเต็มตัวไปหมด เลย มันอาจทำให้คนตกใจได้นะพ่ะย่ะค่ะ รีบกลับไปเถอะ” อันหลิงหยุนก้มลงมองดู ตัวเอง มันก็จริงอย่างที่เขาพูด

อันหลิงหยุนจึงหันหลังแล้วไปรองซิงวี่ ที่ลานหน้าบ้าน

รอจนตอนเที่ยง กงชิงวี่ถึงได้ กลับมาจากข้างนอก เลือดเลอะเต็มตัว ชุดเมื่อคืนยังไม่ได้เปลี่ยน ทำเอาพ่อบ้าน ตกใจจนหน้าซีด

พออันหลิงหยุนเห็นเขาก็เดินเข้าไป ทันที จับมือของกงชิงวี่เอาไว้แล้วตรวจดู ร่างกายของกงชิงวี่อย่างละเอียดว่าไม่ เป็นอันใดนางถึงจะวางใจ

“ข้ายังสบายดี”

กงชิงวี่เองก็ตรวจดูอันหลิงหยุนเหมือน กัน ด้วยความเป็นห่วงลูกกงชิงวี่จึงได้ ถามไป “เขายังปลอดภัยดีหรือเปล่า?” “ปลอดภัยดีเพคะ” อันหลิงหยุนก็ไม่ได้ รู้สึกแย่ตรงไหน จึงได้พยักหน้าตอบไป

กงชิงวี่ก็ได้จับมือของอันหลิงหยุนเอา ไว้แล้วถามไปอีกว่า “แล้วพี่รองล่ะ?”

“เขาตื่นแล้วเพคะ ร่างกายยังอ่อนแอ อยู่ แต่ยาที่หม่อมฉันเตรียมไว้มันไม่มาก พอ เมื่อคืนก็ใช้กับเขาไปจนหมดแล้ว วัน นี้จึงเหลือแต่ยากิน ยากินมันออกฤทธิ์ช้า ดังนั้นหม่อมฉันจะต้องหาวิธีกลั่นกรอง ออกมาให้ได้เพคะ แต่ตอนนี้หม่อมฉันไม่ ได้ หม่อมฉันกลัวจะกระทบ” อัน หลิงหยุนอยากหาใครสักคนมาช่วย กง ชิงวี่ก็ไม่มีความรู้ นางกลัวเขาจะทำไม่ได้

“ข้าทำเอง” กงชิงวี่ตอบมาอย่างมั่นอก มั่นใจ ถ้าจะให้หาคนอื่นเขาเองก็ไม่ สบายใจ

อันหลิงหยุนตอบมาอย่างไม่ค่อยดีใจ “ท่านอ๋องไม่ไหวหรอกเพคะ”

“ข้าทำได้ ขั้นตอนที่หยุนหยุนกรองยา ข้าจำมันได้หมดแล้ว แล้วยังเรื่องจด บันทึกอีก ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าข้า แล้ว”

“ท่านนี่ใส่ใจจริงๆ เลยเพคะ” อันหลิงหยุนยังไม่เคยรู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่า เขาแอบมองอยู่

“ข้าแค่กลัวไอ้นั่นมันจะระเบิด อยู่ๆ มัน ก็มีควันออกมา” ตอนนั้นกงชิงวี่กลัวจริงๆ ภายในขวดเล็กสีขาวมีควันสีขาวพวยพุ่ง ออกมา ดูแล้วก็ไม่ต่างอันใดกับควันที่ ออกมาจากระเบิดเลย

อันหลิงหยุนรู้สึกอบอุ่นหัวใจ จากนั้นก็ ถูกลากเข้าประตูไป

อ๋องตวนนอนอ่อนล้าอยู่บนเตียง พอกงชิงวี่เดินเข้าประตูมาก็ชะงักไปครู่ หนึ่ง จากนั้นก็ปล่อยมือของอันหลิงหยุนอ อก แล้วเดินตรงไปหาอ๋องตวน

หนุนโล่ชวนยืนขึ้น กงซิงที่นั่งลง แล้ว มองไปยังอ๋องตวน “เป็นยังกระไรบ้างพะ ย่ะค่ะ?”

“ยังมีชีวิตอยู่” อ๋องตวนพูดหยอกล้อ กงชิงวียิ้ม “ใครเป็นคนลงมือพ่ะยะ

ค่ะ?”

อ๋องตวนส่ายหน้า “พวกมันไม่ใช่คนที่ อยู่ที่นี่ เพราะภาษาที่ใช้ข้าฟังไม่ออกเลย แต่ วิชาดาบของพวกมันเป็นของเรา”

“ทำไมพวกมันต้องทรมานท่านด้วย?”

“ตอนข้าออกมา พวกมันต้องการให้ข้า ไปด้วย แต่ข้าไม่ยอม พวกมันจึงฆ่าผู้ ติดตามของข้าไปสองคน ข้าจึงต่อสู้กับ

พวกมัน แต่พวกมันมีมากกว่าจึงสู้ไม่ไหว พวกมันจะโกรธมาก บอกให้ข้าคุกเข่า ลง ข้าไม่ยอมทำตาม พวกมันเลยทรมาน ข้า!”

“อ๋องชินจงเป็นคนเดียวที่รู้ว่าท่านจะไป ที่จวนกั๋วกง ตอนนี้จับเขาไว้แล้ว เขาอยู่ที่ จวน วกง อยู่ตรงนั้นมาโดยตลอด” กงชิงวี่ อธิบาย

อ๋องตวนสีหน้าเคร่งเครียด “เจ้าไม่ต้อง พูดอันใด”

อันหลิงหยุนขมวดคิ้ว รู้สึกว่ามัน แปลกๆ

ทำไมอ๋องตวนถึงต้องรู้สึกผิดกับอ๋อง ชินจงด้วย?

ถ้าคิดดูแล้ว ต่อให้อ๋องซินจงจะโง่ ขนาดไหน ก็คงไม่เลือกลงมือตอนนี้ แน่นอน

นอกจากว่าเขาจะมั่นใจมากต้องทำ สำเร็จแน่ๆ

แต่อ๋องตวนยังมีชีวิตอยู่ ถ้า เขาเกิดตายขึ้นมาจริงๆ ทายาททั้งหมดก็ จะต้องถูกกำจัดไปด้วย

นี่มันก็ออกจะเล่นหนักไปหน่อยนะ

อันหลิงหยุนฟังอ๋องตวนกับกงชิงคุย กันอยู่พักหนึ่ง อ๋องตวนก็ดึงดันที่จะไป ถามอ๋องชินจงด้วยตัวเอง หยุน โลชั่นเอง ก็ร้องไห้ไม่หยุด

อ๋องตวนมองไปยังหยุน โล่ชวนด้วย สายตาที่โมโห “อย่ามาร้องไห้ฟูมฟายต่อ ข้านะ ข้ารำคาญ” หยุน โล่ชวนถูกพูดจนรู้สึกอยากจะบ้า ตาย หันหลังแล้วก็เดินจากไปเลย

อันหลิงหยุนรู้สึกเหลือทน แต่ก็เดิน เข้าไปตรวจดูอาการของอ๋องตวน

พอมาถึงข้างเตียง อันหลิงหยุนก็ได้ ตรวจดูอาการอย่างละเอียด “พวกหม่อม ฉันยังไม่ได้พักผ่อนเลยจึงไม่สามารถที่ จะอยู่ดูแลท่านได้ตลอด แล้วท่านยังไล่ ชายารองหยุนไปอีก แล้วใครจะอยู่ดูแล ท่านล่ะเพคะ?”

“แล้วพระชายาล่ะ? ไม่มาหรือ?” ตอนที่ ยังไม่ได้สติเหมือนจะ รีบเช็ดน้ำตาแล้วเข้าไปดูอ่องตวน อ๋องต วนมีน้ำตาซึมออกมาที่หางตา “ฉูฉู ข้า ทำให้เจ้าตกใจหรือไม่?”

“ท่านอ๋องเพคะ ต่อไปไม่เอาอย่างนี้ แล้วเพคะ” จุนฉูฉูก้มหน้าลงแล้วสูดน้ำมูก ใหญ่เลย

แล้วนางก็ได้รู้ว่าในห้องเหลือเพียงแค่ นางแค่คนเดียวแล้ว

“แล้วอันหลิงหยุนล่ะเพคะ?” จุนฉูฉูถาม

ไปด้วยความงุนงง

“นางเหนื่อย จึงไปพักผ่อนกับอ๋องเสียน แล้ว” อ๋องตวนยัง อ่อนเพลียอยู่ เขาเองก็รู้สึกเหนื่อยมาก

จุนฉูฉูยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นไปอีก “นาง เป็นหมอ ถ้านางไปแล้วใครจะเป็นคน ดูแลท่านล่ะเพคะ?”

อ๋องตวนลืมตาขึ้นมามองไปที่จีนฉูอย่างเนิ่นนาน “ก็เจ้ากระไร!”

“หม่อมฉัน?”

ขุนฉูฉูรู้สึกลังเล มองดูร่างกายที่ถูกพัน ด้วยผ้าพันแผล ในห้องที่มีแต่คราบเลือด ช่างน่าขยะแขยงอันใดอย่างนี้

อ๋องตวนรู้สึกอ่อนล้าเกินทน กะพริบตาถี่ๆ หลับตาลงแล้วก็นอนหลับ ไป

สีหน้าของจุนฉูฉูยิ่งอยู่ยิ่งไม่น่าดู ตอนที่ รับความดีความชอบหยุนโล่ชวนก็จะ เสนอหน้ามา สองพระองค์นั้นก็ดีกับนาง ะ ๘๐ เหลือเกิน แต่พอเป็นเวลาที่ต้องดูแลกลับ เรียกนางมา

พวกนางคิดจะรังแกนางไปถึงไหน

จุนฉูฉูนั่งอยู่พักหนึ่งแล้วยืนขึ้นมาหันไป มองรอบๆ ผนังตรงนี้แปลกจัง นางดูไม่ ออกเลย

แต่ว่าข้างๆ มีประตู แถมยังถูกล็อกเอา

ไว้ด้วย ขุนฉูฉูเดินไปด้วยความอยากรู้ ในขณะ ที่นางกำลังยกมือขึ้นมาเพื่อจะเปิดประตู แล้วเสียงของลุ่ยหลิวที่อยู่นอกประตูก็ดัง ขึ้น “ข้างในเลี้ยงแมลงพิษเอาไว้ถ้าพระ ชายาตวนเกิดเป็นอันใดขึ้นมาอย่าหาว่า กระหม่อมไม่เตือนนะพ่ะยะค่ะ”

“จริงหรือ?” ขุนฉูฉูรีบหันหลังกลับ นาง ไม่เชื่อหรอกว่าในนั้นจะมีของพวกนี้อยู่ จริงๆ แต่นางก็ไม่ได้อยากสนใจว่าข้างใน นั้นจะมีตัวอันใดอยู่

พอมองดูอ๋องตวนจุนฉูฉูก็ได้ยิ้มออกมา อย่างขมขื่น จัดการ ห่มผ้าห่มให้อ๋องตวน แค่นี้ก็ถือว่าทำตาม หน้าที่แล้ว

พอจุนฉูฉุนอนไปสักพัก ท้องของนางก็ ร้องขึ้นมา นางหิวแล้ว เพื่อให้คนอื่น เข้าใจว่านางกินอันใดไม่ลง จึงไม่ สามารถเรียกให้ใครส่งอาหารมาได้

นางรู้สึกไม่พอใจ จึงได้ถลึงตาใส่อ้อง วนไปทีหนึ่ง

ในตอนนั้นลุ่ยหลิวมองเข้ามาในห้องจึง เห็นเข้าพอดี

เขาจึงหันหน้ามา ตั้งสติ พระชายาตวน คนนี้ดูผิดปกติ ต้องระวังให้ดี หลังจากที่หยุนโล่ชวนหลับไปตื่นหนึ่ง ก็อยากจะมาเยี่ยมอ๋องตวน พอเห็นลุ่ย หลิวยืนอยู่หน้าประตูนางจึงอยากกล่าว ทักทาย แต่ก็ถูกลุ่ยหลิวยกมือห้ามเอาไว้ ให้สัญญาณกับนางว่าอย่าส่งเสียงดัง

หยุนโล่ชวนรู้สึกแปลกใจ จึงค่อยๆ ย่องเข้าไปที่หน้าประตู ลุ่ยหลิวชี้เข้าไปใน ห้อง หยุนโล่ชวนก็มองตามเข้าไป

เห็นจุนฉูฉูกำลังมองไปที่อ๋องตวนอย่าง ไม่พอใจ

หยุนโล่ชวนมองดูแปบเดียวก็เดินไป นั่งที่ลานหน้าตำหนัก ลุ่ยหลิวก็ได้เดินตามมา “ชายารองหยุ น ท่านไม่เป็นห่วงรีพ่ะย่ะค่ะ?”

“ในเมื่อเขาเป็นคนเลือกเอง แล้วข้าจะ เป็นห่วงทำไม ลุ่ยหลิวเจ้ากลับไปพักเถอะ เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ข้าจะเฝ้าอยู่ตรง นี้เอง ถ้ามีอันใดเดี๋ยวข้าไปตามเจ้าเอง”

ลุ่ยหลิวส่ายหัวไม่ยอมไป ต้องรอจนหง เถามาเขาถึงจะไปได้

แล้วเวลาหนึ่งคืนก็ผ่านไป ตอนที่อ๋องต วนตื่นขึ้นมา จุนฉูฉูกำลังนั่งหลับอยู่ข้างๆ อ๋องตวนคอแห้งอยากดื่มน้ำ จึงปลุก จุนฉูฉู

จุนฉูฉูลืมตาขึ้นมาแล้วไปเทน้ำให้เขา

ดื่ม

“หม่อมฉันป้อนท่านเองเพคะ” จูนฉูฉู ใช้ช้อนค่อยๆ ป้อนน้ำให้อ๋องตวน พอดื่ม ไปได้สองคำ จู่ๆ ก็รู้สึกปวดหน้าอกขึ้นมา เหมือนมีอันใดบางอย่างพุ่งขึ้นมา จนทน ไม่ไหว เลือดสดๆ ก็พุ่งออกมาจากปาก ออกมาพร้อมกับน้ำที่ดื่มเข้าไป มันข้น

มากๆ

“จุนฉูฉูตกใจจนต้องกรีดร้อง โยนถ้วย ในมือลงแล้วรีบก้าวถอยหลัง จากนั้นก็ไม่ กล้าเดินเข้าไปอีก นางรู้วิชา นางไม่ได้กลัวเลือด แต่นาง แค่รังเกียจเท่านั้น

จุนฉูฉูตกใจจนร้องไม่หยุด

อ๋องตวนที่ล้มอยู่บนเตียงมองไปยัง เลือดที่เลอะเต็มพื้น จากนั้นก็ค่อยๆ เงย หน้าขึ้นมามองจุนฉูฉู ความรำคาญใน แววตาก็ถูกเก็บซ่อนเอาไว้

พอได้ยินเสียงเอะอะหยุน โลชวนก็รีบ

วิ่งเข้ามาดู

เข้ามาก็เห็นอ๋องตวนที่นอนหายใจหอบ อยู่กับเลือดที่เต็มปาก หยุนโลชวนก็ ตกใจจนหน้าซีด “หงเถา รีบไปเรียกเสด็จพี่พระชายา เสียนมาเร็ว!”

หยุน โล่ชวนวิ่งเข้ามาหาอ๋องตวนอย่าง รวดเร็ว พะยุงเขาขึ้นมาแล้วลูบหลังให้ เขา

พอเห็นปากของอ๋องตวนเต็มไปด้วย เลือด หาผ้าไม่ทันแล้ว นางจึงฉีกแขนเสื้อ มาเช็ดเลือดให้อ่องตวน อ๋องตวนรู้สึกไม่ ค่อยสบายตัว หายใจไม่ค่อยสะดวก พอ หยุนโล่ชวนเช็ดคราบเลือดให้อ๋องตวน แล้ว นางก็ใช้มือเช็ดให้อ๋องตวนอีกรอบ

พออ๋องตวนนอนลง เขาก็มองหยุนโล๋ ชวนอย่างไร้เรี่ยวแรง พยายามใช้มือผลักนาง อยากให้นาง

ออกไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ